title
stringlengths 8
870
| text
stringlengths 0
298k
| __index_level_0__
int64 0
54.3k
|
---|---|---|
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 47/2558 เรื่อง กำหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2558 สำหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 17 สิงหาคม 2558
| ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 47/2558
เรื่อง กําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2558
สําหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 17 สิงหาคม 2558
------------------------------------------
หมวด ๑ 1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2558 สําหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 17 สิงหาคม 2558
หมวด ๑ 2. อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 5.2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
หมวด ๑ 3. เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2558 สําหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 17 สิงหาคม 2558 เท่ากับร้อยละ 1.52750 ต่อปี (เท่ากับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงระยะสั้นการกู้ยืมเงินระหว่างธนาคารของตลาดกรุงเทพฯ (BIBOR) ระยะ 3 เดือน ณ วันที่ 13 สิงหาคม 2558 ลบร้อยละ 0.1)
หมวด ๑ 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม 2558
หมวด ๑ ประกาศ ณ วันที่ 13 สิงหาคม 2558
(นางจันทวรรณ สุจริตกุล)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน
ธนาคารแห่งประเทศไทย | 7,554 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 42/2554 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเตือนมิถุนายน 2554 | ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 42 /2554
เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน
ในเตือนมิถุนายน 2554
------------------------------
อื่นๆ - 1.เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนมิถุนายน 2554
อื่นๆ - 2.อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3.เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยอายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้
| | | | | |
| --- | --- | --- | --- | --- |
| รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) |
| พ.47/14/54 | 70,000 | 16 มิถุนายน 2554 | 20/6/54 – 4/7/54 | 14 |
| พ.48/14/54 | 65,000 | 17 มิถุนายน 2554 | 21/6/54 – 5/7/54 | 14 |
อื่นๆ - 4.วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2554
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 15 มิถุนายน 2554
(นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน | 7,555 |
ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง การคัดเลือกบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2551 | ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
เรื่อง การคัดเลือกบุคคลเพื่อดํารงตําแหน่ง
เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
พ.ศ. 2551
-------------------------------
โดยที่เป็นการสมควรให้มีวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อดํารงตําแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 107 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง การคัดเลือกบุคคลเพื่อดํารงตําแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2551”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ในประกาศนี้
"ประธานกรรมการ ป.ป.ช. " หมายความว่า ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
"กรรมการ ป.ป.ช." หมายความว่า กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
"คณะกรรมการ" หมายความว่า คณะกรรมการคัดเลือกบุคคลเพื่อดํารงตําแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
"เลขาธิการ" หมายความว่า เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
ข้อ ๔ ในการคัดเลือกบุคคลเพื่อดํารงตําแหน่งเลขาธิการ ให้ประธานกรรมการ ป.ป.ช. แต่งตั้งคณะกรรมการคณะหนึ่ง ประกอบด้วย กรรมการ ป.ป.ช. คนหนึ่ง เป็นประธานกรรมการ ป.ป.ช. สองคน ผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกด้านการบริหารกับด้านกระบวนการยุติธรรม ด้านละหนึ่งคน เป็นกรรมการ หัวหน้าหน่วยงานบริหารงานบุคคลของสํานักงาน ป.ป.ช. เป็นเลขานุการ
ข้อ ๕ เมื่อมีความจําเป็นที่จะต้องคัดเลือกบุคคลเพื่อดํารงตําแหน่งเลขาธิการ ให้คณะกรรมการออกประกาศรับสมัครบุคคลเข้ารับการคัดเลือกเพื่อดํารงตําแหน่งเลขาธิการโดยกําหนดรายละเอียดเกี่ยวกับคุณสมบัติทั่วไปของผู้สมัคร รายละเอียดของตําแหน่ง การสมัคร การประเมินความรู้ ความสามารถ ความประพฤติ และประสบการณ์ และการประกาศผลการคัดเลือก
ข้อ ๖ ให้คณะกรรมการคัดเลือกบุคคลเพื่อดํารงตําแหน่งเลขาธิการตรวจสอบคุณสมบัติและประเมินความรู้ ความสามารถ ความประพฤติ และประสบการณ์ ตามวิธีการที่คณะกรรมการกําหนด
ข้อ ๗ ให้คณะกรรมการเสนอรายชื่อผู้ที่สมควรได้รับการคัดเลือกไม่เกิน 3 ราย ต่อการกฤษฎีกา ประธานกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาเห็นชอบก่อนประกาศผลการคัดเลือก
กรณีที่ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ไม่เห็นชอบตามที่คณะกรรมการเสนอ ก็อาจมีคําสั่งให้คณะกรรมการดําเนินการคัดเลือกโดยดําเนินการตามข้อ 5 และข้อ 6 ใหม่
กรณีที่คณะกรรมการได้ดําเนินการตามข้อ - แล้วเห็นว่าไม่มีผู้ใดสมควรได้รับการคัดเลือกให้รายงานต่อประธานกรรมการ ป.ป.ช. แล้วเริ่มดําเนินการตามข้อ 5 และข้อ 6 ใหม่
ข้อ ๘ ผลการคัดเลือกของคณะกรรมการไม่ผูกพันต่อประธานกรรมการ ป.ป.ช. ในอันที่จะดําเนินการเพื่อบรรจุแต่งตั้งตามขั้นตอนของกฎหมาย
ข้อ ๙ คณะกรรมการอาจแต่งตั้งคณะทํางานเพื่อช่วยดําเนินการในเรื่องหนึ่งเรื่องใดก็ได้
ข้อ ๑๐ ให้ประธานกรรมการ ป.ป.ช. รักษาการตามประกาศนี้
ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามประกาศนี้ ให้ประธานกรรมการ ป.ป.ช. เป็นผู้วินิจฉัย คําวินิจฉัยนั้นให้เป็นที่สุด
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2551
ปานเทพ กล้าณรงค์ราญ
ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ | 7,556 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 43/2554 เรื่อง กำหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 2 ปี รุ่นที่ 1/FRB 2 ปี/2554 สำหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 22 มิถุนายน 2554 | ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 43/2554
เรื่อง กําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 2 ปี รุ่นที่ 1/FRB 2 ปี/2554
สําหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 22 มิถุนายน 2554
----------------------------------
อื่นๆ - 1.เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัวอายุ 2 ปี รุ่นที่ 1/FRB 2 ปี/2554 สําหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 22 มิถุนายน 2554
อื่นๆ - 2.อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 5.2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3.เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดอัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 2 ปี รุ่นที่ 1/FRB 2 ปี/2554 สําหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 22 มิถุนายน 2554 เท่ากับร้อยละ 3.03250 ต่อปี (เท่ากับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงระยะสั้นการกู้ยืมเงินระหว่างธนาคารของตลาดกรุงเทพฯ (BIBOR) ระยะ 3 เดือน ณ วันที่ 20 มิถุนายน 2554 ลบร้อยละ 0.2)
อื่นๆ - 4.วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน 2554
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 20 มิถุนายน 2554
(นางผ่องเพ็ญ เรื่องวีรยุทย์)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน | 7,557 |
ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง การเปิดสทำการศาลจังหวัดเชียงราย สาขาเวียงป่าเป้า | ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม
เรื่อง การเปิดสทําการศาลจังหวัดเชียงราย
สาขาเวียงป่าเป้า
--------------------------------
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 วรรคสองและวรรคสี่ แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรมคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมออกประกาศให้เปิดทําการศาลจังหวัดเชียงราย สาขาเวียงป่าเป้า ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง การเปิดทําการศาลจังหวัดเชียงราย สาขาเวียงป่าเป้า”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้เปิดทําการศาลจังหวัดเชียงราย สาขาเวียงป่าเป้า ที่อําเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2560 เป็นต้นไป
ข้อ ๔ ให้ศาลจังหวัดเชียงราย สาขาเวียงป่าเป้า มีอํานาจรับคดีแพ่งของศาลจังหวัดเชียงรายซึ่งเกิดในเขตท้องที่อําเกอแม่สรวยและอําเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย ดังต่อไปนี้ ไว้พิจารณาพิพากษา
(1) คดีที่จําเลยมีภูมิลําเนาหรือมูลคดีเกิดขึ้นในเขตท้องที่ดังกล่าว
(2) คดีเกี่ยวด้วยอสังหาริมทรัพย์ หรือสิทธิหรือประโยชน์อันเกี่ยวด้วยอสังหาริมทรัพย์ที่อสังหาริมทรัพย์นั้นตั้งอยู่ในเขตท้องที่ดังกล่าว
(3) คดีร้องขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกซึ่งเจ้ามรดกมีภูมิลําเนาหรือทรัพย์มรดกอยู่ในเขตท้องที่ดังกล่าว
บทเฉพาะกาล ๕ ให้ศาลจังหวัดเชียงราย สาขาเวียงป่าเป้า กําหนดหมายเลขคดี จัดทําสารบบความสารบบคําพิพากษา ตลอดจนระบบงานด้านธุรการอื่น ๆ สําหรับคดีที่ได้รับไว้ตามข้อ 4 แยกต่างหากจากศาลจังหวัดเชียงราย
ข้อ ๖ คดีตามข้อ 4 ซึ่งค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดเชียงรายในวันเปิดทําการศาลจังหวัดเชียงราย สาขาเวียงป่าเป้า ให้คงพิจารณาต่อไปที่ศาลจังหวัดเชียงราย เว้นแต่เพื่อความสะดวกของคู่ความทุกฝ่าย ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดเชียงรายจะมีคําสั่งให้โอนคดีนั้นไปพิจารณาต่อที่ศาลจังหวัดเชียงราย สาขาเวียงป่าเป้า ก็ได้
ข้อ ๗ ให้เลขาธิการสํานักงานศาลยุติธรรมรักษาการตามประกาศนี้
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2559
วีระพล ตั้งสุวรรณ
ประธานศาลฎีกา
ประธานกรรมการบริหารศาลยุติธรรม | 7,558 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 44/2554 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนมิถุนายน 2554 | ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 44/2554
เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน
ในเดือนมิถุนายน 2554
-----------------------------------
อื่นๆ - 1.เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนมิถุนายน 2554
อื่นๆ - 2.อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3.เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยอ'ยุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้
| | | | | |
| --- | --- | --- | --- | --- |
| รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) |
| พ.49/14/54 | 60,000 | 23 มิถุนายน 2554 | 27/6/54 – 11/7/54 | 14 |
| พ.50/14/54 | 50,000 | 24 มิถุนายน 2554 | 28/6/54 – 12/7/54 | 14 |
อื่นๆ - 4.วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน 2554
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 22 มิถุนายน 2554
(นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน | 7,560 |
ประธานคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง การเปิดทำการศาลจังหวัดมหาสารคาม สาขาพยัคฆภูมิพิสัย | ประธานคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม
เรื่อง การเปิดทําการศาลจังหวัดมหาสารคาม
สาขาพยัคฆภูมิพิสัย
-----------------------------
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 วรรคสองและวรรคสี่ แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรมคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมออกประกาศให้เปิดทําการศาลจังหวัดมหาสารคาม สาขาพยัคฆภูมิพิสัย ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง การเปิดทําการศาลจังหวัดมหาสารคาม สาขาพยัคฆภูมิพิสัย”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้เปิดทําการศาลจังหวัดมหาสารคาม สาขาพยัคฆภูมิพิสัย ที่อําเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2560 เป็นต้นไป
ข้อ ๔ ให้ศาลจังหวัดมหาสารคาม สาขาพยัคฆภูมิพิสัย มีอํานาจรับคดีแพ่งของศาลจังหวัดมหาสารคามซึ่งเกิดในเขตท้องที่อําเภอนาเชือก อําเภอนาดูน อําเภอพยัคฆภูมิพิสัย และอําเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม ดังต่อไปนี้ไว้พิจารณาพิพากษา
(1) คดีที่จําเลยมีภูมิลําเนาหรือมูลคดีเกิดขึ้นในเขตท้องที่ดังกล่าว
(2) คดีเกี่ยวด้วยอสังหาริมทรัพย์ หรือสิทธิหรือประโยชน์อันเกี่ยวด้วยอสังหาริมทรัพย์ที่อสังหาริมทรัพย์นั้นตั้งอยู่ในเขตท้องที่ดังกล่าว
(3) คดีร้องขอให้แต่งตั้งผู้จัดการมรดกซึ่งเจ้ามรดกมีภูมิลําเนาหรือทรัพย์มรดกอยู่ในเขตท้องที่ดังกล่าว
ข้อ ๕ ให้ศาลจังหวัดมหาสารคาม สาขาพยัคฆภูมิพิสัย กําหนดหมายเลขคดีจัดทําสารบบความสารบบคําพิพากษา ตลอดจนระบบงานด้านธุรการอื่นๆ สําหรับคดีที่ได้รับไว้ตามข้อ 4 แยกต่างหากจากศาลจังหวัดมหาสารคาม
ข้อ ๖ คดีตามข้อ 4 ซึ่งค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดมหาสารคามในวันเปิดทําการศาลจังหวัดมหาสารคาม สาขาพยัคฆภูมิพิสัย ให้คงพิจารณาต่อไปที่ศาลจังหวัดมหาสารคาม เว้นแต่เพื่อความสะดวกของคู่ความทุกฝ่าย ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดมหาสารคามจะมีคําสั่งให้โอนคดีนั้นไปพิจารณาต่อที่ศาลจังหวัดมหาสารคาม สาขาพยัคฆภูมิพิสัย ก็ได้
ข้อ ๗ ให้เลขาธิการสํานักงานศาลยุติธรรมรักษาการตามประกาศนี้
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2559
วีระพล ตั้งสุวรรณ
ประธานศาลฎีกา
ประธานกรรมการบริหารศาลยุติธรรม | 7,561 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 45/2554 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนมิถุนายน 2554 | ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 45/2554
เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน
ในเดือนมิถุนายน 2554
--------------------------------------------
อื่นๆ - 1.เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วันในเดือนมิถุนายน 2554
อื่นๆ - 2.อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3.เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยไต้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยอายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้
| | | | | |
| --- | --- | --- | --- | --- |
| รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) |
| พ.51/14/54 | 65,000 | 29 มิถุนายน 2554 | 4/7/54 – 18/7/54 | 14 |
| พ.52/14/54 | 60,000 | 30 มิถุนายน 2554 | 5/7/54 – 19/7/54 | 14 |
อื่นๆ - 4.วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2554
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 28 มิถุนายน 2554
(นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน | 7,562 |
ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการรับเงินประจำตำแหน่งประเภทวิชาการระดับชำนาญการที่มีประสบการณ์ พ.ศ. 2552 | ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการรับเงินประจําตําแหน่งประเภทวิชาการ
ระดับชํานาญการที่มีประสบการณ์
พ.ศ. 2552
----------------------------------
โดยที่เป็นการสมควรกําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการรับเงินประจําตําแหน่งของข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช. สําหรับตําแหน่งประเภทวิชาการระดับชํานาญการ ที่มีประสบการณ์เพื่อให้สํานักงาน ป.ป.ช. ใช้เป็นแนวทางในการประเมินข้าราชการให้ได้รับเงินประจําตําแหน่ง
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 107 มาตรา 110 และมาตรา 111 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ประกอบมาตรา 50 วรรคสาม แห่งระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 และประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง การให้ข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช. ได้รับเงินเดือนและเงินประจําตําแหน่ง พ.ศ. 2552 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จึงกําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการรับเงินประจําตําแหน่ง สําหรับตําแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชํานาญการ ที่มีประสบการณ์ ดังนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการรับเงินประจําตําแหน่งประเภทวิชาการระดับชํานาญการที่มีประสบการณ์ พ.ศ. 2552”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2551 เป็นต้นไป
ข้อ ๓ การได้รับเงินประจําตําแหน่งสําหรับผู้ดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชํานาญการที่มีประสบการณ์ตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง การให้ข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช. ได้รับเงินประจําตําแหน่ง พ.ศ. 2552 ดังนี้
3.1 ต้องเป็นผู้ดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชํานาญการ หรือเทียบเท่ามาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี
3.2 ต้องผ่านการประเมินคุณสมบัติและผลงานจากสํานักงาน ป.ป.ช. ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กําหนดไว้สําหรับใช้ในการป ระเมินเพื่อเลื่อนขึ้นแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งระดับ 7 (วิชาชีพเฉพาะ) เดิม หรือที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะกําหนดต่อไป
ข้อ ๔ ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเป็นผู้มีอํานาจตีความและวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามประกาศนี้ หรืออันเนื่องมาจากประกาศนี้
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ.2552
ปานเทพ กล้าณรงค์ราญ
ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ | 7,563 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 48/2558 เรื่อง กำหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประเภทอัตราดอกเบี้ยคงที่ อายุ 2 ปี ประจำเดือนสิงหาคม ปี 2558
| ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 48/2558
เรื่อง กําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
ประเภทอัตราดอกเบี้ยคงที่ อายุ 2 ปี ประจําเดือนสิงหาคม ปี 2558
------------------------------------------
อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยคงที่ อายุ 2 ปี ประจําเดือนสิงหาคม ปี 2558
อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 5.2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3. เนื้อหา
ตามที่ธนาคาแห่งประเทสไทยได้ออกประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประเภทอัตราดอกเบี้ยคงที่ อายุ 2 ปี ประจําเดือนสิงหาคม ปี 2558 (รุ่นที่ 2/2ปี/2558) โดยจะกําหนดและประกาศอัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋ว (Coupon Rate) ในวันที่ 18 สิงหาคม 2558 นั้น
ธนาคาแห่งประเทศไทยได้กําหนดอัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋วของพันธบัตรแห่งประเทศไทย รุ่นที่ 2/2ปี/2558 ที่จะประมูลในวันที่ 20 สิงหาคม 2558 เท่ากับร้อยละ 1.51 ต่อปี
อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม 2558
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 18 สิงหาคม 2558
(นางจันทวรรณ สุจริตกุล)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน | 7,564 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 46/2554 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประจำเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2554 | ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 46 /2554
เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
ประจําเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2554
------------------------------
อื่นๆ - 1.เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประจําเดือนกรกฎาคมพ.ศ. 2554
อื่นๆ - 2.อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3.เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประจําเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2554 ดังนี้
| | | | | | | | |
| --- | --- | --- | --- | --- | --- | --- | --- |
| รุ่นที่ | อัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋ว(ร้อยละต่อปี) | วงเงิน (ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน | วันครบกําหนด | ประเภทอายุ | อายุ คงเหลือ |
| 27/28/54 | - | 15,000 | 5 ก.ค. 54 | 7 ก.ค. 54 | 4 ส.ค. 54 | 28 วัน | 28 วัน |
| 27/91/54 | - | 15,000 | 5 ก.ค. 54 | 7 ก.ค. 54 | 6 ต.ค. 54 | 91 วัน | 91 วัน |
| 27/182/54 | - | 15,000 | 5 ก.ค. 54 | 7 ก.ค. 54 | 5 ม.ค. 54 | 182 วัน | 182 วัน |
| 28/28/54 | - | 15,000 | 12 ก.ค. 54 | 14 ก.ค. 54 | 11 ส.ค. 54 | 28 วัน | 28 วัน |
| 28/91/54 | - | 15,000 | 12 ก.ค. 54 | 14 ก.ค. 54 | 13 ต.ค. 54 | 91 วัน | 91 วัน |
| 28/182/54 | - | 15,000 | 12 ก.ค. 54 | 14 ก.ค. 54 | 12 ม.ค. 54 | 182 วัน | 182 วัน |
| 29/28/54 | - | 20,000 | 19 ก.ค. 54 | 21 ก.ค. 54 | 18 ส.ค. 54 | 28 วัน | 28 วัน |
| 29/91/54 | - | 20,000 | 19 ก.ค. 54 | 21 ก.ค. 54 | 20 ต.ค. 54 | 91 วัน | 91 วัน |
| 29/182/54 | - | 20,000 | 19 ก.ค. 54 | 21 ก.ค. 54 | 19 ม.ค. 54 | 182 วัน | 182 วัน |
| 4/363/54 | - | 30,000 | 19 ก.ค. 54 | 21 ก.ค. 54 | 3 พ.ค. 54 | 363 วัน | 287 วัน |
| 1/FRB2ปี/2554 | 3M BIBOR – 0.20(= 3.03250% สําหรับงวดเริ่มต้น 22 มิ.ย. 54) | 15,000 | 22 ก.ค. 54 | 26 ก.ค. 54 | 22 มี.ค. 54 | 2 ปี | 1.66 ปี |
| รุ่นที่ | อัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋ว(ร้อยละต่อปี) | วงเงิน (ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน | วันครบกําหนด | ประเภทอายุ | อายุ คงเหลือ |
| 30/28/54 | - | 20,000 | 26 ก.ค. 54 | 28 ก.ค. 54 | 25 ส.ค. 54 | 28 วัน | 28 วัน |
| 30/91/54 | - | 20,000 | 26 ก.ค. 54 | 28 ก.ค. 54 | 27 ต.ค. 54 | 91 วัน | 91 วัน |
| 30/182/54 | - | 20,000 | 26 ก.ค. 54 | 28 ก.ค. 54 | 26 ม.ค. 54 | 182 วัน | 182 วัน |
| 2/3ปี/2554 | 3.33% | 25,000 | 26 ก.ค. 54 | 28 ก.ค. 54 | 12 พ.ค. 54 | 3 ปี | 2.79 ปี |
สําหรับพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย รุ่นที่ 1/FRB2ปี/2554 ธปท. จะประกาศกําหนดอัตราดอกเบี้ยในการคํานวณราคาสําหรับช่วงวันชําระเงินถึงวันจ่ายดอกเบี้ยถัดไป (I1) และอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง (I2) ในวันพุธที่ 20 กรกฎาคม 2554
อื่นๆ - 4.วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน 2554
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 29 มิถุนายน 2554
(นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน | 7,565 |
ประกาศสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง รายงานผลการตรวจสอบและผลการปฏิบัติหน้าที่ ประจำปี พ.ศ. 2552 | ประกาศสํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
เรื่อง รายงานผลการตรวจสอบและผลการปฏิบัติหน้าที่ ประจําปี พ.ศ. 2552
----------------------------
ตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 250 (6) กําหนดให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประกาศรายงานผลการตรวจสอบและผลการปฏิบัติหน้าที่พร้อมข้อสังเกตในราชกิจจานุเบกษา
ฉะนั้น เพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามความในมาตรา 250 (6) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2550 สํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จึงขอประกาศรายงานผลการตรวจสอบและผลการปฏิบัติหน้าที่ ประจําปี พ.ศ. 2552 ในราชกิจจานุเบกษาตามท้ายประกาศนี้
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2554
อภินันทน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา
เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ | 7,566 |
ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลแขวงดุสิต | ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม
เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลแขวงดุสิต
----------------------
อื่นๆ - ด้วยศาลแขวงดุสิต จะย้ายที่ทําการจากที่ทําการชั่วคราวศาลแขวงดุสิตเดิม ถนนบรมราชชนนี แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร ไปยังที่ทําการศาลแขวงดุสิตหลังใหม่
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 วรรคสาม แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรม คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมจึงออกประกาศเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลแขวงดุสิต จากที่ทําการชั่วคราวศาลแขวงดุสิตเดิม ถนนบรมราชชนนี แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร ไปยังที่ทําการศาลแขวงดุสิตหลังใหม่ ซอยสีคาม ถนนนครไชยศรี แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร โดยให้เริ่มทําการตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2560 เป็นต้นไป
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2560
ชีพ จุลมนต์
ประธานศาลฎีกา
ประธานกรรมการบริหารศาลยุติธรรม | 7,567 |
ประกาศสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง รายงานผลการตรวจสอบและผลการปฏิบัติหน้าที่ ประจำปี พ.ศ. 2553 | ประกาศสํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม
การทุจริตแห่งชาติ
เรื่อง รายงานผลการตรวจสอบและผลการปฏิบัติหน้าที่ ประจําปี พ.ศ. 2553
------------------------------------
ตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 250 (6) กําหนดให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประกาศรายงานผลการตรวจสอบและผลการปฏิบัติหน้าที่พร้อมข้อสังเกตในราชกิจจานุเบกษา
ฉะนั้น เพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามความในมาตรา 250 (6) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 สํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จึงขอประกาศรายงานผลการตรวจสอบและผลการปฏิบัติหน้าที่ ประจําปี พ.ศ. 2553 ในราชกิจจานุเบกษาตามท้ายประกาศนี้
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555
ณรงค์ รัฐอมฤต
เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ | 7,568 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 47/2554 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนกรกฎาคม 2554
| ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 47 /2554
เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน
ในเดือนกรกฎาคม 2554
-----------------------------------
อื่นๆ - 1.เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนกรกฎาคม 2554
อื่นๆ - 2.อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3.เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยอายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้
| | | | | |
| --- | --- | --- | --- | --- |
| รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) |
| พ.53/14/54 | 55,000 | 7 กรกฎาคม 2554 | 11/7/54 – 25/7/54 | 14 |
| พ.54/14/54 | 50,000 | 8 กรกฎาคม 2554 | 12/7/54 – 26/7/54 | 14 |
อื่นๆ - 4.วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคม 2554
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 5 กรกฎาคม 2554
(นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน | 7,569 |
ประกาศสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง รายงานผลการตรวจสอบและผลการปฏิบัติหน้าที่ ประจำปี พ.ศ. 2554 | ประกาศสํานักงานคณะกรรมการป้องกัน
และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
เรื่อง รายงานผลการตรวจสอบและผลการปฏิบัติหน้าที่ ประจําปี พ.ศ. 2554
------------------------------
ตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 250 (6) กําหนดให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประกาศรายงานผลการตรวจสอบและผลการปฏิบัติหน้าที่พร้อมข้อสังเกตในราชกิจจานุเบกษา นั้น สํานักงานคณะกรรมการกฤ
ฉะนั้น เพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามความในมาตรา 250 (6) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 255- สํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จึงขอประกาศรายงานผลการตรวจสอบและผลการปฏิบัติหน้าที่ ประจําปี พ.ศ. 2554 ในราชกิจจานุเบกษาตามท้ายประกาศนี้
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2556
ชูศักดิ์ ปริปุญโญ
รองเลขาธิการฯ รักษาราชการแทน
เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. | 7,570 |
ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลจังหวัดพังงา | ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม
เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลจังหวัดพังงา
---------------------
อื่นๆ - ด้วยศาลจังหวัดพังงา จะย้ายที่ทําการจากที่ทําการศาลจังหวัดพังงาเดิม เลขที่ 621 ถนนเพชรเกษม ตําบลท้ายช้าง อําเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา ไปยังที่ทําการศาลจังหวัดพังงาหลังใหม่
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 วรรคสามและวรรคสี่ แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรมคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมจึงออกประกาศเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลจังหวัดพังงา จากที่ทําการศาลจังหวัดพังงาเดิม เลขที่ 621 ถนนเพชรเกษม ตําบลท้ายช้าง อําเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา ไปยังที่ทําการศาลจังหวัดพังงาหลังใหม่ เลขที่ 123 หมู่ 3 ถนนพังงา - ทับปุด ตําบลถ้ําน้ําผุด อําเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา โดยให้เริ่มทําการตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2560 เป็นต้นไป
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
ชีพ จุลมนต์
ประธานศาลฎีกา
ประธานกรรมการบริหารศาลยุติธรรม | 7,571 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 49/2558 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วันในเดือนสิงหาคม 2558
| ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 49/2558
เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน
ในเดือนสิงหาคม 2558
------------------------------------------
อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนสิงหาคม 2558
อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3. เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้
| | | | | |
| --- | --- | --- | --- | --- |
| รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) |
| พ.28/14/58 | 45,000 | 21 สิงหาคม 2558 | 25/8/58 - 8/9/58 | 14 |
อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2558
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 19 สิงหาคม 2558
(นางจันทวรรณ สุจริตกุล)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน
ธนาคารแห่งประเทศไทย | 7,572 |
ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการบังคับใช้มาตรฐานทางจริยธรรมของกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัด พ.ศ. 2557 | ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการบังคับใช้มาตรฐานทางจริยธรรมของกรรมการป้องกัน
และปราบปรามการทุจริตประจําจังหวัด
พ.ศ. 2557
---------------------------------
โดยที่เป็นการสมควรกําหนดให้มีหลักเกณฑ์และวิธีการในการบังคับใช้มาตรฐานทางจริยธรรมของกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจําจังหวัด เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจําจังหวัดเป็นไปตามมาตรฐานทางจริยธรรม
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ประกอบกับมาตรา 103/16 และมาตรา 107 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการบังคับใช้มาตรฐานทางจริยธรรมของกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจําจังหวัด พ.ศ. 2557”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ในประกาศนี้
"ประธานกรรมการ" หมายความว่า ประธานกรรมการจริยธรรมกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจําจังหวัด
"กรรมการ" หมายความว่า กรรมการจริยธรรมกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจําจังหวัด
ข้อ ๔ ให้ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติรักษาการตามประกาศนี้และให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มีอํานาจตีความและวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาที่เกิดขึ้นจากการบังคับใช้ประกาศนี้
หมวด ๑ บททั่วไป
-------------------------
ข้อ ๕ มาตรฐานทางจริยธรรมของกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจําจังหวัดให้เป็นไปตามที่กําหนดไว้ในระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ว่าด้วยกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจําจังหวัด
การกระทําฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ได้แก่ การกระทําโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมตามระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ว่าด้วยประมวลจริยธรรมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ข้าราชการ และลูกจ้างสํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จนก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง หรือการกระทําที่ขาดความเที่ยงธรรม จงใจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายหรือมีพฤติการณ์ที่เป็นการเสื่อมเสียแก่เกียรติศักดิ์ของการดํารงตําแหน่งอย่างร้ายแรง
หมวด ๒ การควบคุมให้เป็นไปตามจริยธรรม
----------------------------
ข้อ ๖ ให้มีคณะกรรมการจริยธรรมกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจําจังหวัด เรียกโดยย่อว่า "คณะกรรมการจริยธรรมกรรมการ ป.ป.จ." ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่งตั้ง จํานวนเก้าคน ประกอบด้วย สํานักงานคณะกรรมการ
(1) ประธานกรรมการ ซึ่งประธานกรรมการ ป.ป.. เสนอจากผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกผู้มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์โดยความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ป.ป.ช.
(2) เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.
(3) รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ได้รับมอบหมายจํานวนสองคน
(4) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกซึ่งเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เสนอจากผู้มีความรู้หรือประสบการณ์หรือมีผลงานเป็นที่ยอมรับในลักษณะที่เป็นประโยชน์ต่อการควบคุม กํากับดูแล และบังคับใช้ประมวลจริยธรรมของเจ้าหน้าที่ของรัฐ และมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์จํานวนสองคน
(5) ผู้อํานวยการศูนย์บริหารงาน ป.ป.ช. จังหวัด เป็นกรรมการและเลขานุการ
(6) ข้าราชการของสํานักงาน ป.ป.ช. ที่เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมายจํานวนสองคนเป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
ข้อ ๗ ประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกมีวาระการดํารงตําแหน่งคราวละสองปี และจะดํารงตําแหน่งติดต่อกันเกินสองวาระมิได้
ให้ประธานกรรมการและกรรมการตามวรรคหนึ่งซึ่งพ้นจากตําแหน่งตามวาระ ทําหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะได้มีการแต่งตั้งประธานหรือกรรมการขึ้นใหม่
ข้อ ๘ นอกจากการพ้นจากตําแหน่งตามวาระ ประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกพ้นจากตําแหน่งเมื่อ
(1) ตาย
(2) ลาออก
(3) คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้พ้นจากตําแหน่ง
ข้อ ๙ การประชุมคณะกรรมการจริยธรรมกรรมการ ป.ป.จ. ต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจํานวนกรรมการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่
ถ้าประธานกรรมการไม่อยู่ในที่ประชุมหรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ให้กรรมการที่มาประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งทําหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม
การลงมติของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมากของจํานวนกรรมการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่โดยกรรมการคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน
ในการประชุมคณะกรรมการจริยธรรมกรรมการ ป.ป.จ. ให้ประธานกรรมการและกรรมการได้รับค่าตอบแทนตามระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ว่าด้วยค่าตอบแทนอนุกรรมการ ทั้งนี้ ให้ประธานกรรมการได้รับค่าตอบแทนในอัตราเดียวกับประธานอนุกรรมการ และกรรมการได้รับค่าตอบแทนในอัตราเดียวกับอนุกรรมการ
ข้อ ๑๐ คณะกรรมการจริยธรรมกรรมการ ป.ป.จ. มีอํานาจหน้าที่ดังนี้
(1) ควบคุม กํากับ ส่งเสริม สนับสนุนและให้คําแนะนําในการบังคับใช้ประมวลจริยธรรมตามที่กําหนดไว้ในระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ว่าด้วยกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจําจังหวัด
(2) สอดส่องดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการ ป.ป.จ. ให้เป็นไปตามมาตรฐานทางจริยธรรม
(3) รับและพิจารณาเรื่องร้องเรียน หรือเรื่องที่เป็นข้อสงสัยเกี่ยวกับการกระทําการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมของกรรมการ ป.ป.จ. จากหน่วยงานราชการหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ ราชการส่วนท้องถิ่น หน่วยงานเอกชน บุคคลหรือคณะบุคคล
(4) พิจารณาเรื่องที่เป็นข้อสงสัยเกี่ยวกับการกระทําของกรรมการ ป.ป.จ. ที่อาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิของคณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือสํานักงาน ป.ป.ช. หรือเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของตําแหน่งหน้าที่กรรมการ ป.ป.จ.
(5) สอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน เสนอความเห็นเกี่ยวกับเรื่องร้องเรียนหรือเรื่องที่เป็นข้อสงสัยตาม (3) และ (4) เพื่อเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาวินิจฉัย
(6) แต่งตั้งคณะทํางานเพื่อดําเนินการใด ๆ ที่อยู่ในอํานาจหน้าที่
(7) ปฏิบัติหน้าที่อื่น ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมาย
หมวด ๓ การพิจารณา
-----------------------
ข้อ ๑๑ เมื่อได้รับการร้องเรียน หรือมีเรื่องที่เป็นข้อสงสัยเกี่ยวกับจริยธรรมของกรรมการ ป.ป.จ. ตามข้อ 10 (3) หรือ (5) ให้คณะกรรมการจริยธรรมกรรมการ ป.ป.จ. พิจารณารับเรื่องร้องเรียนและสอบสวนข้อเท็จจริงโดยเร็ว
ให้คณะกรรมการจริยธรรมกรรมการ ป.ป.จ. เสนอความเห็นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าสมควรกําหนดให้กรรมการ ป.ป.จ. ผู้ถูกร้องเรียนยุติการปฏิบัติหน้าที่ระหว่างถูกสอบสวนข้อเท็จจริงหรือไม่ ในการนี้ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาสั่งการโดยเร็ว
ข้อ ๑๒ การพิจารณาตามข้อ 11 ต้องแจ้งให้กรรมการ ป.ป.จ. ผู้ถูกร้องเรียนทราบข้อร้องเรียนอีกทั้งต้องเปิดโอกาสให้มีการคัดค้านผู้ทําการสอบสวนข้อเท็จจริงได้ และเปิดโอกาสให้กรรมการ ป.ป.จ. ผู้ถูกร้องเรียนสามารถชี้แจงข้อเท็จจริงและแสดงพยานหลักฐาน รวมทั้งให้มีสิทธิตรวจเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องในการชี้แจงข้อเท็จจริง
กรณีที่มีการคัดค้านผู้ทําการสอบสวนข้อเท็จจริงให้คณะกรรมการจริยธรรมกรรมการ ป.ป.จ. มีอํานาจพิจารณาและวินิจฉัยคําคัดค้าน คําวินิจฉัยให้ถือเป็นที่สุด
ข้อ ๑๓ เมื่อการสอบสวนข้อเท็จจริงเสร็จสิ้นแล้ว ให้คณะกรรมการจริยธรรมกรรมการ ป.ป.จ. จัดทํารายงานการสอบสวนข้อเท็จจริงและทําความเห็นเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณา
หากคณะกรรมการจริยธรรมกรรมการ ป.ป.จ. เห็นว่าจากการสอบสวนข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าผู้ถูกร้องเรียนฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมของกรรมการ ป.ป.จ. ก็ให้เสนอความเห็นให้ยุติเรื่อง
หากปรากฎข้อเท็จจริงว่าผู้ถูกร้องเรียนมีการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมของกรรมการ ป.ป.จ. ให้เสนอความเห็นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าการกระทําดังกล่าวเป็นกรณีการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างไม่ร้ายแรงหรือร้ายแรง เพื่อให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาสั่งลงโทษตามความร้ายแรงของการกระทํา
ข้อ ๑๔ การพิจารณาว่าการกระทําของกรรมการ ป.ป.จ. เป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ ให้พิจารณาจากพฤติกรรมของการฝ่าฝืน ความจงใจหรือเจตนาโดยมีมูลเหตุจูงใจ ความประมาทเลินเล่อ สภาพแวดล้อมแห่งกรณี และผลร้ายอันเกิดจากการฝ่าฝืนและเหตุอื่นอันควรนํามาประกอบการพิจารณา
หมวด ๔ การลงโทษ
------------------
ข้อ ๑๕ กรณีเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างไม่ร้ายแรง ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้ตักเตือนผู้ฝ่าฝืน เพื่อให้ผู้ฝ่าฝืนนั้นปรับปรุงตนเองหรือให้มีการพัฒนาตนเอง หรือเพื่อให้มีการแก้ไขหรือดําเนินการให้ถูกต้อง หรือให้ตําหนิหรือประณามให้เป็นที่ประจักษ์
กรณีเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้พ้นจากตําแหน่งตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
ปานเทพ กล้าณรงค์ราญ
ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ | 7,573 |
ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพะเยา | ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม
เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพะเยา
------------------------
อื่นๆ - ด้วยศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพะเยา จะย้ายที่ทําการจากที่ทําการศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพะเยาเดิม เลขที่ 182 หมู่ที่ 11 ตําบลบ้านต๋อม อําเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา ไปยังที่ทําการศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพะเยาหลังใหม่
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 วรรคสามและวรรคสี่ แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรมคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมจึงออกประกาศเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลเยาวชนและครอบครัว จังหวัดพะเยา จากที่ทําการศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพะเยาเดิม เลขที่ 182 หมู่ที่ 11 ตําบลบ้านต๋อม อําเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา ไปยังที่ทําการศาลเยาวซนและครอบครัว จังหวัดพะเยาหลังใหม่ เลขที่ 333 หมู่ที่ 1 บ้านห้วยเคียนเหนือ ตําบลบ้านต๊ํา อําเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา โดยให้เริ่มทําการตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2561 เป็นต้นไป
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2560
ชีพ จุลมนต์
ประธานศาลฎีกา
ประธานกรรมการบริหารศาลยุติธรรม | 7,574 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 50/2558 เรื่อง กำหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2558 สำหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 26 สิงหาคม 2558
| ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 50/2558
เรื่อง กําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2558
สําหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 26 สิงหาคม 2558
------------------------------------------
อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2558 สําหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 26 สิงหาคม 2558
อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 5.2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3. เนื้อหา
ธนาคาแห่งประเทสไทยได้กําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2558 สําหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 26 สิงหาคม 2558 เท่ากับร้อยละ 1.52917 ต่อปี (เท่ากับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงระยะสั้นการกู้ยืมเงินระหว่างธนาคารของตลาดกรุงเทพฯ (BIBOR) ระยะ 3 เดือน ณ วันที่ 24 สิงหาคม 2558 ลบร้อยละ 0.1)
อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2558
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 24 สิงหาคม 2558
(นางจันทวรรณ สุจริตกุล)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน
ธนาคารแห่งประเทศไทย | 7,575 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 51/2558 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประจำเดือนกันยายน พ.ศ. 2558
| ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 51 /2558
เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
ประจําเดือนกันยายน พ.ศ. 2558
อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประจําเดือนกันยายน พ.ศ. 2558
อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3. เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประจําเดือนกันยายน พ.ศ. 2558 ดังนี้
| | | | | | | | |
| --- | --- | --- | --- | --- | --- | --- | --- |
| รุ่นที่ | อัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋ว(ร้อยละต่อปี) | วงเงิน (ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน | วันครบกําหนด | ประเภทอายุ | อายุ คงเหลือ |
| 35/91/58 | - | 30,000 | 1 ก.ย. 58 | 3 ก.ย. 58 | 3 ธ.ค. 58 | 91 วัน | 91 วัน |
| 35/182/58 | - | 30,000 | 1 ก.ย. 58 | 3 ก.ย. 58 | 3 มี.ค. 59 | 182 วัน | 182 วัน |
| 3/364/58 | - | 30,000 | 1 ก.ย. 58 | 3 ก.ย. 58 | 30 มิ.ย. 58 | 364 วัน | 301 วัน |
| 36/92/58 | - | 30,000 | 8 ก.ย. 58 | 10 ก.ย. 58 | 11 ธ.ค. 58 | 92 วัน | 92 วัน |
| 36/182/58 | | 30,000 | 8 ก.ย. 58 | 10 ก.ย. 58 | 10 มี.ค. 59 | 182 วัน | 182 วัน |
| 37/91/58 | - | 30,000 | 15 ก.ย. 58 | 17 ก.ย. 58 | 17 ธ.ค. 58 | 91 วัน | 91 วัน |
| 37/182/58 | - | 30,000 | 15 ก.ย. 58 | 17 ก.ย. 58 | 17 มี.ค. 59 | 182 วัน | 182 วัน |
| 38/91/58 | - | 30,000 | 22 ก.ย. 58 | 24 ก.ย. 58 | 24 ธ.ค. 58 | 91 วัน | 91 วัน |
| 38/182/58 | - | 30,000 | 22 ก.ย. 58 | 24 ก.ย. 58 | 24 มี.ค. 59 | 182 วัน | 182 วัน |
| 2/3ปี/2558 | 1.55 | 30,000 | 24 ก.ย. 58 | 28 ก.ย. 58 | 20 ก.ค. 61 | 3 ปี | 2.81 ปี |
| 39/90/58 | - | 30,000 | 29 ก.ย. 58 | 1 ต.ค. 58 | 30 ธ.ค. 58 | 90 วัน | 90 วัน |
| 39/182/58 | - | 30,000 | 29 ก.ย. 58 | 1 ต.ค. 58 | 31 มี.ค. 59 | 182 วัน | 182 วัน |
อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม 2558
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 26 สิงหาคม 2558
(นางจันทวรรณ สุจริตกุล)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน
ธนาคารแห่งประเทศไทย | 7,576 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 52/2558 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วันในเดือนสิงหาคม 2558
| ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 52/2558
เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน
ในเดือนสิงหาคม 2558
------------------------------------------
อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนสิงหาคม 2558
อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3. เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้
| | | | | |
| --- | --- | --- | --- | --- |
| รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) |
| พ.29/14/58 | 30,000 | 28 สิงหาคม 2558 | 1/9/58 - 15/9/58 | 14 |
อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม 2558
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 26 สิงหาคม 2558
(นางจันทวรรณ สุจริตกุล)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน
ธนาคารแห่งประเทศไทย | 7,578 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 53/2558 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วันในเดือนกันยายน 2558
| ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 53/2558
เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน
ในเดือนกันยายน 2558
------------------------------------------
อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนกันยายน 2558
อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3. เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้
| | | | | |
| --- | --- | --- | --- | --- |
| รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) |
| พ.30/14/58 | 35,000 | 4 กันยายน 2558 | 8/9/58 - 22/9/58 | 14 |
อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน 2558
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 3 กันยายน 2558
(นางจันทวรรณ สุจริตกุล)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน
ธนาคารแห่งประเทศไทย | 7,579 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 54/2558 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วันในเดือนกันยายน 2558
| ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 54/2558
เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน
ในเดือนกันยายน 2558
------------------------------------------
อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนกันยายน 2558
อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3. เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้
| | | | | |
| --- | --- | --- | --- | --- |
| รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) |
| พ.31/14/58 | 30,000 | 11 กันยายน 2558 | 15/9/58 - 29/9/58 | 14 |
อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน พ.ศ.2558
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 9 กันยายน 2558
(นางจันทวรรณ สุจริตกุล)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน
ธนาคารแห่งประเทศไทย | 7,580 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 55/2558 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วันในเดือนกันยายน 2558
| ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 55/2558
เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน
ในเดือนกันยายน 2558
------------------------------------------
อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนกันยายน 2558
อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3. เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้
| | | | | |
| --- | --- | --- | --- | --- |
| รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) |
| พ.32/14/58 | 35,000 | 18 กันยายน 2558 | 22/9/58 - 6/10/58 | 14 |
อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2558
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 16 กันยายน 2558
(นางจันทวรรณ สุจริตกุล)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน
ธนาคารแห่งประเทศไทย | 7,581 |
ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลจังหวัดปราจีนบุรี | ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลจังหวัดปราจีนบุรี
----------------------------
อื่นๆ - ด้วยศาลจังหวัดปราจีนบุรี จะย้ายที่ทําการจากที่ทําการศาลจังหวัดปราจีนบุรีเดิม ตําบลหน้าเมืองอําเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี ไปยังที่ทําการศาลจังหวัดปราจีนบุรีหลังใหม่
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 วรรคสามและวรรคสี่ แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรมคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมจึงออกประกาศเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลจังหวัดปราจีนบุรี จากที่ทําการศาลจังหวัดปราจีนบุรีเดิม ตําบลหน้าเมือง อําเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี ไปยังที่ทําการศาลจังหวัดปราจีนบุรีหลังใหม่ เลขที่ 236 หมู่ที่ 11 ตําบลไม้เค็ด อําเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี (ศูนย์ราชการจังหวัดปราจีนบุรี โดยให้เริ่มทําการตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2561 เป็นต้นไป
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
ชีพ จุลมนต์
ประธานศาลฎีกา
ประธานกรรมการบริหารศาลยุติธรรม | 7,582 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 57/2558 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วันในเดือนกันยายน 2558
| ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 57/2558
เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน
ในเดือนกันยายน 2558
------------------------------------------
อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนกันยายน 2558
อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3. เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้
| | | | | |
| --- | --- | --- | --- | --- |
| รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) |
| พ.33/14/58 | 30,000 | 25 กันยายน 2558 | 29/9/58 - 13/10/58 | 14 |
อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2558
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 23 กันยายน 2558
(นางจันทวรรณ สุจริตกุล)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน
ธนาคารแห่งประเทศไทย | 7,583 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 58/2558 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประจำเดือนตุลาคม พ.ศ. 2558
| ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 58 /2558
เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
ประจําเดือนตุลาคม พ.ศ. 2558
---------------------------------------
อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประจําเดือนตุลาคม พ.ศ. 2558
อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3. เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประจําเดือนตุลาคม พ.ศ. 2558 ดังนี้
| | | | | | | | |
| --- | --- | --- | --- | --- | --- | --- | --- |
| รุ่นที่ | อัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋ว(ร้อยละต่อปี) | วงเงิน (ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน | วันครบกําหนด | ประเภทอายุ | อายุ คงเหลือ |
| 40/91/58 | - | 35,000 | 6 ต.ค. 58 | 8 ต.ค. 58 | 7 ม.ค. 59 | 91 วัน | 91 วัน |
| 40/182/58 | - | 20,000 | 6 ต.ค. 58 | 8 ต.ค. 58 | 7 เม.ย. 59 | 182 วัน | 182 วัน |
| 2/2ปี/2558 | - | 30,000 | 8 ต.ค. 58 | 12 ต.ค. 58 | 24 ส.ค. 60 | 2 ปี | 1.87 ปี |
| 41/91/58 | - | 35,000 | 13 ต.ค. 58 | 15 ต.ค. 58 | 14 ม.ค. 59 | 91 วัน | 91 วัน |
| 41/180/58 | | 20,000 | 13 ต.ค. 58 | 15 ต.ค. 58 | 12 เม.ย. 59 | 180 วัน | 180 วัน |
| 1/FRB3ปี/2558 | 3M BIBOR -0.1 (เท่ากับ 1.52750 สําหรับงวดเริ่มต้น วันที่ 17 ส.ค. 58) | 10,000 | 16 ต.ค. 58 | 20 ต.ค. 58 | 17 ก.พ. 61 | 3 ปี | 2.33 ปี |
| 42/91/58 | - | 35,000 | 20 ต.ค. 58 | 22 ต.ค. 58 | 21 ม.ค. 59 | 91 วัน | 91 วัน |
| 42/182/58 | - | 20,000 | 20 ต.ค. 58 | 22 ต.ค. 58 | 21 เม.ย. 59 | 182 วัน | 182 วัน |
| 43/91/58 | - | 30,000 | 27 ต.ค. 58 | 29 ต.ค. 58 | 28 ม.ค. 59 | 91 วัน | 91 วัน |
| 43/182/58 | - | 30,000 | 27 ต.ค. 58 | 29 ต.ค. 58 | 28 เม.ย. 59 | 182 วัน | 182 วัน |
| 4/364/58 | - | 35,000 | 27 ต.ค. 58 | 29 ต.ค. 58 | 27 ต.ค. 59 | 364 วัน | 364 วัน |
สําหรับพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย รุ่นที่ 1/FRB3ปี/2558 ธปท.จะกําหนดและประกาศอัตราดอกเบี้ยในการคํานวณราคาสําหรับช่วงวันชําระเงินถึงวันจ่ายดอกเบี้ยถัดไป (I1) และอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง (I2) ในวันที่ 14 ตุลาคม 2558
อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน พ.ศ.2558
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 25 กันยายน 2558
(นางจันทวรรณ สุจริตกุล)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน
ธนาคารแห่งประเทศไทย | 7,584 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 62/2558 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วันในเดือนตุลาคม 2558
| ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 62/2558
เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน
ในเดือนตุลาคม 2558
------------------------------------------
อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนตุลาคม 2558
อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3. เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้
| | | | | |
| --- | --- | --- | --- | --- |
| รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) |
| พ.33/14/58 | 30,000 | 25 กันยายน 2558 | 29/9/58 - 13/10/58 | 14 |
อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 30 กันยายน 2558
(นางจันทวรรณ สุจริตกุล)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน
ธนาคารแห่งประเทศไทย | 7,585 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 63/2558 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วันในเดือนตุลาคม 2558
| ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 63/2558
เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน
ในเดือนตุลาคม 2558
------------------------------------------
อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนตุลาคม 2558
อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3. เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้
| | | | | |
| --- | --- | --- | --- | --- |
| รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) |
| พ.35/14/58 | 30,000 | 9 ตุลาคม 2558 | 13/10/58 - 27/10/58 | 14 |
อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2558
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 8 ตุลาคม 2558
(นางจันทวรรณ สุจริตกุล)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน
ธนาคารแห่งประเทศไทย | 7,586 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 64/2558 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วันในเดือนตุลาคม 2558
| ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 64/2558
เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน
ในเดือนตุลาคม 2558
------------------------------------------
อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนตุลาคม 2558
อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3. เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้
| | | | | |
| --- | --- | --- | --- | --- |
| รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) |
| พ.36/14/58 | 35,000 | 16 ตุลาคม 2558 | 20/10/58 - 3/11/58 | 14 |
อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2558
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 14 ตุลาคม 2558
(นางจันทวรรณ สุจริตกุล)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน
ธนาคารแห่งประเทศไทย | 7,587 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 65/2558 เรื่อง กำหนดอัตราดอกเบี้ยในการคำนวณราคาพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2558
| ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 65/2558
เรื่อง กําหนดอัตราดอกเบี้ยในการคํานวณราคาพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2558
------------------------------------------
อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดอัตราดอกเบี้ยในการคํานวณราคา สําหรับพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว รุ่นที่ 1/FRB 3ปี/2558 ที่จะประมูลในวันที่ 16 ตุลาคม 2558
อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 5.2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3. เนื้อหา
ตามกําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประจําเดือนตุลาคม พ.ศ.2558 ที่จะเปิดประมูลพันธบัตรประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2558 ในวันที่ 16 ตุลาคม 2558 โดยธนาคารแห่งประเทศไทยจะประกาศอัตราดอกเบี้ยเพื่อใช้ในการคํานวณราคาพันธบัตรดังกล่าว ในวันที่ 14 ตุลาคม 2558 นั้น
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดอัตราดอกเบี้ยในการคํานวณราคาพันธบัตรดังกล่าว เพื่อใช้สําหรับช่วงวันชําระเงินถึงวันจ่ายดอกเบี้ยถัดไป (I1) เท่ากับร้อยละ 1.55256 ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง (I2) เท่ากับร้อยละ 1.62889 ต่อปี
อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2558
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 14 ตุลาคม 2558
(นางจันทวรรณ สุจริตกุล)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน | 7,588 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 66/2558 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วันในเดือนตุลาคม 2558
| ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 66/2558
เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน
ในเดือนตุลาคม 2558
------------------------------------------
อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนตุลาคม 2558
อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3. เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้
| | | | | |
| --- | --- | --- | --- | --- |
| รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) |
| พ.37/14/58 | 35,000 | 22 ตุลาคม 2558 | 27/10/58 - 10/11/58 | 14 |
อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2558
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 21 ตุลาคม 2558
(นางจันทวรรณ สุจริตกุล)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน
ธนาคารแห่งประเทศไทย | 7,589 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 67/2558 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประจำเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2558
| ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 67 /2558
เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
ประจําเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2558
---------------------------------------
อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประจําเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2558
อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3. เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประจําเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2558 ดังนี้
| | | | | | | | |
| --- | --- | --- | --- | --- | --- | --- | --- |
| รุ่นที่ | อัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋ว(ร้อยละต่อปี) | วงเงิน (ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน | วันครบกําหนด | ประเภทอายุ | อายุ คงเหลือ |
| 44/91/58 | - | 32,000 | 3 พ.ย. 58 | 5 พ.ย. 58 | 4 ก.พ. 59 | 91 วัน | 91 วัน |
| 44/181/58 | - | 25,000 | 3 พ.ย. 58 | 5 พ.ย. 58 | 4 พ.ค. 59 | 181 วัน | 181 วัน |
| 45/91/58 | - | 32,000 | 10 พ.ย. 58 | 12 พ.ย. 58 | 11 ก.พ. 59 | 91 วัน | 91 วัน |
| 45/182/58 | - | 25,000 | 10 พ.ย. 58 | 12 พ.ย. 58 | 12 พ.ค. 59 | 182 วัน | 182 วัน |
| 4/364/58 | | 35,000 | 10 พ.ย. 58 | 12 พ.ย. 58 | 27 ต.ค. 59 | 364 วัน | 350 วัน |
| 46/91/58 | - | 32,000 | 17 พ.ย. 58 | 19 พ.ย. 58 | 18 ก.พ. 59 | 91 วัน | 91 วัน |
| 46/182/58 | - | 25,000 | 17 พ.ย. 58 | 19 พ.ย. 58 | 19 พ.ค. 59 | 182 วัน | 182 วัน |
| 2/3ปี/2558 | 1.55 | 30,000 | 19 พ.ย. 58 | 23 พ.ย. 58 | 20 ก.ค. 61 | 3 ปี | 2.66 ปี |
| 47/91/58 | - | 32,000 | 24 พ.ย. 58 | 26 พ.ย. 58 | 25 ก.พ. 59 | 91 วัน | 91 วัน |
| 47/182/58 | - | 25,000 | 24 พ.ย. 58 | 26 พ.ย. 58 | 26 พ.ค. 59 | 182 วัน | 182 วัน |
อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2558
ผู้มีอํานาจลงนาม ๑ ประกาศ ณ วันที่ 27 ตุลาคม 2558
(นางจันทวรรณ สุจริตกุล)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน
ธนาคารแห่งประเทศไทย | 7,590 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 68/2558 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วันในเดือนตุลาคม 2558
| ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 68/2558
เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน
ในเดือนตุลาคม 2558
------------------------------------------
อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนตุลาคม 2558
อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3. เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้
| | | | | |
| --- | --- | --- | --- | --- |
| รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) |
| พ.38/14/58 | 35,000 | 30 ตุลาคม 2558 | 3/11/58 - 17/11/58 | 14 |
อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2558
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 28 ตุลาคม 2558
(นางจันทวรรณ สุจริตกุล)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน
ธนาคารแห่งประเทศไทย | 7,591 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 69/2558 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วันในเดือนพฤศจิกายน 2558
| ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 69/2558
เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน
ในเดือนพฤศจิกายน 2558
------------------------------------------
อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนพฤศจิกายน 2558
อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3. เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้
| | | | | |
| --- | --- | --- | --- | --- |
| รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) |
| พ.39/14/58 | 35,000 | 6 พฤศจิกายน 2558 | 10/11/58 - 24/11/58 | 14 |
อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2558
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 5 พฤศจิกายน 2558
(นางจันทวรรณ สุจริตกุล)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน
ธนาคารแห่งประเทศไทย | 7,592 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 70/2558 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วันในเดือนพฤศจิกายน 2558
| ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 70/2558
เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน
ในเดือนพฤศจิกายน 2558
------------------------------------------
อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนพฤศจิกายน 2558
อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3. เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้
| | | | | |
| --- | --- | --- | --- | --- |
| รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) |
| พ.40/14/58 | 35,000 | 13 พฤศจิกายน 2558 | 17/11/58 - 1/12/58 | 14 |
อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน 2558
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 11 พฤศจิกายน 2558
(นางจันทวรรณ สุจริตกุล)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน
ธนาคารแห่งประเทศไทย | 7,593 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 71/2558 เรื่อง กำหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3ปี/2558 สำหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 17 พฤศจิกายน 2558
| ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 71/2558
เรื่อง กําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3ปี/2558
สําหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 17 พฤศจิกายน 2558
------------------------------------------
อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3ปี/2558 สําหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 17 พฤศจิกายน 2558
อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 5.2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3. เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3ปี/2558 สําหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 17 พฤศจิกายน 2558 (เท่ากับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงระยะสั้นการกู้ยืมเงินระหว่างธนาคารของตลาดกรุงเทพฯ (BIBOR) ระยะ 3 เดือน ณ วันที่ 13 พฤศจิกายน 2558 ลบร้อยละ 0.1)
อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน 2558
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 13 พฤศจิกายน 2558
(นางจันทวรรณ สุจริตกุล)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน
ธนาคาแห่งประเทศไทย | 7,594 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 72/2558 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วันในเดือนพฤศจิกายน 2558
| ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 72/2558
เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อายุไม่เกิน 15 วันในเดือนพฤศจิกายน 2558
------------------------------------------
อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนพฤศจิกายน 2558
อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3. เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้
| | | | | |
| --- | --- | --- | --- | --- |
| รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) |
| พ.41/14/58 | 35,000 | 20 พฤศจิกายน 2558 | 24/11/58 - 8/12/58 | 14 |
อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ.2558
อื่นๆ - ประกาศ ณ วันที่ 19 พฤศจิกายน 2558
(นางจันทวรรณ สุจริตกุล)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน
ธนาคารแห่งประเทศไทย | 7,595 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 73/2558 เรื่อง กำหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3ปี/2556 สำหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 26 พฤศจิกายน 2558
| ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 73/2558
เรื่อง กําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3ปี/2556
สําหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 26 พฤศจิกายน 2558
------------------------------------------
อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3ปี/2556 สําหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 26 พฤศจิกายน 2558
อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 5.2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3. เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3ปี/2556 สําหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 26 พฤศจิกายน 2558 เท่ากับร้อยละ 1.53323 ต่อปี (เท่ากับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงระยะสั้นการกู้ยืมเงินระหว่างธนาคารของตลาดกรุงเทพฯ (BIBOR) ระยะ 3 เดือน ณ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2558 ลบร้อยละ 0.1)
อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน 2558
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2558
(นางจันทวรรณ สุจริตกุล)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน
ธนาคาแห่งประเทศไทย | 7,596 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 74/2558 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วันในเดือนพฤศจิกายน 2558
| ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 74/2558
เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน
ในเดือนพฤศจิกายน 2558
------------------------------------------
อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนพฤศจิกายน 2558
อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3. เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้
| | | | | |
| --- | --- | --- | --- | --- |
| รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) |
| พ.42/14/58 | 30,000 | 27 พฤศจิกายน 2558 | 1/12/58 - 15/12/58 | 14 |
อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน 2558
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2558
(นางจันทวรรณ สุจริตกุล)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน
ธนาคารแห่งประเทศไทย | 7,597 |
"ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 75/2558 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
ประจำเดือนธันวาคม พ.ศ. 2558"
| ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 75 /2558
เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
ประจําเดือนธันวาคม พ.ศ. 2558
---------------------------------------
อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประจําเดือนธันวาคม พ.ศ. 2558
อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3. เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประจําเดือนธันวาคม พ.ศ. 2558 ดังนี้
| | | | | | | | |
| --- | --- | --- | --- | --- | --- | --- | --- |
| รุ่นที่ | อัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋ว(ร้อยละต่อปี) | วงเงิน (ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน | วันครบกําหนด | ประเภทอายุ | อายุ คงเหลือ |
| 48/91/58 | - | 30,000 | 1 ธ.ค. 58 | 3 ธ.ค. 58 | 3 มี.ค. 59 | 91 วัน | 91 วัน |
| 48/182/58 | - | 30,000 | 1 ธ.ค. 58 | 3 ธ.ค. 58 | 2 มิ.ย. 59 | 182 วัน | 182 วัน |
| 4/364/58 | - | 25,000 | 1 ธ.ค. 58 | 3 ธ.ค. 58 | 27 ต.ค. 59 | 364 วัน | 329 วัน |
| 1/FRB3ปี/2558 | 3 M BIBOR -0.1 (เท่ากับ 1.53199 สําหรับงวดเริ่มต้น วันที่ 17 พ.ย.58) | 10,000 | 3 ธ.ค. 58 | 8 ธ.ค. 58 | 17 ก.พ. 61 | 3 ปี | 2.2 ปี |
| 49/90/58 | - | 30,000 | 8 ธ.ค. 58 | 11 ธ.ค. 58 | 10 มี.ค. 59 | 90 วัน | 90 วัน |
| 49/181/58 | - | 30,000 | 8 ธ.ค. 58 | 11 ธ.ค. 58 | 9 มิ.ย. 59 | 181 วัน | 181 วัน |
| 50/91/58 | - | 30,000 | 15 ธ.ค. 58 | 17 ธ.ค. 58 | 17 มี.ค. 59 | 91 วัน | 91 วัน |
| 50/182/58 | - | 30,000 | 15 ธ.ค. 58 | 17 ธ.ค. 58 | 16 มิ.ย. 59 | 182 วัน | 182 วัน |
| 2/2ปี/58 | 1.51 | 20,000 | 17 ธ.ค. 58 | 21 ธ.ค. 58 | 24 ส.ค. 60 | 2 ปี | 1.68 ปี |
| 51/91/58 | - | 30,000 | 22 ธ.ค. 58 | 24 ธ.ค. 58 | 24 มี.ค. 59 | 91 วัน | 91 วัน |
| 51/182/58 | - | 30,000 | 22 ธ.ค. 58 | 24 ธ.ค. 58 | 23 มิ.ย. 59 | 182 วัน | 182 วัน |
สําหรับพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2558 ธปท. จะกําหนดและประกาศอัตราดอกเบี้ยในการคํานวณราคาสําหรับช่วงวันชําระเงินถึงวันจ่ายดอกเบี้ยถัดไป (I1) และอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง (I2) ในวันอังคารที่ 1 ธันวาคม 2558
อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน 2558
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 26 พฤศจิกายน 2558
(นางจันทวรรณ สุจริตกุล)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน
ธนาคารแห่งประเทศไทย | 7,598 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 77/2558 เรื่อง กำหนดอัตราดอกเบี้ยในการคำนวณราคาพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2558
| ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 77/2558
เรื่อง กําหนดอัตราดอกเบี้ยในการคํานวณราคาพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2558
------------------------------------------
อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดอัตราดอกเบี้ยในการคํานวณราคา สําหรับพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2558 ที่จะประมูลในวันที่ 3 ธันวาคม 2558
อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 5.2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3. เนื้อหา
ตามกําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประจําเดือนธันวาคม พ.ศ.2558 ที่จะเปิดประมูลพันธบัตรประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2558 ในวันที่ 3 ธันวาคม 2558 โดยธนาคารแห่งประเทศไทยจะประกาศอัตราดอกเบี้ยเพื่อใช้ในการคํานวณราคาพันธบัตรดังกล่าว ในวันที่ 1 ธันวาคม 2558 นั้น
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดอัตราดอกเบี้ยในการคํานวณราคาพันธบัตรดังกล่าว เพื่อใช้สําหรับช่วงวันชําระเงินถึงวันจ่ายดอกเบี้ยถัดไป (I1) เท่ากับร้อยละ 1.60808 ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง (I2) เท่ากับร้อยละ 1.63342 ต่อปี
อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม 2558
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 1 ธันวาคม 2558
(นางจันทวรรณ สุจริตกุล)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน | 7,599 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 78/2558 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วันในเดือนธันวาคม 2558
| ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 78/2558
เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน
ในเดือนธันวาคม 2558
------------------------------------------
อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนธันวาคม 2558
อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3. เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้
| | | | | |
| --- | --- | --- | --- | --- |
| รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) |
| พ.43/14/58 | 15,000 | 3 ธันวาคม 2558 | 8/12/58 - 22/12/58 | 14 |
อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2558
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 1 ธันวาคม 2558
(นางจันทวรรณ สุจริตกุล)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน
ธนาคารแห่งประเทศไทย | 7,600 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 69/2557 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วันในเดือนตุลาคม 2557 | ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 69/2557
เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน
ในเดือนตุลาคม 2557
------------------------------------------
อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนตุลาคม 2557
อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3. เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยกําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้
| | | | | |
| --- | --- | --- | --- | --- |
| รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) |
| พ.40/14/57 | 15,000 | 31 ตุลาคม 2557 | 4/11/57 – 18/11/57 | 14 |
อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม 2557
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 28 ตุลาคม 2557
(นางจันทวรรณ สุจริตกุล)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน
ธนาคารแห่งประเทศไทย | 7,601 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 70/2557 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วันในเดือนพฤศจิกายน 2557 | ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 70/2557
เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน
ในเดือนพฤศจิกายน 2557
------------------------------------------
อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนพฤศจิกายน 2557
อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3. เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยกําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้
| | | | | |
| --- | --- | --- | --- | --- |
| รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) |
| พ.41/14/57 | 20,000 | 7 พฤศจิกายน 2557 | 11/11/57 – 25/10/57 | 14 |
อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน 2557
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 5 พฤศจิกายน 2557
(นางจันทวรรณ สุจริตกุล)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน
ธนาคารแห่งประเทศไทย | 7,602 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 71/2557 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วันในเดือนพฤศจิกายน 2557 | ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 71/2557
เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน
ในเดือนพฤศจิกายน 2557
------------------------------------------
อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนพฤศจิกายน 2557
อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3. เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยกําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้
| | | | | |
| --- | --- | --- | --- | --- |
| รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) |
| พ.42/14/57 | 30,000 | 14 พฤศจิกายน 2557 | 18/11/57 – 2/12/57 | 14 |
อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน 2557
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 11 พฤศจิกายน 2557
(นางจันทวรรณ สุจริตกุล)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน
ธนาคารแห่งประเทศไทย | 7,603 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 72/2557 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วันในเดือนพฤศจิกายน 2557 | ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 72/2557
เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน
ในเดือนพฤศจิกายน 2557
------------------------------------------
อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนพฤศจิกายน 2557
อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3. เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยกําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้
| | | | | |
| --- | --- | --- | --- | --- |
| รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) |
| พ.43/14/57 | 30,000 | 21 พฤศจิกายน 2557 | 25/11/57 – 9/12/57 | 14 |
อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2557
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 19 พฤศจิกายน 2557
(นางจันทวรรณ สุจริตกุล)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน
ธนาคารแห่งประเทศไทย | 7,604 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 73/2557 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประจำเดือนธันวาคม พ.ศ. 2557 | ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 73/2557
เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
ประจําเดือนธันวาคม พ.ศ. 2557
---------------------------------------
อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประจําเดือนธันวาคม พ.ศ. 2557
อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3. เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประจําเดือนธันวาคม พ.ศ. 2557 ดังนี้
| | | | | | | | |
| --- | --- | --- | --- | --- | --- | --- | --- |
| รุ่นที่ | อัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋ว(ร้อยละต่อปี) | วงเงิน (ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน | วันครบกําหนด | ประเภทอายุ | อายุ คงเหลือ |
| 4/91/57 | - | 25,000 | 2 ธ.ค. 57 | 4 ธ.ค. 57 | 5 มี.ค. 58 | 91 วัน | 91 วัน |
| 48/182/57 | - | 25,000 | 2 ธ.ค. 57 | 4 ธ.ค. 57 | 4 มิ.ย. 58 | 182 วัน | 182 วัน |
| 4/364/57 | - | 30,000 | 2 ธ.ค. 57 | 4 ธ.ค. 57 | 29 ต.ค. 58 | 364 วัน | 329 วัน |
| 49/91/57 | - | 25,000 | 8 ธ.ค. 57 | 11 ธ.ค. 57 | 12 มี.ค. 58 | 91 วัน | 91 วัน |
| 49/182/57 | - | 25,000 | 8 ธ.ค. 57 | 11 ธ.ค. 57 | 11 มิ.ย. 58 | 182 วัน | 182 วัน |
| 2/2ปี/2557 | 2.42 | 30,000 | 11 ธ.ค. 57 | 15 ธ.ค. 57 | 25 ส.ค. 59 | 2 ปี | 1.70 ปี |
| 50/91/57 | | 25,000 | 16 ธ.ค. 57 | 18 ธ.ค. 57 | 19 มี.ค. 58 | 91 วัน | 91 วัน |
| 50/182/57 | - | 25,000 | 16 ธ.ค. 57 | 18 ธ.ค. 57 | 18 มิ.ย. 58 | 182 วัน | 182 วัน |
| 51/91/57 | | 25,000 | 23 ธ.ค. 57 | 25 ธ.ค. 57 | 26 มี.ค. 58 | 91 วัน | 91 วัน |
| 51/182/57 | | 25,000 | 23 ธ.ค. 57 | 25 ธ.ค. 57 | 25 มิ.ย. 58 | 182 วัน | 182 วัน |
| 1/FRB3ปี/2556 | 3M BIBOR -0.1 (สําหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 26 พ.ย.57 จะประกาศในวันที่ 24 พ.ย.57) | 15,000 | 26 ธ.ค. 57 | 30 ธ.ค. 57 | 26 ก.พ. 9 | 3 ปี | 1.16 ปี |
สําหรับพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2556 ธปท. จะกําหนดและประกาศอัตราดอกเบี้ยในการคํานวณราคาสําหรับช่วงวันชําระเงินถึงวันจ่ายดอกเบี้ยถัดไป (I1) และอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง (I2) ในวันที่ 24 ธันวาคม 2557
อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2557
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 21 พฤศจิกายน 2557
(นางจันทวรรณ สุจริตกุล)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน
ธนาคารแห่งประเทศไทย | 7,605 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 74/2557 เรื่อง กำหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2556 สำหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 26 พฤศจิกายน 2557 | ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 74 /2557
เรื่อง กําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2556
สําหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 26 พฤศจิกายน 2557
--------------------------------------
อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัวอายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2556 สําหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 26 พฤศจิกายน 2557
อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 5.2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3. เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดอัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2556 สําหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 26 พฤศจิกายน 2557 เท่ากับร้อยละ 2.07769 ต่อปี (เท่ากับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงระยะสั้นการกู้ยืมเงินระหว่างธนาคารของตลาดกรุงเทพฯ (BIBOR) ระยะ 3 เดือน ณ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2557 ลบร้อยละ 0.1)
อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน 2557
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2557
(นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ)
รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน
ผู้ว่าการแทน
ธนาคารแห่งประเทศไทย | 7,606 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 75/2557 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วันในเดือนพฤศจิกายน 2557 | ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 75/2557
เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน
ในเดือนพฤศจิกายน 2557
------------------------------------------
อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนพฤศจิกายน 2557
อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3. เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยกําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้
| | | | | |
| --- | --- | --- | --- | --- |
| รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) |
| พ.44/14/57 | 30,000 | 28 พฤศจิกายน 2557 | 2/12/57 – 16/12/57 | 14 |
อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2557
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 26 พฤศจิกายน 2557
(นางจันทวรรณ สุจริตกุล)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน
ธนาคารแห่งประเทศไทย | 7,607 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 76/2557 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วันในเดือนธันวาคม 2557 | ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 76/2557
เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน
ในเดือนธันวาคม 2557
------------------------------------------
อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนธันวาคม 2557
อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3. เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยกําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้
| | | | | |
| --- | --- | --- | --- | --- |
| รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) |
| พ.45/14/57 | 20,000 | 4 ธันวาคม 2557 | 9/12/57 – 23/12/57 | 14 |
อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม 2557
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 3 ธันวาคม 2557
(นางจันทวรรณ สุจริตกุล)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน
ธนาคารแห่งประเทศไทย | 7,608 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 77/2557 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วันในเดือนธันวาคม 2557 | ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 77/2557
เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน
ในเดือนธันวาคม 2557
------------------------------------------
อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนธันวาคม 2557
อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3. เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยกําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้
| | | | | |
| --- | --- | --- | --- | --- |
| รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) |
| พ.46/14/57 | 30,000 | 12 ธันวาคม 2557 | 16/12/57 – 30/12/57 | 14 |
อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2557
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 11 ธันวาคม 2557
(นางจันทวรรณ สุจริตกุล)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน
ธนาคารแห่งประเทศไทย | 7,609 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 79/2557 เรื่อง กำหนดอัตราดอกเบี้ยในการคำนวณราคาพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2556 | ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 79 /2557
เรื่อง กําหนดอัตราดอกเบี้ยในการคํานวณราคาพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2556
------------------------------------
อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดอัตราดอกเบี้ยในการคํานวณราคา สําหรับพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2556 ที่จะประมูลในวันที่ 26 ธันวาคม 2557
อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 5.2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3. เนื้อหา
ตามกําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประจําเดือนธันวาคม พ.ศ. 2557 ที่จะเปิดประมูลพันธบัตรประเกทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2556 ในวันที่ 26 ธันวาคม 2557 โดยธนาคารแห่งประเทศไทยจะประกาศอัตราดอกเบี้ยเพื่อใช้ในการคํานวณราคาพันธบัตรดังกล่าว ในวันที่ 24 ธันวาคม 2557 นั้น
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดอัตราดอกเบี้ยในการคํานวณราคาพันธบัตรดังกล่าวเพื่อใช้สําหรับช่วงวันชําระเงินถึงวันจ่ายดอกเบี้ยถัดไป (I1) เท่ากับร้อยละ 2.13601 ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง (I2) เท่ากับร้อยละ 2.18000 ต่อปี
อื่นๆ - 4.วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2557
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 24 ธันวาคม 2557
(นางจันทวรรณ สุจริตกุล)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน | 7,610 |
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 80/2557 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประจำเดือนมกราคม พ.ศ. 2558 | ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกง. 80/2557
เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
ประจําเดือนมกราคม พ.ศ. 2558
---------------------------------------
อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประจําเดือนมกราคม พ.ศ. 2558
อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย
เพื่ออนุวัติตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 2/2550 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
อื่นๆ - 3. เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประจําเดือนมกราคม พ.ศ. 2558 ดังนี้
| | | | | | | | |
| --- | --- | --- | --- | --- | --- | --- | --- |
| รุ่นที่ | อัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋ว(ร้อยละต่อปี) | วงเงิน (ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน | วันครบกําหนด | ประเภทอายุ | อายุ คงเหลือ |
| 1/91/58 | - | 30,000 | 6 ม.ค. 58 | 8 ม.ค. 58 | 9 เม.ย. 58 | 91 วัน | 91 วัน |
| 1/182/58 | - | 30,000 | 6 ม.ค. 58 | 8 ม.ค. 58 | 9 ก.ค. 58 | 182 วัน | 182 วัน |
| 1/364/58 | - | 40,000 | 6 ม.ค. 58 | 8 ม.ค. 58 | 7 ม.ค. 59 | 364 วัน | 364 วัน |
| 2/91/58 | | 30,000 | 13 ม.ค. 58 | 15 ม.ค. 58 | 16 เม.ย. 58 | 91 วัน | 91 วัน |
| 2/182/58 | | 30,000 | 13 ม.ค. 58 | 15 ม.ค. 58 | 16 ก.ค. 58 | 182 วัน | 182 วัน |
| 3/91/58 | - | 30,000 | 20 ม.ค. 58 | 22 ม.ค. 58 | 23 เม.ย. 58 | 91 วัน | 91 วัน |
| 3/182/58 | - | 30,000 | 20 ม.ค. 58 | 22 ม.ค. 58 | 23 ก.ค. 58 | 182 วัน | 182 วัน |
| 1/3ปี/2558 | จะกําหนดและประกาศในวันที่ 19 ส.ค. 57 | 40,000 | 22 ม.ค. 58 | 26 ม.ค. 58 | 26 ม.ค. 61 | 3 ปี | 3 ปี |
| 4/91/58 | - | 30,000 | 27 ม.ค. 58 | 29 ม.ค. 58 | 30 เม.ย. 58 | 91 วัน | 91 วัน |
| 4/183/58 | - | 30,000 | 27 ม.ค. 58 | 29 ม.ค. 58 | 31 ก.ค. 58 | 183 วัน | 183 วัน |
สําหรับพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย รุ่นที่ 1/3ปี/2558 มีรายละเอียด ดังนี้
| | |
| --- | --- |
| อัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋ว (Coupon Rate) | ธนาคารแห่งประเทศไทยจะกําหนดและประกาศในวันอังคารที่ 20 มกราคม 2558 |
| การชําระดอกเบี้ย | แบ่งเป็นปีละ 2 งวด งวดละเท่าๆ กัน |
| วันชําระดอกเบี้ย | วันที่ 26 มกราคม และ 26 กรกฎาคม ของทุกปี |
| วันชําระดอกเบี้ยงวดแรก | วันที่ 26 กรกฎาคม 2558 |
| วันครบกําหนดไถ่ถอน | วันที่ 26 มกราคม 2561 เป็นการไถ่ถอนครั้งเดียวเต็มตามจํานวนที่ออกและจะไม่มีการไถ่ถอนก่อนกําหนด |
อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้
ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2557
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 25 ธันวาคม 2557
(นางจันทวรรณ สุจริตกุล)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน
ผู้ว่าการแทน
ธนาคารแห่งประเทศไทย | 7,611 |
ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง การย้ายข้าราชการสำนักงาน ป.ป.ช. สาขาตำแหน่งทั่วไปในตำแหน่งประเภททั่วไปไปแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ พ.ศ. 2558 | ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
เรื่อง การย้ายข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช. สาขาตําแหน่งทั่วไปในตําแหน่งประเภททั่วไป
ไปแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการ
พ.ศ. 2558
-------------------------------
โดยที่เป็นการสมควรกําหนดให้มีหลักเกณฑ์การย้ายข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช. สาขาตําแหน่งทั่วไปในตําแหน่งประเภททั่วไป ซึ่งมีคุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งประเภทวิชาการและไม่เคยดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการมาก่อน และเป็นผู้สอบแข่งขันได้ในตําแหน่งประเภทวิชาการ ไปแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการ
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 107 และมาตรา 112 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 110 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 ประกอบกับข้อ 47 (8) ของระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยการบริหารงานบุคคลของสํานักงาน ป.ป.ช. (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2558 ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง การย้ายข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช. สาขาตําแหน่งทั่วไปในตําแหน่งประเภททั่วไป ไปแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการ พ.ศ. 2558”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง การย้ายข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช. ซึ่งได้รับวุฒิเพิ่มขึ้น พ.ศ. 2552
ข้อ ๔ การย้ายข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช. ตามประกาศนี้ หมายถึง การย้ายข้าราชการสํานักงาน ป.ป.. สาขาตําแหน่งทั่วไปในตําแหน่งประเภททั่วไป ผู้ซึ่งมีคุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งประเภทวิชาการและไม่เคยดํารงตําแหน่งในประเภทวิชาการไปแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการ
ข้อ ๕ การย้ายข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช. สาขาตําแหน่งทั่วไปในตําแหน่งประเภททั่วไปไปแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการ แบ่งเป็น 3 กรณี ดังนี้
(1) กรณีเป็นผู้สอบแข่งขันได้ในตําแหน่งประเภทวิชาการซึ่งสํานักงาน ป.ป.ช. เป็นผู้ดําเนินการสอบ
(2) กรณีเป็นผู้สอบแข่งขันได้ในตําแหน่งซึ่งอยู่ในสายงานที่จะย้าย ทั้งนี้ อาจเป็นการสอบแข่งขันที่ ก.พ. เป็นผู้ดําเนินการสอบ หรือ ก.พ. มอบหมายให้ส่วนราชการใดเป็นผู้ดําเนินการสอบแทนหรือเป็นผู้สอบแข่งขันได้ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการประเภทต่าง ๆ
(3) กรณีเป็นผู้สอบแข่งขันได้ในตําแหน่งที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มิได้กําหนดตําแหน่งไว้ ทั้งนี้ อาจเป็นการสอบแข่งขันที่ ก.พ. เป็นผู้ดําเนินการสอบ หรือ ก.พ. มอบหมายให้ส่วนราชการใดเป็นผู้ดําเนินการสอบแทน หรือเป็นผู้สอบแข่งขันได้ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการประเภทต่าง ๆ
ข้อ ๖ ข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช. ที่จะย้ายไปแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการตามประกาศนี้ต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
(1) ดํารงตําแหน่งประเภททั่วไปหรือตําแหน่งอื่นที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเทียบเท่ามาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี และ
(2) เป็นผู้มีคุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งที่จะแต่งตั้งตามที่กําหนดไว้ในมาตรฐานกําหนดตําแหน่ง และ
(3) เป็นผู้สอบแข่งขันได้ในตําแหน่งประเภทวิชาการ และบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ดังกล่าวยังไม่หมดอายุ หรือเป็นผู้สอบแข่งขันได้แต่ขอสละสิทธิ์การบรรจุและแต่งตั้ง หรือไม่ไปรายงานตัวเพื่อรับการบรรจุหรือมีเหตุที่ไม่อาจเข้าปฏิบัติหน้าที่ราชการได้ตามกําหนดเวลาที่จะบรรจุและแต่งตั้งในตําแหน่งที่สอบแข่งขันได้ หรือบัญชีดังกล่าวถูกยกเลิกแล้ว
(4) กรณีเป็นผู้สอบแข่งขันได้ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการประเภทต่าง ๆ ผู้นั้นจะต้องเป็นผู้สอบผ่านภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก.) หรือเป็นผู้สอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไปของ ก.พ. ด้วย
ข้อ ๗ การย้ายข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช. สาขาตําแหน่งทั่วไปในตําแหน่งประเภททั่วไปไปแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการให้ดําเนินการดังนี้
(1) กรณีตามข้อ 5 (1) ให้แต่งตั้งได้เมื่อถึงลําดับที่ที่จะได้รับการบรรจุ หรือเป็นดุลพินิจของเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่จะพิจารณาดําเนินการย้ายไปแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งอื่นที่ใช้คุณวุฒิการศึกษาอย่างเดียวกัน โดยไม่จําเป็นต้องรอจนถึงลําดับที่ที่ผู้นั้นได้รับการบรรจุ โดยให้ดําเนินการตามข้อ 7 (3)
(2) กรณีตามข้อ 5 (2) ให้เป็นดุลพินิจของเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่จะพิจารณาดําเนินการโดยไม่จําเป็นต้องรอจนถึงลําดับที่ที่ผู้นั้นจะได้รับการบรรจุ โดยคํานึงถึงประโยชน์ที่ทางสํานักงาน ป.ป.ช. จะได้รับ
(3) กรณีตามข้อ 5 (3) ให้ดําเนินการดังนี้
(ก) ให้เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกเพื่อดําเนินการคัดเลือก
(ข) ให้คณะกรรมการคัดเลือก กําหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาและวิธีการคัดเลือก โดยให้คํานึงถึงหลักเกณฑ์และวิธีการตามที่ ก.พ. กําหนดประกอบด้วย และประกาศหลักเกณฑ์ที่กําหนดให้ทราบทั่วกัน
(ค) ให้คณะกรรมการคัดเลือก เสนอผลการคัดเลือกให้เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแต่งตั้ง หากเห็นว่ามีเหตุผลหรือข้อมูลอื่นที่คณะกรรมการคัดเลือกควรพิจารณาอีกให้เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ส่งเรื่องกลับไปให้คณะกรรมการคัดเลือกพิจารณาใหม่อีกครั้ง
ข้อ ๘ การแต่งตั้งข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช. ผู้ได้รับการคัดเลือกตามประกาศนี้ให้แต่งตั้งได้ในสาขาตําแหน่งทั่วไป ตําแหน่งประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ ทั้งนี้ ไม่ก่อนวันที่ผ่านการคัดเลือกกรณีที่ต้องดําเนินการคัดเลือก และผู้ที่ผ่านการคัดเลือกต้องปฏิบัติงานในตําแหน่งที่ได้รับแต่งตั้งเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี จึงจะย้ายหรือโอนได้
ข้อ ๙ กรณีอื่นนอกจากที่กําหนดในประกาศนี้ ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเป็นผู้มีอํานาจพิจารณาเป็นรายกรณีไป
ข้อ ๑๐ กรณีการดําเนินการคัดเลือกเพื่อย้ายข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช. สาขาตําแหน่งทั่วไปในตําแหน่งประเภททั่วไปไปแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติที่ถูกยกเลิกตามประกาศนี้ ที่ได้เริ่มดําเนินการไปแล้วแต่ยังไม่แล้วเสร็จให้ดําเนินการต่อไปจนกว่าจะแล้วเสร็จ และให้มีผลใช้บังคับได้
ข้อ ๑๑ ให้ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติรักษาการตามประกาศนี้ และให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเป็นผู้มีอํานาจตีความและวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามประกาศฉบับนี้
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2558
ปานเทพ กล้าณรงค์ราญ
ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ | 7,612 |
ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุบลราชธานีชั่วคราว | ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม
เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุบลราชธานีชั่วคราว
---------------------------------
อื่นๆ - ด้วยศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุบลราชธานี จะย้ายที่ทําการจากที่ทําการศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุบลราชธานีเดิม ถนนพิชิตรังสรรค์ ตําบลในเมือง อําเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี ไปยังที่ทําการชั่วคราวศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุบลราชธานี
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 วรรคสามและวรรคสี่ แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรมคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมจึงออกประกาศเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลเยาวชนและครอบครัว จังหวัดอุบลราชธานี จากที่ทําการศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุบลราชธานีเดิม ถนนพิชิตรังสรรค์ ตําบลในเมือง อําเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี ไปยังที่ทําการชั่วคราวศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุบลราชธานี ณ อาคารศาลแขวงอุบลราชธานี (หลังเก่า) ถนนพโลรังฤทธิ์ ตําบลในเมือง อําเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี โดยให้เริ่มทําการตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2561 เป็นต้นไป
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
ชีพ จุลมนต์
ประธานศาลฎีกา
ประธานกรรมการบริหารศาลยุติธรรม | 7,613 |
ประกาศสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง รายงานผลการตรวจสอบและผลการปฏิบัติหน้าที่ ประจำปี พ.ศ. 2555 และ พ.ศ. 2556 | ประกาศสํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
เรื่อง รายงานผลการตรวจสอบและผลการปฏิบัติหน้าที่ ประจําปี พ.ศ. 2555 และ พ.ศ. 2556
---------------------------------------
ตามที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2550 และ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 มาตรา 19 (10) กําหนดให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมีหน้าที่รายงานผลการตรวจสอบและผลการปฏิบัติหน้าที่พร้อมข้อสังเกตต่อคณะรัฐมนตรี สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ทุกปี ทั้งนี้ให้ประกาศรายงานดังกล่าวในราชกิจจานุเบกษาและเปิดเผยต่อสาธารณะด้วย นั้น
ฉะนั้น เพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามความในมาตรา 19 (10) ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2550 และ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 สํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จึงขอประกาศรายงานผลการตรวจสอบ และผลการปฏิบัติหน้าที่ ประจําปี พ.ศ. 2555 ฐานคณะกรรมการ และ พ.ศ. 2556 ในราชกิจจานุเบกษาตามท้ายประกาศนี้
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 23 มีนาคม พ ศ. 2558
สรรเสริญ พลเจียก
เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช | 7,614 |
ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การโอนข้าราชการตามกฎหมายอื่นมาบรรจุเป็นข้าราชการสำนักงาน ป.ป.ช. พ.ศ. 2558 | ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
เรื่อง หลักเกณฑ์การโอนข้าราชการตามกฎหมายอื่นมาบรรจุเป็นข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช.
พ.ศ. 2558
----------------------------------
โดยที่เป็นการสมควรกําหนดให้มีหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการโอนข้าราชการตามกฎหมายอื่นและการบรรจุกลับเข้ารับราชการเพื่อเป็นข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช.
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 107 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ประกอบข้อ 48 ของระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยการบริหารงานบุคคลของสํานักงาน ป.ป.ช. พ.ศ.2555 ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การโอนข้าราชการตามกฎหมายอื่นมาบรรจุเป็นข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช. พ.ศ. 2558”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ในประกาศนี้
"ข้าราชการตามกฎหมายอื่น" หมายถึง ข้าราชการอื่นที่ไม่ใช่ข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช.
ข้อ ๔ การโอนข้าราชการตามกฎหมายอื่นมาบรรจุเป็นข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช.ให้กระทําโดยวิธีการคัดเลือก
ข้อ ๕ วิธีการคัดเลือกตามข้อ 4 ให้ดําเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ดังนี้
(1) เมื่อมีตําแหน่งข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช. ว่างลง และสํานักงาน ป.ป.ช. เห็นสมควรให้โอนข้าราชการตามกฎหมายอื่นมาบรรจุในตําแหน่งนั้น โดยคํานึงถึงความจําเป็นและประโยชน์ที่สํานักงาน ป.ป.ช. จะได้รับแล้ว ให้สํานักงาน ป.ป.ช. เสนอเรื่องต่อคณะอนุกรรมการข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช. เพื่อขอความเห็นชอบ โดยระบุรายละเอียดของตําแหน่งที่จะบรรจุพร้อมทั้งเหตุผลความจําเป็นที่จะต้องโอนข้าราชการตามกฎหมายอื่นและประโยชน์ที่สํานักงาน ป.ป.ช. จะได้รับจากการโอนข้าราชการตามกฎหมายอื่นมาบรรจุในตําแหน่งนั้น
การโอนข้าราชการตามกฎหมายอื่นมาบรรจุเป็นข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช. ในตําแหน่งดังต่อไปนี้ จะกระทําได้ต่อเมื่อมีความจําเป็นพิเศษและเป็นประโยชน์ต่อสํานักงาน ป.ป.ช. อย่างยิ่งโดยได้รับความเห็นชอบและเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กําหนดโดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะองค์กรกลางบริหารงานบุคคล
(ก) ตําแหน่งทั่วไป ตั้งแต่ระดับชํานาญการพิเศษขึ้นไป
(ข) ตําแหน่งในสาขากระบวนการยุติธรรม ไม่ว่าตําแหน่งใดระดับใด
(2) หากคณะอนุกรรมการข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช. ให้ความเห็นชอบ ให้คณะอนุกรรมการข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช. แต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือก เพื่อดําเนินการพิจารณาคัดเลือกข้าราชการตามกฎหมายอื่น
(3) ให้คณะกรรมการคัดเลือกกําหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือก รวมถึงขั้นตอนการดําเนินการคัดเลือกเพื่อรับโอนข้าราชการตามกฎหมายอื่นมาบรรจุเป็นข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช. โดยให้พิจารณากําหนดประเภทตําแหน่ง ชื่อสายงาน ชื่อตําแหน่งในสายงาน และระดับของตําแหน่งที่จะบรรจุ คุณสมบัติของข้าราชการตามกฎหมายอื่นที่มีสิทธิได้รับการคัดเลือก แบบแสดงความประสงค์ขอเข้ารับการคัดเลือก หลักเกณฑ์ วิธีการ และขั้นตอนการพิจารณาคัดเลือก ตลอดจนเงื่อนไขการโอนเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับประกาศนี้ ทั้งนี้ ต้องเป็นไปตามระบบคุณธรรม มีความเหมาะสม และคํานึงถึงพฤติกรรมทางจริยธรรม ตลอดจนประโยชน์ของทางราชการ
(4) เมื่อคัดเลือกตาม (3) ได้แล้ว ให้คณะกรรมการคัดเลือกเสนอรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะองค์กรกลางบริหารงานบุคคล เพื่อพิจารณาเทียบตําแหน่งตามประเภท สายงาน ระดับ อัตราเงินเดือน และอัตราเงินประจําตําแหน่ง กับการดํารงตําแหน่งข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช. แล้วนําเสนอเลขาธิการเพื่อพิจารณาแต่งตั้ง และแจ้งให้คณะอนุกรรมการข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช. และคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะองค์กรกลางบริหารงานบุคคลทราบ
ข้อ ๖ ให้นําหลักเกณฑ์ตามที่กําหนดในประกาศฉบับนี้มาใช้บังคับกับการบรรจุกลับเข้ารับราชการเพื่อเป็นข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช.
ข้อ ๗ การใดที่ประกาศนี้มิได้บัญญัติไว้เป็นการเฉพาะให้นําบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ตลอดจนกฎ ก.พ. และหลักเกณฑ์ที่ ก.พ.กําหนดตามพระราชบัญญัติดังกล่าว เฉพาะในส่วนของการโอนข้าราชการอื่น พนักงานอื่นของรัฐ และเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานอื่นของรัฐ และการบรรจุกลับเข้ารับราชการเพื่อเป็นข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช. มาใช้บังคับโดยอนุโลมเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับประกาศนี้ สํานักงานคณะกรรมการ
ข้อ ๘ กรณีนอกเหนือจากที่กําหนดไว้ในประกาศนี้ ให้เสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในฐานะองค์กรกลางบริหารงานบุคคล เพื่อพิจารณาเป็นกรณีไป และให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะองค์กรกลางบริหารงานบุคคล มีอํานาจตีความและวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาที่เกิดขึ้นจากการบังคับใช้ประกาศนี้
ข้อ ๙ ให้ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติรักษาการตามประกาศนี้
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2558
ปานเทพ กล้าณรงค์ราญ
ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ | 7,615 |
ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเพชรบูรณ์ | ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม
เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเพชรบูรณ์
----------------------------
อื่นๆ - ด้วยศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเพชรบูรณ์ จะย้ายที่ทําการจากที่ทําการศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเพชรบูรณ์เดิม เลขที่ 66/89 ถนนเทพาพัฒนา ตําบลในเมือง อําเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ ไปยังที่ทําการศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเพชรบูรณ์หลังใหม่
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 วรรคสามและวรรคสี่ แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรมคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมจึงออกประกาศเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลเยาวชนและครอบครัว จังหวัดเพชรบูรณ์ จากที่ทําการศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเพชรบูรณ์เดิม เลขที่ 66/89 ถนนเทพาพัฒนา ตําบลในเมือง อําเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ ไปยังที่ทําการศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเพชรบูรณ์หลังใหม่ เลขที่ 323 ถนนสระบุรี - หล่มสัก ตําบลในเมือง อําเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยให้เริ่มทําการตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2561 เป็นต้นไป
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2561
ชีพ จุลมนต์
ประธานศาลฎีกา
ประธานกรรมการบริหารศาลยุติธรรม | 7,616 |
ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลแรงงานภาค 2 (สาขาระยอง) | ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม
เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลแรงงานภาค 2 (สาขาระยอง)
----------------------------
หมวด - ด้วยศาลแรงงานภาค 2 (สาขาระยอง) จะย้ายที่ทําการจากที่ทําการศาลแรงงานภาค 2 (สาขาระยอง) เดิม ถนนตากสินมหาราช ตําบลท่าประดู่ อําเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ไปยังที่ทําการศาลแรงงานภาค 2 (สาขาระยอง) หลังใหม่
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 วรรคสามและวรรคสี่ แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรมคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมจึงออกประกาศเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลแรงงานภาค 2 (สาขาระยอง) จากที่ทําการศาลแรงงานภาค 2 (สาขาระยอง) เดิม ถนนตากสินมหาราช ตําบลท่าประดู่ อําเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ไปยังที่ทําการศาลแรงงานภาค 2 (สาขาระยอง) หลังใหม่ ณ อาคารศาลจังหวัดระยอง ถนนสุขุมวิท ตําบลเนินพระ อําเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง โดยให้เริ่มทําการตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2561 เป็นต้นไป
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2561
ชีพ จุลมนต์
ประธานศาลฎีกา
ประธานกรรมการบริหารศาลยุติธรรม | 7,617 |
ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การนับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งสาขาตำแหน่งทั่วไปในตำแหน่งประเภททั่วไปเพื่อประโยชน์ในการเลื่อนและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในระดับที่สูงขึ้นของตำแหน่งประเภทวิชาการ พ.ศ. 2558 | ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
เรื่อง หลักเกณฑ์การนับระยะเวลาการดํารงตําแหน่งสาขาตําแหน่งทั่วไปในตําแหน่งประเภททั่วไป
เพื่อประโยชน์ในการเลื่อนและแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งในระดับที่สูงขึ้น
ของตําแหน่งประเภทวิชาการ
พ.ศ. 2558
-----------------------------
โดยที่เป็นการสมควรกําหนดให้มีหลักเกณฑ์การนับระยะเวลาการดํารงตําแหน่งสาขาตําแหน่งทั่วไปในตําแหน่งประเภททั่วไปเพื่อประโยชน์ในการเลื่อนและแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งในระดับที่สูงขึ้นของตําแหน่งประเภทวิชาการ
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 107 และมาตรา 110 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การนับระยะเวลาการดํารงตําแหน่งสาขาตําแหน่งทั่วไปในตําแหน่งประเภททั่วไป เพื่อประโยชน์ในการเลื่อนและแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งในระดับที่สูงขึ้นของตําแหน่งประเภทวิชาการ พ.ศ. 2558”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การนับระยะเวลาการดํารงตําแหน่งประเภททั่วไปเพื่อประโยชน์ในการเลื่อนและแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งในระดับที่สูงขึ้นของตําแหน่งประเภทวิชาการ พ.ศ. 2552
ข้อ ๔ ให้กําหนดระยะเวลาการดํารงตําแหน่งสาขาตําแหน่งทั่วไปในตําแหน่งประเภทวิชาการและนับระยะเวลาการดํารงตําแหน่งประเภททั่วไปหรือดํารงตําแหน่งสาขาตําแหน่งทั่วไปในตําแหน่งประเภททั่วไปของข้าราชการผู้เคยดํารงตําแหน่งดังกล่าวเพื่อประโยชน์ในการเลื่อนและแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งในระดับที่สูงขึ้นของตําแหน่งประเภทวิชาการระดับชํานาญการ ดังนี้
4.1 ได้ดํารงตําแหน่งสาขาตําแหน่งทั่วไปในตําแหน่งประเภทวิชาการตามที่ได้รับแต่งตั้งมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี และ
4.2 ให้นับระยะเวลาการดํารงตําแหน่งตั้งแต่ระดับ 3 ขึ้นไปของสายงานที่เริ่มจากระดับต่ํากว่าปริญญาตรี หรือดํารงตําแหน่งประเภททั่วไประดับปฏิบัติงานมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี หรือดํารงตําแหน่งสาขาตําแหน่งทั่วไปในตําแหน่งประเภททั่วไประดับปฏิบัติงานมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปีและได้รับเงินเดือนไม่ต่ํากว่าขั้นต่ําของตําแหน่งประเภทวิชาการตามที่กําหนดไว้ในบัญชีเงินเดือนขั้นต่ําขั้นสูงสําหรับตําแหน่งประเภทวิชาการ เป็นระยะเวลาการดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการได้กึ่งหนึ่ง
ข้อ ๕ การอันใดซึ่งได้ดําเนินการไปแล้วตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การนับระยะเวลาการดํารงตําแหน่งประเภททั่วไปเพื่อประโยชน์ในการเลื่อนและแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งในระดับที่สูงขึ้นของตําแหน่งประเภทวิชาการ พ.ศ.2552 ก่อนประกาศนี้มีผลใช้บังคับ ให้มีผลสมบูรณ์ใช้บังคับต่อไป
ข้อ ๖ กรณีนอกเหนือจากที่กําหนดไว้ในประกาศนี้ ให้เสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะองค์กรกลางบริหารงานบุคคล เพื่อพิจารณาเป็นกรณีไป และให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะองค์กรกลางบริหารงานบุคคล มีอํานาจตีความและวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาที่เกิดขึ้นจากการบังคับใช้ประกาศนี้
ข้อ ๗ ให้ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติรักษาการตามประกาศนี้
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2558
ปานเทพ กล้าณรงค์ราญ
ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ | 7,618 |
ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสระแก้ว | ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม
เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสระแก้ว
---------------------------
อื่นๆ - ด้วยศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสระแก้ว จะย้ายที่ทําการจากที่ทําการศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสระแก้วเดิม อาคารศาลจังหวัดสระแก้ว ถนนสุวรรณศร ตําบลท่าเกษม อําเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว ไปยังที่ทําการศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสระแก้วหลังใหม่
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 วรรคสามและวรรคสี่ แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรม คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมจึงออกประกาศเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลเยาวชนและครอบครัว จังหวัดสระแก้ว จากที่ทําการศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสระแก้วเดิม อาคารศาลจังหวัดสระแก้ว ถนนสุวรรณศร ตําบลท่าเกษม อําเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว ไปยังอาคารที่ทําการหลังใหม่ เลขที่ 1098 หมู่ที่ 2 ตําบลท่าเกษม อําเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว โดยเริ่มทําการตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 เป็นต้นไป
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2561
ชีพ จุลมนต์
ประธานศาลฎีกา
ประธานกรรมการบริหารศาลยุติธรรม | 7,619 |
ประกาศสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง รายงานผลการตรวจสอบและผลการปฏิบัติหน้าที่ ประจำปี พ.ศ. 2557 | ประกาศสํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
เรื่อง รายงานผลการตรวจสอบและผลการปฏิบัติหน้าที่ ประจําปี พ.ศ. 2557
---------------------------
ตามที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 19 (11) กําหนดให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมีหน้าที่รายงานผลการตรวจสอบและผลการปฏิบัติหน้าที่พร้อมข้อสังเกตต่อคณะรัฐมนตรี สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาทุกปี ทั้งนี้ ให้ประกาศรายงานดังกล่าวในราชกิจจานุเบกษาและเปิดเผยต่อสาธารณะด้วย นั้น
ฉะนั้น เพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามความในมาตรา 19 (10) ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติมสํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จึงขอประกาศรายงานผลการตรวจสอบและผลการปฏิบัติหน้าที่ ประจําปี พ.ศ. 2557 ในราชกิจจานุเบกษาตามท้ายประกาศนี้
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559
สรรเสริญ พลเจียก
เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. | 7,620 |
ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการแต่งตั้งหัวหน้าพนักงานไต่สวน พ.ศ. 2560 | ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการแต่งตั้งหัวหน้าพนักงานไต่สวน
พ.ศ. 2560
-----------------------------------
โดยที่เป็นการสมควรประกาศหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการแต่งตั้งหัวหน้าพนักงานไต่สวน
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 19 (16) และวรรคสาม และวรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จึงประกาศหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการแต่งตั้งหัวหน้าพนักงานไต่สวน ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการแต่งตั้งหัวหน้าพนักงานไต่สวน พ.ศ. 2560”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแต่งตั้งหัวหน้าพนักงานไต่สวนจากข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช. ซึ่งดํารงตําแหน่ง ดังต่อไปนี้
(1) เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.
(2) รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.
(3) ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. (ด้านการตรวจราชการ) หรือตําแหน่งเทียบเท่าที่เรียกชื่ออย่างอื่น
(4) ผู้ดํารงตําแหน่งในระดับผู้อํานวยการสํานัก
(5) พนักงานไต่สวน
ข้อ ๔ บุคคลผู้ซึ่งจะได้รับแต่งตั้งตามข้อ 3 (1) (2) (3) และ (4) ให้เป็นหัวหน้าพนักงานไต่สวน บุคคลนั้นต้องมีประสบการณ์ในการไต่สวน การวินิจฉัยคดี หรือการให้ความเห็นทางกฎหมายไม่น้อยกว่าสิบปี หรือต้องมีคุณสมบัติเช่นเดียวกับข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช. ซึ่งดํารงตําแหน่งในสาขากระบวนการยุติธรรม และเป็นผู้รับผิดชอบหรือกํากับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานไต่สวน
ทั้งนี้ ในการแต่งตั้งบุคคลตามวรรคหนึ่งเป็นหัวหน้าพนักงานไต่สวน อาจแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นการเฉพาะเรื่องก็ได้
ข้อ ๕ บุคคลผู้ซึ่งจะได้รับแต่งตั้งตามข้อ 3 (5) ให้เป็นหัวหน้าพนักงานไต่สวนต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้
(1) ดํารงตําแหน่งในระดับชํานาญการขึ้นไป
(2) เป็นผู้มีความประพฤติเหมาะสม มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ในการไต่สวน การวินิจฉัยคดี หรือการให้ความเห็นทางกฎหมาย อันเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช.
(3) เป็นผู้ผ่านการอบรมหลักสูตรหัวหน้าพนักงานไต่สวน หรือหลักสูตรอื่นตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กําหนด ทั้งนี้ อาจจัดให้พนักงานไต่สวนซึ่งปฏิบัติหน้าที่มาแล้วไม่ต่ํากว่าสามปีเข้ารับการอบรมก็ได้
ข้อ ๖ ให้สํานักงาน ป.ป.ช. เสนอรายชื่อบุคคลผู้มีคุณสมบัติที่จะได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าพนักงานไต่สวน ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาแต่งตั้ง
ในการพิจารณาคุณสมบัติของบุคคลตามข้อ 5 (2) คณะกรรมการ ป.ป.ช. อาจมอบหมายให้คณะอนุกรรมการข้าราชการสํานักงาน ป.ป.ช. เสนอความเห็นประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ก็ได้
ให้ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเป็นผู้ลงนามในคําสั่งแต่งตั้งหัวหน้าพนักงานไต่สวนตามวรรคหนึ่ง
ข้อ ๗ หากในภายหลังการแต่งตั้งหัวหน้าพนักงานไต่สวน ปรากฎพฤติการณ์ ดังนี้
(1) หัวหน้าพนักงานไต่สวนบุคคลใดพ้นจากการเป็นพนักงานไต่สวน หรือหัวหน้าพนักงานไต่สวน ซึ่งเป็นบุคคลตามข้อ 3 (2) (3) หรือ (4) บุคคลใดมิได้มีหน้าที่รับผิดชอบหรือกํากับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานไต่สวนแล้ว ให้บุคคลดังกล่าวพ้นจากการเป็นหัวหน้าพนักงานไต่สวนนับแต่วันที่พ้นจากการเป็นพนักงานไต่สวนหรือตําแหน่งที่มีหน้าที่รับผิดชอบหรือกํากับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานไต่สวน แล้วแต่กรณี
(2) หัวหน้าพนักงานไต่สวนบุคคลใดขาดคุณสมบัติตามข้อ 5 (2) ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาให้บุคคลดังกล่าวพ้นจากการเป็นหัวหน้าพนักงานไต่สวน ทั้งนี้ ให้มีผลต่อเมื่อประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติลงนามในคําสั่ง
ข้อ ๘ ในวาระแรก ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่งตั้งพนักงานไต่สวนตามมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559 เป็นหัวหน้าพนักงานไต่สวน และให้นําความในข้อ 6 วรรคสามมาใช้บังคับโดยอนุโลม
ข้อ ๙ ให้ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติรักษาการตามประกาศนี้ และให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอํานาจวินิจฉัยตีความปัญหาอันเกิดจากการบังคับใช้ประกาศฉบับนี้ด้วย
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 6 มกราคม พ.ศ.2560
พลตํารวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ
ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ | 7,621 |
ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 | ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม
เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9
-----------------------------
อื่นๆ - ด้วยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 จะย้ายที่ทําการจากที่ทําการศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 เดิม เลขที่ 6 อาคารร่มพฤกษ์ ตําบลบ่อยาง ถนนราชดําเนินนอก อําเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา ไปยังที่ทําการศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 หลังใหม่
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 วรรคสามและวรรคสี่ แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรมคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมจึงออกประกาศเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 จากที่ทําการศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 เดิม เลขที่ 6 อาคารร่มพฤกษ์ ตําบลบ่อยาง ถนนราชดําเนินนอก อําเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา ไปยังอาคารที่ทําการหลังใหม่ เลขที่ 1 ถนนชลาทัศน์ ตําบลบ่อยาง อําเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา โดยเริ่มทําการตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 เป็นต้นไป
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2561
ชีพ จุลมนต์
ประธานศาลฎีกา
ประธานกรรมการบริหารศาลยุติธรรม | 7,622 |
ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลจังหวัดอุทัยธานี | ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม
เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลจังหวัดอุทัยธานี
------------------------------
อื่นๆ - ด้วยศาลจังหวัดอุทัยธานี จะย้ายที่ทําการจากที่ทําการศาลจังหวัดอุทัยธานีเดิม อาคารศาลจังหวัดอุทัยธานี ถนนศรีอุทัยธานี อําเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี ไปยังที่ ทําการศาลจังหวัดอุทัยธานีหลังใหม่
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 วรรคสามและวรรคสี่ แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรมคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมจึงออกประกาศเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลจังหวัดอุทัยธานีเดิมจากที่ทําการศาลจังหวัดอุทัยธานีเดิม อาคารศาลจังหวัดอุทัยธานี ถนนศรีอุทัยธานี อําเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี ไปยังอาคารที่ทําการหลังใหม่ เลขที่ 666 หมู่ที่ 3 ตําบลน้ําซึม อําเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี โดยเริ่มทําการตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เป็นต้นไป
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2561
ชีพ จุลมนต์
ประธานศาลฎีกา
ประธานกรรมการบริหารศาลยุติธรรม | 7,623 |
ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง การมอบหมายให้ลงนามแทนในหนังสือเพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. พ.ศ. 2560 | ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
เรื่อง การมอบหมายให้ลงนามแทนในหนังสือเพื่อดําเนินการ
ให้เป็นไปตามอํานาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช.
พ.ศ. 2560
--------------------------
โดยที่เป็นการสมควรประกาศหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการมอบหมายให้รองเลขาธิการ ผู้ช่วยเลขาธิการ หัวหน้าพนักงานไต่สวน ลงนามแทนในหนังสือเพื่อดําเนินการให้เป็นไปตามอํานาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช.
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติจึงประกาศหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการมอบหมายให้รองเลขาธิการ ผู้ช่วยเลขาธิการ หัวหน้าพนักงานไต่สวน ลงนามแทนในหนังสือเพื่อดําเนินการให้เป็นไปตามอํานาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง การมอบหมายให้ลงนามแทนในหนังสือเพื่อดําเนินการให้เป็นไปตามอํานาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. พ.ศ. 2560”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ให้
(1) รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.และผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค มีอํานาจลงนามแทนในหนังสือเพื่อดําเนินการให้เป็นไปตามอํานาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามมาตรา 29 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานที่อยู่ในการกํากับดูแลหรือตามที่ได้รับมอบหมาย เว้นแต่เป็นการลงนามในหนังสือที่กฎหมายกําหนดให้เป็นอํานาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ประธานกรรมการ ป.ป.ช. กรรมการ ป.ป.ช. หรือเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไว้เป็นการเฉพาะ หรือคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติไว้เป็นอย่างอื่น
(2) หัวหน้าพนักงานไต่สวน ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบสํานวนหรือได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่กํากับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานไต่สวนผู้รับผิดชอบสํานวน มีอํานาจลงนามแทนในหนังสือเพื่อดําเนินการตามมาตรา 28/2 มาตรา 37/2 มาตรา 42 และมาตรา 45/2 เว้นแต่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติไว้เป็นอย่างอื่น
ข้อ ๔ ให้ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติรักษาการตามประกาศนี้และให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอํานาจวินิจฉัยตีความปัญหาอันเกิดจากการบังคับใช้ประกาศฉบับนี้ด้วย
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2560
พลตํารวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ
ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ | 7,624 |
ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพิจิตร | ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม
เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพิจิตร
---------------------------
อื่นๆ - ด้วยศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพิจิตร จะย้ายที่ทําการจากที่ทําการศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพิจิตรเดิม เลขที่ 1/103 ถนนบุษบา ตําบลในเมือง อําเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร ไปยังที่ทําการศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพิจิตรหลังใหม่
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 วรรคสามและวรรคสี่ แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรม คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมจึงออกประกาศเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพิจิตรเดิม จากที่ทําการศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพิจิตร เลขที่ 1/103 ถนนบุษบา ตําบลในเมือง อําเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร ไปยังอาคารที่ทําการหลังใหม่ เลขที่ 280/5 ถนนพระพิจิตร ตําบลในเมือง อําเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร โดยเริ่มทําการ ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2561 เป็นต้นไป
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2561
ชีพ จุลมนต์
ประธานศาลฎีกา
ประธานกรรมการบริหารศาลยุติธรรม | 7,625 |
ระกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง แนวทางการกำหนดมาตรการควบคุมภายในที่เหมาะสมสำหรับนิติบุคคลในการป้องกันการให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศหรือเจ้าหน้าที่ขององค์การระหว่างประเทศ | ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
เรื่อง แนวทางการกําหนดมาตรการควบคุมภายในที่เหมาะสมสําหรับนิติบุคคล
ในการป้องกันการให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศ
หรือเจ้าหน้าที่ขององค์การระหว่างประเทศ
----------------------------------------
ด้วยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2558 บัญญัติให้นิติบุคคลที่ไม่มีมาตรการควบคุมภายในที่เหมาะสมเพื่อป้องกันมิให้มีการกระทําความผิด ในกรณีที่มีผู้ใดให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศ หรือเจ้าหน้าที่ขององค์การระหว่างประเทศ เพื่อจูงใจให้กระทําการไม่กระทําการ หรือประวิงการกระทําอันมิชอบด้วยหน้าที่และผู้กระทําความผิดดังกล่าวเป็นบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับนิติบุคคลและกระทําไปเพื่อประโยชน์ของนิติบุคคลนั้น มีความผิดและต้องระวางโทษปรับตั้งแต่หนึ่งเท่าแต่ไม่เกินสองเท่าของค่าเสียหายที่เกิดขึ้นหรือประโยชน์ที่ได้รับ ประกอบกับในการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้เห็นชอบตามข้อสังเกตท้ายรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2558 ที่มีข้อเสนอแนะให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. กําหนดมาตรการควบคุมภายในสําหรับนิติบุคคลในการป้องกันการให้สินบนเพื่อมิให้มีการกระทําความผิดดังกล่าว
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 5 ประกอบมาตรา 19 (13) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติมประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จึงออกประกาศเพื่อเป็นแนวทางให้นิติบุคคลกําหนดมาตรการควบคุมภายในที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐเจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศ หรือเจ้าหน้าที่ขององค์การระหว่างประเทศ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง แนวทางการกําหนดมาตรการควบคุมภายในที่เหมาะสมสําหรับนิติบุคคลในการป้องกันการให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศ หรือเจ้าหน้าที่ขององค์การระหว่างประเทศ”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้นิติบุคคลกําหนดมาตรการควบคุมภายในเพื่อป้องกันมิให้บุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับนิติบุคคลใดและกระทําไปเพื่อประโยชน์ของนิติบุคคลนั้น ให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศ หรือเจ้าหน้าที่ขององค์การระหว่างประเทศ เพื่อจูงใจให้กระทําการ ไม่กระทําการ หรือประวิงการกระทําอันมิชอบด้วยหน้าที่ โดยที่มาตรการควบคุมภายในดังกล่าว อย่างน้อยต้องมีรายการดังต่อไปนี้
(1) การป้องกันการให้สินบนต้องเป็นนโยบายสําคัญจากระดับบริหารสูงสุด
(2) นิติบุคคลต้องมีการประเมินความเสี่ยงในการให้สินบนเจ้าหน้าที่ของรัฐ
(3) มาตรการเกี่ยวกับกรณีมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นการให้สินบนต้องมีรายละเอียดที่ชัดเจน
(4) นิติบุคคลต้องนํามาตรการป้องกันการให้สินบนไปปรับใช้กับผู้ที่มีความเกี่ยวข้องทางธุรกิจกับนิติบุคคล
(5) นิติบุคคลต้องมีระบบบัญชีที่ดี
(6) นิติบุคคลต้องมีแนวทางการบริหารทรัพยากรบุคคลที่สอดคล้องกับมาตรการป้องกันการให้สินบน
(7) นิติบุคคลต้องมีมาตรการสนับสนุนให้มีการรายงานการกระทําผิดหรือกรณีมีเหตุน่าสงสัย
(8) นิติบุคคลต้องทบทวนตรวจสอบและประเมินผลมาตรการป้องกันการให้สินบนเป็นระยะ
ทั้งนี้ การมีมาตรการควบคุมภายในดังกล่าวข้างต้น มิได้เป็นการรับรองว่านิติบุคคลจะมิต้องรับผิดโดยต้องพิจารณาการบังคับใช้มาตรการดังกล่าวประกอบด้วย
ข้อ ๔ ให้สํานักงาน ป.ป.ช. จัดทําคู่มือแนวทางการกําหนดมาตรการควบคุมภายในที่เหมาะสมสําหรับนิติบุคคลในการป้องกันการให้สินบนแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศหรือเจ้าหน้าที่ขององค์การระหว่างประเทศ
ข้อ ๕ คณะกรรมการ ป.ป.ช. สามารถดําเนินการเพื่อติดตามประเมินผลการจัดให้มีมาตรการควบคุมภายในดังกล่าวได้ เพื่อให้คําปรึกษา แนะนํา หรือเสนอให้มีการแก้ไขปรับปรุงหรือเก็บข้อมูลระบบควบคุมภายในของนิติบุคคล เพื่อใช้เป็นแนวทางให้แก่นิติบุคคลหรือหน่วยงานอื่น
ข้อ ๖ ให้สํานักงาน ป.ป.ช. จัดตั้งศูนย์ให้คําปรึกษาแก่นิติบุคคล เพื่อให้ข้อมูลและคําปรึกษาเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ มาตรฐานสากลและแนวปฏิบัติที่ดีของต่างประเทศในเรื่องมาตรการของนิติบุคคลในการป้องกันการให้สินบนแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ เจ้าหน้าที่รัฐของต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่ขององค์การระหว่างประเทศ
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
พลตํารวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ
ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ | 7,626 |
ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของเจ้าพนักงานของรัฐต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 | ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน
ของเจ้าพนักงานของรัฐต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.
พ.ศ. 2561
----------------------------
โดยที่เป็นการสมควรกําหนดหลักเกณฑ์และวิธีการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของเจ้าพนักงานของรัฐที่มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 105 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า "ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของเจ้าพนักงานของรัฐต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561"
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง ผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน พ.ศ. 2555
ข้อ ๔ ในประกาศนี้
"ผู้ยื่นบัญชี" หมายความว่า เจ้าพนักงานของรัฐตามมาตรา 102 และมาตรา 103 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ที่มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.
"สํานักงาน ป.ป.ช." หมายความว่า สํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และให้หมายความรวมถึง สํานักงาน ป.ป.ช. ภาค หรือสํานักงาน ป.ป.ช. ประจําจังหวัด แล้วแต่กรณี
ข้อ ๕ การยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบ ให้ใช้แบบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง แบบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน โดยผู้ยื่นบัญชีสามารถยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินได้ด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่ง ดังต่อไปนี้
(1) จัดส่งด้วยตนเอง หรือมอบหมายให้บุคคลอื่นจัดส่งแทน
(2) จัดส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ
(3) ยื่นบัญชีด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
การจัดส่งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบทั้งกรณีที่จัดส่งด้วยตนเองหรือมอบหมายให้บุคคลอื่นจัดส่งแทน ให้จัดส่งต่อสํานักงาน ป.ป.ช. โดยให้ถือว่าวันที่พนักงานเจ้าหน้าที่ออกใบรับบัญชีเป็นวันยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.
กรณีจัดส่งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ ให้ถือวันที่เจ้าพนักงานไปรษณีย์ได้รับลงทะเบียนเป็นวันยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.
กรณียื่นบัญชีด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กําหนด
ข้อ ๖ ให้ผู้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ตามที่มีอยู่จริงในวันที่มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ดังต่อไปนี้
(1) ตําแหน่งตามมาตรา 102 (1) (2) (3) และ (9) ให้แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินในวันที่เข้ารับตําแหน่ง และพ้นจากตําแหน่ง
(2) ตําแหน่งตามมาตรา 102 (4) (5) (6) (7) (8) และตําแหน่งอื่นที่คณะกรรมการป.ป.ช. กําหนด นอกจาก (1) ให้แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินในวันที่เข้ารับตําแหน่งและพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และทุกสามปีตลอดเวลาที่ยังดํารงตําแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ
คู่สมรสตามวรรคหนึ่ง ให้หมายความรวมถึงผู้ซึ่งอยู่กินกันฉันสามีภริยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรสด้วย ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กําหนด
ข้อ ๗ ในกรณีผู้ยื่นบัญชีซึ่งดํารงตําแหน่งตามมาตรา 102 (1) (2) (3) และ (9) ถ้าพ้นจากตําแหน่งและได้รับแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งเดิมหรือตําแหน่งใหม่ภายในหนึ่งเดือน ผู้นั้นไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินกรณีพ้นจากตําแหน่งและกรณีเข้าดํารงตําแหน่งใหม่ แต่ไม่ต้องห้ามที่ผู้นั้นจะยื่นเพื่อเป็นหลักฐาน
ในกรณีผู้ยื่นบัญชีซึ่งดํารงตําแหน่งตามมาตรา 102 และมาตรา 103 ผู้ใดได้รับแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งอื่นใดที่มีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินด้วย ผู้ยื่นบัญชีผู้นั้นไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินใหม่ แต่ไม่ต้องห้ามที่ผู้นั้นจะยื่นเพื่อเป็นหลักฐาน
ข้อ ๘ วันที่มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีเข้ารับตําแหน่ง หมายถึง
(1) นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ให้ถือวันถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ เป็นวันเข้ารับตําแหน่ง
(2) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้ถือวันปฏิญาณตนในที่ประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นวันเข้ารับตําแหน่ง
(3) สมาชิกวุฒิสภา ให้ถือวันปฏิญาณตนในที่ประชุมวุฒิสภา เป็นวันเข้ารับตําแหน่ง
(4) ข้าราชการการเมืองอื่น ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการการเมืองนอกจาก (1) ให้ถือวันที่คําสั่งแต่งตั้งมีผล เป็นวันเข้ารับตําแหน่ง
(5) ข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการรัฐสภาให้ถือวันที่คําสั่งแต่งตั้งมีผล เป็นวันเข้ารับตําแหน่ง
(6) ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ให้ถือวันที่พระบรมราชโองการแต่งตั้งมีผล เป็นวันเข้ารับตําแหน่ง
(7) ผู้ดํารงตําแหน่งในองค์กรอิสระ ให้ถือวันที่พระบรมราชโองการแต่งตั้งมีผล เป็นวันเข้ารับตําแหน่ง
(8) ข้าราชการตุลาการ ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมซึ่งดํารงตําแหน่งตั้งแต่อธิบดีผู้พิพากษาขึ้นไป ให้ถือวันที่พระบรมราชโองการแต่งตั้งมีผล เป็นวันเข้ารับตําแหน่ง
(9) ข้าราชการตุลาการศาลปกครอง ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง ซึ่งดํารงตําแหน่งตั้งแต่อธิบดีศาลปกครองชั้นต้นขึ้นไป ให้ถือวันที่พระบรมราชโองการแต่งตั้งมีผล เป็นวันเข้ารับตําแหน่ง
(10) ข้าราชการอัยการ ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการซึ่งดํารงตําแหน่งตั้งแต่อธิบดีอัยการขึ้นไป ให้ถือวันที่พระบรมราชโองการแต่งตั้งมีผล เป็นวันเข้ารับตําแหน่ง
(11) ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้ถือวันที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง เป็นวันเข้ารับตําแหน่ง
(12) รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้ถือวันที่คําสั่งแต่งตั้งมีผล เป็นวันเข้ารับ
(13) สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ให้ถือวันที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง หรือให้ถือวันที่ประธานกรรมการสรรหาประกาศแต่งตั้ง แล้วแต่กรณี เป็นวันเข้ารับตําแหน่ง
(14) นายกเมืองพัทยา ให้ถือวันที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง เป็นวันเข้ารับตําแหน่ง
(15) รองนายกเมืองพัทยา ให้ถือวันที่คําสั่งแต่งตั้งมีผล เป็นวันเข้ารับตําแหน่ง
(16) สมาชิกสภาเมืองพัทยา ให้ถือวันที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง หรือให้ถือวันที่ประธานกรรมการสรรหาประกาศแต่งตั้ง แล้วแต่กรณี เป็นวันเข้ารับตําแหน่ง
(17) นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด นายกเทศมนตรีนครนายกเทศมนตรีเมืองนายกเทศมนตรีตําบล นายกองค์การบริหารส่วนตําบล ให้ถือวันแถลงนโยบายในที่ประชุมแห่งสภาเป็นวันเข้ารับตําแหน่ง
(18) รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น ให้ถือวันที่คําสั่งแต่งตั้งมีผล เป็นวันเข้ารับตําแหน่ง
(19) สมาชิกสภาท้องถิ่น ให้ถือวันปฏิญาณตนในที่ประชุมแห่งสภา เป็นวันเข้ารับตําแหน่ง
(20) เจ้าหน้าที่ของรัฐ นอกจาก (8) ถึง (19) ให้ถือวันที่พระบรมราชโองการแต่งตั้งมีผล หรือวันที่คําสั่งแต่งตั้งมีผล หรือวันที่ที่ประชุมของผู้มีอํานาจแต่งตั้งมีมติ หรือวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหรือตามที่ระเบียบบริหารงานบุคคลของหน่วยงานนั้น ๆ กําหนด แล้วแต่กรณี เป็นวันเข้ารับตําแหน่ง
ในกรณีที่มีกฎหมายกําหนดเป็นประการอื่นหรือมีเหตุอื่น ทําให้ไม่สามารถกําหนดวันที่มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินกรณีเข้ารับตําแหน่งตามวรรคหนึ่งได้ วันที่มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินกรณีดังกล่าวให้เป็นไปตามมติของคณะกรรมการ ป.ป.ช.
ข้อ ๙ วันที่มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีพ้นจากตําแหน่งหรือพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หมายถึง
(1) นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ให้ถือวันที่ลาออก หรือด้วยเหตุอื่น แล้วแต่กรณี เป็นวันพ้นจากตําแหน่ง ในกรณีคณะรัฐมนตรีพันจากตําแหน่งทั้งคณะ ให้ถือวันที่คณะรัฐมนตรีคณะใหม่ ถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ เป็นวันพ้นจากตําแหน่ง
(2) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้ถือวันถึงคราวออกตามอายุของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือวันยุบสภา หรือลาออก หรือด้วยเหตุอื่น แล้วแต่กรณี เป็นวันพ้นจากตําแหน่ง
(3) สมาชิกวุฒิสภา ให้ถือวันที่สมาชิกวุฒิสภาที่ได้รับเลือกใหม่ปฏิญาณตนในที่ประชุมวุฒิสภา หรือลาออก หรือด้วยเหตุอื่น แล้วแต่กรณี เป็นวันพ้นจากตําแหน่ง
(4) ข้าราชการการเมืองอื่น ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการการเมืองนอกจาก (1) ให้ถือวันที่ผู้มีอํานาจแต่งตั้งพันจากตําแหน่ง หรือวันที่คําสั่งให้พ้นจากตําแหน่งมีผล หรือลาออก หรือด้วยเหตุอื่น แล้วแต่กรณี เป็นวันพ้นจากตําแหน่ง
(5) ข้าราชการรัฐสภาฝ้ายการเมือง ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการรัฐสภาให้ถือวันที่ผู้มีอํานาจแต่งตั้งพ้นจากตําแหน่ง หรือวันที่คําสั่งให้พ้นจากตําแหน่งมีผล หรือลาออก หรือด้วยเหตุอื่น แล้วแต่กรณี เป็นวันพ้นจากตําแหน่ง
(6) ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ให้ถือวันที่พ้นจากตําแหน่งตามที่กฎหมายกําหนด เป็นวันพ้นจากตําแหน่ง
(7) ผู้ดํารงตําแหน่งในองค์กรอิสระ ให้ถือวันที่พ้นจากตําแหน่งตามที่กฎหมายกําหนด เป็นวันพ้นจากตําแหน่ง
(8) ข้าราชการตุลาการ ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมซึ่งดํารงตําแหน่งตั้งแต่อธิบดีผู้พิพากษาขึ้นไป ให้ถือวันที่พ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามที่กฎหมายกําหนด เป็นวันพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ
(9) ข้าราชการตุลาการศาลปกครอง ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง ซึ่งดํารงตําแหน่งตั้งแต่อธิบดีศาลปกครองชั้นต้นขึ้นไป ให้ถือวันที่พ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามที่กฎหมายกําหนด เป็นวันพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ
(10) ข้าราชการอัยการ ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการซึ่งดํารงตําแหน่งตั้งแต่อธิบดีอัยการขึ้นไป ให้ถือวันที่พ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามที่กฎหมายกําหนดเป็นวันพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ
(11) ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้ถือวันที่ผู้ได้รับเลือกตั้งใหม่เข้ารับหน้าที่ หรือวันถัดจากวันที่ยื่นหนังสือลาออก หรือด้วยเหตุอื่น แล้วแต่กรณี เป็นวันพ้นจากตําแหน่ง
(12) รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้ถือวันที่ผู้มีอํานาจแต่งตั้งพ้นจากตําแหน่งหรือวันที่คําสั่งให้พ้นจากตําแหน่งมีผล หรือลาออก หรือด้วยเหตุอื่น แล้วแต่กรณี เป็นวันพ้นจากตําแหน่ง
(13) สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ให้ถือวันถัดจากวันครบวาระการดํารงตําแหน่งหรือวันถัดจากวันยื่นหนังสือลาออก หรือด้วยเหตุอื่น แล้วแต่กรณี เป็นวันพ้นจากตําแหน่ง
(14) นายกเมืองพัทยา ให้ถือวันถัดจากวันครบวาระการดํารงตําแหน่ง หรือลาออกหรือด้วยเหตุอื่น แล้วแต่กรณี เป็นวันพ้นจากตําแหน่ง
(15) รองนายกเมืองพัทยา ให้ถือวันที่ผู้มีอํานาจแต่งตั้งพันจากตําแหน่ง หรือวันที่คําสั่งให้พ้นจากตําแหน่งมีผล หรือลาออก หรือด้วยเหตุอื่น แล้วแต่กรณี เป็นวันพ้นจากตําแหน่ง
(16) สมาชิกสภาเมืองพัทยา ให้ถือวันถัดจากวันครบวาระการดํารงตําแหน่ง หรือวันถัดจากวันยื่นหนังสือลาออก หรือด้วยเหตุอื่น แล้วแต่กรณี เป็นวันพ้นจากตําแหน่ง
(17) นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด นายกเทศมนตรีนครนายกเทศมนตรีเมืองนายกเทศมนตรีตําบล นายกองค์การบริหารส่วนตําบล ให้ถือวันถัดจากวันครบวาระการดํารงตําแหน่งหรือลาออก หรือด้วยเหตุอื่น แล้วแต่กรณี เป็นวันพ้นจากตําแหน่ง
(18) รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น ให้ถือวันที่ผู้มีอํานาจแต่งตั้งพ้นจากตําแหน่ง หรือวันที่คําสั่งให้พ้นจากตําแหน่งมีผล หรือลาออก หรือด้วยเหตุอื่น แล้วแต่กรณี เป็นวันพ้นจากตําแหน่ง
(19) สมาชิกสภาท้องถิ่น ให้ถือวันถัดจากวันครบวาระการดํารงตําแหน่ง หรือลาออก หรือด้วยเหตุอื่น แล้วแต่กรณี เป็นวันพ้นจากตําแหน่ง
(20) เจ้าหน้าที่ของรัฐ นอกจาก (8) ถึง (19 ให้ถือวันที่พ้นจากตําแหน่งหรือวันที่พ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามที่กฎหมายกําหนด เป็นวันพ้นจากตําแหน่ง หรือพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ แล้วแต่กรณี
ข้อ ๑๐ ให้ผู้ยื่นบัญชีซึ่งดํารงตําแหน่งดังต่อไปนี้ มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบจํานวนสองชุด ชุดหนึ่งเป็นต้นฉบับ อีกชุดหนึ่งเป็นสําเนาคู่ฉบับ โดยในเบื้องต้นให้ผู้ยื่นบัญชีปกปิดข้อความในสําเนาบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กําหนด
(1) นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ดํารงตําแหน่งในองค์กรอิสระ ผู้ดํารงตําแหน่งระดับสูง
(2) ผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่นตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กําหนดให้เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน
เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้รับบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบแล้ว ให้ลงทะเบียนบัญชีในสารบบและออกใบรับให้ผู้ยื่นบัญชีไว้เป็นหลักฐาน
ข้อ ๑๑ การยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ยื่นพร้อมเอกสารประกอบซึ่งเป็นหลักฐานที่พิสูจน์ความมีอยู่จริงของทรัพย์สินและหนี้สิน รวมทั้งหลักฐานการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีภาษีที่ผ่านมา โดยในกรณียื่นเป็นเอกสารผู้ยื่นจะต้องลงลายมือชื่อรับรองความถูกต้องกํากับไว้ในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและสําเนาหลักฐานที่ยื่นไว้ทุกหน้า พร้อมทั้งจัดทํารายละเอียดของเอกสารประกอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินที่ยื่นด้วย ทั้งนี้ ทรัพย์สินและหนี้สินที่ต้องแสดงรายการ ให้รวมทั้งทรัพย์สินและหนี้สินในต่างประเทศ และให้รวมถึงทรัพย์สินของบุคคลดังกล่าวที่มอบหมายให้อยู่ในความครอบครองหรือดูแลของบุคคลอื่นไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมด้วยและต้องยื่นภายในกําหนดเวลา ดังต่อไปนี้
(1) ในกรณีที่เป็นการเข้ารับตําแหน่ง ให้ยื่นภายในหกสิบวันนับแต่วันถัดจากวันเข้ารับตําแหน่ง
(2) ในกรณีที่เป็นการพ้นจากตําแหน่งหรือพันจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ให้ยื่นภายในหกสิบวันนับแต่วันถัดจากวันพ้นจากตําแหน่งหรือพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ
(3) ในกรณีทุกสามปีตลอดเวลาที่ยังดํารงตําแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ให้ยื่นภายในหกสิบวันนับแต่วันถัดจากวันดํารงตําแหน่งครบทุกสามปี
ข้อ ๑๒ กรณีที่มีพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้มีผลย้อนหลัง หรือกรณีคําสั่งแต่งตั้งให้มีผลย้อนหลัง ให้ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินภายในหกสิบวันนับแต่วันถัดจากวันที่มีพระบรมราชโองการ หรือวันที่มีคําสั่งแต่งตั้ง
ข้อ ๑๓ ก่อนครบกําหนดระยะเวลาตามข้อ 11 หรือข้อ 12 ผู้ยื่นบัญชีอาจยื่นคําขอขยายระยะเวลายื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินได้ โดยต้องระบุเหตุผลและความจําเป็นต่อสํานักงาน ป.ป.ช. หากเลขาธิการหรือบุคคลที่เลขาธิการมอบหมายเห็นสมควร จะอนุญาตขยายระยะเวลาก็ได้แต่ต้องไม่เกินสามสิบวันนับแต่วันที่ครบกําหนดระยะเวลาที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน
คําขอขยายระยะเวลาตามวรรคหนึ่ง ให้จัดทําเป็นหนังสืออย่างน้อยต้องระบุรายละเอียด ดังต่อไปนี้
(1) ชื่อตัวและชื่อสกุลของผู้ยื่นบัญชี
(2) ตําแหน่งที่ยื่น
(3) ยื่นบัญชีกรณีเข้ารับตําแหน่ง กรณีพ้นจากตําแหน่งหรือพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือทุกสามปีตลอดเวลาที่ยังดํารงตําแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ
(4) วันที่มีหน้าที่ยื่นบัญชี
(5) เหตุผลและความจําเป็น พร้อมทั้งแนบเอกสารหลักฐานประกอบ (ถ้ามี)
ในกรณีที่เลขาธิการเป็นผู้ยื่นบัญชี การขอขยายระยะเวลาตามวรรคหนึ่ง ให้ประธานกรรมการ ป.ป.ช. เป็นผู้พิจารณาอนุญาต
ข้อ ๑๔ กรณียื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบเกินกําหนดระยะเวลาตามข้อ 11 หรือข้อ 12 หรือข้อ 13 แล้วแต่กรณี ผู้ยื่นบัญชีต้องชี้แจงเหตุของการยื่นบัญชีล่าข้าต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยจัดทําเป็นหนังสือหนังสือชี้แจงตามวรรคหนึ่ง อย่างน้อยต้องระบุรายละเอียด ดังต่อไปนี้
(1) ชื่อตัวและชื่อสกุลของผู้ยื่นบัญชี
(2) ตําแหน่งที่ยื่น
(3) ยื่นบัญชีกรณีเข้ารับตําแหน่ง กรณีพ้นจากตําแหน่งหรือพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือทุกสามปีตลอดเวลาที่ยังดํารงตําแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ
(4) วันที่มีหน้าที่ยืนบัญชี
(5) เหตุผลของการยื่นบัญชีล่าช้าพร้อมทั้งแนบเอกสารหลักฐานประกอบ (ถ้ามี)
ข้อ ๑๕ ก่อนวันครบกําหนดระยะเวลาที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ผู้ยื่นบัญชีอาจยื่นคําขอแก้ไขบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบที่ได้ยื่นไว้แล้ว หรือยื่นคําขอยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบเพิ่มเติมก็ได้
เมื่อครบกําหนดระยะเวลาซึ่งต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินแล้ว หากผู้ยื่นบัญชีมีความประสงค์จะขอแก้ไขบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบที่ได้ยื่นไว้แล้ว หรือขอยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบเพิ่มเติม ให้ผู้ยื่นบัญชียื่นคําขอแก้ไขบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินหรือยื่นคําขอยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบเพิ่มเติม พร้อมคําชี้แจงต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.
ข้อ ๑๖ ให้ผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม หรือตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติกําหนดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าว ที่ถึงคราวต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินในกรณีเข้ารับตําแหน่ง พ้นจากตําแหน่ง ทุกสามปี ที่อยู่ในตําแหน่ง หรือพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐในวันก่อนที่ประกาศนี้ใช้บังคับ มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อไปตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง ผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน พ.ศ. 2555
ในกรณีที่บุคคลตามวรรคหนึ่ง ถึงคราวต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีพันจากตําแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในวันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มีผลใช้บังคับ จนถึงวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับให้พ้นจากการเป็นผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินที่ต้องยื่นในกรณีดังกล่าว
ข้อ ๑๗ การยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินที่ได้ยื่นไว้แล้วตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติมให้ถือว่าเป็นการยื่นตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561
ข้อ ๑๘ การยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินกรณียื่นทุกสามปีตลอดเวลาที่ยังดํารงตําแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐของผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชี ให้นับระยะเวลาดังนี้
(1) กรณีผู้ยื่นบัญชีเป็นผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินกรณีทุกสามปีที่อยู่ในตําแหน่งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.25 42 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ให้นับระยะเวลาการดํารงตําแหน่งทุกสามปีต่อไปนับแต่วันที่มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินครั้งล่าสุด
(2) กรณีผู้ยื่นบัญชีไม่เป็นผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและ หนี้สินกรณีทุกสามปีที่อยู่ในตําแหน่งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม แต่มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบตามข้อ 11 (3) ให้เริ่มนับระยะเวลาการดํารงตําแหน่งทุกสามปีตั้งแต่วันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มีผลใช้บังคับ
ข้อ ๑๙ การแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของคู่สมรสตามข้อ 6 วรรคสอง ให้ใช้บังคับกับผู้ยื่นบัญชี ซึ่งมีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินภายหลังจากวันที่ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ของผู้ซึ่งอยู่กินกันฉันสามีภริยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรสอันถือว่าเป็นคู่สมรส พ.ศ. 2561 มีผลใช้บังคับ
ข้อ ๒๐ ให้ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเป็นผู้รักษาการตามประกาศนี้
ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการบังคับใช้หรือการปฏิบัติตามประกาศนี้ ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอํานาจตีความและวินิจฉัยชี้ขาด คําวินิจฉัยของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้เป็นที่สุด
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2561
พลตํารวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ
ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ | 7,627 |
ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลจังหวัดน่าน | ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม
เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลจังหวัดน่าน
-----------------------------
อื่นๆ - ด้วยศาลจังหวัดน่าน จะย้ายที่ทําการจากที่ทําการศาลจังหวัดน่านเดิม เลขที่ 5 ถนนสุริยพงษ์ ตําบลในเวียง อําเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน ไปยังที่ทําการศาลจังหวัดน่านหลังใหม่
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 วรรคสามและวรรคสี่ แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรมคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมจึงออกประกาศเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลจังหวัดน่าน จากที่ทําการศาลจังหวัดน่านเดิม เลขที่ 5 ถนนสุริยพงษ์ ตําบลในเวียง อําเภอเมืองน่าน จังหวัดน่านไปยังอาคารที่ทําการหลังใหม่ เลขที่ 553 ศูนย์ราชการจังหวัดน่าน ถนนน่าน - พะเยา ตําบลไชยสถาน อําเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน โดยเริ่มทําการตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2561 เป็นต้นไป
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2561
ชีพ จุลมนต์
ประธานศาลฎีกา
ประธานกรรมการบริหารศาลยุติธรรม | 7,628 |
ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง กำหนดสถานที่ตั้งของศาลแขวงระยอง | ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม
เรื่อง กําหนดสถานที่ตั้งของศาลแขวงระยอง
-------------------------
อื่นๆ - ด้วยพระราชกฤษฎีกากําหนดจํานวน เขตอํานาจ และวันเปิดทําการของศาลแขวงในจังหวัดระยอง พ.ศ. 2561 กําหนดให้ในจังหวัดระยองให้มีศาลแขวงหนึ่งศาล คือ ศาลแขวงระยอง มีเขตอํานาจในอําเภอทุกอําเภอ โดยให้เริ่มทําการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เป็นต้นไป
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 วรรคสามและวรรคสี่ แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรมคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมจึงออกประกาศกําหนดสถานที่ตั้งของศาลแขวงระยอง โดยกําหนดให้ศาลแขวงระยองตั้งอยู่ที่ อาคารศาลแขวงระยอง ถนนตากสินมหาราช ตําบลท่าประดู่ อําเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2561
ชีพ จุลมนต์
ประธานศาลฎีกา
ประธานกรรมการบริหารศาลยุติธรรม | 7,629 |
ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดมุกดาหาร | ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม
เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดมุกดาหาร
-------------------------------
อื่นๆ - ด้วยศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดมุกดาหาร จะย้ายที่ทําการจากที่ทําการศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดมุกดาหารเดิม อาคารศาลจังหวัดมุกดาหาร ถนนวิวิธสุรการ อําเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร ไปยังที่ทําการศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดมุกดาหารหลังใหม่
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 วรรคสามและวรรคสี่ แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรมคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมจึงออกประกาศเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดมุกดาหาร จากที่ทําการศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดมุกดาหารเดิม อาคารศาลจังหวัดมุกดาหาร ถนนวิวิธสุรการ อําเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร ไปยังอาคารที่ทําการหลังใหม่ เลขที่ 19/99 อาคารศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดมุกดาหาร ถนนวิวิธสุรการ ตําบลมุกดาหาร อําเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร โดยเริ่มทําการตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2561 เป็นต้นไป
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2561
ชีพ จุลมนต์
ประธานศาลฎีกา
ประธานกรรมการบริหารศาลยุติธรรม | 7,630 |
ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุทัยธานีชั่วคราว | ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม
เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุทัยธานีชั่วคราว
-------------------------------
อื่นๆ - ด้วยศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุทัยธานี จะย้ายที่ทําการไปยังอาคารที่ทําการศาลจังหวัดอุทัยธานี เป็นการชั่วคราว
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 วรรคสาม แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรม คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมจึงออกประกาศเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุทัยธานีชั่วคราว จากที่ทําการศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุทัยธานีเดิม อาคารศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุทัยธานี ถนนศรีอุทัย ตําบลอุทัยใหม่ อําเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี ไปยังที่ทําการศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุทัยธานีชั่วคราว ณ อาคารศาลจังหวัดอุทัยธานี เลขที่ 666 หมู่ที่ 3 ตําบลน้ําซึม อําเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี โดยให้เริ่มทําการตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เป็นต้นไป
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2561
ชีพ จุลมนต์
ประธานศาลฎีกา
ประธานกรรมการบริหารศาลยุติธรรม | 7,631 |
ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลฎีกา | ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลฎีกา
-------------------------------
อื่นๆ - ด้วยศาลฎีกา จะย้ายที่ทําการไปยังอาคารที่ทําการศาลหลังใหม่
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 วรรคสาม แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรม คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมจึงออกประกาศเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลฎีกา จากที่ทําการศาลฎีกาชั่วคราว เลขที่ 120 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ไปยังอาคารที่ทําการหลังใหม่เลขที่ 6 ถนนราชดําเนินใน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร โดยเริ่มทําการตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2562 เป็นต้นไป
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561
ชีพ จุลมนต์
ประธานศาลฎีกา
ประธานกรรมการบริหารศาลยุติธรรม | 7,632 |
ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง การสรรหาและการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในฐานะองค์กรกลางบริหารงานบุคคลของสำนักงาน ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 | ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
เรื่อง การสรรหาและการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ ป.ป.ช.
ในฐานะองค์กรกลางบริหารงานบุคคลของสํานักงาน ป.ป.ช.
พ.ศ. 2561
---------------------------------
โดยที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 กําหนดให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิจากบุคคลภายนอกร่วมเป็นกรรมการในคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะองค์กรกลางบริหารงานบุคคลของสํานักงาน ป.ป.ช.เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ตามภารกิจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติด้านการบริหารงานบุคคลของสํานักงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 5 และมาตรา 144 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง การสรรหาและการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะองค์กรกลางบริหารงานบุคคลของสํานักงาน ป.ป.ช. พ.ศ. 2561”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิจากบุคคลภายนอก ด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล ด้านการบริหารและการจัดการ หรือด้านการงบประมาณ จํานวนไม่เกินสามคนร่วมเป็นกรรมการในคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะองค์กรกลางบริหารงานบุคคลของสํานักงาน ป.ป.ช.
ข้อ ๔ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้
(1) มีสัญชาติไทย
(2) มีอายุไม่ต่ํากว่าสี่สิบห้าปี แต่ไม่เกินเจ็ดสิบปีบริบูรณ์ นับถึงวันที่ได้รับการเสนอชื่อ
(3) สําเร็จการศึกษาไม่ต่ํากว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า
(4) เป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล ด้านการบริหารและการจัดการ หรือด้านการงบประมาณ
(5) มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์
(6) มีสุขภาพที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อ ๕ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต้องไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้
(1) เป็นหรือเคยเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ดํารงตําแหน่งในองค์กรอิสระใด
(2) เป็นหรือเคยเป็นข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้างของสํานักงาน ป.ป.ช.
(3) เป็นหรือเคยเป็นผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
(4) เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
(5) เป็นหรือเคยเป็นกรรมการพรรคการเมือง สมาชิกพรรคการเมือง หรือผู้ดํารงตําแหน่งอื่นของพรรคการเมือง
(6) เป็นภิกษุ สามณร นักพรต หรือนักบวช
(7) เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ
(8) เป็นผู้ดํารงตําแหน่งใดในห้างหุ้นส่วนบริษัท หรือองค์กรที่ดําเนินธุรกิจโดยมุ่งหาผลกําไรหรือรายได้มาแบ่งปันกัน หรือเป็นลูกจ้างของบุคคลใด
(9) เป็นผู้ประกอบวิชาชีพอิสระ
(10) เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือถือว่ากระทําการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ
(11) เคยต้องคําพิพากษาหรือคําสั่งของศาลอันถึงที่สุดให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ํารวยผิดปกติ หรือเคยต้องคําพิพากษาอันถึงที่สุดให้ลงโทษจําคุกเพราะกระทําความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
(12) เคยต้องคําพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทําความผิดต่อตําแหน่งหน้าที่ราชการหรือต่อตําแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม หรือกระทําความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ หรือความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทําโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน กฎหมายว่าด้วยยาเสพติดในความผิดฐานเป็นผู้ผลิต นําเข้า ส่งออก หรือผู้ค้า กฎหมายว่าด้วยการพนันในความผิดฐานเป็นเจ้ามือหรือเจ้าสํานัก กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในความผิดฐานฟอกเงิน
(13) เคยต้องคําพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทําการอันเป็นการทุจริตในการเลือกตั้ง
(14) เคยพ้นจากตําแหน่งเพราะศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามีการเสนอ การแปรญัตติหรือการกระทําด้วยประการใด ๆ ที่มีผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือกรรมาธิการมีส่วนไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่าย
(15) เคยพ้นจากตําแหน่งเพราะศาลฎีกาหรือศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองมีคําพิพากษาว่าฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือเป็นผู้มีพฤติการณ์ร่ํารวยผิดปกติ หรือกระทําความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อํานาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย
(16) เคยได้รับโทษจําคุกโดยคําพิพากษาถึงที่สุดให้จําคุก เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทําโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
(17) ต้องคําพิพากษาให้จําคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล
(18) อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่ว่าคดีนั้นจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่
(19) อยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราวหรือถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง
(20) อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง
(21) เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต
(22) ติดยาเสพติดให้โทษ
(23) วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
(24) มีพฤติการณ์อันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
ข้อ ๖ การสรรหาและการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิให้ดําเนินการดังนี้
(1) ให้ประธานกรรมการ ป.ป.ช. กรรมการ ป.ป.ช. และสํานักงาน ป.ป.ช. มีสิทธิเสนอชื่อผู้ที่เหมาะสมเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จํานวนด้านละหนึ่งคน โดยอาจเสนอชื่อบุคคลเดียวในหลายด้านก็ได้ และให้ส่งรายชื่อต่อสํานักงาน ป.ป.ช. ภายในสิบห้าวันนับจากวันที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้ดําเนินการสรรหา
(2) ให้สํานักงาน ป.ป.ช. แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อทําหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ได้รับการเสนอชื่อตาม (1) ในเบื้องต้น พร้อมทั้งจัดทําบัญชีรายชื่อ ประวัติและผลงานโดยย่อของผู้ได้รับการเสนอชื่อเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.
(3) ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เลือกผู้ที่เหมาะสมเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากบัญชีรายชื่อตาม (2) จํานวนไม่เกินสามคน และให้มีรายชื่อสํารองจํานวนสองคน โดยจัดลําดับตามความเหมาะสม
(4) เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้เลือกผู้เหมาะสมเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแล้วให้สํานักงาน ป.ป.ช. ส่งหนังสือแสดงความยินยอมให้บุคคลดังกล่าวเพื่อให้ความยินยอม พร้อมทั้งแจ้งรายละเอียดในการปฏิบัติหน้าที่เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิให้ผู้ได้รับการคัดเลือกทราบด้วย
(5) เมื่อผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นกรรมกรผู้ทรงคุณวุฒิได้ให้ความยินยอมเรียบร้อยแล้วให้คณะกรรมการที่แต่งตั้งขึ้นตาม (2) ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิโดยละเอียด
(6) ให้สํานักงาน ป.ป.ช. จัดทําคําสั่งแต่งตั้งผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเสนอต่อประธานกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อลงนามคําสั่งแต่งตั้ง และแจ้งผลการคัดเลือกและแต่งตั้งให้ผู้นั้นทราบด้วย ทั้งนี้ เมื่อมีคําสั่งแต่งตั้งผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแล้วให้รายชื่อสํารองเป็นอันยกเลิก
กรณีผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิไม่ยินยอมให้ตรวจสอบคุณสมบัติหรือไม่ยินยอมที่จะเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ หรือเป็นผู้ขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามหรือมีเหตุอันใดที่ไม่สามารถแต่งตั้งผู้นั้นเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิได้ ให้ผู้ที่มีรายชื่อสํารองเป็นผู้ได้รับการคัดเลือกต่อไปตามลําดับ
ข้อ ๗ ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระการดํารงตําแหน่งสามปีนับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้งและอาจได้รับสรรหาหรือแต่งตั้งใหม่ได้แต่จะดํารงตําแหน่งติดต่อกันเกินสองวาระไม่ได้
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นจากตําแหน่งตามวาระต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่ากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้รับแต่งตั้งจะเข้ารับหน้าที่
ข้อ ๘ นอกจากการพ้นจากตําแหน่งตามวาระ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตําแหน่งเมื่อ
(1) ตาย
(2) มีอายุครบเจ็บสิบปีบริบูรณ์ กรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการ
(3) ลาออก
(4) ขาดคุณสมบัติตามข้อ 4 หรือมีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 5
(5) คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้พ้นจากตําแหน่ง
ข้อ ๙ กรณีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตําแหน่ง เป็นเหตุให้องค์ประกอบของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะองค์กรกลางบริหารงานบุคคลของสํานักงาน ป.ป.ช. ไม่มีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเหลืออยู่ ให้ดําเนินการสรรหาและแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามข้อ 6 ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตําแหน่ง เว้นแต่องค์ประกอบของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะองค์กรกลางบริหารงานบุคคลของสํานักงาน ป.ป.ช. ยังคงมีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเหลืออยู่คณะกรรมการ ป.ป.ช. อาจมีมติให้สํานักงาน ป.ป.ช. ดําเนินการสรรหาและนําเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแต่งตั้งเพิ่มเติมได้
ข้อ ๑๐ กรณีปรากฏภายหลังว่ากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามอันเป็นเหตุให้ผู้นั้นต้องพันจากตําแหน่ง การพ้นจากตําแหน่งดังกล่าวไม่กระทบต่อกิจการที่ผู้นั้นได้กระทําไปตามหน้าที่ก่อนพ้นจากตําแหน่ง รวมทั้งสิทธิในการได้รับเบี้ยประชุมหรือประโยชน์อื่นใดตามกฎหมาย
ข้อ ๑๑ ให้ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติรักษาการตามประกาศนี้
ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการบังคับใช้หรือการปฏิบัติตามประกาศนี้ ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอํานาจตีความและวินิจฉัยชี้ขาด คําวินิจฉัยของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้เป็นที่สุด
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2561
พลตํารวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ
ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ | 7,633 |
ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลจังหวัดบึงกาฬ | ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม
เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลจังหวัดบึงกาฬ
--------------------------
อื่นๆ - ด้วยศาลจังหวัดบึงกาฬ จะย้ายที่ทําการไปยังอาคารที่ทําการศาลจังหวัดบึงกาฬหลังใหม่
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 วรรคสาม แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรม คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมจึงออกประกาศเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลจังหวัดบึงกาฬ จากที่ทําการศาลจังหวัดบึงกาฬหลังเดิม เลขที่ 364 ถนนบึงกาฬ - นครพนม ตําบลบึงกาฬ อําเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ไปยังที่ทําการศาลจังหวัดบึงกาฬหลังใหม่ เลขที่ 370 หมู่ที่ 5 ตําบลบึงกาฬ อําเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ โดยเริ่มทําการตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม 2562 เป็นต้นไป
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2561
ชีพ จุลมนต์
ประธานศาลฎีกา
ประธานกรรมการบริหารศาลยุติธรรม | 7,634 |
ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ | ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม
เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลอุทธรณ์คดีชํานัญพิเศษ
-----------------------------
อื่นๆ - ด้วยศาลอุทธรณ์คดีชํานัญพิเศษ จะย้ายที่ทําการไปยังอาคารที่ทําการศาลหลังใหม่
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 วรรคสาม แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรม คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมจึงออกประกาศเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลอุทธรณ์คดีชํานัญพิเศษ จากที่ทําการศาลอุทธรณ์คดีชํานัญพิเศษหลังเดิม เลขที่ 6/1 ถนนราชินี แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ไปยังอาคารที่ทําการหลังใหม่ เลขที่ 120 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร โดยเริ่มทําการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2562 เป็นต้นไป
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562
ชีพ จุลมนต์
ประธานศาลฎีกา
ประธานกรรมการบริหารศาลยุติธรรม | 7,635 |
ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง กำหนดตำแหน่งผู้ทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้บริหารท้องถิ่นและผู้ทำหน้าที่ช่วยเหลือสภาท้องถิ่นหรือสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2561 | ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
เรื่อง กําหนดตําแหน่งผู้ทําหน้าที่ช่วยเหลือผู้บริหารท้องถิ่นและผู้ทําหน้าที่ช่วยเหลือสภาท้องถิ่น
หรือสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น
พ.ศ. 2561
-------------------------------
โดยที่เป็นการสมควรกําหนดให้ผู้ทําหน้าที่ช่วยเหลือผู้บริหารท้องถิ่นและผู้ทําหน้าที่ช่วยเหลือสภาท้องถิ่นหรือสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่นซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561
อาศัยอํานาจตามความในบทนิยามคําว่า "ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น" ในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง กําหนดตําแหน่งผู้ทําหน้าที่ช่วยเหลือผู้บริหารท้องถิ่นและผู้ทําหน้าที่ช่วยเหลือสภาท้องถิ่นหรือสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2561”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้บุคคลที่ทําหน้าที่ช่วยเหลือผู้บริหารท้องถิ่นและผู้ทําหน้าที่ช่วยเหลือสภาท้องถิ่นหรือสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ซึ่งดํารงตําแหน่งดังต่อไปนี้ เป็นผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561
(1) กรุงเทพมหานคร ได้แก่
(ก) ประธานที่ปรึกษา ที่ปรึกษา เลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
(ข) เลขานุการประธานสภากรุงเทพมหานคร
(ค) เลขานุการรองประธานสภากรุงเทพมหานคร
(2) เมืองพัทยา ได้แก่
(ก) ประธานที่ปรึกษา ที่ปรึกษา เลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการนายกเมืองพัทยา
(ข) เลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการประธานสภาเมืองพัทยา
(3) องค์การบริหารส่วนจังหวัด ได้แก่ ที่ปรึกษาและเลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด
(4) เทศบาลนคร ได้แก่ ที่ปรึกษาและเลขานุการนายกเทศมนตรี
(5) เทศบาลเมือง ได้แก่ ที่ปรึกษาและเลขานุการนายกเทศมนตรี
(6) เทศบาลตําบล ได้แก่ ที่ปรึกษาและเลขานุการนายกเทศมนตรี
(7) องค์การบริหารส่วนตําบล ได้แก่ เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตําบล
ข้อ ๔ กรณีมีกฎหมายกําหนดให้มีการแต่งตั้งผู้ช่วยเหลือผู้บริหารท้องถิ่น สภาท้องถิ่นหรือสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นอกเหนือจากข้อ 3 ให้ผู้ที่ได้ รับแต่งตั้งดังกล่าวเป็นผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่นตามประกาศนี้
ข้อ ๕ ให้ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเป็นผู้รักษาการตามประกาศนี้
ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการบังคับใช้หรือการปฏิบัติตามประกาศนี้ ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอํานาจตีความและวินิจฉัยชี้ขาด คําวินิจฉัยของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้เป็นที่สุด
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2561
พลตํารวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ
ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ | 7,636 |
ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลจังหวัดอ่างทอง | ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม
เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลจังหวัดอ่างทอง
-------------------------
อื่นๆ - ด้วยศาลจังหวัดอ่างทอง จะย้ายที่ทําการไปยังอาคารที่ทําการศาลหลังใหม่
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 วรรคสาม แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรม คณะกรรมการ บริหารศาลยุติธรรมจึงออกประกาศเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลจังหวัดอ่างทอง จากที่ทําการศาลจังหวัดอ่างทองหลังเดิม ถนนเทศบาล 1 ตําบลบางแก้ว อําเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง ไปยังอาคารที่ทําการหลังใหม่ เลขที่ 66 หมู่ที่ 1 ตําบลบ้านอิฐ อําเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง โดยเริ่มทําการตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2562 เป็นต้นไป
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2562
ชีพ จุลมนต์
ประธานศาลฎีกา
ประธานกรรมการบริหารศาลยุติธรรม | 7,637 |
ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน พ.ศ. 2561 | ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
เรื่อง หลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน
พ.ศ. 2561
----------------------------
โดยที่เป็นการสมควรกําหนดหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดํารงตําแหน่งนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ดํารงตําแหน่งในองค์กรอิสระ ผู้ดํารงตําแหน่งระดับสูง และผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่น ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กําหนด
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 106 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน พ.ศ. 2561”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการเปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบของผู้ดํารงตําแหน่งนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภาและเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ. 2560
ข้อ ๔ การเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดํารงตําแหน่งนายกรัฐมนตรีรัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ดํารงตําแหน่งในองค์กรอิสระ ผู้ดํารงตําแหน่งระดับสูง และผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่น รวมทั้งของคู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของบุคคลดังกล่าว เพื่อประโยชน์ในการมีส่วนร่วมของประชาชนในการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สิน ให้เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไปภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ครบกําหนดการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน
ข้อ ๕ กรณีที่ผู้ยื่นบัญชีเห็นว่าบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบตามข้อ 4 ระบุถึงรายละเอียดทางทะเบียนของทรัพย์สิน และภาพถ่ายทรัพย์สินหรือข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่จําเป็นหรือที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อเจ้าของข้อมูล ให้ผู้ยื่นบัญชีปกปิดข้อความในสําเนาบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบ ดังต่อไปนี้
ข้อมูลส่วนบุคคล
(1) เลขประจําตัวประชาชน
(2) วัน เดือน ปีเกิด
(3) ที่อยู่ (ปิดเฉพาะเลขที่บ้าน แต่ให้เปิดที่ตั้ง ตําบล อําเภอ)
(4) หมายเลขโทรศัพท์บ้าน และหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่
(5) อีเมล์
รายละเอียดทางทะเบียนของทรัพย์สิน
(1) เลขที่บัญชีธนาคารหรือสถาบันการเงิน
รายละเอียดอื่น ๆ
(1) เลขประจําตัวประชาชน ผู้กู้ยืม
(2) เลขประจําตัวประชาชน ผู้ให้กู้
(3) ภาพถ่ายทรัพย์สินอื่น
(4) หมายเลขบัตรเครดิต
ทั้งนี้ ก่อนการเปิดเผยให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไป ให้สํานักงานป.ป.ช. พิจารณาดําเนินการลบ ตัดทอนหรือทําโดยประการอื่นใดในสําเนาบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบเพื่อปกปิดข้อมูลตามวรรคหนึ่งนั้นอีกได้
ข้อ ๖ การเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปิดประกาศเฉพาะสําเนาบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ณ สํานักงาน ป.ป.ช. หรือสํานักงาน ป.ป.ช. ภาค หรือสํานักงาน ป.ป.ช. ประจําจังหวัด หรือสถานที่อื่นใด ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นสมควร โดยมีระยะเวลาประกาศเปิดเผยสามสิบวัน และทางเว็บไซต์หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์อื่นของสํานักงาน ป.ป.ช.โดยมีระยะเวลาเผยแพร่เป็นเวลาหนึ่งร้อยแปดสิบวันแล้วรายงานการดําเนินการให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ทราบ
สําเนาเอกสารประกอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินให้ประกาศเปิดเผยไว้ ณ สํานักงาน ป.ป.ช. หรือสํานักงาน ป.ป.ช. ภาค หรือสํานักงาน ป.ป.ช. ประจําจังหวัด หรือสถานที่อื่นใดตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นสมควร โดยมีระยะเวลาประกาศเปิดเผยสามสิบวัน
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันมิให้มีการนําข้อมูลไปใช้ประโยชน์โดยมิชอบ สํานักงาน ป.ป.ช.ต้องทําให้สําเนาบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตามวรรคหนึ่งและ สําเนาเอกสารประกอบตามวรรคสองปรากฎเครื่องหมายแสดงที่สามารถบ่งชี้ได้ว่าสําเนาดังกล่าวมาจากการเปิดเผยของสํานักงานป.ป.ช.
ข้อ ๗ ภายหลังจากพ้นกําหนดระยะเวลาการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบตามข้อ 6 หากมีการร้องขอเป็นหนังสือเพื่อขอตรวจดูบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบให้ผู้อํานวยการสํานักหรือผู้อํานวยการสํานักงาน ป.ป.ช. ประจําจังหวัด ที่ครอบครองดูแลเอกสารดังกล่าวจัดให้ผู้ร้องขอเข้าตรวจดูสําเนาบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบตามข้อ 6 ได้ แต่มิให้คัดถ่ายสําเนาเอกสาร
ข้อ ๘ การเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบตามประกาศนี้ ให้ใช้บังคับกับบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชี ซึ่งมีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินภายหลังจากวันที่ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ขั้นตอน และวิธีการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน พ.ศ. 2561 มีผลใช้บังคับ
ข้อ ๙ ให้ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเป็นผู้รักษาการตามประกาศนี้
ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการบังคับใช้หรือการปฏิบัติตามประกาศนี้ ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอํานาจตีความและวินิจฉัยชี้ขาด คําวินิจฉัยของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้เป็นที่สุด
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2561
พลตํารวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ
ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ | 7,638 |
ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง กำหนดสถานที่ตั้งของศาลแขวงบางบอน | ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม
เรื่อง กําหนดสถานที่ตั้งของศาลแขวงบางบอน
-----------------
อื่นๆ - ด้วยพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงเขตอํานาจศาลแขวงธนบุรี กับกําหนดเขตอํานาจและวันเปิดทําการของศาลแขวงบางบอน ในกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2562 กําหนดให้ในกรุงเทพมหานคร ให้มีศาลแขวงเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งศาล คือ ศาลแขวงบางบอน มีเขตอํานาจในเขตบางแค เขตบางบอน และเขตหนองแขม โดยให้เริ่มทําการตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2562 เป็นต้นไป
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 วรรคสาม แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรม คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมจึงออกประกาศกําหนดสถานที่ตั้งของศาลแขวงบางบอน โดยกําหนดให้ศาลแขวงบางบอน ตั้งอยู่เลขที่ 1271/1 ถนนเอกชัย แขวงบางบอนใต้ เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2562
ชีพ จุลมนต์
ประธานศาลฎีกา
ประธานกรรมการบริหารศาลยุติธรรม | 7,639 |
ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการกันบุคคลไว้เป็นพยานโดยไม่ดำเนินคดี พ.ศ. 2561 | ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการกันบุคคลไว้เป็นพยานโดยไม่ดําเนินคดี
พ.ศ. 2561
------------------------
โดยที่เป็นการสมควรกําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการกันบุคคลไว้เป็นพยานโดยไม่ดําเนินคดี
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 335 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการกันบุคคลไว้เป็นพยานโดยไม่ดําเนินคดี พ.ศ. 2561”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการกันบุคคลหรือผู้ถูกกล่าวหาไว้เป็นพยานโดยไม่ดําเนินคดี พ.ศ. 2554
ข้อ ๔ ในประกาศนี้
"บุคคล" หมายความว่า พยานบุคคลซึ่งยังมิได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหา และให้หมายความรวมถึงผู้ถูกกล่าวหาด้วย
ข้อ ๕ บุคคลใดซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทําความผิดกับเจ้าพนักงานของรัฐหากได้ให้ถ้อยคําหรือแจ้งเบาะแสหรือข้อมูลอันเป็นสาระสําคัญในการที่จะใช้เป็นพยานหลักฐานในการวินิจฉัยชี้มูลการกระทําผิดของเจ้าพนักงานของรัฐรายอื่น หรือผู้ถูกกล่าวหารายอื่น คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะกันผู้นั้นไว้เป็นพยาน โดยไม่ดําเนินคดีก็ได้
ข้อ ๖ บุคคลที่อาจถูกกันไว้เป็นพยานต้องมีลักษณะ ดังต่อไปนี้
(1) เป็นผู้ที่รู้เห็นเหตุการณ์และมีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีส่วนร่วมในการกระทําผิดกับเจ้าพนักงานของรัฐที่อยู่ระหว่างการดําเนินการไต่สวนเบื้องต้น หรือการไต่สวน
(2) เป็นผู้ที่ได้ให้ถ้อยคําอันเป็นประโยชน์ต่อการไต่สวนเบื้องต้น หรือการไต่สวนหรือให้ถ้อยคําหรือแจ้งเบาะแส หรือข้อมูลอันเป็นสาระสําคัญจนสามารถใช้เป็นพยานหลักฐานในการวินิจฉัยชี้มูลการกระทําผิดของเจ้าพนักงานของรัฐรายอื่นที่เป็นตัวการสําคัญนั้น
(3) เป็นผู้ที่เต็มใจที่จะให้ถ้อยคํา หรือแจ้งเบาะแสหรือข้อมูลตาม (2) และรับรองว่าจะไปเบิกความเป็นพยานในชั้นศาลตามที่ให้การหรือให้ถ้อยคําไว้
ข้อ ๗ การกันบุคคลไว้เป็นพยานของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้กระทําได้ในขั้นตอนการไต่สวนเบื้องต้น หรือการไต่สวน
ข้อ ๘ การพิจารณากันบุคคลเป็นพยานและการสอบปากคําผู้ที่จะถูกกันไว้เป็นพยานต้องมิได้เกิดจากการขู่เข็ญ หลอกลวง หรือการกระทําโดยมิชอบด้วยประการอื่นใด เพื่อชักจูงหรือจูงใจให้บุคคลดังกล่าว ให้ถ้อยคําหรือข้อมูลในเรื่องที่กล่าวหานั้น
ข้อ ๙ ในกรณีที่บุคคลตามข้อ 6 รายใด ประสงค์ที่จะให้ถ้อยคํา หรือแจ้งเบาะแสหรือข้อมูลอันเป็นสาระสําคัญในการที่จะใช้เป็นพยานหลักฐานประกอบในการวินิจฉัยชี้มูลการกระทําผิดของผู้ถูกกล่าวหารายอื่น ก็ให้บุคคลนั้นมีคําขอด้วยวาจาหรือเป็นหนังสือต่อคณะไต่สวนเบื้องต้นหรือคณะกรรมการไต่สวน เพื่อขอให้กันตนไว้เป็นพยานในคดีนั้นได้ และให้คณะไต่สวนเบื้องต้นหรือคณะกรรมการไต่สวนทําความเห็นเสนอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาต่อไป
ข้อ ๑๐ ในระหว่างการไต่สวนเบื้องต้นหรือการไต่สวน หากคณะไต่สวนเบื้องต้นหรือคณะกรรมการไต่สวน แล้วแต่กรณี พบว่าคําให้การของบุคคลใดจะเป็นประโยชน์ในการพิสูจน์ความผิดของผู้ถูกกล่าวหารายใด และสามารถที่จะใช้เป็นพยานหลักฐานในการวินิจฉัยชี้มูลการกระทําผิดของผู้ถูกกล่าวหานั้น ให้คณะไต่สวนเบื้องต้น หรือคณะกรรมการไต่สวน แล้วแต่กรณี สอบปากคําบุคคลดังกล่าวไว้และทําความเห็นว่าสมควรกันบุคคลผู้นั้นเป็นพยานหรือไม่ เพื่อเสนอคณะกรรมการป.ป.ช. พิจารณาวินิจฉัยต่อไป
ความในวรรคหนึ่ง ให้นํามาใช้บังคับกับการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยโดยอนุโลม
ข้อ ๑๑ เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รับความเห็นตามข้อ 9 หรือข้อ 10 แล้วให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาคําขอหรือความเห็นดังกล่าว โดยคํานึงถึงเหตุ ดังต่อไปนี้
(1) หากไม่กันบุคคลนั้นเป็นพยานแล้ว พยานหลักฐานที่มีอยู่อาจไม่เพียงพอและไม่อาจรวบรวมพยานหลักฐานอื่นแทนเพื่อให้เพียงพอแก่การที่จะดําเนินคดีกับผู้ถูกกล่าวหารายอื่นที่เป็นตัวการสําคัญ และ
(2) บุคคลนั้นจะต้องไปเบิกความตามที่ได้ให้การไว้
ข้อ ๑๒ ในการเสนอความเห็นว่าสมควรกันบุคคลรายใดเป็นพยานหรือไม่ ให้คณะไต่สวนเบื้องต้นหรือคณะกรรมการไต่สวน แล้วแต่กรณี เสนอความเห็นดังกล่าวต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาวินิจฉัย ก่อนจัดทํารายงานการไต่สวนเบื้องต้นหรือสํานวนการไต่สวน และเมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเป็นประการใดแล้ว ให้นํามติของคณะกรรมการ ป.ป.ช. รวมไว้ในรายงานการไต่สวนเบื้องต้นหรือสํานวนการไต่สวนต่อไป
ข้อ ๑๓ ในกรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นว่ามีเหตุสมควรที่จะกันบุคคลใดไว้เป็นพยาน ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้กันบุคคลนั้นไว้เป็นพยานในคดีต่อไป โดยมติดังกล่าวจะต้องระบุเหตุผลแห่งการพิจารณาไว้ด้วยว่าสมควรที่จะกันบุคคลรายดังกล่าวไว้เป็นพยานด้วยเหตุใด
ในกรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นว่าไม่มีเหตุสมควรที่จะกันบุคคลนั้นไว้เป็นพยานให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติไม่กันบุคคลนั้นไว้เป็นพยาน และให้ดําเนินการไต่สวนต่อไป
ให้ประธานกรรมการไต่สวน หรือหัวหน้าพนักงานไต่สวนแจ้งมติของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง ให้บุคคลดังกล่าวทราบโดยไม่ชักช้า
ข้อ ๑๔ เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้กันบุคคลรายใดไว้เป็นพยานในคดีใดแล้วย่อมถือว่าบุคคลนั้นอยู่ในฐานะพยานของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในคดีนั้น และห้ามมิให้ดําเนินคดีอาญาหรือดําเนินการทางวินัยกับบุคคลซึ่งถูกกันไว้เป็นพยานในเรื่องนั้นอีก โดยบุคคลดังกล่าวอาจได้รับการคุ้มครองหรือจัดให้มีมาตรการคุ้มครองช่วยเหลือด้วยตามสมควร
หากพยานตามวรรคหนึ่ง ไม่ไปเบิกความหรือไปเบิกความแต่ไม่เป็นไปตามที่ให้การหรือให้ถ้อยคําไว้ หรือไปเบิกความเป็นพยานแต่ไม่เป็นประโยชน์ในการพิจารณา หรือเป็นปฏิปักษ์ย่อมไม่ได้รับการกันไว้เป็นพยานและให้การกันบุคคลเป็นพยานสิ้นสุดลง และให้ดําเนินคดีกับบุคคลนั้นต่อไป
บุคคลที่ถูกกันไว้เป็นพยานตามประกาศนี้ ย่อมได้รับความคุ้มครองทั้งตําแหน่งของพยานที่ดํารงอยู่และการเลื่อนขั้นเงินเดือน รวมถึงสิทธิประโยชน์อื่นด้วย
ข้อ ๑๕ ให้ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเป็นผู้รักษาการตามระเบียบนี้
ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการบังคับใช้หรือการปฏิบัติตามระเบียบนี้ ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอํานาจตีความและวินิจฉัยชี้ขาด คําวินิจฉัยของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้เป็นที่สุด
บทเฉพาะกาล - ------------------
ข้อ ๑๖ บรรดาการดําเนินการใด ๆ เกี่ยวกับการกันบุคคลหรือผู้ถูกกล่าวหาไว้เป็นพยานโดยไม่ดําเนินคดีตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการกันบุคคลหรือผู้ถูกกล่าวหาไว้เป็นพยานโดยไม่ดําเนินคดี พ.ศ. 2554 ที่ได้ดําเนินการไปแล้ว ให้ถือว่าเป็นการดําเนินการโดยชอบ และให้ดําเนินการต่อไปตามประกาศนี้
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2561
พลตํารวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ
ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ | 7,640 |
ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง กำหนดสถานที่ตั้งของศาลแขวงเชียงราย | ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม
เรื่อง กําหนดสถานที่ตั้งของศาลแขวงเชียงราย
------------------------
อื่นๆ - ด้วยพระราชกฤษฎีกากําหนดจํานวน เขตอํานาจ และวันเปิดทําการของศาลแขวง ในจังหวัดเชียงราย พ.ศ. 2562 กําหนดให้ในจังหวัดเขียงรายให้มีศาลแขวงเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งศาล คือ ศาลแขวงเชียงราย มีเขตอํานาจในอําเภอเชียงแสน อําเภอดอยหลวง อําเภอพาน อําเภอเมืองเชียงราย อําเภอแม่จัน อําเภอแม่ฟ้าหลวง อําเภอแม่ลาว อําเภอแม่สาย อําเภอเวียงชัย และอําเภอเวียงเชียงรุ้ง โดยให้เริ่มทําการตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2562 เป็นต้นไป
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 วรรคสาม แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรม คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมจึงออกประกาศกําหนดสถานที่ตั้งของศาลแขวงเชียงราย โดยกําหนดให้ศาลแขวงเชียงรายตั้งอยู่เลขที่ 98 ถนนธนาลัย ตําบลเวียง อําเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2562
ชีพ จุลมนต์
ประธานศาลฎีกา
ประธานกรรมการบริหารศาลยุติธรรม | 7,641 |
ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพังงา | ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม
เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพังงา
---------------------------
อื่นๆ - ด้วยศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพังงา จะย้ายที่ทําการไปยังอาคารที่ทําการศาลหลังใหม่
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 วรรคสาม แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรม คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมจึงออกประกาศเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพังงา จากอาคารที่ทําการหลังเดิม เลขที่ 68/17 - 19 ถนนพังงา - ทับปุด ตําบลถ้ําน้ําผุด อําเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา ไปยังอาคารที่ทําการหลังใหม่ เลขที่ 621 ถนนเพชรเกษม ตําบลท้ายช้าง อําเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา โดยเริ่มทําการตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม 2562 เป็นต้นไป
อื่นๆ - ประกาศ ณ วันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2562
ชีพ จุลมนต์
ประธานศาลฎีกา
ประธานกรรมการบริหารศาลยุติธรรม | 7,642 |
ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ของผู้ซึ่งอยู่กินกันฉันสามีภริยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรสอันถือว่าเป็นคู่สมรส พ.ศ. 2561 | ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
เรื่อง หลักเกณฑ์ของผู้ซึ่งอยู่กินกันฉันสามีภริยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรสอันถือว่าเป็นคู่สมรส
พ.ศ. 2561
--------------------------------
โดยที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 หมวด 5 การดําเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สิน มาตรา 102 วรรคสอง และหมวด 6 การขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม มาตรา 126 วรรคสาม กําหนดให้คู่สมรสหมายความรวมถึงผู้ซึ่งอยู่กินกันฉันสามีภริยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรสด้วย ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กําหนด
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 102 วรรคสอง และมาตรา 126 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ของผู้ซึ่งอยู่กินกันฉันสามีภริยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรสอันถือว่าเป็นคู่สมรส พ.ศ. 2561”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกําหนดสามสิบวันนับแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ บุคคลซึ่งอยู่กินกันฉันสามีภริยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรสกับเจ้าพนักงานของรัฐ และมีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ ให้ถือเป็นคู่สมรสตามมาตรา 102 วรรคสอง และมาตรา 126 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561
(1) ได้ทําพิธีมงคลสมรสหรือพิธีอื่นใดในทํานองเดียวกันกับเจ้าพนักงานของรัฐโดยมีบุคคลในครอบครัวหรือบุคคลภายนอกรับทราบว่าเป็นการอยู่กินเป็นสามีภริยากันตามประเพณี
(2) เจ้าพนักงานของรัฐแสดงให้ปรากฎว่ามีสถานะเป็นสามีภริยากัน หรือมีพฤติการณ์เป็นที่รับรู้ของสังคมทั่วไปว่ามีสถานะดังกล่าว
ทั้งนี้ ให้หมายความรวมถึงบุคคลซึ่งจดทะเบียนสมรสกับเจ้าพนักงานของรัฐและต่อมาได้จดทะเบียนหย่าขาดจากกันตามกฎหมาย แต่ยังแสดงให้ปรากฎหรือมีพฤติการณ์ซึ่งเป็นที่รับรู้ของสังคมทั่วไปว่ามีสถานะเป็นสามีหรือภริยากัน
ข้อ ๔ ให้ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเป็นผู้รักษาการตามประกาศนี้
อในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการบังคับใช้หรือการปฏิบัติตามประกาศนี้ ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอํานาจตีความและวินิจฉัยชี้ขาด คําวินิจฉัยของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้เป็นที่สุด
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2561
พลตํารวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ
ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ | 7,643 |
ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลอุทธรณ์ภาค 1 | ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม
เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลอุทธรณ์ภาค 1
--------------------------
อื่นๆ - ด้วยศาลอุทธรณ์ภาค 1 จะย้ายที่ทําการไปยังอาคารที่ทําการศาลหลังใหม่
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 วรรคสาม แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรม คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมจึงออกประกาศเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลอุทธรณ์ภาค 1 จากที่ทําการศาลอุทธรณ์ภาค 1 หลังเดิม อาคารศาลอาญา ชั้น 5, 13 ถนนรัชดาภิเษก แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ไปยังอาคารที่ทําการหลังใหม่ อาคารศาลอุทธรณ์ภาค 1 เลขที่ 101 หมู่ที่ 10 ตําบลคลองหนึ่ง อําเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี โดยเริ่มทําการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2562 เป็นต้นไป
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2562
ชีพ จุลมนต์
ประธานศาลฎีกา
ประธานกรรมการบริหารศาลยุติธรรม | 7,644 |
ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง กำหนดตำแหน่งของผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตามมาตรา 102 (9) พ.ศ. 2561 | ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
เรื่อง กําหนดตําแหน่งของผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิก
สภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตามมาตรา 102 (9)
พ.ศ. 2561
----------------------------------
โดยที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 234 (3) บัญญัติให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมีหน้าที่และอํานาจกําหนดให้ผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ดํารงตําแหน่งในองค์กรอิสระ ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และเจ้าหน้าที่ของรัฐยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะรวมทั้งตรวจสอบและเปิดเผยผลการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของบุคคลดังกล่าว ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 28 (3) ประกอบมาตรา 102 (9) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง กําหนดตําแหน่งของผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตามมาตรา 102 (9) พ.ศ. 2561”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกําหนดสามสิบวันนับแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิก
(1) ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง กําหนดตําแหน่งผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2554
(2) ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง กําหนดตําแหน่งผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560
ข้อ ๔ ให้ผู้ดํารงตําแหน่งผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดังต่อไปนี้ ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.
1) กรุงเทพมหานคร
(1) ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
(2) รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
(3) ประธานที่ปรึกษา ที่ปรึกษา เลขานุการ และผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
(4) สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร
2) เมืองพัทยา
(1) นายกเมืองพัทยา
(2) รองนายกเมืองพัทยา
(3) ประธานที่ปรึกษา ที่ปรึกษา และเลขานุการนายกเมืองพัทยา
(4) สมาชิกสภาเมืองพัทยา
3) องค์การบริหารส่วนจังหวัด
(1) นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด
(2) รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด
(3) ที่ปรึกษาและเลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด
(4) สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด
4) เทศบาลนคร
(1) นายกเทศมนตรี
(2) รองนายกเทศมนตรี
(3) ที่ปรึกษาและเลขานุการนายกเทศมนตรี
(4) สมาชิกสภาเทศบาล
5) เทศบาลเมือง
(1) นายกเทศมนตรี
(2) รองนายกเทศมนตรี
(3) สมาชิกสภาเทศบาล
6) เทศบาลตําบล
(1) นายกเทศมนตรี
(2) รองนายกเทศมนตรี
7) องค์การบริหารส่วนตําบล
(1) นายกองค์การบริหารส่วนตําบล
(2) รองนายกองค์การบริหารส่วนตําบล
ข้อ ๕ การยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินที่ได้ยื่นไว้แล้วตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ให้ถือว่าเป็นการยื่นตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561
ข้อ ๖ ให้ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเป็นผู้รักษาการตามประกาศนี้
ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการบังคับใช้หรือการปฏิบัติตามประกาศนี้ ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอํานาจตีความและวินิจฉัยชี้ขาด คําวินิจฉัยของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้เป็นที่สุด
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2561
พลตํารวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ
ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ | 7,645 |
ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลอุทธรณ์ภาค 7 | ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม
เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลอุทธรณ์ภาค 7
----------------
อื่นๆ - ด้วยศาลอุทธรณ์ภาค 7 จะย้ายที่ทําการไปยังอาคารที่ทําการศาลหลังใหม่
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 วรรคสาม แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรม คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมจึงออกประกาศเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลอุทธรณ์ภาค 7 จากที่ทําการศาลอุทธรณ์ภาค 7 หลังเดิม ถนนรัชดาภิเษก แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ไปยังอาคารที่ทําการหลังใหม่ เลขที่ 100/1 หมู่ที่ 6 ตําบลถนนขาด อําเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม โดยเริ่มทําการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2562 เป็นต้นไป
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2562
ชีพ จุลมนต์
ประธานศาลฎีกา
ประธานกรรมการบริหารศาลยุติธรรม | 7,646 |
ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง กำหนดตำแหน่งของผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ต้องเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน พ.ศ. 2561 | ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
เรื่อง กําหนดตําแหน่งของผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น
และสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ต้องเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน
พ.ศ. 2561
---------------------------------
โดยที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 106 กําหนดให้เพื่อประโยชน์ในการมีส่วนร่วมของประชาชนในการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สิน ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ที่ตั้งของอสังหาริมทรัพย์ และเอกสารประกอบของผู้ดํารงตําแหน่งตามมาตรา 112 (1) เฉพาะนายกรัฐมนตรีรัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา และบุคคลตามมาตรา102 (2) (3) (7) และ (9) รวมทั้งของคู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของบุคคลดังกล่าวให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไป และมาตรา 106 วรรคสอง กําหนดให้การเปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้บริหารท้องถิ่นรองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่น ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการป.ป.ช. กําหนด
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 106 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า "ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง กําหนดตําแหน่งของผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ต้องเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน พ.ศ. 2561"
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกําหนดสามสิบวันนับแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ตําแหน่งดังต่อไปนี้ เป็นตําแหน่งที่ต้องเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน
1) กรุงเทพมหานคร
(1) ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
(2) รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
2) เมืองพัทยา
(1) นายกเมืองพัทยา
(2) รองนายกเมืองพัทยา
3) องค์การบริหารส่วนจังหวัด
(1) นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด
4) เทศบาลนคร
(1) นายกเทศมนตรี
5) เทศบาลเมือง
(1) นายกเทศมนตรี
6) เทศบาลตําบล
(1) นายกเทศมนตรี
7) องค์การบริหารส่วนตําบล
(1) นายกองค์การบริหารส่วนตําบล
ข้อ ๔ ให้ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเป็นผู้รักษาการตามประกาศนี้
ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการบังคับใช้หรือการปฏิบัติตามประกาศนี้ ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอํานาจตีความและวินิจฉัยชี้ขาด คําวินิจฉัยของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้เป็นที่สุด
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2561
พลตํารวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ
ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ | 7,647 |
ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลจังหวัดนครปฐม | ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม
เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลจังหวัดนครปฐม
--------------------------------
อื่นๆ - ด้วยศาลจังหวัดนครปฐม จะย้ายที่ทําการไปยังอาคารที่ทําการศาลหลังใหม่
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 วรรคสาม แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรม คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมจึงออกประกาศเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลจังหวัดนครปฐม จากที่ทําการศาลจังหวัดนครปฐมหลังเดิม เลขที่ 86 ถนนเทศา ตําบลพระปฐมเจดีย์ อําเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม ไปยังอาคารที่ทําการหลังใหม่ เลขที่ 100 หมู่ที่ 6 ตําบลถนนขาด อําเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม โดยเริ่มทําการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2562 เป็นต้นไป
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2562
ชีพ จุลมนต์
ประธานศาลฎีกา
ประธานกรรมการบริหารศาลยุติธรรม | 7,648 |
ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง กำหนดสถานที่ตั้งของศาลแพ่งตลิ่งชัน ศาลแพ่งพระโขนง ศาลแพ่งมีนบุรี ศาลอาญาตลิ่งชัน ศาลอาญาพระโขนง และศาลอาญามีนบุรี | ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม
เรื่อง กําหนดสถานที่ตั้งของศาลแพ่งตลิ่งชัน ศาลแพ่งพระโขนง ศาลแพ่งมีนบุรี
ศาลอาญาตลิ่งชัน ศาลอาญาพระโขนง และศาลอาญามีนบุรี
--------------------------
อื่นๆ - ด้วยพระราชกฤษฎีกากําหนดที่ตั้งและวันเปิดทําการศาลแพ่งตลิ่งชัน ศาลแพ่งพระโขนง ศาลแพ่งมีนบุรี ศาลอาญาตลิ่งชัน ศาลอาญาพระโขนง และศาลอาญามีนบุรี พ.ศ. 2562 กําหนดให้ศาลแพ่งตลิ่งชันและศาลอาญาตลิ่งชัน ตั้งอยู่ ณ เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร ศาลแพ่งพระโขนงและศาลอาญาพระโขนง ตั้งอยู่ ณ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร ศาลแพ่งมีนบุรีและศาลอาญามีนบุรีตั้งอยู่ ณ เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร โดยให้เปิดทําการตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2562 เป็นต้นไป
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 วรรคสาม แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรม คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมจึงออกประกาศกําหนดสถานที่ตั้งของศาลแพ่งตลิ่งชัน ศาลแพ่งพระโขนง ศาลแพ่งมีนบุรี ศาลอาญาตลิ่งชัน ศาลอาญาพระโขนง และศาลอาญามีนบุรี โดยกําหนดให้
1. ศาลแพ่งตลิ่งชันตั้งอยู่ เลขที่ 88 หมู่ที่ 5 ถนนทุ่งมังกร แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร
2. ศาลแพ่งพระโขนงตั้งอยู่ เลขที่ 379 ถนนสรรพาวุธ แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร
3. ศาลแพ่งมีนบุรีตั้งอยู่ เลขที่ 335 ถนนสีหบุรานุกิจ แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร
4. ศาลอาญาตลิ่งชันตั้งอยู่ เลขที่ 88 หมู่ที่ 5 ถนนทุ่งมังกร แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร
5. ศาลอาญาพระโขนงตั้งอยู่ เลขที่ 379 ถนนสรรพาวุธ แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร
6. ศาลอาญามีนบุรีตั้งอยู่ เลขที่ 335 ถนนสีหบุรานุกิจ แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2562
ชีพ จุลมนต์
ประธานศาลฎีกา
ประธานกรรมการบริหารศาลยุติธรรม | 7,649 |
ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ | ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม
เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลจังหวัดอุตรดิตถ์
------------------------
อื่นๆ - ด้วยศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ จะย้ายที่ทําการไปยังอาคารที่ทําการศาลหลังใหม่
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 วรรคสาม แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรม คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมจึงออกประกาศเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ จากอาคารที่ทําการหลังเดิม ถนนประชานิมิตร ตําบลท่าอิฐ อําเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ไปยังอาคารที่ทําการหลังใหม่ อาคารศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ เลขที่ 7 หมู่ที่ 9 ตําบลน้ําริด อําเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยเริ่มทําการตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2563 เป็นต้นไป
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2563
ไสลเกษ วัฒนพันธุ์
ประธานศาลฎีกา
ประธานกรรมการบริหารศาลยุติธรรม | 7,650 |
ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดปราจีนบุรี | ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม
เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดปราจีนบุรี
------------------------
อื่นๆ - ด้วยศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดปราจีนบุรี จะย้ายที่ทําการไปยังอาคารที่ทําการศาลหลังใหม่
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 วรรคสาม แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรม คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมจึงออกประกาศเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดปราจีนบุรีจากอาคารที่ทําการหลังเดิม เลขที่ 65 หมู่ที่ 3 ตําบลบางบริบูรณ์ อําเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรีไปยังอาคารที่ทําการหลังใหม่ เลขที่ 55 ถนนปราจีนอนุสรณ์ ตําบลหน้าเมือง อําเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี โดยเริ่มทําการตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม 2562 เป็นต้นไป
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2562
ชีพ จุลมนต์
ประธานศาลฎีกา
ประธานกรรมการบริหารศาลยุติธรรม | 7,651 |
ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลอุทธรณ์ภาค 9 | ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม
เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลอุทธรณ์ภาค 9
---------------------------------
อื่นๆ - ด้วยศาลอุทธรณ์ภาค 9 จะย้ายที่ทําการไปยังอาคารที่ทําการศาลหลังใหม่
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 วรรคสาม แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรม คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมจึงออกประกาศเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลอุทธรณ์ภาค 9 จากอาคารที่ทําการหลังเดิม เลขที่ 123 ชั้น 6 อาคารศาลแพ่งธนบุรี ศาลอาญาธนบุรี ถนนเอกชัย แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร ไปยังอาคารที่ทําการหลังใหม่ อาคารศาลอุทธรณ์ภาค 9 เลขที่ 124/1 ถนนราชดําเนินนอก ตําบลบ่อยาง อําเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา โดยเริ่มทําการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2563
ไสลเกษ วัฒนพันธุ์
ประธานศาลฎีกา
ประธานกรรมการบริหารศาลยุติธรรม | 7,652 |
ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครนายก | ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม
เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครนายก
---------------------------
อื่นๆ - ด้วยศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครนายก จะย้ายที่ทําการไปยังอาคารที่ทําการศาลหลังใหม่
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 วรรคสาม แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรม คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมจึงออกประกาศเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครนายกจากอาคารที่ทําการหลังเดิม เลขที่ 161, 161/1 - 2 หมู่ที่ 13 ถนนนครนายก - รังสิต ตําบลท่าช้าง อําเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก ไปยังอาคารที่ทําการหลังใหม่ อาคารศาลเยาวชน และครอบครัวจังหวัดนครนายก ถนนธงไชย อําเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก โดยเริ่มทําการตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2562 เป็นต้นไป
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2562
ชีพ จุลมนต์
ประธานศาลฎีกา
ประธานกรรมการบริหารศาลยุติธรรม | 7,653 |
ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง กำหนดสถานที่ตั้งของศาลแขวงกระบี่ | ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม
เรื่อง กําหนดสถานที่ตั้งของศาลแขวงกระบี่
--------------------
อื่นๆ - ด้วยพระราชกฤษฎีกากําหนดจํานวน เขตอํานาจ และวันเปิดทําการของศาลแขวง ในจังหวัดกระบี่พ.ศ. 2563 กําหนดให้ในจังหวัดกระบี่ให้มีศาลแขวงหนึ่งศาล คือ ศาลแขวงกระบี่ มีเขตอํานาจในอําเภอทุกอําเภอ โดยให้เริ่มทําการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เป็นต้นไป
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 วรรคสาม แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรม คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมจึงออกประกาศกําหนดสถานที่ตั้งของศาลแขวงกระบี่ โดยกําหนดให้ศาลแขวงกระบี่ ตั้งอยู่เลขที่ 150 หมู่ที่ 11 ถนนเพชรเกษม ตําบลกระบี่น้อย อําเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2563
ไสลเกษ วัฒนพันธุ์
ประธานศาลฎีกา
ประธานกรรมการบริหารศาลยุติธรรม | 7,654 |
ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุทัยธานี | ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม
เรื่อง เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุทัยธานี
--------------------------
อื่นๆ - ด้วยศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุทัยธานี จะย้ายที่ทําการไปยังอาคารที่ทําการศาลหลังใหม่
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 วรรคสาม แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรม คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมจึงออกประกาศเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลเยาวชนและครอบครัว จังหวัดอุทัยธานี จากอาคารที่ทําการหลังเดิม ที่ทําการชั่วคราวศาลเยาวชนและครอบครัว จังหวัดอุทัยธานี เลขที่ 666 หมู่ที่ 3 ตําบลน้ําซึม อําเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี ไปยังอาคารที่ทําการหลังใหม่ อาคารศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุทัยธานี เลขที่ 27 ถนนศรีอุทัย ตําบลอุทัยใหม่ อําเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี โดยเริ่มทําการตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไป
ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2563
ไสลเกษ วัฒนพันธุ์
ประธานศาลฎีกา
ประธานกรรมการบริหารศาลยุติธรรม | 7,655 |
Subsets and Splits
No saved queries yet
Save your SQL queries to embed, download, and access them later. Queries will appear here once saved.