title
stringlengths
8
870
text
stringlengths
0
298k
__index_level_0__
int64
0
54.3k
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1008/ว 6 เรื่อง การปรับปรุงมาตรฐานกำหนดตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง
ที่ นร 1008/ว 6 สํานักงาน ก.พ. ถนนติวานนท์ จังหวัดนนทบุรี 11000 25 พฤษภาคม 2560 เรื่อง การปรับปรุงมาตรฐานกําหนดตําแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง เรียน (เวียนกระทรวง กรม และจังหวัด) อ้างถึง หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1008/ว 5 ลงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2559 สิ่งที่ส่งมาด้วย มาตรฐานกําหนดตําแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง จํานวน 4 สายงาน อื่นๆ - ตามหนังสือทีอ้างถึง ก.พ. ได้แจ้งมติการปรับปรุงมาตรฐานกําหนดตําแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง มาเพื่อส่วนราชการทราบและถือปฏิบัติ ความแจ้งแล้ว นั้น บัดนี้ ก.พ. ได้มีมติให้ปรับปรุงมาตรฐานกําหนดตําแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง จํานวน 4 สายงาน ได้แก่ สายงานบริหาร สายงานบริหารงานปกครอง สายงานบริหารการทูต และสายงานตรวจราชการกระทรวง รายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2560 เป็นต้นไป ซึ่งสํานักงาน ก.พ. ได้นํามาตรฐานกําหนดตําแหน่งดังกล่าวลงในเว็บไซต์ของสํานักงาน ก.พ. ที่ ด้วยแล้ว จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นางเมธินี เทพมณี) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - สํานักพัฒนาระบบจําแนกตําแหน่งและค่าตอบแทน โทร. 0 2547 1000 ต่อ 6626 โทรสาร 0 2547 1437
6,351
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 79/2560 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนพฤศจิกายน 2560
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 79/2560 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนพฤศจิกายน 2560 ---------------------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนพฤศจิกายน 2560 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ.44/14/60 | 20,000 | 3 พฤศจิกายน 2560 | 17/11/60 – 21/11/60 | 14 | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2560 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 (นางสาววชิรา อารมณ์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,352
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 80/2560 เรื่อง กำหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2560 สำหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 7 พฤศจิกายน 2560
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 80/2560 เรื่อง กําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2560 สําหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 7 พฤศจิกายน 2560 ------------------------ อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2560 สําหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 7 พฤศจิกายน 2560 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดอัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2560 สําหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 7 พฤศจิกายน 2560เท่ากับร้อยละ 1.46636 ต่อปี (เท่ากับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงระยะสั้นการกู้ยืมเงินระหว่างธนาคารของตลาดกรุงเทพฯ (BIBOR) ระยะ 3 เดือน ณ วันที่ 3 พฤศจิกายน 2560 ลบร้อยละ 0.1) อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน 2560 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 3 พฤศจิกายน 2560 (นางสาววชิรา อารมย์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,353
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สรข. 25/2561 เรื่อง กำหนดอัตราดอกเบี้ยในการคำนวณราคาพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2560
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สรข. 25/2561 เรื่อง กําหนดอัตราดอกเบี้ยในการคํานวณราคาพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2560 อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดอัตราดอกเบี้ยในการคํานวณราคา สําหรับพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2560 ที่จะประมูลในวันที่ 20 เมษายน 2561 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ตามกําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประจําเดือนเมษายน พ.ศ. 2561 ที่จะเปิดประมูลพันธบัตรประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2560 ในวันที่ 20 เมษายน 2561 โดยธนาคารแห่งประเทศไทยจะประกาศอัตราดอกเบี้ยเพื่อใช้ในการคํานวณราคาพันธบัตรดังกล่าว ในวันที่ 18 เมษายน 2561 นั้น ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดอัตราดอกเบี้ยในการคํานวณราคาพันธบัตรดังกล่าว เพื่อใช้สําหรับช่วงวันชําระเงินถึงวันจ่ายดอกเบี้ยถัดไป (I1) เท่ากับร้อยละ 1.51595 ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง (I2) เท่ากับร้อยละ 1.57262 ต่อปี อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2561 เป็นต้นไป ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 18 เมษายน2561 (นายวชิรา อารมย์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,354
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1008/ว 7 เรื่อง การปรับปรุงมาตรฐานกำหนดตำแหน่งสายงานปฏิบัติงานช่างขุดลอก ระดับอาวุโส
ที่ นร 1008/ว 7 สํานักงาน ก.พ. ถนนติวานนท์ จังหวัดนนทบุรี 11000 14 มิถุนายน 2560 เรื่อง การปรับปรุงมาตรฐานกําหนดตําแหน่งสายงานปฏิบัติงานช่างขุดลอก ระดับอาวุโส เรียน (เวียนกระทรวง กรม และจังหวัด) อ้างถึง หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1008/ว 10 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2551 สิ่งที่ส่งมาด้วย มาตรฐานกําหนดตําแหน่งสายงานช่างขุดลอก ตําแหน่งนายช่างขุดลอก ระดับอาวุโส อื่นๆ - ตามหนังสือทีอ้างถึง แจ้งว่า ก.พ. ได้จัดทํามาตรฐานกําหนดตําแหน่งตามมาตรา 48 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 จํานวน 245 สายงาน มาเพื่อส่วนราชการทราบและถือปฏิบัติ ความละเอียดแจ้งแล้ว นั้น บัดนี้ ก.พ. ได้มีมติให้ปรับปรุงมาตรฐานกําหนดตําแหน่งสายงานปฏิบัติงานช่างขุดลอก ตําแหน่งนายช่างขุดลอก ระดับอาวุโส โดยกําหนดให้ได้รับเงินเดือนถึงอัตราขั้นสูงของบัญชีเงินเดือนขั้นต่ําขั้นสูงของข้าราชการพลเรือนสามัญ ตําแหน่งประเภททั่วไป ระดับอาวุโส รายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2560 เป็นต้นไป ซึ่งสํานักงาน ก.พ. ได้นํามาตรฐานกําหนดตําแหน่งดังกล่าวลงในเว็บไซต์ของสํานักงาน ก.พ. ที่ www.ocsc.go.th ด้วยแล้ว จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นางเมธินี เทพมณี) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - สํานักพัฒนาระบบจําแนกตําแหน่งและค่าตอบแทน โทร. 0 2547 1000 ต่อ 6618 โทรสาร 0 2547 1437
6,355
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 81/2560 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนพฤศจิกายน 2560
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 81/2560 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนพฤศจิกายน 2560 ---------------------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนพฤศจิกายน 2560 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ.45/14/60 | 20,000 | 10 พฤศจิกายน 2560 | 14/11/60 – 28/11/60 | 14 | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2560 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 8 พฤศจิกายน 2560 (นางสาววชิรา อารมณ์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,356
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 82/2560 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนพฤศจิกายน 2560
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 82/2560 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนพฤศจิกายน 2560 ---------------------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนพฤศจิกายน 2560 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ.46/15/60 | 20,000 | 17 พฤศจิกายน 2560 | 21/11/60 – 6/12/60 | 15 | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2560 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2560 (นางสาววชิรา อารมณ์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,357
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1008/ว 8 เรื่อง การรับรองปริญญาและประกาศนียบัตรวิชาชีพของสถาบันอุดมศึกษาภาครัฐ
ที่ นร 1008/ว 8 สํานักงาน ก.พ. ถนนติวานนท์ จังหวัดนนทบุรี 11000 20 กรกฎาคม พ.ศ.2560 เรื่อง การรับรองปริญญาและประกาศนียบัตรวิชาชีพของสถาบันอุดมศึกษาภาครัฐ เรียน (เวียนกระทรวง กรม และจังหวัด) อ้างถึง หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1004/ว 3 ลงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2559 สิ่งที่ส่งมาด้วย คู่มือปริญญาและประกาศนียบัตรวิชาชีพของสถาบันอุดมศึกษาภาครัฐที่ ก.พ. รับรอง จํานวน 1 เล่ม อื่นๆ - ตามหนังสือที่อ้างถึง นําส่งรายชื่อปริญญาและประกาศนียบัตรวิชาชีพของสถาบันอุดมศึกษาภาครัฐต่าง ๆ ที่ ก.พ. รับรอง มาเพื่อส่วนราชการทราบและใช้ประโยชน์ในการบริหารทรัพยากรบุคคลของส่วนราชการ ความแจ้งแล้ว นั้น บัดนี้ ก.พ. ได้พิจารณามีมติรับรองคุณวุฒิของผู้ได้รับปริญญาและประกาศนียบัตรวิชาชีพของสถาบันอุดมศึกษาภาครัฐเพิ่มเติมจากที่กําหนดไว้ตามหนังสือที่อ้างถึง รายละเอียดปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นางเมธินี เทพมณี) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - ศูนย์สรรหาและเลือกสรร โทร. 0 2547 1921 - 7 โทรสาร 0 2547 1954
6,358
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 83/2560 เรื่อง กำหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2558 สำหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2560
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 83/2560 เรื่อง กําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2558 สําหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2560 ---------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2558 สําหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 17 พฤศจิกายน 2560 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดอัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2558 สําหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2560 เท่ากับร้อยละ 1.46989 ต่อปี (เท่ากับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงระยะสั้นการกู้ยืมเงินระหว่างธนาคารของตลาดกรุงเทพฯ (BIBOR) ระยะ 3 เดือน ณ วันที่ 15 พฤศจิกายน 2560 ลบร้อยละ 0.1) อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2560 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 15 พฤศจิกายน 2560 (นางสาววชิรา อารมย์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,359
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 26/2561 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนเมษายน 2561
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 26/2561 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนเมษายน 2561 ---------------------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนเมษายน 2561 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ.17/13/61 | 20,000 | 27 เมษายน 2561 | 2/5/61 – 15/5/61 | 13 | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2561 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 25 เมษายน 2561 (นางสาววชิรา อารมณ์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,360
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1008/ว 9 เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเทียบตำแหน่งอย่างอื่นเท่ากับการดำรงตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
ที่ นร 1008/ว 9 สํานักงาน ก.พ. ถนนติวานนท์ จังหวัดนนทบุรี 11000 21 กรกฎาคม 2560 เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเทียบตําแหน่งอย่างอื่นเท่ากับการดํารงตําแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 เรียน (เวียนกระทรวง กรม และจังหวัด) อ้างถึง หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1008/ว 30 ลงวันที่ 15 กันยายน 2553 สิ่งที่ส่งมาด้วย 1. หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเทียบตําแหน่งอย่างอื่นเท่ากับการดํารงตําแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 กรณีตําแหน่งข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา 2. หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเทียบตําแหน่งอย่างอื่นเท่ากับการดํารงตําแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 กรณีตําแหน่งพนักงานส่วนท้องถิ่น อื่นๆ - ตามหนังสือทีอ้างถึง แจ้งมติ ก.พ. กําหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเทียบตําแหน่งอย่างอื่นเท่ากับการดํารงตําแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาเพื่อส่วนราชการทราบและถือปฏิบัติ นั้น โดยที่พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ได้บัญญัติให้ปรับปรุงระบบจําแนกตําแหน่งของข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา จากเดิมจําแนกตําแหน่งตามมาตรฐานกลาง 11 ระดับ เป็นจําแนกตําแหน่งตามกลุ่มลักษณะงาน และคณะกรรมการมาตรฐานการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น (ก.ถ.) ได้มีมติให้ปรับปรุงระบบจําแนกตําแหน่งของข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นตามประกาศ ก.ถ. เรื่อง กําหนดมาตรฐานกลางการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ 4) และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 6) ดังนั้น เพื่อให้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเทียบตําแหน่งฯ ตามหนังสือที่อ้างถึง สอดคล้องกับข้อเท็จจริงในปัจจุบันและเป็นประโยชน์ในการบริหารทรัพยากรบุคคลของส่วนราชการ ก.พ. จึงมีมติให้ยกเลิกการเทียบตําแหน่งข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาและตําแหน่งพนักงานส่วนท้องถิ่นตามหนังสือที่อ้างถึง และให้ใช้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเทียบตําแหน่งข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาและตําแหน่งพนักงานส่วนท้องถิ่นเท่ากับการดํารงตําแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 1 และ 2 จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นางเมธินี เทพมณี) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - สํานักพัฒนาระบบจําแนกตําแหน่งและค่าตอบแทน โทร. 0 2547 1000 ต่อ 6662 และ 6663 โทรสาร 0 2547 1437
6,361
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 84/2560 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนพฤศจิกายน 2560
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 84/2560 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนพฤศจิกายน 2560 ---------------------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนพฤศจิกายน 2560 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ.47/14/60 | 20,000 | 24 พฤศจิกายน 2560 | 28/11/60 – 12/12/60 | 14 | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน 2560 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤศจิกายน 2560 (นางสาววชิรา อารมณ์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,362
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 28/2561 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนพฤษภาคม 2561
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 28/2561 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนพฤษภาคม 2561 ---------------------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนพฤษภาคม 2561 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ.18/14/61 | 20,000 | 4 พฤษภาคม 2561 | 8/5/61 – 22/5/61 | 14 | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2561 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 2 พฤษภาคม 2561 (นางสาววชิรา อารมณ์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,363
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 85/2560 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนธันวาคม 2560
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 85/2560 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนธันวาคม 2560 ---------------------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนธันวาคม 2560 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ.48/13/60 | 20,000 | 1 ธันวาคม 2560 | 6/12/60 – 19/12/60 | 13 | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2560 (นางสาววชิรา อารมณ์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,364
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1008/ว 10 เรื่อง การปรับปรุงหลักเกณฑ์การปรับปรุงการกำหนดตำแหน่งสำหรับผู้ปฏิบัติงานประเภทวิชาการ และประเภททั่วไป โดยไม่เปลี่ยนประเภทตำแหน่งและสายงาน
ที่ นร 1008/ว 10 สํานักงาน ก.พ. ถนนติวานนท์ จังหวัดนนทบุรี 11000 30 สิงหาคม 2560 เรื่อง การปรับปรุงหลักเกณฑ์การปรับปรุงการกําหนดตําแหน่งสําหรับผู้ปฏิบัติงานประเภทวิชาการ และประเภททั่วไป โดยไม่เปลี่ยนประเภทตําแหน่งและสายงาน เรียน (เวียนกระทรวง กรม และจังหวัด) อ้างถึง หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1008/ว 2 ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2558 อื่นๆ - ตามหนังสือทีอ้างถึง ก.พ. ได้กําหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการกําหนดตําแหน่ง ตามมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาเพื่อส่วนราชการทราบและถือปฏิบัติ ความแจ้งแล้ว นั้น บัดนี้ ก.พ. พิจารณาเห็นว่า เพื่อให้การดําเนินการปรับปรุงการกําหนดตําแหน่งเป็นระดับต่ําลงได้ 1 ระดับ ของส่วนราชการต่าง ๆ มีความชัดเจนและเป็นมาตรฐานเดียวกัน ก.พ. จึงมีมติให้เพิ่มความในหลักเกณฑ์การปรับปรุงการกําหนดตําแหน่งสําหรับผู้ปฏิบัติงานประเภทวิชาการ และประเภททั่วไป โดยไม่เปลี่ยนประเภทตําแหน่งและสายงาน ว่า "ทั้งนี้ การปรับปรุงการกําหนดตําแหน่งเป็นระดับต่ําลงได้ 1 ระดับ ให้ดําเนินการได้ภายหลังจากที่ส่วนราชการได้ดําเนินการคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งระดับเดิมตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.พ. กําหนดแล้ว กรณีที่ส่วนราชการได้เสนอ อ.ก.พ. กระทรวง ปรับปรุงการกําหนดตําแหน่งเป็นระดับที่ต่ําลง 1 ระดับ ก่อนที่หลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.พ. กําหนดจะมีผลใช้บังคับ และอยู่ระหว่างดําเนินการคัดเลือกบุคคล ก็ให้ดําเนินการต่อไป" จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นางเมธินี เทพมณี) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - สํานักพัฒนาระบบจําแนกตําแหน่งและค่าตอบแทน โทร. 0 2547 1393 0 2547 1979 โทรสาร 0 2547 1437
6,365
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 87/2560 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนธันวาคม 2560
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 87/2560 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนธันวาคม 2560 ---------------------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนธันวาคม 2560 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ.49/14/60 | 20,000 | 7 ธันวาคม 2560 | 12/12/60 – 26/12/60 | 14 | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม 2560 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 4 ธันวาคม 2560 (นางสาววชิรา อารมณ์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,366
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 88/2560 เรื่อง กำหนดอัตราดอกเบี้ยในการคำนวณราคาพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2560
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 88/2560 เรื่อง กําหนดอัตราดอกเบี้ยในการคํานวณราคาพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2560 ----------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดอัตราดอกเบี้ยในการคํานวณราคา สําหรับพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2560 สําหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 8 ธันวาคม 2560 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ตามกําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประจําเดือนธันวาคม พ.ศ. 2560 ที่จะเปิดประมูลพันธบัตรประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2560 ในวันที่ 8 ธันวาคม 2560 โดยธนาคารแห่งประเทศไทยจะประกาศอัตราดอกเบี้ยเพื่อใช้ในการคํานวณราคาพันธบัตรดังกล่าวในวันที่ 6 ธันวาคม 2560 นั้น ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดอัตราดอกเบี้ยในการคํานวณราคาพันธบัตรดังกล่าวเพื่อใช้สําหรับช่วงวันชําระเงินถึงวันจ่ายดอกเบี้ยถัดไป (I1) เท่ากับร้อยละ 1.53946 ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง (I2) เท่ากับร้อยละ 1.57125 ต่อปี อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม 2560 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 6 ธันวาคม 2560 (นางสาววชิรา อารมย์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,367
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1008/ว 11 เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการกำหนดตำแหน่งสำหรับผู้ปฏิบัติงานที่มีประสบการณ์ ภายใต้หน่วยงานที่ ก.พ. กำหนดตำแหน่งหัวหน้าหน่วยงานเป็นตำแหน่งประเภทอำนวยการ ระดับต้น
ที่ นร 1008/ว 11 สํานักงาน ก.พ. ถนนติวานนท์ จังหวัดนนทบุรี 11000 30 สิงหาคม 2560 เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการกําหนดตําแหน่งสําหรับผู้ปฏิบัติงานที่มีประสบการณ์ ภายใต้หน่วยงานที่ ก.พ. กําหนดตําแหน่งหัวหน้าหน่วยงานเป็นตําแหน่งประเภทอํานวยการ ระดับต้น เรียน (เวียนกระทรวง กรม และจังหวัด) อ้างถึง 1. หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1008/ว 2 ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2558 2. หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1008/ว 1 ลงวันที่ 18 มกราคม 2560 อื่นๆ - ตามหนังสือทีอ้างถึง 1 ก.พ. ได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการกําหนดตําแหน่งตามมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาเพื่อส่วนราชการทราบและถือปฏิบัติ ความแจ้งแล้ว นั้น บัดนี้ ก.พ. ได้พิจารณาเห็นว่า เพื่อให้การกําหนดตําแหน่งมีความเหมาะสมและสอดคล้องกับบทบาทภารกิจของหน่วยงานที่ ก.พ. กําหนดตําแหน่งหัวหน้าหน่วยงานเป็นตําแหน่งประเภทํานวยการ ระดับต้น ตามหนังสือที่อ้างถึง 2 ก.พ. จึงมีมติให้กําหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการกําหนดตําแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชํานาญการพิเศษ ตําแหน่งสําหรับผู้ปฏิบัติงานที่มีประสบการณ์ ภายใต้หน่วยงานที่ ก.พ. กําหนด ตําแหน่งหัวหน้าหน่วยงานเป็นตําแหน่งประเภทอํานวยการ ระดับต้น โดยให้ อ.ก.พ. กระทรวง เป็นผู้พิจารณากําหนดตําแหน่งตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการกําหนดตําแหน่ง ดังนี้ ตําแหน่งสําหรับผู้ปฏิบัติงานที่มีประสบการณ์ ภายใต้หน่วยงานอื่น ๆ ที่ ก.พ. กําหนด ตําแหน่งหัวหน้าหน่วยงานเป็นตําแหน่งประเภทอํานวยการ ระดับต้น อาจกําหนดให้มีตําแหน่งระดับชํานาญการพิเศษในฐานะผู้ปฏิบัติงานที่มีประสบการณ์ได้หน่วยงานละไม่เกิน 1 ตําแหน่ง สําหรับหน่วยงานที่มีปริมาณงานสูงมาก และมีอัตรากําลังไม่น้อยกว่า 9 ตําแหน่ง โดยเป็นตําแหน่งข้าราชการประเภทวิชาการไม่น้อยกว่า 5 ตําแหน่ง และอาจนําตําแหน่งข้าราชการประเภททั่วไป หรือพนักงานราชการ หรือลูกจ้างประจํา ที่กําหนดเป็นกรอบพนักงานราชการซึ่งปฏิบัติงานลักษณะเช่นเดียวกับข้าราชการมานับรวมได้ โดยพนักงานราชการหรือลูกจ้างประจําที่กําหนดเป็นกรอบพนักงานราชการ : ข้าราชการ เท่ากับ 2 : 1 อาจกําหนดให้มีตําแหน่งระดับชํานาญการพิเศษ เพิ่มได้อีกหน่วยงานละ 1 ตําแหน่ง ภายใต้เงื่อนไข ดังนี้ (1) เป็นตําแหน่งผู้มีประสบการณ์ภายใต้หน่วยงานอื่น ๆ ที่มีการกําหนดตําแหน่งหัวหน้าหน่วยงานเป็นตําแหน่งประเภทอํานวยการ ระดับต้น ตามหนังสือที่อ้างถึง 2 (2) มีลักษณะงานเกี่ยวกับการศึกษา ค้นคว้า วิเคราะห์ พัฒนาระบบ รูปแบบ วิธีการ มาตรฐาน หรือหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติงาน (3) มีหน้าที่และความรับผิดชอบ คุณภาพและความยุ่งยากของงานของตําแหน่งเพิ่มขึ้น หรือเปลี่ยนแปลงไปในสาระสําคัญถึงขนาดที่จะต้องปรับปรุงการกําหนดตําแหน่งเป็นระดับสูงขึ้น (4) ปฏิบัติงานซึ่งต้องใช้ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ และความชํานาญงานสูงมากในงานวิชาการ และต้องตัดสินใจแก้ปัญหาที่ยากมาก (5) ผ่านการประเมินคุณภาพงานของตําแหน่งตามหลักเกณฑ์การประเมินค่างานที่ ก.พ. กําหนด ในกรณีที่มีการจัดตั้งหน่วยงานที่กําหนดตําแหน่งหัวหน้าหน่วยงานเป็นตําแหน่งประเภทอํานวยการ ระดับต้น เพิ่มขึ้น ตามหนังสือที่อ้างถึง 2 ให้พิจารณากําหนดตําแหน่งสําหรับผู้ปฏิบัติงานที่มีประสบการณ์ได้ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการกําหนดตําแหน่งนี้ จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นางเมธินี เทพมณี) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - สํานักพัฒนาระบบจําแนกตําแหน่งและค่าตอบแทน โทร. 0 2547 1066 โทรสาร 0 2547 1437
6,368
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 29/2561 เรื่อง กำหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2560 สำหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 7 พฤษภาคม 2561
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 29/2561 เรื่อง กําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2560 สําหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 7 พฤษภาคม 2561 ------------------------ อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2560 สําหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 7 พฤษภาคม 2561 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดอัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2560 สําหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 7 พฤษภาคม 2561 เท่ากับร้อยละ 1.47543 ต่อปี (เท่ากับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงระยะสั้นการกู้ยืมเงินระหว่างธนาคารของตลาดกรุงเทพฯ (BIBOR) ระยะ 3 เดือน ณ วันที่ 3 พฤษภาคม 2561 ลบร้อยละ 0.1) อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม 2561 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 3 พฤษภาคม 2561 (นางสาววชิรา อารมย์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,369
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1008/ว 7 เรื่อง มาตรฐานและแนวทางการกำหนดความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะที่จำเป็นสำหรับตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งประเภทบริหาร
ที่ นร 1008/ว 7 สํานักงาน ก.พ. ถนนพิษณุโลก กทม. 10300 24 กุมภาพันธ์ 2553 เรื่อง มาตรฐานและแนวทางการกําหนดความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะที่จําเป็นสําหรับตําแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ ตําแหน่งประเภทบริหาร เรียน (เวียนกระทรวง กรม และจังหวัด) อ้างถึง หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1008/ว 27 ลงวันที่ 29 กันยายน 2552 สิ่งที่ส่งมาด้วย 1. มาตรฐานความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะที่จําเป็นสําหรับตําแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ ตําแหน่งประเภทบริหาร 2. คําอธิบายรายละเอียดความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะ อื่นๆ - ด้วยมาตรฐานกําหนดตําแหน่งที่ ก.พ. จัดทําตามมาตรา 48 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ได้กําหนดเรื่องความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะที่จําเป็นสําหรับตําแหน่ง เพื่อประโยชน์ในการบริหารทรัพยากรบุคคลของข้าราชการพลเรือนสามัญไว้ และ ก.พ.ได้มีหนังสือตามที่อ้างถึง แจ้งมติ ก.พ.เรื่องมาตรฐานและแนวทางการกําหนดความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะที่จําเป็นสําหรับตําแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญสําหรับตําแหน่งประเภทอํานวยการ ตําแหน่งประเภทวิชาการ และตําแหน่งประเภททั่วไป มาเพื่อถือปฏิบัติ ความแจ้งแล้ว นั้น บัดนี้ ก.พ. ได้พิจารณากําหนดมาตรฐานความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะที่จําเป็นสําหรับตําแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ ตําแหน่งประเภทบริหาร เพื่อให้ส่วนราชการใช้เป็นแนวทางดําเนินการกําหนดความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะ ดังนี้ 1. มาตรฐานความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะที่จําเป็นสําหรับตําแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ ตําแหน่งประเภทบริหาร 1.1 มาตรฐานด้านความรู้ความสามารถที่จําเป็นสําหรับการปฏิบัติงานในตําแหน่งประเภทบริหาร ประกอบด้วย 1.1.1 ความรู้ความสามารถที่ใช้ในการปฏิบัติงาน 1.1.2 ความรู้เรื่องกฎหมายและกฎระเบียบราชการ 1.2 มาตรฐานด้านทักษะที่จําเป็นสําหรับการปฏิบัติงานในตําแหน่งประเภทบริหารประกอบด้วย 1.2.1 การใช้คอมพิวเตอร์ 1.2.2 การใช้ภาษาอังกฤษ 1.2.3 การคํานวณ 1.2.4 การจัดการข้อมูล 1.3 มาตรฐานด้านสมรรถนะที่จําเป็นสําหรับการปฏิบัติงานในตําแหน่งประเภทบริหารประกอบด้วย 1.3.1 สมรรถนะหลัก 1.3.2 สมรรถนะทางการบริหาร ทั้งนี้ ระดับของความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะที่จําเป็นสําหรับตําแหน่งประเภทบริหาร ได้กําหนดไว้ปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 1 โดยมีรายละเอียดของแต่ละระดับปรากฏตามคําอธิบายรายละเอียดความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะ ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 2 2. แนวทางดําเนินการกําหนดความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะที่จําเป็นสําหรับตําแหน่งประเภทบริหาร สายงานและระดับตําแหน่ง ให้ส่วนราชการศึกษามาตรฐานและคําอธิบายรายละเอียดความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะ แล้วดําเนินการ ดังนี้ 2.1 ด้านความรู้ความสามารถ ให้กําหนดรายละเอียดองค์ความรู้ และระดับของความรู้ความสามารถที่จําเป็นสําหรับการปฏิบัติงานในตําแหน่งประเภทบริหาร สายงานและระดับตําแหน่ง 2.2 ด้านทักษะ ให้กําหนดรายละเอียด และระดับของทักษะที่จําเป็นสําหรับการปฏิบัติงานในตําแหน่งประเภทบริหาร สายงานและระดับตําแหน่ง ทั้งนี้ ส่วนราชการอาจกําหนดจํานวนทักษะเพิ่มขึ้นตามลักษณะงานได้ตามความเหมาะสม 2.3 ด้านสมรรถนะ ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ ก.พ.กําหนดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 1 ทั้งนี้ ส่วนราชการอาจกําหนดพฤติกรรมบ่งชี้ หรือตัวอย่างพฤติกรรมของสมรรถนะหลัก และสมรรถนะทางการบริหารเพิ่มเติมจากรายละเอียดความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 2 เพื่อแสดงสมรรถนะของแต่ละระดับ โดยให้กําหนดตามบทบาทหน้าที่ และความรับผิดชอบของตําแหน่งประเภทบริหาร สายงานและระดับตําแหน่ง 2.4 ส่วนราชการอาจกําหนดระดับของความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะที่จําเป็นสําหรับตําแหน่งประเภทบริหาร สายงานและระดับตําแหน่งให้สูงขึ้นตามลักษณะงานได้ตามความเหมาะสม 2.5 กําหนดระยะเวลาในการดําเนินการ การกําหนดรายละเอียดของความรู้ความสามารถ ทักษะที่จําเป็นสําหรับการปฏิบัติงานในตําแหน่งประเภทบริหารให้ดําเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 กันยายน 2553 2.6 เมื่อส่วนราชการดําเนินการกําหนดความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะที่จําเป็นสําหรับตําแหน่งประเภทบริหารเสร็จแล้ว ให้เสนอ อ.ก.พ. กรมเพื่อพิจารณาเห็นชอบ แล้วรายงานให้ อ.ก.พ. กระทรวง และก.พ. ทราบด้วย จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไปทั้งนี้ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นางเบญจวรรณ สร่างนิทร) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - สํานักพัฒนาระบบจําแนกตําแหน่งและค่าตอบแทน โทร. 0 2547 1963, 0 2547 1967, 0 2547 1981, 0 2547 1979 โทรสาร 0 2547 1437
6,370
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1004/ว 12 เรื่อง วุฒิที่ ก.พ. กำหนดให้คัดเลือกเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 – พ.ศ. 2562
ที่ นร 1004/ว 12 สํานักงาน ก.พ. ถนนติวานนท์ จังหวัดนนทบุรี 11000 21 กันยายน 2560 เรื่อง วุฒิที่ ก.พ. กําหนดให้คัดเลือกเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 – พ.ศ. 2562 เรียน (กระทรวง กรม และจังหวัด) อ้างถึง 1. หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1004/ว 20 ลงวันที่ 17 กันยายน 2558 2. หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1004.1/ว 16 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2551 สิ่งที่ส่งมาด้วย 1. รายชื่อวุฒิที่ ก.พ. กําหนดให้คัดเลือกเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 – พ.ศ. 2562 2. แบบรายงานการคัดเลือกเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ 3. คําอธิบายรายละเอียดวุฒิที่ ก.พ. กําหนดให้คัดเลือกเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ อื่นๆ - ตามหนังสือที่อ้างถึง 1 แจ้งมติ ก.พ. ให้ส่วนราชการดําเนินการคัดเลือกบรรจุบุคคลซึ่งสําเร็จการศึกษาในวุฒิที่ ก.พ. กําหนด เข้ารับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญและแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งต่าง ๆ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ ก.พ. กําหนดตามหนังสือที่อ้างถึง 2 สําหรับ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 – พ.ศ. 2560 มาเพื่อถือปฏิบัติ ความแจ้งแล้ว นั้น บัดนี้ ก.พ. ได้มีมติกําหนดให้ส่วนราชการอาจคัดเลือกเพื่อบรรจุบุคคลซึ่งสําเร็จการศึกษาในวุฒิที่ ก.พ. กําหนดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 1 เข้ารับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญและแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 – พ.ศ. 2562 ได้ สําหรับการคัดเลือกให้ดําเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.พ. กําหนดตามหนังสือที่อ้างถึง 2 โดยบรรจุและแต่งตั้งให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 กันยายน 2562 และมีเงื่อนไขเพิ่มเติม ดังนี้ 1. วุฒิที่จะคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งจะต้องเป็นคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งของตําแหน่งที่จะบรรจุและแต่งตั้ง 2. ผู้ได้รับการคัดเลือกซึ่งได้รับการบรรจุและแต่งตั้งตามวุฒิที่กําหนดในข้อ 1 ต้องอยู่ปฏิบัติราชการในส่วนราชการนั้นเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี โดยห้ามโอนไปส่วนราชการอื่น 3. เมื่อได้ดําเนินการคัดเลือกเสร็จสิ้นแล้วในแต่ละครั้ง ให้รายงานผลการคัดเลือกเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการมายังสํานักงาน ก.พ. ทุกครั้งตามแบบรายงานตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 2 4. ในกรณีที่ส่วนราชการได้ดําเนินการคัดเลือกและขึ้นบัญชีผู้ได้รับการคัดเลือกโดยถูกต้องไว้ก่อนวันสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ซึ่งผู้มีรายชื่อในบัญชีผู้ได้รับการคัดเลือกดังกล่าวเป็นมีวุฒิที่ ก.พ. กําหนดให้คัดเลือกเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 – พ.ศ. 2562 ก็ให้ผู้มีอํานาจสั่งบรรจุและแต่งตั้งตามมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ดําเนินการบรรจุและแต่งตั้งผู้ได้รับการคัดเลือกที่เหลืออยู่ดังกล่าวต่อไปได้ตามที่เห็นสมควร ทั้งนี้ ส่วนราชการที่จะดําเนินการคัดเลือกควรศึกษาและทําความเข้าใจเกี่ยวกับคําอธิบายรายละเอียดวุฒิที่ ก.พ. กําหนดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 3 เพื่อจะได้ดําเนินการได้อย่างถูกต้องต่อไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นางเมธินี เทพมณี) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - ศูนย์สรรหาและเลือกสรร โทร. 0 2547 1941, 0 2547 1946 โทรสาร 0 2547 1954
6,371
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 89/2560 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนธันวาคม 2560
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 89/2560 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนธันวาคม 2560 ---------------------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนธันวาคม 2560 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ. 50/15/60 | 20,000 | 15 ธันวาคม 2560 | 19/12/60 – 3/1/61 | 15 | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2560 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 12 ธันวาคม 2560 (นางสาววชิรา อารมณ์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,372
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 90/2560 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนธันวาคม 2560
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 90/2560 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนธันวาคม 2560 ---------------------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนธันวาคม 2560 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ. 51/14/60 | 20,000 | 22 ธันวาคม 2560 | 26/12/60 – 9/1/61 | 14 | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2560 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 19 ธันวาคม 2560 (นางสาววชิรา อารมณ์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,373
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 91/2560 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนธันวาคม 2560
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 91/2560 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนธันวาคม 2560 ---------------------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนธันวาคม 2560 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ. 52/13/60 | 20,000 | 28 ธันวาคม 2560 | 3/1/61 – 16/1/61 | 13 | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2560 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 26 ธันวาคม 2560 (นางสาววชิรา อารมณ์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,374
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 30/2561 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนพฤษภาคม 2561
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 30/2561 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนพฤษภาคม 2561 ---------------------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนพฤษภาคม 2561 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ.19/15/61 | 20,000 | 11 พฤษภาคม 2561 | 15/5/61 – 30/5/61 | 15 | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม 2561 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 9 พฤษภาคม 2561 (นางสาววชิรา อารมณ์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,375
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1012.2/ว 13 เรื่อง ระเบียบ ก.พ. ว่าด้วยเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษของข้าราชการพลเรือน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560 และประกาศ ก.พ. เรื่อง กำหนดตำแหน่งและเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษของข้าราชการพลเรือน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560
ที่ นร 1012.2/ว 13 สํานักงาน ก.พ. ถนนติวานนท์ จังหวัดนนทบุรี 11000 10 ตุลาคม 2560 เรื่อง ระเบียบ ก.พ. ว่าด้วยเงินเพิ่มสําหรับตําแหน่งที่มีเหตุพิเศษของข้าราชการพลเรือน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560 และประกาศ ก.พ. เรื่อง กําหนดตําแหน่งและเงินเพิ่มสําหรับตําแหน่งที่มีเหตุพิเศษของข้าราชการพลเรือน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560 เรียน (เวียนกระทรวง กรม และจังหวัด) สิ่งที่ส่งมาด้วย 1. ระเบียบ ก.พ. ว่าด้วยเงินเพิ่มสําหรับตําแหน่งที่มีเหตุพิเศษของข้าราชการพลเรือน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560 2. ประกาศ ก.พ. เรื่อง กําหนดตําแหน่งและเงินเพิ่มสําหรับตําแหน่งที่มีเหตุพิเศษของข้าราชการพลเรือน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560 อื่นๆ - ด้วย ก.พ. ได้ออกระเบียบ ก.พ. ว่าด้วยเงินเพิ่มสําหรับตําแหน่งที่มีเหตุพิเศษของข้าราชการพลเรือน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560 และประกาศ ก.พ. เรื่อง กําหนดตําแหน่งและเงินเพิ่มสําหรับตําแหน่งที่มีเหตุพิเศษของข้าราชการพลเรือน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560 และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 134 ตอนพิเศษ 243 ง ลงวันที่ 2 ตุลาคม 2560 แล้ว รายละเอียดปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 1 และ 2 จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นางเมธินี เทพมณี) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - สํานักวิจัยและพัฒนาระบบงานบุคคล โทร. 0 2547 1000 ต่อ 8842, 8826 โทรสาร 0 2547 1362
6,376
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1008/ว 14 เรื่อง การปรับปรุงมาตรฐานกำหนดตำแหน่งสายงานวิศวกรรมรังวัด
ที่ นร 1008/ว 14 สํานักงาน ก.พ. ถนนติวานนท์ จังหวัดนนทบุรี 11000 21 พฤศจิกายน พ.ศ.2560 เรื่อง การปรับปรุงมาตรฐานกําหนดตําแหน่งสายงานวิศวกรรมรังวัด เรียน (เวียนกระทรวง กรม และจังหวัด) อ้างถึง หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1008/ว 13 ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2554 สิ่งที่ส่งมาด้วย มาตรฐานกําหนดตําแหน่งสายงานวิศวกรรมรังวัด ตําแหน่งวิศวกรรังวัด ระดับเชี่ยวชาญ อื่นๆ - ตามหนังสือที่อ้างถึง ก.พ. ได้แจ้งมติการปรับปรุงมาตรฐานกําหนดตําแหน่งสายงานวิศวกรรมรังวัด ตําแหน่งวิศวกรรังวัด มาเพื่อส่วนราชการทราบและถือปฏิบัติ ความแจ้งแล้ว นั้น บัดนี้ ก.พ. ได้มีมติให้ปรับปรุงมาตรฐานกําหนดตําแหน่งสายงานวิศวกรรมรังวัด ตําแหน่งวิศวกรรังวัด โดยเพิ่มเติมระดับเชี่ยวชาญ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2560 เป็นต้นไป รายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย ซึ่งสํานักงาน ก.พ. ได้นํามาตรฐานกําหนดตําแหน่งดังกล่าวลงในเว็บไซต์ของสํานักงาน ก.พ. ที่ http://www.ocsc.go.th ด้วยแล้ว จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งกรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นางเมธีนี เทพมณี) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - สํานักพัฒนาระบบจําแนกตําแหน่งและค่าตอบแทน โทร. 0 2547 1987 โทรสาร 0 2547 1982
6,377
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 31/2561 เรื่อง กำหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประเภทอัตราดอกเบี้ยคงที่ อายุ 2 ปี ประจำเดือนพฤษภาคม ปี 2561
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 31/2561 เรื่อง กําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยคงที่ อายุ 2 ปี ประจําเดือนพฤษภาคม ปี 2561 อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยคงที่ อายุ 2 ปี ประจําเดือนพฤษภาคม ปี 2561 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ตามธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยคงที่ อายุ 2 ปี ประจําเดือนพฤษภาคม ปี 2561 (รุ่นที่ 2/2ปี/2561) โดยจะกําหนดและประกาศอัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋ว (Coupon Rate) ในวันที่ 15 พฤษภาคม 2561 นั้น ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดอัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋วของพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย รุ่นที่ 2/2ปี/2561 ที่จะประมูลในวันที่ 17 พฤษภาคม 2561 เท่ากับร้อยละ 1.61 ต่อปี อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2561 เป็นต้นไป ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 15 พฤษภาคม 2561 (นายวชิรา อารมย์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,378
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สรข. 6/2563 เรื่อง การจัดส่งข้อมูลเพื่อการจัดทำสถิติดุลการชำระเงินและฐานะการลงทุนระหว่างประเทศ
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สรข. 6/2563 เรื่อง การจัดส่งข้อมูลเพื่อการจัดทําสถิติดุลการชําระเงินและฐานะการลงทุนระหว่างประเทศ -------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้อนุญาตให้ภาคเอกชนที่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศทําธุรกรรมการลงทุนในต่างประเทศและธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการมีสินทรัพย์และหนี้สินกับผู้มีถิ่นที่อยู่ในต่างประเทศได้กว้างขวางมากขึ้น ทําให้ภาคเอกชนมีทางเลือกในการลงทุนในต่างประเทศได้หลากหลายสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน และกระจายความเสี่ยงได้ดีขึ้น ดังนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงจําเป็นต้องสํารวจข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งได้แก่ ข้อมูลการทําธุรกรรมลงทุนระหว่างประเทศ การมีสินทรัพย์และหนี้สินกับต่างประเทศ การกู้ยืมจากต่างประเทศ รวมทั้งการมีสินเชื่อการค้ากับต่างประเทศเพื่อให้ประเทศไทยมีข้อมูลการเงินและการลงทุนระหว่างประเทศที่ครบถ้วนสามารถนําไปจัดทําและเผยแพร่ข้อมูลสถิติดุลการชําระเงินและฐานะการลงทุนระหว่างประเทศได้ถูกต้องตามมาตรฐานสากล นอกจากนี้ ยังสามารถนําข้อมูลมาใช้ประโยชน์แก่ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อใช้ในการประเมินฐานะการเงินของประเทศ วิเคราะห์วางแผน ดูแลเสถียรภาพระบบการเงินของประเทศและกําหนดนโยบายทางเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างเหมาะสม ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ปรับปรุงประกาศฉบับนี้ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการดําเนินการสํารวจ การเลือกใช้วิธีการสํารวจ และกลุ่มตัวอย่าง รวมทั้งได้ปรับปรุงแก้ไขแบบสํารวจและเอกสารที่เกี่ยวข้องให้มีความทันสมัยสอดคล้องกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย พุทธศักราช 2485 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงออกหลักเกณฑ์และเงื่อนไขให้บุคคลซึ่งทําธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเงิน และการลงทุนระหว่างประเทศถือปฏิบัติตามที่กําหนดในประกาศนี้ อื่นๆ - 3. ประกาศที่ยกเลิก ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สรข. 9/2559 เรื่อง การจัดส่งข้อมูลเพื่อการจัดทําสถิติดุลการชําระเงินและฐานะการลงทุนระหว่างประเทศ ลงวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2559 อื่นๆ - 4. ขอบเขตการบังคับใช้ ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับกับบุคคลธรรมดาผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศ หรือนิติบุคคลผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศ ซึ่งทําธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเงินและการลงทุนระหว่างประเทศ อื่นๆ - 5. เนื้อหา 5.1 คําจํากัดความ “บุคคลธรรมดาผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศ” หมายถึง บุคคลธรรมดาที่มีภูมิลําเนาในประเทศไทย “นิติบุคคลผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศ” หมายถึง (1) นิติบุคคลที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย และให้หมายรวมถึงสาขา หรือสํานักงานตัวแทนที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทยของนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศด้วย (2) ห้างหุ้นส่วน หรือกิจการร่วมค้า ที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทย “ผู้มีถิ่นที่อยู่ในต่างประเทศ” หมายถึง (1) บุคคลธรรมดาที่มีภูมิลําเนาในประเทศอื่นนอกประเทศไทย (2) นิติบุคคลที่ตั้งอยู่ในประเทศอื่นนอกประเทศไทย และให้หมายรวมถึงสาขา หรือสํานักงานตัวแทนที่ประกอบธุรกิจในต่างประเทศของนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยด้วย (3) บุคคลอื่นใดที่มิใช่บุคคลธรรมดาผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศ หรือนิติบุคคลผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศ “การลงทุนในกิจการโดยผู้ลงทุนจากต่างประเทศ” หมายถึง การที่ผู้มีถิ่นที่อยู่ในต่างประเทศถือครองหุ้นสามัญ หรือหุ้นบุริมสิทธิที่มีสิทธิออกเสียง หรือร่วมลงทุนในกิจการในประเทศไทย หรือการจัดตั้งสํานักงานสาขา หรือตัวแทนในประเทศไทย “การลงทุนในกิจการที่ต่างประเทศ” หมายถึง การที่บุคคลธรรมดาผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศหรือนิติบุคคลผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศถือครองหุ้นสามัญ หรือหุ้นบุริมสิทธิที่มีสิทธิออกเสียงหรือร่วมลงทุนในกิจการในต่างประเทศ หรือการจัดตั้งสํานักงานสาขา หรือตัวแทนในต่างประเทศ “สินทรัพย์ต่างประเทศ” หมายถึง สินทรัพย์ทางการเงิน เช่น เงินสดและเงินฝาก เงินให้กู้ยืม สินเชื่อการค้า ตราสารทุน ตราสารหนี้ สัญญาตราสารอนุพันธ์ สินทรัพย์หรือสิทธิเรียกร้องอื่น ๆ ที่บุคคลธรรมดาผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศ หรือนิติบุคคลผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศมีสิทธิเรียกร้องต่อผู้มีถิ่นที่อยู่ในต่างประเทศ “หนี้สินต่างประเทศ” หมายถึง ภาระหนี้สินทางการเงิน เช่น เงินรับฝาก เงินกู้ยืม สินเชื่อการค้า ตราสารทุน ตราสารหนี้ สัญญาตราสารอนุพันธ์ หนี้สิน หรือภาระผูกพันอื่น ๆ ที่บุคคลธรรมดาผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศ หรือนิติบุคคลผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศมีต่อผู้มีถิ่นที่อยู่ในต่างประเทศ 5.2 การจัดทําและส่งข้อมูล ให้บุคคลธรรมดาผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศและนิติบุคคลผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศ ซึ่งมีธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเงินและการลงทุนระหว่างประเทศ ได้แก่ (1) การลงทุนในกิจการโดยผู้ลงทุนจากต่างประเทศ (2) การลงทุนในกิจการที่ต่างประเทศ (3) สินทรัพย์ต่างประเทศ หรือหนี้สินต่างประเทศ (4) การส่งออก หรือนําเข้าสินค้า หรือบริการระหว่างประเทศ จัดทําและส่งข้อมูลให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย เมื่อบุคคลดังกล่าวอยู่ในเกณฑ์ที่ต้องรายงาน หรือได้รับแจ้งจากธนาคารแห่งประเทศไทยให้รายงานข้อมูล ให้จัดทําข้อมูลตามรูปแบบที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกําหนด และจัดส่งข้อมูลดังกล่าวภายในระยะเวลาที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกําหนด 5.3 ในกรณีที่บุคคลธรรมดาผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศและนิติบุคคลผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศ ไม่จัดส่งข้อมูลตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กําหนดตามข้อ 5.2 โดยบุคคลดังกล่าวมีเหตุจําเป็นอันสมควรและได้ขอผ่อนผันการจัดส่งข้อมูล ธนาคารแห่งประเทศไทยอาจพิจารณาผ่อนผันได้ตามที่เห็นสมควร อื่นๆ - 6. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ประกาศฉบับบี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 15 มิถุนายน 2563 (นายวิรไท สันติประภพ) ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,379
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1006/ว 15 เรื่อง การประเมินบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการพิเศษ
ที่ นร 1006/ว 15 สํานักงาน ก.พ. ถนนติวานนท์ จังหวัดนนทบุรี 11000 19 ธันวาคม 2560 เรื่อง การประเมินบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชํานาญการพิเศษ เรียน (เวียน กระทรวง กรม และจังหวัด) อ้างถึง 1. หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1006/ว 7 ลงวันที่ 6 มีนาคม 2552 2. หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1006/ว 16 ลงวันที่ 22 มิถุนายน 2552 3. หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1006/ว 10 ลงวันที่ 15 กันยายน 2548 อื่นๆ - ตามหนังสือที่อ้างถึง 1 และ 2 ก.พ. กําหนดแนวทางดําเนินการเพื่อใช้ปฏิบัติในการบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการตามบทเฉพาะกาลแห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 โดยกรณีการแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชํานาญการพิเศษ ให้ใช้หลักเกณฑ์และวิธีการตามหนังสือที่อ้างถึง 3 ความแจ้งแล้ว นั้น เพื่อให้การดําเนินการคัดเลือกและแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชํานาญการพิเศษ ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 1 ของหนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1006/ว 10 ลงวันที่ 15 กันยายน2548 มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์ต่อหน่วยงานและระบบราชการโดยรวมมากยิ่งขึ้น ก.พ. จึงอาศัยอํานาจตามความในมาตรา 132 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มีมติให้เพิ่มอํานาจหน้าที่ของ อ.ก.พ. กรม ให้สามารถพิจารณากําหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลที่จะเข้ารับการประเมินผลงานเพื่อเลื่อนขึ้นแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชํานาญการพิเศษ โดยอาจพิจารณาให้ขึ้นบัญชีผู้ผ่านการคัดเลือกได้ โดยในการขึ้นบัญชีผู้ผ่านการคัดเลือกให้ขึ้นบัญชีเรียงตามลําดับคะแนน เมื่อมีตําแหน่งว่างให้ผู้ผ่านการคัดเลือกตามลําดับที่ในบัญชีเป็นผู้ได้รับการคัดเลือกเพื่อส่งผลงานประเมินในตําแหน่งที่ว่างดังกล่าว ทั้งนี้ บัญชีผู้ผ่านการคัดเลือกให้มีอายุบัญชีไม่เกิน 1 ปี และ อ.ก.พ. กรม ต้องประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการดังกล่าวให้ทราบล่วงหน้าเป็นการทั่วไปด้วย จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นางเมธินี เทพมณี) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - สํานักตรวจสอบและประเมินผลกําลังคน โทร. 0 2547 1823 โทรสาร 0 2547 1603
6,380
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1003/ว 8 เรื่อง แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารและอำนวยการ
ที่ นร 1003/ว 8 สํานักงาน ก.พ. ถนนพิษณุโลก กทม. 10300 9 มีนาคม 2553 เรื่อง แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดํารง ตําแหน่งประเภทบริหารและอํานวยการ เรียน (เวียน กระทรวง กรมและจังหวัด) อ้างถึง หนังสือสํานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ นร 0504/ว 9 ลงวันที่ 16 มกราคม 2547 อื่นๆ - ตามหนังสือที่อ้างถึง คณะรัฐมนตรีกําหนดแนวทางปฏิบัติในการแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งทดแทนตําแหน่งของผู้ครบเกษียณอายุราชการที่ดํารงตําแหน่งระดับ 10 หรือ 11 หากจะขอแต่งตั้งให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายในเดือนกันยายน ความแจ้งแล้ว นั้น ก.พ. ได้พิจารณาเห็นว่าในทางปฏิบัติส่วนราชการบางแห่งไม่ดําเนินการตามระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกําหนดไว้ข้างต้น ดังนั้น เพื่ออนุวัติให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี ก.พ. จึงมีมติขอให้ส่วนราชการเร่งพิจารณาและดําเนินการเรื่องการแต่งตั้งข้าราชการให้ดํารงตําแหน่งประเภทบริหารระดับสูงในกรณีทดแทนผู้เกษียณอายุให้แล้วเสร็จ โดยเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาได้ภายในกําหนดเวลา นอกจากนี้ เพื่อให้ส่วนราชการสามารถพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการในระดับอื่นต่อไปได้ ก.พ. จึงมีมติให้ส่วนราชการเร่งรัดพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการให้ดํารงตําแหน่งประเภทบริหารระดับต้นและประเภทอํานวยการไว้ ดังนี้ 1. ตําแหน่งประเภทบริหารระดับต้น ดําเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน 2. ตําแหน่งประเภทอํานวยการ ดําเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 3. สําหรับตําแหน่งประเภทบริหารและประเภทอํานวยการที่ว่างลงในกรณีอื่นให้ส่วนราชการเร่งรัดดําเนินการพิจารณาการแต่งตั้งให้แล้วเสร็จโดยเร็วเช่นกันโดยให้สํานักงาน ก.พ. ติดตามการดําเนินการแต่งตั้งของส่วนราชการเพื่อรายงาน ก.พ. ต่อไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นางเบญจวรรณ สร่างนิทร) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - ศูนย์นักบริหารระดับสูง โทร. 0 2547 1734 โทรสาร 0 2547 1736
6,381
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 32/2561 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนพฤษภาคม 2561
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 32/2561 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนพฤษภาคม 2561 ---------------------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนพฤษภาคม 2561 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ. 20/14/61 | 25,000 | 18 พฤษภาคม 2561 | 22/5/61 – 6/6/61 | 14 | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม 2561 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 16 พฤษภาคม 2561 (นางสาววชิรา อารมณ์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,382
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1006/ว 9 เรื่อง การบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการตามบทเฉพาะกาลแห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
ที่ นร 1006/ว 9 สํานักงาน ก.พ. ถนนพิษณุโลก กทม. 10300 11 มีนาคม 2553 เรื่อง การบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการตามบทเฉพาะกาลแห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 เรียน (เวียนกระทรวง กรม และจังหวัด) อ้างถึง 1. หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1006/ว 7 ลงวันที่ 6 มีนาคม 2552 2. หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1006/ว 16 ลงวันที่ 22 มิถุนายน 2552 อื่นๆ - ตามหนังสือที่อ้างถึง 1 แจ้งมติ ก.พ. กําหนดแนวทางการดําเนินการบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการตามบทเฉพาะกาลแห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนพ.ศ. 2551 มาเพื่อทราบและถือปฏิบัติ ตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2551 และได้มีหนังสือที่อ้างถึง 2 แจ้งมติ ก.พ. กําหนดแนวทางการดําเนินการแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งต่างประเภทใช้แทนแนวทางการดําเนินการตามที่กําหนดในข้อ 2. ตามหนังสือที่อ้างถึง 1 นั้น บัดนี้ ก.พ. ได้พิจารณากําหนดแนวทางการดําเนินการแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งต่างประเภทตําแหน่งประเภทบริหาร ระดับต้น เพิ่มเติมจากแนวทางการดําเนินการที่กําหนดไว้ในข้อ 2. ง. (1) ของหนังสือที่อ้างถึง 2 ดังนี้ “(1.5) การแต่งตั้งจากผู้ดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญ ซึ่งมีคุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งตามที่กําหนดในมาตรฐานกําหนดตําแหน่งประเภทบริหาร ระดับต้น ในสายงานอื่นที่มิใช่สายงานบริหาร ให้ดํารงตําแหน่งดังกล่าว ให้ใช้หลักเกณฑ์และวิธีการตามหนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 0708/ว 9 ลงวันที่ 12 พฤษภาคม 2535 และที่ นร 0708.1/ว 11 ลงวันที่ 13 สิงหาคม 2542” จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไปทั้งนี้ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นางเบญจวรรณ สร่างนิทร) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - สํานักตรวจสอบและประเมินผลกําลังคน โทร. 0 2547 0977 โทรสาร 0 2547 7316
6,383
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 33/2561 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนพฤษภาคม 2561
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 33/2561 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนพฤษภาคม 2561 ---------------------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนพฤษภาคม 2561 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ. 21/13/61 | 25,000 | 25 พฤษภาคม 2561 | 30/5/61 – 12/6/61 | 13 | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม 2561 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม 2561 (นางสาววชิรา อารมณ์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,384
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1004/ว 10 เรื่อง การคัดเลือกเพื่อบรรจุผู้ได้รับทุนโครงการทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่นที่สำเร็จการศึกษาแล้วเข้ารับราชการ
ที่ นร 1004/ว 10 สํานักงาน ก.พ. ถนนพิษณุโลก กทม. 10300 10 มีนาคม 2553 เรื่อง การคัดเลือกเพื่อบรรจุผู้ได้รับทุนโครงการทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่นที่ สําเร็จการศึกษาแล้วเข้ารับราชการ เรียน (เวียน กระทรวง กรม และจังหวัด) อ้างถึง หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที นร 1004.1/ว 16 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2551 อื่นๆ - ตามหนังสือที่อ้างถึง ก.พ. ได้กําหนดกรณีเหตุพิเศษซึงส่วนราชการอาจคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุเข้ารับราชการและแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งได้โดยไม่ต้องสอบแข่งขันในกรณีต่าง ๆ ซึ่งในข้อ 1(6) กําหนดว่า “กรณีอื่นที่ ก.พ. อนุมัติ” นั้น บัดนี้ ก.พ. ได้พิจารณาอนุมัติให้ผู้ได้รับทุนโครงการทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น (โครงการ 1 อําเภอ 1 ทุน) เป็นกรณีเหตุพิเศษอื่น ซึ่งส่วนราชการอาจคัดเลือกบุคคลดังกล่าวเข้ารับราชการโดยไม่ต้องสอบแข่งขันได้ และให้ดําเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้ 1. ต้องสําเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยที ก.พ. รับรอง 2. คุณวุฒิที่ได้รับตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งของตําแหน่งที่จะบรรจุ 3. คุณวุฒิที่ได้รับต้องเหมาะสมกับหน้าที่ความรับผิดชอบและลักษณะงานทีปฏิบัติ 4. ต้องมีผลการศึกษาเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตรไม่ต่ํากว่า 2.75 หรือร้อยละ 70 หรือเทียบได้ไม่ต่ํากว่านี้ 5. ให้ผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอํานาจสั่งบรรจุตามมาตรา 57 ตั้งคณะกรรมการคัดเลือกขึ้นคณะหนึ่งประกอบด้วยหัวหน้าส่วนราชการ หรือรองหัวหน้าส่วนราชการ หรือผู้ได้รับมอบหมาย เป็นประธาน ผู้แทนหน่วยงานเจ้าของตําแหน่งซึ่งดํารงตําแหน่งประเภทอํานวยการ เป็นกรรมการ ผู้ทําหน้าที่เกี่ยวกับงานการเจ้าหน้าที่ เป็นกรรมการและเลขานุการ 6. ให้คณะกรรมการคัดเลือกประเมินบุคคลเพื่อพิจารณาความเหมาะสมกับตําแหน่งหน้าที่จากประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษา จากการสังเกตพฤติกรรมที่ปรากฏ และจากการสัมภาษณ์ ทั้งนี้ อาจใช้วิธีการอื่นใดเพิ่มเติมอีกก็ได้ แล้วรายงานผลต่อผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอํานาจสั่งบรรจุตามมาตรา 57 7. เมื่อผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอํานาจสั่งบรรจุตามมาตรา 57 ได้พิจารณาเห็นสมควรที่จะบรรจุผู้ได้รับคัดเลือกเข้ารับราชการแล้ว ก็ให้ดําเนินการสั่งบรรจุและแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งได้ 8. ให้ส่วนราชการบรรจุผู้ได้รับทุนโครงการดังกล่าวที่สําเร็จการศึกษาแล้วในท้องถิ่นของผู้นั้นหรือในท้องถิ่นที่ใกล้เคียงก่อน จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นางเบญจวรรณ สร่างนิทร) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - ศูนย์สรรหาและเลือกสรร โทร. 0 2547 1941-48 โทรสาร 0 2547 1954
6,385
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1012/ว 26 เรื่อง กฎ ก.พ. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการพลเรือนสามัญรับเงินเดือนในอัตรากำลังทดแทน พ.ศ. 2552
ที่ นร 1012/ว 26 สํานักงาน ก.พ. ถนนพิษณุโลก กทม. 10300 28 กันยายน 2552 เรื่อง กฎ ก.พ. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการพลเรือนสามัญรับเงินเดือนในอัตรากําลังทดแทน พ.ศ. 2552 เรียน (เวียนกระทรวง กรม และจังหวัด) สิ่งที่ส่งมาด้วย กฎ ก.พ. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการพลเรือนสามัญรับเงินเดือนในอัตรากําลังทดแทน พ.ศ. 2552 อื่นๆ - ด้วย ก.พ. ได้ออกกฎ ก.พ. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการพลเรือนสามัญรับเงินเดือนในอัตรากําลังทดแทน พ.ศ. 2552 รายละเอียดปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย ทั้งนี้ กฎ ก.พ. ดังกล่าว ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 126 ตอนที่ 69 ก วันที่ 17 กันยายน 2552 แล้ว จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นายปรีชา วัชราภัย) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - สํานักวิจัยและพัฒนาระบบงานบุคคล โทร. 0 2547 1852, 0 2547 1853 โทรสาร 0 2547 1868
6,386
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1006/ว 11 เรื่อง การบรรจุผู้เคยเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญกลับเข้ารับราชการ
ที่ นร 1006/ว 11 สํานักงาน ก.พ. ถนนพิษณุโลก กทม. 10300 16 มีนาคม 2553 เรื่อง การบรรจุผู้เคยเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญกลับเข้ารับราชการ เรียน (เวียน กระทรวง กรม และจังหวัด) สิ่งที่ส่งมาด้วย 1. แบบขอกลับเข้ารับราชการและแบบหนังสือรับรองประวัติการรับราชการทหารกรณีผู้ถูกสั่งให้ออกจากราชการเพื่อไปรับราชการทหาร 2. แบบขอกลับเข้ารับราชการและแบบหนังสือรับรองประวัติการทํางานกรณีผู้ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้ไปปฏิบัติงานใด ๆ 3. แบบขอกลับเข้ารับราชการกรณีผู้ที่ออกจากราชการไปที่มิใช่เป็นการออกจากราชการในระหว่างทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการ อื่นๆ - ด้วยพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนพ.ศ. 2551 มาตรา 63 วรรคสี บัญญัติให้การบรรจุข้าราชการพลเรือนสามัญที่ได้ออกจากราชการไปเนื่องจากถูกสั่งให้ออกจากราชการเพื่อไปรับราชการทหารตามกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหารหรือได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้ไปปฏิบัติงานใดๆซึ่งให้นับเวลาระหว่างนั้นสําหรับการคํานวณบําเหน็จบํานาญเหมือนเต็มเวลาราชการ หรือออกจากราชการไปที่มิใช่เป็นการออกจากราชการในระหว่างทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการกลับเข้ารับราชการในกระทรวงหรือกรม ตลอดจนจะสั่งบรรจุและแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งประเภทใด สายงานใด ระดับใด และให้ได้รับเงินเดือนเท่าใด ให้กระทําได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที ก.พ. กําหนด เพื่ออนุวัตให้เป็นไปตามมาตรา 63 วรรคสี แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนพ.ศ. 2551 ก.พ. จึงกําหนดหลักเกณฑ์และวิธีการบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ออกจากราชการในกรณีต่าง ๆ กลับเข้ารับราชการในตําแหน่งประเภท สายงาน ระดับ และให้ได้รับเงินเดือนไว้ดังต่อไปนี้ 1. กรณีบรรจุผู้ไปรับราชการทหารกลับเข้ารับราชการ 1.1 การบรรจุและแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งประเภท สายงาน และระดับ (1) ให้บรรจุและแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งประเภทเดิม ระดับเดิม สายงานเดิม หรือต่างสายงานที่ผู้นั้นมีคุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งตามมาตรฐานกําหนดตําแหน่ง (2) ให้ส่วนราชการต้นสังกัดเดิมสงวนตําแหน่งประเภทเดิมระดับเดิมสายงานเดิมหรือต่างสายงานที่ผู้นั้นมีคุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งตามมาตรฐานกําหนดตําแหน่งไว้สําหรับบรรจุผู้นั้นกลับเข้ารับราชการ (3) ผู้ขอกลับเข้ารับราชการ จะต้องยื่นคําขอพร้อมหนังสือรับรองประวัติการรับราชการทหารตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 1 ภายใน 180 วันนับตั้งแต่วันพ้นจากราชการทหาร (4) ให้ส่วนราชการต้นสังกัดเดิมตรวจสอบเอกสารและประวัติการรับราชการทหารตาม (3) หากเห็นว่าเป็นเอกสารที่ถูกต้อง และผู้นั้นพ้นจากราชการทหารโดยมิได้กระทําการใดๆในระหว่างรับราชการทหารอันเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง หรือได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง โดยผู้นั้นต้องมีคุณสมบัติทั่วไปและไม่มีลักษณะต้องห้ามหรือได้รับยกเว้นกรณีที่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 36 และไม่ได้ถูกเปลี่ยนแปลงคําสั่งให้ออกจากราชการตามมาตรา 111 วรรคสอง เป็นออกจากราชการตามมาตราอื่น ก็ให้ผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอํานาจสั่งบรรจุตามมาตรา 57 สั่งบรรจุผู้นั้นกลับเข้ารับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญและแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งที่สงวนไว้ตาม (2) 1.2 การให้ได้รับเงินเดือน (1) กรณีผู้บรรจุกลับจากรับราชการทหารมีเวลารับราชการทหารตังแต่6 เดือนขึ้นไป แต่ไม่ถึง 1 ปี ให้ได้รับเงินเดือนสูงกว่าเดิมได้ไม่เกินร้อยละ 3 ของฐานเงินเดือนที่ข้าราชการผู้นั้นได้รับอยู่ก่อนออกจากราชการ ถ้ายังมีเศษของเวลาที่เหลือจาก 6 เดือนที่ไปรับราชการทหาร เมือนําเศษของเวลาทีเหลือไปรวมกับเวลาในการปฏิบัติราชการของครึ่งปีที่แล้วมาก่อนออกจากราชการไปรับราชการทหารแล้ว มีเวลาปฏิบัติราชการรวมกันไม่น้อยกว่า 4 เดือน ก็ให้ได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้นได้อีกไม่เกินร้อยละ 3 โดยคํานวณจากฐานเงินเดือนที่ได้ปรับเพิ่มข้างต้นแล้ว (2) กรณีผู้บรรจุกลับจากรับราชการทหารมีเวลารับราชการทหารตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป สําหรับ 6 เดือนแรก ให้รับเงินเดือนสูงกว่าเดิมได้ไม่เกินร้อยละ 3 ของฐานเงินเดือนที่ข้าราชการผู้นั้นได้รับก่อนออกจากราชการ และในรอบ 6 เดือนต่อ ๆ ไป ให้รับเงินเดือนเพิ่มได้อีกรอบละไม่เกินร้อยละ 3 โดยคํานวณจากฐานเงินเดือนที่ข้าราชการผู้นั้นได้รับเพิ่มขึ้นในแต่ละรอบ ถ้ายังมีเศษของเวลาที่เหลือจาก 6 เดือน ที่ไปรับราชการทหาร เมื่อนําเศษของเวลาที่เหลือไปรวมกับเวลาในการปฏิบัติราชการของครึ่งปีที่แล้วมาก่อนออกจากราชการไปรับราชการทหารแล้ว มีเวลาปฏิบัติราชการรวมกันไม่น้อยกว่า 4 เดือน ก็ให้ได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้นได้อีกไม่เกินร้อยละ 3 โดยคํานวณจากฐานเงินเดือนที่ได้ปรับเพิ่มข้างต้นแล้ว (3) กรณีออกจากราชการไปรับราชการทหารในช่วงเวลาก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2552 ให้คิดคํานวณเงินเดือนที่จะให้ได้รับเมื่อบรรจุกลับเข้ารับราชการ โดยให้ได้รับเงินเดือนสูงกว่าที่ได้รับอยู่เดิมก่อนออกจากราชการไปรับราชการทหารไม่เกินครึ่งขันทุกรอบ๖เดือนตามบัญชีอัตราเงินเดือนข้าราชการพลเรือนตามพระราชบัญญัติเงินเดือนและเงินประจําตําแหน่ง พ.ศ. 2538 ที่ใช้บังคับอยู่ในแต่ละช่วงเวลาดังกล่าว และตามหนังสือสํานักงาน ก.พ. ด่วนที่สุด ที่ นร 1012/ว 5 ลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2552 แล้วแต่กรณี (4) ในระหว่างที่ผู้นั้นออกจากราชการไปรับราชการทหารถ้ามีการปรับบัญชีเงินเดือนขั้นต่ําขั้นสูงและคณะรัฐมนตรีได้กําหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการปรับเงินเดือนของข้าราชการพลเรือนสามัญที่ได้รับอยู่เดิมเข้าสู่อัตราในบัญชีที่ได้รับการปรับใหม่ในช่วงเวลาใด ก็ให้ปรับให้ผู้นั้นได้รับเงินเดือนตามหลักเกณฑ์และวิธีการดังกล่าวก่อน แล้วจึงคํานวณการให้ได้รับเงินเดือนตาม (1) (2) หรือ (3) แล้วแต่กรณี 2. กรณีบรรจุผู้ไปปฏิบัติงานตามมติคณะรัฐมนตรีกลับเข้ารับราชการ 2.1 การบรรจุและแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งประเภท สายงาน และระดับ (1) ให้บรรจุและแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งประเภทเดิม ระดับเดิม สายงานเดิม หรือต่างสายงานหรือต่างประเภทที่ผู้นั้นมีคุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งตามมาตรฐานกําหนดตําแหน่ง (2) ให้ส่วนราชการต้นสังกัดเดิมสงวนตําแหน่งประเภทเดิมระดับเดิมสายงานเดิมหรือต่างสายงานหรือต่างประเภทที่ผู้นั้นมีคุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งตามมาตรฐานกําหนดตําแหน่งไว้สําหรับบรรจุผู้นั้นกลับเข้ารับราชการ ดังนี้ (2.1) กรณีเป็นผู้ดํารงตําแหน่งประเภทบริหาร ก. ให้สงวนตําแหน่งประเภทเดิมระดับเดิมสายงานเดิมหรือต่างสายงานหรือตําแหน่งประเภทวิชาการ ระดับทรงคุณวุฒิไว้สําหรับบรรจุผู้เคยดํารงตําแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง กลับเข้ารับราชการทั้งนี้ หากเป็นผู้ไม่เคยดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ มาก่อนก็ให้แต่งตั้งได้โดยไม่ต้องประเมินบุคคลและผลงาน ข. ให้สงวนตําแหน่งประเภทเดิมระดับเดิมสายงานเดิมหรือต่างสายงานหรือตําแหน่งประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญไว้สําหรับบรรจุผู้เคยดํารงตําแหน่งประเภทบริหาร ระดับต้น กลับเข้ารับราชการ ทั้งนี้ หากเป็นผู้ไม่เคยดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญมาก่อน ก็ให้แต่งตั้งได้โดยไม่ต้องประเมินบุคคลและผลงาน ค. ถ้าหากในวันที่ผู้นั้นยื่นคําขอบรรจุกลับเข้ารับราชการ ส่วนราชการนั้นมีตําแหน่งประเภทบริหารระดับเดียวกันกับตําแหน่งที่ผู้ขอบรรจุกลับเคยดํารงตําแหน่งอยู่ก่อนออกจากราชการว่าง และผู้นั้นมีคุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่ง ผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอํานาจสั่งบรรจุตามมาตรา 57 อาจสั่งบรรจุผู้นั้นกลับเข้ารับราชการในตําแหน่งประเภทบริหารที่ว่างดังกล่าวแทนตําแหน่งที่สงวนไว้ก็ได้ (2.2) กรณีเป็นผู้ดํารงตําแหน่งประเภทอํานวยการ ก. ให้สงวนตําแหน่งประเภทเดิมระดับเดิมสายงานเดิมหรือต่างสายงานหรือตําแหน่งประเภทวิชาการระดับเชี่ยวชาญไว้สําหรับบรรจุผู้เคยดํารงตําแหน่งประเภทอํานวยการระดับสูง กลับเข้ารับราชการทั้งนี้ หากเป็นผู้ไม่เคยดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการระดับเชี่ยวชาญมาก่อน ก็ให้แต่งตั้งได้โดยไม่ต้องประเมินบุคคลและผลงาน ข. ให้สงวนตําแหน่งประเภทเดิม ระดับเดิมสายงานเดิมหรือต่างสายงานหรือตําแหน่งประเภทวิชาการระดับชํานาญการพิเศษไว้ สําหรับบรรจุผู้เคยดํารงตําแหน่งประเภทอํานวยการ ระดับต้น กลับเข้ารับราชการ ทั้งนี้ หากเป็นผู้ไม่เคยดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการระดับชํานาญการพิเศษมาก่อน ก็ให้แต่งตั้งได้โดยไม่ต้องประเมินบุคคลและผลงาน ค. ถ้าหากในวันที่ผู้นั้นยื่นคําขอบรรจุกลับเข้ารับราชการส่วนราชการนั้นมีตําแหน่งประเภทอํานวยการระดับเดียวกันกับตําแหน่งที่ผู้ขอบรรจุกลับเคยดํารงตําแหน่งอยู่ก่อนออกจากราชการว่างและผู้นั้นมีคุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอํานาจสั่งบรรจุตามมาตรา 57 อาจสั่งบรรจุผู้นั้นกลับเข้ารับราชการในตําแหน่งประเภทอํานวยการที่ว่างดังกล่าวแทนตําแหน่งที่สงวนไว้ก็ได้ (2.3) กรณีเป็นผู้ดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการหรือตําแหน่งประเภททั่วไป ให้สงวนตําแหน่งประเภทเดิมระดับเดิมสายงานเดิมหรือต่างสายงานที่ผู้นั้นมีคุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งตามมาตรฐานกําหนดตําแหน่งไว้สําหรับบรรจุผู้นั้นกลับเข้ารับราชการ (3) ต้องบรรจุกลับเข้ารับราชการภายในกําหนดเวลาที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ แต่ไม่เกินสี่ปีนับแต่วันไปปฏิบัติงานดังกล่าว (4) ผู้ขอกลับเข้ารับราชการจะต้องยื่นคําขอพร้อมหนังสือรับรองประวัติการทํางานตามสิ่งที่ส่งมาด้วย2ก่อนวันสิ้นสุดกําหนดเวลาที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้ไปปฏิบัติงานใดๆไม่น้อยกว่า 30 วัน (5) ให้ส่วนราชการต้นสังกัดเดิมตรวจสอบเอกสารและประวัติการปฏิบัติงานตามมติคณะรัฐมนตรีตาม (4) หากเห็นว่าเป็นเอกสารที่ถูกต้อง และผู้นั้นพ้นจากการปฏิบัติงานดังกล่าว โดยมิได้กระทําการใด ๆ ในระหว่างนั้นอันเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง หรือได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงโดยผู้นั้นต้องมีคุณสมบัติทั่วไปและไม่มีลักษณะต้องห้ามหรือได้รับยกเว้นกรณีที่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 36 ก็ให้ผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอํานาจสั่งบรรจุตามมาตรา 57 สั่งบรรจุผู้นั้นกลับเข้ารับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญและแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งที่สงวนไว้ตาม (2) 2.2 การให้ได้รับเงินเดือน ให้ได้รับเงินเดือนตามหลักเกณฑ์และวิธีการทํานองเดียวกับการบรรจุผู้ออกจากราชการไปรับราชการทหารกลับเข้ารับราชการ แต่ทั้งนี้ ต้องไม่สูงกว่าเงินเดือนขั้นสูงของตําแหน่งประเภท สายงาน และระดับที่บรรจุกลับ 3. กรณีบรรจุผู้ออกจากราชการไปที่มิใช่เป็นการออกจากราชการในระหว่างทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการกลับเข้ารับราชการ 3.1 การบรรจุและแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งประเภท สายงาน และระดับ (1) ให้บรรจุและแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งประเภทเดิม ระดับไม่สูงกว่าเดิม สายงานเดิม หรือต่างสายงานที่ผู้นั้นมีคุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งตามมาตรฐานกําหนดตําแหน่ง (2) ผู้ขอกลับเข้ารับราชการจะต้องยื่นคําขอพร้อมประวัติการรับราชการและประวัติการทํางานทุกแห่ง ตามสิงที่ส่งมาด้วย 3 (3) ให้ส่วนราชการตรวจสอบเอกสารประวัติการรับราชการและประวัติการทํางานและสอบถามไปยังส่วนราชการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ได้รายละเอียดข้อเท็จจริงมากที่สุดมาประกอบการพิจารณา โดยผู้นั้นต้องมีคุณสมบัติทั่วไปและไม่มีลักษณะต้องห้ามหรือได้รับยกเว้นกรณีที่มีลักษณะต้องห้าม ตามมาตรา 36 (4) ในการพิจารณาการบรรจุกลับเข้ารับราชการในตําแหน่งประเภทบริหาร ประเภทอํานวยการ ประเภทวิชาการ และประเภททั่วไป ให้ผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอํานาจสั่งบรรจุตามมาตรา 57 พิจารณาจากความรู้ ความสามารถผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมาเหตุผลความจําเป็นและประโยชน์ของทางราชการ สําหรับการบรรจุกลับเข้ารับราชการในตําแหน่งประเภทวิชาการระดับชํานาญการ ระดับชํานาญการพิเศษ ระดับเชี่ยวชาญ และระดับทรงคุณวุฒิ หรือในตําแหน่งประเภททั่วไประดับชํานาญงานระดับอาวุโสและระดับทักษะพิเศษ ซึงเป็นตําแหน่งต่างสายงานและไม่ได้จัดอยู่ในกลุ่มตําแหน่งเดียวกันกับตําแหน่งที่เคยดํารงอยู่ก่อนออกจากราชการให้ อ.ก.พ. กรม หรือคณะกรรมการที อ.ก.พ. กรมแต่งตั้งเป็นผู้พิจารณาสําหรับการบรรจุกลับเข้ารับราชการในตําแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชํานาญการ และระดับชํานาญการพิเศษ หรือตําแหน่งประเภททั่วไป ระดับชํานาญงาน และระดับอาวุโส และให้ อ.ก.พ. กระทรวงหรือคณะกรรมการที่ อ.ก.พ.กระทรวงแต่งตั้งเป็นผู้พิจารณาสําหรับการบรรจุกลับเข้ารับราชการในตําแหน่งประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญ และระดับทรงคุณวุฒิ หรือตําแหน่งประเภททั่วไป ระดับทักษะพิเศษ ส่วนการบรรจุกลับเข้ารับราชการในตําแหน่งประเภทวิชาการระดับปฏิบัติการหรือตําแหน่งประเภททั่วไป ระดับปฏิบัติงาน ส่วนราชการนั้นจะต้องไม่มีบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ตามมาตรา 53 หรือบัญชีผู้ได้รับการคัดเลือก ตามมาตรา 55 ในตําแหน่งในสายงานที่จะบรรจุกลับรอการบรรจุอยู่ เว้นแต่ผู้ที่จะบรรจุกลับเข้ารับราชการเป็นผู้ที่ออกจากราชการเพื่อไปดํารงตําแหน่งในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ หรือดํารงตําแหน่งทางการเมือง หรือตําแหน่งอื่นที ก.พ. กําหนด หรือเพื่อสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกรัฐสภา สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น หรือลาออกจากราชการเพื่อติดตามคู่สมรสที่ไปปฏิบัติหน้าที่ราชการ หรือไปปฏิบัติงานในต่างประเทศตามระเบียบว่าด้วยการลาของข้าราชการ หรือเป็นผู้ที่ออกจากราชการไปเนื่องจากทางราชการเลิกหรือยุบหน่วยงานหรือตําแหน่งในกรณีที่ผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอํานาจสั่งบรรจุตามมาตรา 57 พิจารณาเห็นว่ามีเหตุผลและความจําเป็นเป็นพิเศษสมควรที่จะบรรจุผู้สมัครกลับเข้ารับราชการในตําแหน่งที่มีบัญชีผู้สอบแข่งขันได้หรือบัญชีผู้ได้รับการคัดเลือก ให้เสนอ อ.ก.พ. กระทรวงพิจารณาเป็นราย ๆ ไป 3.2 การให้ได้รับเงินเดือน ให้ผู้ได้รับการบรรจุกลับได้รับเงินเดือนไม่สูงกว่าที่ได้รับอยู่เดิมก่อนออกจากราชการ แต่ทั้งนี้ต้องไม่สูงกว่าเงินเดือนขั้นสูงของตําแหน่งประเภทสายงานและระดับที่บรรจุกลับหากในระหว่างที่ผู้นั้นออกจากราชการไปถ้ามีการปรับบัญชีเงินเดือนขั้นต่ําขั้นสูงและคณะรัฐมนตรีได้กําหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการปรับเงินเดือนของข้าราชการพลเรือนสามัญทีได้รับอยู่เดิมเข้าสู่อัตราในบัญชีที่ได้รับการปรับใหม่ในช่วงเวลาใด ก็ให้ปรับให้ผู้นั้นได้รับเงินเดือนตามหลักเกณฑ์และวิธีการดังกล่าวด้วย 4. กรณีอื่นนอกจากที่กําหนดไว้ในหนังสือสํานักงาน ก.พ. ฉบับนี้ ให้เสนอ ก.พ. พิจารณาเป็นราย ๆ ไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นางเบญจวรรณ สร่างนิทร) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - สํานักตรวจสอบและประเมินผลกําลังคน โทร. 0 2281 0977 โทรสาร 0 2281 7316
6,387
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 35/2561 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนมิถุนายน 2561
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 35/2561 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนมิถุนายน 2561 ---------------------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนมิถุนายน 2561 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ. 22/14/61 | 25,000 | 1 มิถุนายน 2561 | 5/6/61 – 19/6/61 | 14 | อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ. 22/14/61 | 25,000 | 1 มิถุนายน 2561 | 5/6/61 – 19/6/61 | 14 | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2561 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 30 พฤษภาคม 2561 (นางสาววชิรา อารมณ์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,388
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1008/ว 27 เรื่อง มาตรฐานและแนวทางการกำหนดความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะที่จำเป็นสำหรับตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ
ที่ นร 1008/ว 27 สํานักงาน ก.พ. ถนนพิษณุโลก กรุงเทพฯ 10300 29 กันยายน 2552 เรื่อง มาตรฐานและแนวทางการกําหนดความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะที่จําเป็นสําหรับตําแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ เรียน (เวียนกระทรวง กรม และจังหวัด) สิ่งที่ส่งมาด้วย 1. มาตรฐานความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะที่จําเป็นสําหรับตําแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ 2. คําอธิบายรายละเอียดความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะ อื่นๆ - ด้วยมาตรฐานกําหนดตําแหน่งที่ ก.พ. จัดทําตามมาตรา 48 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ได้กําหนดเรื่อง ความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะที่จําเป็นสําหรับตําแหน่ง เพื่อประโยชน์ในการบริหารทรัพยากรบุคคลของข้าราชการพลเรือนสามัญไว้ ดังนั้น เพื่อให้การบริหารทรัพยากรบุคคลดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และข้าราชการปฏิบัติงานอย่างมีคุณภาพ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 8(3) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ก.พ. จึงกําหนดมาตรฐานความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะที่จําเป็นสําหรับตําแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อให้ส่วนราชการใช้เป็นแนวทางดําเนินการกําหนดความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะที่จําเป็นสําหรับตําแหน่ง ดังนี้ 1. มาตรฐานความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะที่จําเป็นสําหรับตําแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ 1.1 มาตรฐานด้านความรู้ความสามารถที่จําเป็นสําหรับการปฏิบัติงานในตําแหน่งประเภททั่วไป วิชาการ และอํานวยการ ประกอบด้วย 1.1.1 ความรู้ความสามารถที่ใช้ในการปฏิบัติงาน 1.1.2 ความรู้เรื่องกฎหมายและกฎระเบียบราชการ 1.2 มาตรฐานด้านทักษะที่จําเป็นสําหรับการปฏิบัติงานในตําแหน่งประเภททั่วไปวิชาการ และอํานวยการ ประกอบด้วย 1.2.1 การใช้คอมพิวเตอร์ 1.2.2 การใช้ภาษาอังกฤษ 1.2.3 การคํานวณ 1.2.4 การจัดการข้อมูล 1.3 มาตรฐานด้านสมรรถนะที่จําเป็นสําหรับการปฏิบัติงานในตําแหน่งประเภททั่วไป วิชาการ และอํานวยการ ประกอบด้วย 1.3.1 สมรรถนะหลัก 1.3.2 สมรรถนะทางการบริหาร 1.3.3 สมรรถนะเฉพาะตามลักษณะงานที่ปฏิบัติ ทั้งนี้ ระดับของความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะที่จําเป็นสําหรับตําแหน่งประเภททั่วไป วิชาการ และอํานวยการ และระดับตําแหน่งได้กําหนดไว้ปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 1 โดยมีรายละเอียดของแต่ละระดับปรากฏตามคําอธิบายรายละเอียด ความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 2 2. แนวทางดําเนินการกําหนดความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะที่จําเป็นสําหรับตําแหน่งประเภททั่วไป วิชาการ และอํานวยการ สายงานและระดับ ให้ส่วนราชการศึกษามาตรฐานและคําอธิบายรายละเอียดความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะ แล้วดําเนินการ ดังนี้ 2.1 ด้านความรู้ความสามารถ ให้กําหนดรายละเอียดองค์ความรู้ และระดับของความรู้ความสามารถที่จําเป็นสําหรับการปฏิบัติงานในตําแหน่งของประเภททั่วไป วิชาการ และอํานวยการสายงาน และระดับตําแหน่ง 2.2 ด้านทักษะ ให้กําหนดรายละเอียด และระดับของทักษะที่จําเป็นสําหรับการปฏิบัติงานในตําแหน่งประเภททั่วไป วิชาการ และอํานวยการ สายงาน และระดับตําแหน่ง ทั้งนี้ส่วนราชการอาจกําหนดจํานวนทักษะเพิ่มขึ้นตามลักษณะงานได้ตามความเหมาะสม อนึ่ง สําหรับตําแหน่งประเภททั่วไป กลุ่มงานที่ใช้ทักษะ หรือความชํานาญเฉพาะตัวตามที่กําหนดในหนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1008/ว 17 ลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2552 ซึ่งลักษณะงานอาจไม่จําเป็นต้องใช้ทักษะนั้นๆ ในการปฏิบัติหน้าที่ราชการ จะไม่กําหนดทักษะนั้นไว้ก็ได้ แต่ส่วนราชการจะต้องวิเคราะห์งานและให้เสนอ อ.ก.พ. กรมเพื่อพิจารณาเห็นชอบ แล้วรายงานให้ อ.ก.พ. กระทรวง และ ก.พ. เพื่อทราบด้วย 2.3 ด้านสมรรถนะ ให้กําหนดรายละเอียด และระดับของสมรรถนะเฉพาะตามลักษณะงานที่ปฏิบัติอย่างน้อย 3 สมรรถนะ ให้เหมาะสมกับหน้าที่ และความรับผิดชอบของตําแหน่งประเภททั่วไป วิชาการ และอํานวยการ สายงาน และระดับตําแหน่ง โดยสามารถเลือกสมรรถนะเฉพาะตามลักษณะงานที่ปฏิบัติตามที่กําหนดไว้ในคําอธิบายรายละเอียด ความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะ ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 2 หรือเสนอให้อ.ก.พ.กรมพิจารณากําหนดสมรรถนะเฉพาะตามลักษณะที่ปฏิบัติของส่วนราชการนั้นก็ได้ ส่วนสมรรถนะหลัก และสมรรถนะทางการบริหารให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ ก.พ. กําหนด ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 1 ทั้งนี้ การกําหนดพฤติกรรมบ่งชี้ หรือตัวอย่างพฤติกรรมของสมรรถนะหลักสมรรถนะทางการบริหาร และสมรรถนะเฉพาะตามลักษณะงานที่ปฏิบัติ เพื่อแสดงสมรรถนะของแต่ละระดับ ให้กําหนดตามบทบาทหน้าที่ และความรับผิดชอบของตําแหน่งประเภททั่วไป วิชาการ และอํานวยการ สายงาน และระดับตําแหน่ง 2.4 ส่วนราชการอาจกําหนดระดับของความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะที่จําเป็นสําหรับตําแหน่งประเภททั่วไป วิชาการ และอํานวยการ สายงานและระดับให้สูงขึ้นตามลักษณะงานได้ตามความเหมาะสม 2.5 กําหนดระยะเวลาในการดําเนินการ 2.5.1 การกําหนดพฤติกรรมบ่งชี้ หรือตัวอย่างพฤติกรรมของสมรรถนะหลักให้ดําเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2552 2.5.2 การกําหนดรายละเอียดของความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะเฉพาะตามลักษณะงานที่ปฏิบัติ ให้ดําเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 กันยายน 2553 2.6 เมื่อส่วนราชการดําเนินการกําหนดความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะที่จําเป็นสําหรับตําแหน่งเสร็จแล้ว ให้เสนอ อ.ก.พ. กรมเพื่อพิจารณาเห็นชอบ แล้วรายงานให้ อ.ก.พ. กระทรวง และก.พ. ทราบด้วย จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นายปรีชา วัชราภัย) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - สํานักพัฒนาระบบจําแนกตําแหน่งและค่าตอบแทน โทร. 0 2547 1963, 0 2547 1967,
6,389
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สรข. 36/2561 เรื่อง กำหนดอัตราดอกเบี้ยในการคำนวณราคาพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2560
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สรข. 36/2561 เรื่อง กําหนดอัตราดอกเบี้ยในการคํานวณราคาพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2560 อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดอัตราดอกเบี้ยในการคํานวณราคา สําหรับพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2560 ที่จะประมูลในวันที่ 1 มิถุนายน 2561 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ตามกําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประจําเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2561 ที่จะเปิดประมูลพันธบัตรประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2560 ในวันที่ 1 มิถุนายน 2561 โดยธนาคารแห่งประเทศไทยจะประกาศอัตราดอกเบี้ยเพื่อใช้ในการคํานวณราคาพันธบัตรดังกล่าว ในวันที่ 30 พฤษภาคม 2561 นั้น ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดอัตราดอกเบี้ยในการคํานวณราคาพันธบัตรดังกล่าว เพื่อใช้สําหรับช่วงวันชําระเงินถึงวันจ่ายดอกเบี้ยถัดไป (I1) เท่ากับร้อยละ 1.54555 ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง (I2) เท่ากับร้อยละ 1.57970 ต่อปี อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม 2561 เป็นต้นไป ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 30 พฤษภาคม 2561 (นายวชิรา อารมย์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,390
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1008.1/ว 28 เรื่อง การเลื่อนเงินเดือนข้าราชการตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
ด่วนที่สุด ที่ นร 1008.1/ว 28 สํานักงาน ก.พ. ถนนพิษณุโลก กทม. 10300 22 ตุลาคม 2552 เรื่อง การเลื่อนเงินเดือนข้าราชการตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 เรียน (เวียนกระทรวง กรม และจังหวัด) สิ่งที่ส่งมาด้วย 1. กฎ ก.พ. ว่าด้วยการเลื่อนเงินเดือน พ.ศ. 2551 2. ฐานในการคํานวณและช่วงเงินเดือนสําหรับการเลื่อนเงินเดือนในแต่ละประเภทและระดับตําแหน่งตามกฎ ก.พ. ว่าด้วยการเลื่อนเงินเดือน พ.ศ. 2552 อื่นๆ - ด้วยคณะรัฐมนตรีในการประชุมเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2552 มีมติเห็นชอบระบบการเลื่อนเงินเดือนข้าราชการพลเรือนสามัญ ประกอบกับกฎ ก.พ. ว่าด้วยการเลื่อนเงินเดือน พ.ศ. 2552 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 126 ตอนที่ 78 ก วันที่ 15 ตุลาคม 2552 และมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2552 โดยอาศัยอํานาจตามความในข้อ 6 ของกฎ ก.พ. ว่าด้วยการเลื่อนเงินเดือน พ.ศ. 2552 ก.พ. จึงกําหนดฐานในการคํานวณและช่วงเงินเดือน พร้อมทั้งหลักเกณฑ์และเงื่อนไขอื่นตามที่กําหนดในกฎ ก.พ. ดังกล่าว รายละเอียดปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย สํานักงาน ก.พ. ขอชี้แจงรายละเอียดโดยสรุป ดังนี้ 1. การเลื่อนเงินเดือนตั้งแต่ครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 เป็นต้นไป ให้ถือปฏิบัติตามกฎ ก.พ. ว่าด้วยการเลื่อนเงินเดือน พ.ศ. 2552 2. การเลื่อนเงินเดือนตามกฎ ก.พ. ฉบับดังกล่าวให้ใช้ฐานในการคํานวณและช่วงเงินเดือนสําหรับการเลื่อนเงินเดือนในแต่ละประเภทและระดับตําแหน่งตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 2 3. ข้าราชการผู้ได้รับอนุญาตให้ลาไปปฏิบัติงานในองค์การระหว่างประเทศ หรือถูกสั่งให้ไปทําการใดซึ่งให้นับเวลาระหว่างนั้นเหมือนเต็มเวลาราชการ เมื่อข้าราชการผู้นั้นกลับมาปฏิบัติราชการ ให้ผู้บังคับบัญชามีอํานาจสั่งเลื่อนเงินเดือนพิจารณาสั่งให้มีการคํานวณหาอัตราเงินเดือนที่จะได้รับในอัตราไม่เกินร้อยละ 3 ของฐานเงินเดือนข้าราชการผู้นั้นในแต่ละรอบการประเมินสําหรับช่วงเวลาที่ได้รับอนุญาตให้ลาไปปฏิบัติงานหรือช่วงเวลาที่ถูกสั่งให้ไปทําการนั้น 4. วงเงินงบประมาณและการบริหารวงเงินงบประมาณสําหรับการเลื่อนเงินเดือนในแต่ละรอบการประเมินผลการปฏิบัติราชการตามมติคณะรัฐมนตรีข้างต้น มีดังนี้ 4.1 ให้ส่วนราชการและจังหวัดเลื่อนเงินเดือนข้าราชการพลเรือนในสังกัด ครั้งที่ 1 (1 เมษายน) และครั้งที่ 2 (1 ตุลาคม) ภายในวงเงินร้อยละ 3 ของเงินเดือนที่จ่ายให้ข้าราชการ ณ วันที่ 1 มีนาคม และ 1 กันยายน ตามลําดับ 4.2 ให้ส่วนราชการและจังหวัดแยกวงเงินการเลื่อนเงินเดือนตามข้อ 4.1 ออกอย่างน้อย 3 กลุ่ม คือ (1) กลุ่มผู้ดํารงตําแหน่งประเภทบริหาร (2) กลุ่มผู้ดํารงตําแหน่งประเภทอํานวยการ และ (3) กลุ่มผู้ดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการและประเภททั่วไป และให้ส่วนราชการและจังหวัดเลื่อนเงินเดือนข้าราชการภายในวงเงินของแต่ละกลุ่มก่อน หากวงเงินงบประมาณของกลุ่มใดมีเหลือ สามารถเกลี่ยวงเงินเลื่อนเงินเดือนให้กลุ่มอื่นได้ 4.3 ในกรณีที่ส่วนราชการมีหน่วยงานในราชการบริหารส่วนภูมิภาค ให้ส่วนราชการแยกวงเงินการเลื่อนเงินเดือนข้าราชการพลเรือนในราชการบริหารส่วนกลางออกจากราชการบริหารส่วนภูมิภาค โดยตัดยอดจํานวนคนและจํานวนเงินของข้าราชการพลเรือนในราชการบริหารส่วนภูมิภาคผู้ดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชํานาญการพิเศษ ระดับชํานาญการ ระดับปฏิบัติการ และตําแหน่งประเภททั่วไป ระดับอาวุโส ระดับชํานาญงาน ระดับปฏิบัติงาน ออกจากวงเงินการเลื่อนเงินเดือนของส่วนราชการ ทั้งนี้ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งเป็นผู้มีอํานาจสั่งบรรจุและแต่งตั้งตามมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 เป็นผู้สั่งเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการพลเรือนผู้ดํารงตําแหน่งประเภทและระดับตําแหน่งดังกล่าว 4.4 ให้ผู้ดํารงตําแหน่งดังต่อไปนี้เป็นผู้บริหารวงเงินการเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการพลเรือนในแต่ละกลุ่มตําแหน่งในแต่ละรอบการประเมิน **กลุ่มที่ 1** ***นายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรี*** บริหารวงเงินสําหรับตําแหน่งหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง อธิบดี หรือหัวหน้าส่วนราชการที่มีผู้บังคับบัญชาเป็นอธิบดีหรือตําแหน่งที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเป็นอธิบดี **กลุ่มที่ 2** ***(1)หัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง***บริหารวงเงินสําหรับตําแหน่งรองหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง ผู้ตรวจราชการของส่วนราชการระดับกระทรวง ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด เอกอัครราชทูต หัวหน้าคณะผู้แทนถาวร อัครราชทูต\* รองหัวหน้าคณะผู้แทนถาวร\* หัวหน้าสถานกงสุลใหญ่ และตําแหน่งประเภทบริหารที่เรียกชื่ออย่างอื่น (\*ให้ปลัดกระทรวงจัดสรรวงเงินให้เอกอัครราชทูตที่เป็นหัวหน้าสถานเอกอัครราชทูตบริหารวงเงินของอัครราชทูต และจัดสรรวงเงินให้หัวหน้าคณะผู้แทนถาวรบริหารวงเงินของรองหัวหน้าคณะผู้แทนถาวร) ***(2)หัวหน้าส่วนราชการระดับกรมที่อยู่ในบังคับบัญชาหรือรับผิดชอบการปฏิบัติราชการขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรีหรือต่อรัฐมนตรี*** บริหารวงเงินสําหรับตําแหน่งรองหัวหน้าส่วนราชการระดับกรมที่อยู่ในบังคับบัญชาหรือรับผิดชอบการปฏิบัติราชการขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรีหรือต่อรัฐมนตรี ***(3)หัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง รองหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง และอธิบดี หรือหัวหน้าส่วนราชการที่มีผู้บังคับบัญชาเป็นอธิบดีหรือตําแหน่งที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเป็นอธิบดี*** บริหารวงเงินสําหรับตําแหน่งรองอธิบดี หรือรองหัวหน้าส่วนราชการที่มีผู้บังคับบัญชาเป็นอธิบดีหรือตําแหน่งที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเป็นอธิบดี **กลุ่มที่ 3** ***อธิบดีและรองอธิบดี หรือหัวหน้าส่วนราชการและรองหัวหน้าส่วนราชการที่มีผู้บังคับบัญชาเป็นอธิบดีหรือตําแหน่งที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเป็นอธิบดี*** บริหารวงเงินสําหรับตําแหน่งประเภทอํานวยการ ตําแหน่งประเภทวิชาการ ตําแหน่งประเภททั่วไป **กลุ่มที่ 4** ***ผู้ว่าราชการจังหวัด*** บริหารวงเงินสําหรับตําแหน่งประเภทวิชาการระดับชํานาญการพิเศษ ระดับชํานาญการ และระดับปฏิบัติการ ตําแหน่งประเภททั่วไป ระดับอาวุโส ระดับชํานาญงาน และระดับปฏิบัติการ ในราชการบริหารส่วนภูมิภาค ทั้งนี้ ผู้บริหารวงเงินอาจจัดสรรวงเงินให้หัวหน้าส่วนราชการที่ต่ํากว่าระดับกรมหรือหัวหน้าหน่วยงานในราชการบริหารส่วนภูมิภาค บริหารวงเงินของข้าราชการในสังกัดได้ 5. ผู้ที่ได้รับเงินเดือนสูงสุดหรือใกล้ถึงเงินเดือนสูงสุดของสายงานหรือระดับตําแหน่งตามที่ ก.พ. กําหนดให้ได้รับค่าตอบแทนพิเศษซึ่งพิจารณาจากผลการปฏิบัติราชการ โดยคิดเป็นร้อยละของฐานในการคํานวณที่กําหนดไว้ตามช่วงเงินเดือนในแต่ละประเภทและระดับตําแหน่งตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 2 ส่วนการเบิกจ่ายค่าตอบแทนพิเศษนี้ ให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการเบิกจ่ายค่าตอบแทนพิเศษของข้าราชการและลูกจ้างประจําผู้ได้รับเงินเดือนหรือค่าจ้างถึงขั้นสูงหรือใกล้ถึงขั้นสูงของอันดับหรือตําแหน่ง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 125 ตอนพิเศษ 148 ง วันที่ 6 กันยายน 2551 จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นางเบญจวรรณ สร่างนิทร) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - สํานักพัฒนาระบบจําแนกตําแหน่งและค่าตอบแทน โทร. 0 2547 1000 ต่อ 8100 - 8104, 0 2547 1980, 0 2547 1982, 0 2547 1990 โทรสาร 0 2547 1437
6,391
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สนส. 13/2563 เรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สนส. 13 / 2563 เรื่อง การกําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจ สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับ ------------------------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ ธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับเป็นหนึ่งในธุรกิจบริการทางการเงินที่ส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ รวมถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่โดยรวมของประชาชนและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนเนื่องมาจากปัญหาหนี้นอกระบบซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้คุณภาพทางสังคมและเศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น จึงถือได้ว่าเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับประชาชนจํานวนมาก ภาครัฐโดยกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยจึงได้เข้ามากํากับดูแลการประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับตั้งแต่ พ.ศ. 2558 เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการประกอบอาชีพ ตลอดจนเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคจากการถูกเรียกเก็บดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมที่ไม่เป็นธรรมรวมทั้งเพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจทั้งที่เป็นสถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับที่มิใช่สถาบันการเงินอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์การกํากับดูแลที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน การปรับปรุงประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยในครั้งนี้ เพื่อกําหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับที่มิใช่สถาบันการเงินผู้ถือหุ้นรายใหญ่ กรรมการ ผู้มีอํานาจในการจัดการของผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับที่มิใช่สถาบันการเงิน และกรรมการ หุ้นส่วนผู้จัดการ ผู้มีอํานาจในการจัดการของบริษัทแม่ของผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับที่มิใช่สถาบันการเงินเพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบธุรกิจมีหลักธรรมาภิบาลที่ดี (Good Corporate Governance) และเพื่อปรับลดอัตรารวมสูงสุดของดอกเบี้ย เบี้ยปรับ ค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมใด ๆ ที่สถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับที่มิใช่สถาบันการเงินอาจเรียกเก็บจากลูกหนี้เหลือร้อยละ 33 ต่อปี (effective rate) ตามที่ พ.ร.บ. ธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และประกาศกระทรวงการคลังว่าด้วยกิจการที่ต้องขออนุญาตตามข้อ 5 แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 (เรื่อง สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับ) กําหนดให้ธนาคารแห่งประเทศไทยมีอํานาจกําหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับอัตรารวมสูงสุดของดอกเบี้ย เบี้ยปรับค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมใด ๆ ที่สถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับที่มีใช่สถาบันการเงินอาจเรียกเก็บจากลูกหนี้ได้ตามความเหมาะสมของภาวะเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยได้รวมหลักเกณฑ์ที่ใช้บังคับกับสถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับที่มิใช่สถาบันการเงินไว้ในประกาศฉบับเดียวกัน อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย 2.1 อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 38 มาตรา 39 มาตรา 40 มาตรา 41 มาตรา 46 มาตรา 47 และมาตรา 71 แห่งพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551 ธนาคารแห่งประเทศไทยออกข้อกําหนดเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับ ให้ธนาคารพาณิชย์และบริษัทเงินทุนปฏิบัติตามที่กําหนดในประกาศฉบับนี้ 2.2 อาศัยอํานาจตามความในข้อ 2 ข้อ 4 ข้อ 8 ข้อ 11 ข้อ 12 ข้อ 17 และข้อ 21 แห่งประกาศกระทรวงการคลังว่าด้วยกิจการที่ต้องขออนุญาตตามข้อ 5 แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 (เรื่อง สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับ) ธนาคารแห่งประเทศไทยออกข้อกําหนดเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับ ให้ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับที่มิใช่สถาบันการเงินปฏิบัติตามที่กําหนดในประกาศฉบับนี้ อื่นๆ - 3. ประกาศและหนังสือเวียนที่ยกเลิก 3.1 ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยที่ สนส. 2/2558 เรื่อง การกําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับสําหรับสถาบันการเงิน ลงวันที่ 22 มกราคม 2558 3.2 ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยที่ สนส. 1/2558 เรื่อง การกําหนดหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับสําหรับผู้ประกอบธุรกิจที่มิใช่สถาบันการเงิน ลงวันที่ 22 มกราคม 2558 3.3 หนังสือเวียนที่ ฝนส. (01) ว. 24/2558 เรื่อง นําส่งแบบรายงานการให้สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับ ลงวันที่ 17 เมษายน 2558 3.4 หนังสือเวียนที่ ฝนส. (01) ว. 25/2558 เรื่อง นําส่งแบบรายงานการให้สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับ ลงวันที่ 17 เมษายน 2558 อื่นๆ - 4. ขอบเขตการบังคับใช้ ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับกับธนาคารพาณิชย์และบริษัทเงินทุนตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน และผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับที่มิใช่สถาบันการเงินตามประกาศกระทรวงการคลังว่าด้วยกิจการที่ต้องขออนุญาตตามข้อ 5 แห่งประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 58 (เรื่อง สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับ) อื่นๆ - 5. เนื้อหา 5.1 คําจํากัดความ 5.1.1 “สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพ” หมายความว่า การให้กู้ยืมเงินการรับซื้อ ซื้อลด หรือรับช่วงซื้อลดตั๋วเงิน หรือตราสารเปลี่ยนมืออื่นใด การให้เช่าซื้อ การให้เช่าแบลีสซิ่งแก่บุคคลธรรมดา ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อนําไปใช้ในการประกอบอาชีพที่ไม่มีทรัพย์หรือทรัพย์สินเป็นหลักประกัน 5.1.2 “สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับ” หมายความว่าสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพที่มีวัตถุประสงค์เพื่อนําไปใช้ในการประกอบอาชีพ ที่มีวงเงินรวมสินเชื่อไม่เกินหนึ่งแสนบาทต่อลูกหนี้แต่ละราย และมีระยะเวลาการให้สินเชื่อตามที่ผู้บริโภคและผู้ประกอบธุรกิจได้ตกลงกัน โดยมีกระบวนการให้สินเชื่อที่ยืดหยุ่นสอดคล้องกับคุณลักษณะของกลุ่มลูกหนี้ เช่น ผู้ที่เริ่มต้นธุรกิจใหม่ เป็นต้น ทั้งนี้ ไม่รวมถึงสินเชื่อที่เกิดจากการให้เช่าซื้อ การให้เช่าแบบลีสซิ่ง และการขายแล้วเช่ากลับคืน (sale and lease back) ในสินค้าที่ผู้ประกอบธุรกิจจําหน่ายเป็นทางการค้าปกติและในสินค้าประเภทรถและเครื่องจักร สินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน และสินเชื่อเพื่อการเดินทางไปทํางานในต่างประเทศ 5.1.3 “สินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน” หมายความว่า การให้กู้ยืมเงินแก่บุคคลที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในรถ โดยผู้ประกอบธุรกิจมีการรับสมุดคู่มือจดทะเบียนรถ หรือจัดให้มีสัญญาเอกสาร หรือหลักฐานอื่นใด เพื่อให้เจ้าของกรรมสิทธิ์ในรถโอนทะเบียนรถไว้ล่วงหน้า เพื่อเป็นประกันการชําระหนี้ หรือจัดให้มีสัญญา เอกสาร หรือหลักฐานอื่นใด เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจสามารถนํารถที่เป็นกรรมสิทธิ์ของลูกหนี้ไปขายหรือดําเนินการอื่นใดเพื่อการชําระหนี้นั้น ทั้งนี้ ลูกหนี้ยังคงสามารถครอบครองรถและใช้ประโยชน์ในฐานะเจ้าของรถได้ตามปกติ 5.1.4 “รถ” หมายความว่า รถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ และกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก 5.1.5 “ผู้บริโภค” หมายความว่า ผู้บริโภคตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภค 5.1.6 “ผู้ประกอบธุรกิจ” หมายความว่า สถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับที่มิใช่สถาบันการเงิน 5.1.7 “สถาบันการเงิน” หมายความว่า ธนาคารพาณิชย์และบริษัทเงินทุนตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน 5.1.8 “ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับที่มิใช่สถาบันการเงิน” หมายความว่า ผู้ซึ่งได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับ ตามประกาศกระทรวงการคลังว่าด้วยกิจการที่ต้องขออนุญาตตามข้อ 5 แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 (เรื่อง สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับ) 5.2 หลักการ ในการประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับให้ผู้ประกอบธุรกิจถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การกํากับดูแลตามกรอบหลักการ (guiding principles) ดังต่อไปนี้ 5.2.1 การให้สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับควรพิจารณาให้แก่ผู้ที่มีความสามารถเพียงพอในการชําระหนี้ ไม่กระตุ้นการก่อหนี้ที่ไม่จําเป็น และคํานึงถึงความสามารถในการดํารงชีพของผู้บริโภคภายหลังการอนุมัติธุรกรรมด้านสินเชื่อ 5.2.2 การเรียกเก็บดอกเบี้ย เบี้ยปรับ ค่าปรับ ค่าบริการ ค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายใด ๆ จากผู้บริโภคควรคํานึงถึงต้นทุนที่แท้จริง ในอัตราที่เป็นธรรม และไม่เอาเปรียบผู้บริโภครวมทั้งให้บริการแก่ผู้บริโภคอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม 5.3 คุณสมบัติผู้ประกอบธุรกิจและการยื่นคําขออนุญาตการประกอบธุรกิจ ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับที่มิใช่สถาบันการเงิน ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ กรรมการ ผู้มีอํานาจในการจัดการของผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับที่มิใช่สถาบันการเงิน รวมถึงกรรมการ หุ้นส่วนผู้จัดการ ผู้มีอํานาจในการจัดการของบริษัทแม่ของผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับที่มิใช่สถาบันการเงินจะต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามประกาศกระทรวงการคลังเรื่อง กิจการที่ต้องขออนุญาตตามข้อ 5 แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 (เรื่อง สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับ) ทั้งนี้ ในการยื่นคําขออนุญาตเป็นผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับที่มิใช่สถาบันการเงินต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้ยื่นผ่านธนาคารแห่งประเทศไทยตามแบบยื่นค้าขออนุญาตประกอบธุรกิจและจัดส่งตามช่องทางที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกําหนดในคู่มือประชาชน 5.4 หลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจ 5.4.1 คุณสมบัติของผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับ ผู้ประกอบธุรกิจต้องพิจารณาให้สินเชื่อแก่บุคคลธรรมดาที่ผู้ประกอบธุรกิจประเมินแล้วว่าเป็นผู้มีความสามารถเพียงพอสําหรับการชําระหนี้ โดยผู้ประกอบธุรกิจสามารถนําปัจจัยอื่นที่สะท้อนความสามารถในการชําระหนี้ของผู้ใช้บริการสินเชื่อรายย่อย เพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับอย่างถูกต้องและน่าเชื่อถือมาใช้พิจารณาได้และต้องมีนโยบายและกระบวนการในการพิจารณาใช้ปัจจัยอื่นดังกล่าวในการพิจารณาความสามารถในการชําระหนี้ตามที่กําหนดในเอกสารแนบ 1 ทั้งนี้ ผู้ประกอบธุรกิจต้องทบทวนความสามารถในการชําระหนี้และความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้บริโภคที่ใช้บริการสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับ โดยหากปรากฏว่าผู้บริโภคมีความสามารถในการชําระหนี้และความเสี่ยงด้านเครดิตที่ดีขึ้นและเหมาะสมกับการใช้บริการสินเชื่อประเภทอื่น ให้ผู้ประกอบธุรกิจพิจารณาปรับเปลี่ยนประเภทสินเชื่อตามเห็นสมควรตามความเสี่ยงด้านเครดิตที่เปลี่ยนแปลงไป โดยแจ้งให้ผู้บริโภครับทราบและพิจารณาให้ความยินยอม อนึ่ง ห้ามผู้ประกอบธุรกิจดําเนินการดังต่อไปนี้ (1) ห้ามผู้ประกอบธุรกิจเปลี่ยนหนี้ประเภทอื่นมาเป็นสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับ เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากผู้บริโภคก่อน (2) ห้ามผู้ประกอบธุรกิจให้สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับแก่ผู้บริโภค หากผู้บริโภคนั้นมีความสามารถในการชําระหนี้และความเสี่ยงด้านเครดิตที่เข้าข่ายจะได้รับสินเชื่อประเภทอื่นเว้นแต่ผู้บริโภคจะแสดงเจตจํานงโดยชัดแจ้ง 5.4.2 การกําหนดวงเงินสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับ ผู้ประกอบธุรกิจจะให้วงเงินสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับแก่ผู้บริโภคแต่ละรายได้ไม่เกิน 100,000 บาท 5.4.3 การเรียกเก็บดอกเบี้ย เบี้ยปรับ ค่าปรับ ค่าบริการ ค่าธรรมเนียมใด ๆ และค่าใช้จ่ายอื่น ผู้ประกอบธุรกิจอาจเรียกเก็บดอกเบี้ยในหนี้ค้างชําระ หรือดอกเบี้ยในระหว่างเวลาผิดนัดชําระหนี้ หรือค่าบริการต่าง ๆ หรือเบี้ยปรับหรือค่าปรับในการชําระหนี้ล่าช้ากว่ากําหนด หรือค่าธรรมเนียม หรือค่าใช้จ่ายใด ๆ จากผู้บริโภค ทั้งนี้ เมื่อคํานวณรวมกันแล้วต้องไม่เกินร้อยละ 33 ต่อปี (effective rate) ทั้งนี้ ผู้ประกอบธุรกิจต้องไม่นําดอกเบี้ย เบี้ยปรับ ค่าปรับ ค่าบริการค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายใด ๆ มารวมกับจํานวนหนี้ที่ค้างชําระเพื่อคิดดอกเบี้ย เบี้ยปรับ และค่าปรับอีก และต้องดูแลมิให้นําการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ หรือปรับเปลี่ยนเงื่อนไขในสัญญาสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับเป็นช่องทางในการหลีกเลี่ยงข้อกําหนดเกี่ยวกับดอกเบี้ย เบี้ยปรับ ค่าปรับ ค่าบริการ ค่าธรรมเนียมใด ๆ และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับด้วย 5.4.4 การกําหนดนโยบายและแผนงาน ผู้ประกอบธุรกิจต้องกําหนดนโยบายและแผนงานในการดําเนินธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับ โดยควรประกอบด้วยทิศทางและแนวทางในการให้บริการสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับ รวมถึงแนวทางการดูแลผู้บริโภค ทั้งนี้ ในกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับที่มิใช่สถาบันการเงินใช้บริการจากผู้ให้บริการภายนอก (outsourcing) เพื่อลดต้นทุนการดําเนินงานและเพิ่มความคล่องตัวในการประกอบธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ ให้สามารถใช้บริการ'ได้เฉพาะในส่วนของงานที่ไม่ใช่งานหลักที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ (strategic function) โดยให้ถือปฏิบัติตามเอกสารแนบ 2 ด้วย 5.4.5 การบริหารจัดการความเสี่ยง ผู้ประกอบธุรกิจต้องจัดให้มีระบบการบริหารจัดการความเสี่ยงในการให้สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับ ดังนี้ (1) ระบบการพิจารณาคุณสมบัติของผู้บริโภคที่ยื่นขอสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับ เพื่อใช้ในการอนุมัติและกําหนดวงเงินสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับตามระดับความสามารถในการชําระหนี้ (2) ระบบการเรียกเก็บหนี้ เพื่อใช้ในการเตือนให้ทราบเมื่อผู้บริโภคเริ่มมีปัญหาในการชําระหนี้หรือไม่สามารถชําระหนี้ได้ตามข้อตกลง ตลอดจนกลยุทธ์ในการเรียกเก็บหนี้ในกรณีต่างๆ (3) ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหาร เพื่อใช้ในการกําหนดและทบทวนนโยบายและแผนงานเกี่ยวกับการให้สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับ 5.4.6 การดูแลผู้บริโภค ให้ผู้ประกอบธุรกิจถือปฏิบัติตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยว่าด้วยการบริหารจัดการด้านการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างเป็นธรรม (Market conduct) และถือปฏิบัติเพิ่มเติมในเรื่องการเปิดเผยข้อมูลอัตราดอกเบี้ย เบี้ยปรับ ค่าปรับ ค่าบริการ ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย การจัดทําตารางแสดงภาระหนี้ การเรียกให้ชําระหนี้และการติดตามทวงถามให้ชําระหนี้ การเปลี่ยนประเภทหนี้การปฏิบัติและการจัดการเกี่ยวกับข้อมูลของผู้บริโภค การปฏิบัติเมื่อมีข้อร้องเรียน และการประกอบการนอกสถานที่ ทั้งนี้ รายละเอียดให้เป็นไปตามที่กําหนดในเอกสารแนบ 3 5.4.7 การจัดทํา จัดเก็บ และจัดส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับที่มิใช่สถาบันการเงินสามารถจัดทํา จัดเก็บ และจัดส่งข้อมูลต่าง ๆ ตามหลักเกณฑ์ฉบับนี้ ตลอดจนเปิดเผยข้อมูลต่าง ๆ แก่ผู้บริโภคเป็นการทั่วไป หรือเปลี่ยนแปลงการแจ้งข้อมูลต่าง ๆ ให้แก่ผู้บริโภคในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ โดยนําหลักเกณฑ์ตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยว่าด้วยการจัดทําจัดเก็บ และจัดส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ของสถาบันการเงินมาใช้โดยอนุโลม 5.4.8 การดํารงอัตราส่วนหนี้สินรวมทั้งสิ้นต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Debt to Equity ratio) เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการการกํากับดูแลเกี่ยวกับธนาคารเงา (Shadow Banking) ของคณะกรรมการต้านเสถียรภาพการเงิน (Financial Stability Board: FSB) ซึ่งเป็นประเด็นสําคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อระบบสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงกําหนดให้การยื่นคําขออนุญาตเป็นผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับที่มิใช่สถาบันการเงิน ผู้ที่ยื่นขออนุญาตต้องมีอัตราส่วนหนี้สินรวมทั้งสิ้นต่อส่วนของผู้ถือหุ้นไม่เกินกว่า 7 เท่า และต้องดํารงอัตราส่วนดังกล่าวตลอดการประกอบธุรกิจสินเชื่อ รายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับ 5.4.9 การย้ายหรือปิดสํานักงานสาขา ให้ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับที่มิใช่สถาบันการเงินแจ้งการย้ายหรือปิดสํานักงานสาขา1 โดยรายงานในรูปแบบและตามระยะเวลาที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกําหนด และให้ประกาศกําหนดการย้ายหรือปิดสํานักงานสาขาล่วงหน้า โดยอย่างน้อยต้องประกาศไว้ในที่เปิดเผย ณ สํานักงานสาขานั้น ๆ และในช่วงเวลาดําเนินการดังกล่าว ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับที่มีใช่สถาบันการเงินต้องกําหนดแนวทางการดําเนินการเพื่ออํานวยความสะดวกให้ผู้บริโภคตามความเหมาะสม 5.5 การรายงานข้อมูลต่อธนาคารแห่งประเทศไทย 5.5.1 ผู้ประกอบธุรกิจต้องจัดทําและจัดส่งแบบรายงานในรูปแบบและตามระยะเวลาที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกําหนด รวมถึงจัดทําและจัดส่งรายงานและข้อมูลอื่นเพิ่มเติมเป็นรายกรณีตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยร้องขอ 5.5.2 ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับที่มิใช่สถาบันการเงินต้องจัดส่งงบการเงินประจําปีที่ผ่านการตรวจสอบของผู้สอบบัญชีและลงนามรับรองความถูกต้องโดยกรรมการผู้มีอํานาจกระทําการแทนของผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับที่มิใช่สถาบันการเงินมายังธนาคารแห่งประเทศไทยภายใน 180 วันนับจากวันสิ้นงวดบัญชี 5.6 การขออนุญาตธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารแห่งประเทศไทยอาจพิจารณาผ่อนผันการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขเกี่ยวกับการใช้บริการจากผู้ให้บริการภายนอก (outsourcing) การดํารงอัตราส่วนหนี้สินรวมทั้งสิ้นต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Debt to Equity ratio) และการรายงานข้อมูลต่อธนาคารแห่งประเทศไทยที่กําหนดในประกาศฉบับนี้เป็นรายกรณีได้ โดยผู้ประกอบธุรกิจต้องขออนุญาตผ่อนผันโดยแสดงเหตุผลและกรณีปิดสํานักงานสาขาเพียงชั่วคราว ให้ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับที่มิใช่สถาบันการเงินสามารถดําเนินการได้เลยแจ้งให้ธนาคารแห่งประเทศไทยทราบทันทีหลังจากปิดสํานักงานสาขาชั่วคราวดังกล่าว ความจําเป็นมายังธนาคารแห่งประเทศไทยตามที่กําหนดในคู่มือประชาชน และในการพิจารณาผ่อนผันดังกล่าว ธนาคารแห่งประเทศไทยอาจกําหนดหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขอื่นเพิ่มเติมด้วยก็ได้ 5.7 การกําหนดหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขในลักษณะอื่นเป็นการทั่วไป ในกรณีเหตุจําเป็นที่ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจหรือกระทบต่อการให้บริการตามปกติของผู้ประกอบธุรกิจ ธนาคารแห่งประเทศไทยอาจพิจารณาผ่อนผันหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขเกี่ยวกับการปฏิบัติเมื่อมีเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภค และการประกาศกําหนดการย้ายหรือปิดสํานักงานสาขาที่กําหนดในประกาศฉบับนี้เป็นการทั่วไปได้ และในการพิจารณาผ่อนผันดังกล่าว ธนาคารแห่งประเทศไทยอาจกําหนดหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขอื่นเพิ่มเติมด้วยก็ได้ 5.8 การกําหนดเงื่อนไขเพิ่มเติม สั่งให้แก้ไข ระงับ หรือเพิกถอนการอนุญาต ในกรณีผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับที่มิใช่สถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทยอาจสั่งการให้แก้ไข หรือระงับการดําเนินงานในธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับทั้งหมดหรือบางส่วนเป็นการชั่วคราว โดยธนาคารแห่งประเทศไทยอาจกําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือเงื่อนไขอื่น ๆ ให้ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับปฏิบัติด้วยก็ได้ รวมทั้งอาจเสนอความเห็นต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเพื่อพิจารณาเพิกถอนการอนุญาตได้ ทั้งนี้ ในกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสั่งเพิกถอนการอนุญาตให้ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับที่มิใช่สถาบันการเงินส่งคืนใบอนุญาตต่อธนาคารแห่งประเทศไทยภายใน 15 วัน 5.9 บทเฉพาะกาล ให้ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้ให้สินเชื่อที่มีลักษณะการจ่ายชําระเป็นงวดและมีการกําหนดระยะเวลาการผ่อนชําระไว้อย่างชัดเจนก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ สามารถเรียกเก็บอัตรารวมสูงสุดของดอกเบี้ย เบี้ยปรับ ค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมใด ๆ ได้ตามอัตราที่กําหนดตามสัญญาหรือข้อตกลงนั้นได้จนกว่าจะมีการชําระหนี้ดังกล่าวเสร็จสิ้น อื่นๆ - 6. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไป ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2563 (นายวิรไท สันติประภพ) ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,392
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 37/2561 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วันในเดือนมิถุนายน 2561
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 37/2561 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนมิถุนายน 2561 ---------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนมิถุนายน 2561 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ. 23/14/61 | 25,000 | 8 มิถุนายน 2561 | 12/6/61 – 26/6/61 | 14 | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2561 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 6 มิถุนายน 2561 (นางสาววชิรา อารมณ์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,393
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1008/ว 29 เรื่อง การเพิ่มคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งประเภทวิชาการ
ที่ นร 1008/ว 29 สํานักงาน ก.พ. ถนนพิษณุโลก กทม. 10300 22 ตุลาคม 2552 เรื่อง การเพิ่มคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งประเภทวิชาการ เรียน (เวียนกระทรวง กรม และจังหวัด) อ้างถึง หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1008/ว 10 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2551 สิ่งที่ส่งมาด้วย 1. บัญชีรายชื่อสายงานชื่อตําแหน่งและระดับตําแหน่งประเภทวิชาการที่เพิ่มคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่ง 2. คุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งประเภทวิชาการที่กําหนดเพิ่ม อื่นๆ - ตามที่ ก.พ. ได้จัดทํามาตรฐานกําหนดตําแหน่งตามมาตรา 48 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 จํานวน 245 สายงาน และได้แจ้งให้ส่วนราชการทราบและถือปฏิบัติตามหนังสือที่อ้างถึงแล้ว นั้น บัดนี้ ก.พ. ได้พิจารณามีมติให้เพิ่มคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งในมาตรฐานกําหนดตําแหน่งประเภทวิชาการของสายงานและระดับต่างๆ ตามบัญชีรายชื่อสายงานชื่อตําแหน่งและระดับตําแหน่งประเภทวิชาการที่เพิ่มคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งและคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งประเภทวิชาการที่กําหนดเพิ่ม ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 1 และ 2 ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป อนึ่ง สําหรับระดับตําแหน่งในแต่ละสายงานดังกล่าวข้างต้นยังคงให้เป็นไปตามที่กําหนดไว้ในมาตรฐานกําหนดตําแหน่งเดิม จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นางเบญจวรรณ สร่างนิทร) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - สํานักพัฒนาระบบจําแนกตําแหน่งและค่าตอบแทน โทร. 0 2547 1000 ต่อ 8118 โทรสาร 0 2547 1439
6,394
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1010.3/ว 30 เรื่อง กฎ ก.พ.ค. ออกตามความในพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
ที่ นร 1010.3/ว 30 สํานักงาน ก.พ. ถนนพิษณุโลก กทม. 10300 6 พฤศจิกายน 2552 เรื่อง กฎ ก.พ.ค. ออกตามความในพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 เรียน (เวียนกระทรวง กรม จังหวัด) สิ่งที่ส่งมาด้วย กฎ ก.พ.ค. ว่าด้วยการร้องทุกข์และการพิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2552 อื่นๆ - ด้วย ก.พ.ค. ได้ออกกฎ ก.พ.ค. ว่าด้วยการร้องทุกข์และการพิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2552 รายละเอียดปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย ทั้งนี้ กฎ ก.พ.ค. ดังกล่าว ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับกฤษฎีกา เล่ม 126 ตอนที่ 80 ก วันที่ 26 ตุลาคม 2552 แล้ว จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นางเบญจวรรณ สร่างนิทร) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - สํานักพิทักษ์ระบบคุณธรรม โทร. 0 2547 1673 โทรสาร 0 2547 1672
6,395
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 38/2561 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนมิถุนายน 2561
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 38/2561 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนมิถุนายน 2561 ---------------------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนมิถุนายน 2561 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ. 24/14/61 | 25,000 | 15 มิถุนายน 2561 | 19/6/61 – 3/7/61 | 14 | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2561 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 13 มิถุนายน 2561 (นางสาววชิรา อารมณ์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,396
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1008/ว 31 เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลให้ได้รับเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ตำแหน่งนิติกร (พ.ต.ก.)
ที่ นร 1008/ว 31 สํานักงาน ก.พ. ถนนพิษณุโลก กทม. 10300 30 พฤศจิกายน 2552 เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลให้ได้รับเงินเพิ่มสําหรับตําแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ตําแหน่งนิติกร (พ.ต.ก.) เรียน (เวียนกระทรวง กรม และจังหวัด) อ้างถึง 1. หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1008 / ว 14 ลงวันที่ 24 เมษายน 2552 2. หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1008 / ว 18 ลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2552 อื่นๆ - ตามที่ ก.พ. ได้ออกระเบียบ ก.พ. ว่าด้วยเงินเพิ่มสําหรับตําแหน่งที่มีเหตุพิเศษของข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2552 และประกาศ ก.พ. เรื่อง กําหนดตําแหน่งและเงินเพิ่มสําหรับตําแหน่งที่มีเหตุพิเศษของข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2552 และ อ.ก.พ.วิสามัญเฉพาะกิจเกี่ยวกับการรับรองมาตรฐานนักกฎหมายภาครัฐได้กําหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลให้ได้รับเงินเพิ่มสําหรับตําแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ตําแหน่งนิติกร (พ.ต.ก.) ตามหนังสือที่อ้างถึง 1 และ 2 มาเพื่อถือปฏิบัติ นั้น บัดนี้ อ.ก.พ.วิสามัญเฉพาะกิจเกี่ยวกับการรับรองมาตรฐานนักกฎหมายภาครัฐได้พิจารณากําหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลให้ได้รับเงินเพิ่มสําหรับตําแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ตําแหน่งนิติกร (พ.ต.ก.) เพิ่มเติมในส่วนที่เกี่ยวกับแนวทางการนับระยะเวลาปฏิบัติงานด้านกฎหมายสําหรับผู้ดํารงตําแหน่งนิติกรปฏิบัติการซึ่งได้รับวุฒิปริญญาในสาขาวิชานิติศาสตร์สูงขึ้นภายหลัง ดังนี้ 1. ให้เริ่มนับระยะเวลาปฏิบัติงานด้านกฎหมายตามวุฒิปริญญาที่สูงขึ้นได้ไม่ก่อนวันที่ได้รับวุฒิการศึกษาระดับปริญญาสาขาวิชานิติศาสตร์ที่สูงขึ้นนั้น 2. กรณีที่นับระยะเวลาปฏิบัติงานด้านกฎหมายตามข้อ 1. แล้วยังไม่ครบตามที่กําหนดในหนังสือที่อ้างถึง 1 ให้นําระยะเวลาปฏิบัติงานด้านกฎหมายก่อนที่ผู้ดํารงตําแหน่งนิติกรปฏิบัติการจะได้รับวุฒิปริญญาสูงขึ้นมานับรวมได้ โดยให้นับได้ไม่เกินกึ่งหนึ่งของระยะเวลาปฏิบัติงานด้านกฎหมายที่ใช้วุฒิปริญญาในสาขาวิชานิติศาสตร์ระดับเดิม ทั้งนี้ หากคํานวณระยะเวลาปฏิบัติงานด้านกฎหมายดังกล่าวแล้วมีเศษไม่ถึงหนึ่งเดือนให้คิดเป็นหนึ่งเดือน 3. กรณีไม่มีระยะเวลาปฏิบัติงานด้านกฎหมายตามวุฒิปริญญาที่สูงขึ้นตามข้อ 1. ให้นําระยะเวลาปฏิบัติงานด้านกฎหมายก่อนได้รับวุฒิปริญญาที่สูงขึ้นตามข้อ 2. ซึ่งนับได้ไม่เกินกึ่งหนึ่งมาเป็นระยะเวลาปฏิบัติงานด้านกฎหมายตามที่กําหนดเป็นระยะเวลาสําหรับผู้ดํารงตําแหน่งนิติกรปฏิบัติการที่ได้รับวุฒิปริญญานิติศาสตร์ในระดับที่สูงขึ้นได้ จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นางเบญจวรรณ สร่างนิทร) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - สํานักพัฒนาระบบจําแนกตําแหน่งและค่าตอบแทน โทร. 0 2547 1000 ต่อ 1988 1990 8100 8101 8119 8121 โทรสาร 0 2547 1437
6,397
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 39/2561 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนมิถุนายน 2561
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 39/2561 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนมิถุนายน 2561 ---------------------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนมิถุนายน 2561 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ. 25/14/61 | 25,000 | 22 มิถุนายน 2561 | 26/6/61 – 10/7/61 | 14 | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2561 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 20 มิถุนายน 2561 (นางสาววชิรา อารมณ์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,398
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1013.7/ว 32 เรื่อง ประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือน
ที่ นร 1013.7/ว 32 สํานักงาน ก.พ. ถนนพิษณุโลก กทม. 10300 22 ธันวาคม 2552 เรื่อง ประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือน เรียน (เวียน กระทรวง กรม และจังหวัด) สิ่งที่ส่งมาด้วย 1. สําเนาหนังสือสํานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ด่วนที่สุด ที่ นร 0506/15407 ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2552 2. ประมวลจริยธรรมข้าราชการ 3. สําเนาหนังสือสํานักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ ผผ. 15/ว 13 ลงวันที่ 30 ตุลาคม 2552 อื่นๆ - ด้วยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 279 บัญญัติให้มาตรฐานทางจริยธรรมของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง ข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐแต่ละประเภท ให้เป็นไปตามประมวลจริยธรรมที่กําหนดขึ้น โดยจะต้องมีกลไกและระบบในการดําเนินงานเพื่อให้การบังคับใช้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งกําหนดขั้นตอนการลงโทษตามความร้ายแรงแห่งการกระทํา การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม ให้ถือเป็นการกระทําผิดทางวินัย และเพื่ออนุวัติการให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยดังกล่าว ก.พ. โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีจึงได้กําหนดมาตรฐานทางจริยธรรมของข้าราชการพลเรือนตามประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือน ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2552 ดังมีรายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 1 และ 2 โดยที่ประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือน ข้อ 14 ได้กําหนดให้ ก.พ. แต่งตั้งคณะกรรมการจริยธรรมประจําส่วนราชการ โดยข้อเสนอของหัวหน้าส่วนราชการเพื่อควบคุม กํากับให้มีการปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมนี้ และข้อ 23 กําหนดให้การแต่งตั้งคณะกรรมการจริยธรรมและการจัดตั้งกลุ่มงานคุ้มครองจริยธรรมในส่วนราชการทุกแห่งต้องดําเนินการภายในเก้าสิบวัน นับแต่วันที่ประมวลจริยะธรรมนี้มีผลใช้บังคับ ดังนั้น จึงขอให้ส่วนราชการดําเนินการ ดังนี้ 1. เสนอชื่อผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกเป็นประธานกรรมการจริยธรรมพร้อมทั้งหลักฐานที่แสดงว่าเป็นผู้มีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ เพื่อให้ ก.พ. พิจารณาให้ความเห็นชอบ และเสนอชื่อกรรมการเพื่อให้ ก.พ. แต่งตั้ง เป็นคณะกรรมการจริยธรรมประจําส่วนราชการ โดยขอให้ส่งรายชื่อดังกล่าวให้สํานักงาน ก.พ. ภายในวันศุกร์ที่ 5 มีนาคม 2553 2. จัดตั้งกลุ่มงานคุ้มครองจริยธรรมของส่วนราชการ โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2552 เห็นควรให้ใช้ประโยชน์จากหน่วยงานการเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีหน้าที่ความรับผิดชอบครอบคลุมภารกิจการบริหารงานบุคคลในภาพรวมทั้งระบบอยู่แล้ว ดังนั้น ส่วนราชการจึงเห็นสมควรตั้งกลุ่มงานคุ้มครองจริยธรรมขึ้นภายในหน่วยงานการเจ้าหน้าที่ อนึ่ง ขอให้หัวหน้าส่วนราชการแต่งตั้งผู้ดํารงตําแหน่งประเภทบริหารระดับต้นขึ้นไปเป็นหัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองจริยธรรมของส่วนราชการ ตามข้อ 17 ด้วย นอกจากนี้ สํานักงาน ก.พ. ได้รับหนังสือสํานักงานผู้ตรวจการแผ่นดินให้ถือปฏิบัติตามแนวทางการพิจารณาความร้ายแรงของการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม ดังรายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 3 จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและดําเนินการต่อไปนี้ ทั้งนี้ ได้แจ้งกรมและจังหวัด ทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นางเบญจวรรณ สร่างนิทร) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - สถาบันพัฒนาข้าราชการพลเรือน ศูนย์ส่งเสริมจริยธรรม โทรศัพท์ 0 2547 1724 โทรสาร 0 2547 1727
6,399
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 55/2563 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 2 สัปดาห์ ในประจําเดือนสิงหาคม 2563
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 55/2563 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 2 สัปดาห์ ในประจําเดือนสิงหาคม 2563 ------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 2 สัปดาห์ ในประจําเดือนสิงหาคม 2563 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 2 สัปดาห์ ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ.31/14/63 | 45,000 | 7 สิงหาคม 2563 | 11/08/63 – 25/08/63 | 14 | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม 2563 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 6 สิงหาคม 2563 (นางสาววชิรา อารมย์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,400
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 40/2561 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนมิถุนายน 2561
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 40/2561 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนมิถุนายน 2561 ---------------------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนมิถุนายน 2561 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ. 26/14/61 | 25,000 | 29 มิถุนายน 2561 | 3/7/61 – 17/7/61 | 14 | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2561 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 27 มิถุนายน 2561 (นางสาววชิรา อารมณ์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,401
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 56/2563 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 2 สัปดาห์ ในประจําเดือนสิงหาคม 2563
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 56/2563 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 2 สัปดาห์ ในประจําเดือนสิงหาคม 2563 ----------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 2 สัปดาห์ ในประจําเดือนสิงหาคม 2563 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 2 สัปดาห์ ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ.32/14/63 | 45,000 | 14 สิงหาคม 2563 | 18/08/63 – 01/09/63 | 14 | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม 2563 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 13 สิงหาคม 2563 (นางสาววชิรา อารมย์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,402
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 47/2561 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนกรกฎาคม 2561
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 47/2561 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนกรกฎาคม 2561 ---------------------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนกรกฎาคม 2561 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ. 27/14/61 | 25,000 | 6 กรกฎาคม 2561 | 10/7/61 – 24/7/61 | 14 | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม 2561 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 4 กรกฎาคม 2561 (นางสาววชิรา อารมณ์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,403
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 57/2563 เรื่อง กําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2563 สำหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 18 สิงหาคม 2563
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 57/2563 เรื่อง กําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2563 สําหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 18 สิงหาคม 2563 --------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2563 สําหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 18 สิงหาคม 2563 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2563 สําหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 18 สิงหาคม 2563 เท่ากับร้อยละ 0.52903 ต่อปี (เท่ากับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงระยะสั้นการกู้ยืมเงินระหว่างธนาคารของตลาดกรุงเทพ (BIBOR) ระยะ 3 เดือน ณ วันที่ 14 สิงหาคม 2563 ลบร้อยละ 0.1) อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม 2563 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 14 สิงหาคม 2563 (นางสาววชิรา อารมย์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,404
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 100801/ว 1 เรื่อง การกำหนดอัตราเงินเดือนสำหรับคุณวุฒิที่ ก.พ.รับรอง
ที่ นร 100801/ว 1 สํานักงาน ก.พ ถนนพิษณุโลก กทม. 10300 11 มกราคม พ.ศ.2554 เรื่อง การกําหนดอัตราเงินเดือนสําหรับคุณวุฒิที่ ก.พ. รับรอง เรียน (เวียนกระทรวง กรม และจังหวัด) อ้างถึง หนังสือสํานักงาน ก.พ. ด่วนที่สุด ที่ นร 1008.1/ว 31 ลงวันที่ 17 กันยายน 2553 อื่นๆ - ตามหนังสือที่อ้างถึง ได้แจ้งมติ ก.พ.เกี่ยวกับการกําหนดอัตราเงินเดือนสําหรับคุณวุฒิที่ ก.พ. รับรองเพื่อการบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญใหม่ โดยปรับให้สูงขึ้น และให้นําอัตราเงินเดือนแบบช่วงมาใช้ ตลอดจนกําหนดอัตราเงินเดือนสําหรับผู้ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2553 เพื่อให้ส่วนราชการถือปฏิบัติ นั้น บัดนี้ ก.พ.พิจารณาเห็นว่า เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และเพื่อให้ระบบเงินเดือนแรกบรรจุสามารถบรรลุผลตามเจตนารมณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ก.พ.จึงกําหนดหลักเกณฑ์และวิธีการกําหนดอัตราเงินเดือนสําหรับคุณวุฒิที่ ก.พ.รับรองเพื่อการบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ เพิ่มเติม ดังนี้ 1. การกําหนดให้พิจารณาจากปัจจัยตามข้อ 2.4 (2) ของสิ่งที่ส่งมาด้วยของหนังสือที่อ้างถึง เกี่ยวกับความรู้ความสามารถด้านภาษา หากมีการกําหนดให้ใช้คะแนนสอบที่ผ่านการรับรองจากสถาบันต่าง ๆ เป็นเกณฑ์ในการพิจารณา ต้องเป็นคะแนนสอบที่ยังมีอายุการรับรองในวันแรกที่ส่วนราชการเปิดให้ยื่นผลคะแนนนั้น 2. ก.พ.กําหนดกรณีการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้นตามคุณวุฒิที่ได้รับตามข้อ 3 ของสิ่งที่ส่งมาด้วยของหนังสือที่อ้างถึง เพิ่มเติม ดังนี้ 2.1 ให้ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ซึ่งส่วนราชการรับโอนมาแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งในส่วนราชการก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2553 โดยผู้มีอํานาจสั่งบรรจุและแต่งตั้งไม่ได้ปรับให้ได้รับเงินเดือนตามคุณวุฒิที่ได้รับเพิ่มขึ้นหรือสูงขึ้น เนื่องจากเงินเดือนที่ได้รับเท่ากับหรือสูงกว่าเงินเดือนตามคุณวุฒิที่เพิ่มขึ้นนั้น ให้ได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้นตามคุณวุฒิในระดับปริญญาที่ได้รับเพิ่มขึ้นหรือสูงขึ้น ตามหลักเกณฑ์และวิธีการในข้อ 3.1 และข้อ 3.2 ของสิ่งที่ส่งมาด้วยของหนังสือที่อ้างถึง 2.2 ให้ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้มีคุณวุฒิเพิ่มขึ้นหรือสูงขึ้นในระดับปริญญาก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2553 แต่ผู้มีอํานาจสั่งบรรจุและแต่งตั้งไม่ได้มีคําสั่งให้ได้รับเงินเดือนตามคุณวุฒิที่ได้รับเพิ่มขึ้นหรือสูงขึ้น เนื่องจากเงินเดือนเท่ากับหรือสูงกว่าเงินเดือนแรกบรรจุขั้นต่ําของคุณวุฒิที่ได้รับเพิ่มขึ้นหรือสูงขึ้นนั้น ให้ได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้นตามคุณวุฒิในระดับปริญญาที่ได้รับเพิ่มขึ้นหรือสูงขึ้น ตามหลักเกณฑ์และวิธีการในข้อ 3.1 และข้อ 3.2 ของสิ่งที่ส่งมาด้วยของหนังสือที่อ้างถึง 2.3 ให้ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2553 ซึ่งเคยดํารงตําแหน่งประเภททั่วไปหรือเคยดํารงตําแหน่งในสายงานที่บรรจุจากผู้มีคุณวุฒิต่ํากว่าระดับปริญญา (สายงานเริ่มต้นระดับ 1 หรือระดับ 2) และ ก.พ.ได้อนุมัติการจัดตําแหน่งให้ดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการ ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2551 ได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้นตามคุณวุฒิที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการ และหากมีคุณวุฒิเพิ่มขึ้นหรือสูงขึ้นในระดับปริญญาก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2553 ให้ได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้นตามคุณวุฒิในระดับปริญญาที่ได้รับเพิ่มขึ้นหรือสูงขึ้นนั้น ตามหลักเกณฑ์และวิธีการในข้อ 3.1 และข้อ 3.2 ของสิ่งที่ส่งมาด้วยของหนังสือที่อ้างถึง 2.4 ให้ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ออกจากราชการก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2553 เพื่อไปรับราชการทหารหรือเพื่อไปปฏิบัติงานตามมติคณะรัฐมนตรี และบรรจุกลับเข้ารับราชการตั้งแต่วันที่1 ตุลาคม 2553 ได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้นตามคุณวุฒิที่บรรจุกลับเข้ารับราชการนั้น ตามหลักเกณฑ์และวิธีการในข้อ 3.1 และข้อ 3.2 ของสิ่งที่ส่งมาด้วยของหนังสือที่อ้างถึง ทั้งนี้ คุณวุฒิที่จะนํามาใช้เพื่อให้ได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้นนั้นจะต้องเป็นคุณวุฒิที่ตรงตามมาตรฐานกําหนดตําแหน่งของสายงาน ประเภท และระดับตําแหน่งที่ได้รับแต่งตั้ง จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นายนนทิกร กาญจนะจิตรา) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - สํานักพัฒนาระบบจําแนกตําแหน่งและค่าตอบแทน โครงการปรับระบบค่าตอบแทนฯ โทร. 0 2547 1363 0 2547 1379 โทรสาร 0 2547 1250
6,405
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 58/2563 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 2 สัปดาห์ ในประจําเดือนสิงหาคม 2563
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 58/2563 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 2 สัปดาห์ ในประจําเดือนสิงหาคม 2563 ----------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 2 สัปดาห์ ในประจําเดือนสิงหาคม 2563 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 2 สัปดาห์ ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ.33/14/63 | 45,000 | 21 สิงหาคม 2563 | 25/08/63 – 08/09/63 | 14 | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2563 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 19 สิงหาคม 2563 (นางสาววชิรา อารมย์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,406
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 48/2561 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนกรกฎาคม 2561
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 48/2561 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนกรกฎาคม 2561 ---------------------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนกรกฎาคม 2561 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ. 28/14/61 | 30,000 | 13 กรกฎาคม 2561 | 17/7/61 – 31/8/61 | 14 | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม 2561 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 10 กรกฎาคม 2561 (นางสาววชิรา อารมณ์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,407
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1008.1/ว 2 เรื่อง ประกาศ ก.พ. เรื่อง กำหนดตำแหน่งและเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษของข้าราชการพลเรือน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554
ที่ นร 1008.1/ว 2 สํานักงาน ก.พ. ถนนพิษณุโลก กทม. 10300 3 กุมภาพันธ์ 2554 เรื่อง ประกาศ ก.พ. เรื่อง กําหนดตําแหน่งและเงินเพิ่มสําหรับตําแหน่งที่มีเหตุพิเศษของข้าราชการพลเรือน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 ====== เรียน (เวียนกระทรวง กรม และจังหวัด) อ้างถึง หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1008.1/ว 13 ลงวันที่ 24 เมษายน 2552 สิ่งที่ส่งมาด้วย ประกาศ ก.พ. เรื่อง กําหนดตําแหน่งและเงินเพิ่มสําหรับตําแหน่งที่มีเหตุพิเศษของข้าราชการพลเรือน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 อื่นๆ - ตามหนังสือที่อ้างถึง สํานักงาน ก.พ. ได้ส่งระเบียบ ก.พ. ว่าด้วยเงินเพิ่มสําหรับตําแหน่งที่มีเหตุพิเศษของข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2552 และประกาศ ก.พ. เรื่อง กําหนดตําแหน่งและเงินเพิ่มสําหรับตําแหน่งที่มีเหตุพิเศษของข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2552 ไปให้กระทรวง กรม และจังหวัด เพื่อทราบและถือปฏิบัติ ความแจ้งแล้ว นั้น บัดนี้ ก.พ. ได้มีประกาศ ก.พ. เรื่อง กําหนดตําแหน่งและเงินเพิ่มสําหรับตําแหน่งที่มีเหตุพิเศษของข้าราชการพลเรือน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 128 ตอนพิเศษ 12 ง วันที่ 28 มกราคม 2554 ดังปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นายนนทิกร กาญจนะจิตรา) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - สํานักพัฒนาระบบจําแนกตําแหน่งและค่าตอบแทน โทร. 0 2547 1000 ต่อ 8100 8101 0 2547 1980 0 2547 1983 0 2547 1985 โทรสาร 0 2547 1437
6,408
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 59/2563 เรื่อง กําหนดอัตราดอกเบี้ยในการคำนวณราคาพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2563
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 59/2563 เรื่อง กําหนดอัตราดอกเบี้ยในการคํานวณราคาพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2563 ------------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดอัตราดอกเบี้ยในการคํานวณราคาพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2563 ที่จะประมูลในวันที่ 21 สิงหาคม 2563 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ตามกําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประจําเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2563 ที่จะเปิดประมูลพันธบัตรประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2563 ในวันที่ 21 สิงหาคม 2563 โดยธนาคารแห่งประเทศไทยจะประกาศอัตราดอกเบี้ยเพื่อใช้ในการคํานวณราคาพันธบัตรดังกล่าวในวันที่ 19 สิงหาคม 2563 นั้น ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดอัตราดอกเบี้ยในการคํานวณราคาพันธบัตรดังกล่าว เพื่อใช้สําหรับช่วงวันชําระเงินถึงวันจ่ายดอกเบี้ยถัดไป (I1) เท่ากับร้อยละ 0.61895 ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง (I2) เท่ากับร้อยละ 0.62899 ต่อปี อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2563 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 20 สิงหาคม 2563 (นางสาววชิรา อารมย์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,409
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 49/2561 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนกรกฎาคม 2561
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 49/2561 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนกรกฎาคม 2561 ---------------------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนกรกฎาคม 2561 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ. 29/14/61 | 30,000 | 20 กรกฎาคม 2561 | 24/7/61 – 7/8/61 | 14 | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2561 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 17 กรกฎาคม 2561 (นางสาววชิรา อารมณ์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,410
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1008/ว 3 เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลให้ได้รับเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษตำแหน่งนิติกร (พ.ต.ก.)
ที่ นร 1008/ว 3 สํานักงาน ก.พ. ถนนพิษณุโลก กทม. 10300 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2554 เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลให้ได้รับเงินเพิ่มสําหรับตําแหน่งที่มีเหตุพิเศษตําแหน่งนิติกร (พ.ต.ก.) เรียน (เวียนกระทรวง กรม และจังหวัด) อ้างถึง 1. หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1008/ว 14 ลงวันที่ 24 เมษายน 2552 2. หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1008/ว 18 ลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2552 3. หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1008/ว 31 ลงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2552 4. หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1008/ว 2 ลงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2553 5. หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1008/ว 23 ลงวันที่ 29 มิถุนายน 2553 สิ่งที่ส่งมาด้วย 1. หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลให้ได้รับเงินเพิ่มสําหรับตําแหน่งที่มีเหตุพิเศษตําแหน่งนิติกร (พ.ต.ก.) 2. ลักษณะงานด้านกฎหมายในราชการพลเรือน 3. ขั้นตอนการคัดเลือกบุคคลให้ได้รับเงินเพิ่มสําหรับตําแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ตําแหน่งนิติกร (พ.ต.ก.) 4. แบบการพิจารณาคัดเลือกบุคคลให้ได้รับเงินเพิ่มสําหรับตําแหน่งที่มีเหตุพิเศษตําแหน่งนิติกร (พ.ต.ก.) อื่นๆ - ตามหนังสือที่อ้างถึง แจ้งมติ ก.พ. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลให้ได้รับเงินเพิ่มสําหรับตําแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ตําแหน่งนิติกร (พ.ต.ก.) ตามระเบียบ ก.พ.ว่าด้วยเงินเพิ่มสําหรับตําแหน่งที่มีเหตุพิเศษของข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2552 และประกาศ ก.พ. เรื่อง กําหนดตําแหน่งและเงินเพิ่มสําหรับตําแหน่งที่มีเหตุพิเศษของข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2552 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 มาเพื่อถือปฏิบัติ ความแจ้งแล้ว นั้น บัดนี้ ก.พ. พิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อให้การพิจารณาคัดเลือกบุคคลให้ได้รับ พ.ต.ก. ของส่วนราชการ มีขั้นตอนที่ชัดเจน โปร่งใส เป็นธรรม สามารถส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาและรักษาผู้ดํารงตําแหน่งนิติกรที่มีคุณภาพ มีความรู้ความชํานาญ และประสบการณ์สูงในงานด้านกฎหมาย ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนราชการและระบบราชการโดยรวมมากยิ่งขึ้น จึงมีมติให้ยกเลิกมติ อ.ก.พ. วิสามัญเฉพาะกิจเกี่ยวกับการรับรองมาตรฐานนักกฎหมายภาครัฐตามหนังสือที่อ้างถึง รวม 5 ฉบับ และกําหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลให้ได้รับเงินเพิ่มสําหรับตําแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ตําแหน่งนิติกร (พ.ต.ก.) ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย อนึ่ง สําหรับข้าราชการผู้ดํารงตําแหน่งนิติกรที่ได้ยื่นคําขอรับการคัดเลือกต่อส่วนราชการเพื่อให้ได้รับเงินเพิ่มสําหรับตําแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ตําแหน่งนิติกร (พ.ต.ก.) ก่อนวันที่ 1 มีนาคม 2554 ให้ส่วนราชการดําเนินการคัดเลือกฯ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กําหนดไว้เดิมโดยอนุโลม ส่วนข้าราชการผู้ดํารงตําแหน่งนิติกรที่ยื่นคําขอต่อส่วนราชการ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2554 เป็นต้นไป ให้ส่วนราชการดําเนินการคัดเลือกฯ โดยใช้หลักเกณฑ์และวิธีการตามที่กําหนดในสิ่งที่ส่งมาด้วยนี้ จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นายนนทิกร กาญจนะจิตรา) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - สํานักพัฒนาระบบจําแนกตําแหน่งและค่าตอบแทน โทร. 0 2547 1000 ต่อ 8100 8101 0 2547 1980 0 2547 1983 0 2547 1985 โทรสาร 0 2547 1437
6,411
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 60/2563 เรื่อง กำหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2562 สำหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 26 สิงหาคม 2563
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 60/2563 เรื่อง กําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2562 สําหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 26 สิงหาคม 2563 --------------------------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2562 สําหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 26 สิงหาคม 2563 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2562 สําหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 26 สิงหาคม 2563 เท่ากับร้อยละ 0.52902 ต่อปี (เท่ากับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงระยะสั้นการกู้ยืมเงินระหว่างธนาคารของตลาดกรุงเทพ (BIBOR) ระยะ 3 เดือน ณ วันที่ 24 สิงหาคม 2563 ลบร้อยละ 0.1) อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2563 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 24 สิงหาคม 2563 (นางสาววชิรา อารมย์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,412
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 61/2563 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 2 สัปดาห์ ในประจําเดือนสิงหาคม 2563
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 61/2563 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 2 สัปดาห์ ในประจําเดือนสิงหาคม 2563 ------------------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 2 สัปดาห์ ในประจําเดือนสิงหาคม 2563 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 2 สัปดาห์ ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ.34/14/63 | 45,000 | 28 สิงหาคม 2563 | 01/09/63 – 15/09/63 | 14 | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม 2563 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 26 สิงหาคม 2563 (นางสาววชิรา อารมย์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,413
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1003/ว 4 เรื่อง ระบบข้าราชการผู้มีผลสัมฤทธิ์สูง
ที่ นร 1003/ว 4 สํานักงาน ก.พ. ถนนพิษณุโลก กทม. 10300 11 มีนาคม 2554 เรื่อง ระบบข้าราชการผู้มีผลสัมฤทธิ์สูง เรียน (เวียนกระทรวง กรม และจังหวัด) อ้างถึง 1. หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1003/ว 42 ลงวันที่ 30 กันยายน 2553 2. หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1008/ว 40 ลงวันที่ 30 กันยายน 2553 อื่นๆ - ตามหนังสือที่อ้างถึง 1 แจ้งมติ ก.พ. กําหนดให้นําระบบข้าราชการผู้มีผลสัมฤทธิ์สูงที่ได้ปรับปรุงใหม่ให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาเพื่อส่วนราชการทราบและถือปฏิบัติ ความแจ้งแล้ว นั้น บัดนี้ ก.พ. ได้พิจารณาเห็นว่า เพื่อให้ระบบข้าราชการผู้มีผลสัมฤทธิ์สูงมีความเหมาะสมและสอดคล้องกับทิศทางการเตรียมกําลังคนคุณภาพในภาคราชการ ก.พ. จึงมีมติให้ปรับปรุงกระบวนการบริหารทรัพยากรบุคคลในระบบข้าราชการผู้มีผลสัมฤทธิ์สูง ดังนี้ 1. ให้เพิ่มเติมคุณสมบัติของผู้เข้ารับการคัดเลือกในเอกสารสิ่งที่ส่งมาด้วยของหนังสือที่อ้างถึง 1 ข้อ 1.2 เป็นดังนี้ "1) เป็นข้าราชการพลเรือนสามัญซึ่งดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการระดับปฏิบัติการหรือระดับชํานาญการ" 2. สําหรับการปรับปรุงการกําหนดตําแหน่งเป็นการเฉพาะคราวเพื่อแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใดที่อยู่ในระบบข้าราชการผู้มีผลสัมฤทธิ์สูงประเภทวิชาการ ระดับชํานาญการเป็นระดับชํานาญการพิเศษ ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 1 ของหนังสือที่อ้างถึง 2 ต้องเป็นกรณีที่ผู้นั้นได้สั่งสมประสบการณ์ตามกรอบการสั่งสมประสบการณ์มาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นายนนทิกร กาญจนะจิตรา) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - ศูนย์นักบริหารระดับสูง โทร. 0 2547 1709 โทรสาร 0 2547 1736
6,414
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 50/2561 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนกรกฎาคม 2561
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 50/2561 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนกรกฎาคม 2561 ---------------------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนกรกฎาคม 2561 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ. 30/14/61 | 30,000 | 25 กรกฎาคม 2561 | 31/7/61 – 14/8/61 | 14 | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2561 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 23 กรกฎาคม 2561 (นางสาววชิรา อารมณ์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,415
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1008/ว 5 เรื่อง หลักเกณฑ์การกำหนดตำแหน่งเลขาธิการและรองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้
ที่ นร 1008/ว 5 สํานักงาน ก.พ. ถนนพิษณุโลก กทม. 10300 30 มีนาคม 2554 เรื่อง หลักเกณฑ์การกําหนดตําแหน่งเลขาธิการและรองเลขาธิการศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เรียน (เวียนกระทรวง กรม และจังหวัด) อ้างถึง หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1008/ว 17 ลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2552 อื่นๆ - ตามหนังสือที่อ้างถึง ก.พ. ได้กําหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการกําหนดตําแหน่งประเภทบริหารประเภทอํานวยการประเภทวิชาการและประเภททั่วไป รวมทั้งหลักเกณฑ์อื่นๆ ตามมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาเพื่อถือปฏิบัติ นั้น โดยที่พระราชบัญญัติการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2553 ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2553 กําหนดให้มีศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เรียกโดยย่อว่า “ศอ.บต.” เป็นส่วนราชการรูปแบบเฉพาะที่ไม่สังกัดสํานักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือทบวง มีฐานะเป็นนิติบุคคลและอยู่ในบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี มีอํานาจหน้าที่ปฏิบัติการตามที่พระราชบัญญัติการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2553 ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และให้มีเลขาธิการศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีฐานะเทียบเท่าปลัดกระทรวง รับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่ของ ศอ.บต. และเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้าง ซึ่งปฏิบัติงานใน ศอ.บต. ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี โดยจะให้มีรองเลขาธิการตามจํานวนที่นายกรัฐมนตรีกําหนดเป็นผู้ช่วยสั่งและปฏิบัติงานตามที่เลขาธิการมอบหมายก็ได้ ให้เลขาธิการและรองเลขาธิการศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นข้าราชการ พลเรือนสามัญ และให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้นําความกราบบังคมทูลเพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเลขาธิการและรองเลขาธิการ และให้เลขาธิการและรองเลขาธิการพ้นจากตําแหน่ง ก.พ. พิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อให้การกําหนดตําแหน่งเลขาธิการและรองเลขาธิการศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2553 ก.พ. จึงมีมติให้เพิ่มเติมความในหลักเกณฑ์การกําหนดตําแหน่งประเภทบริหาร ในสิ่งที่ส่งมาด้วยของหนังสือที่อ้างถึงข้อ 1.9 ตําแหน่งอื่นที่ ก.พ. กําหนด เป็นดังนี้ “1.9.4 ตําแหน่งเลขาธิการศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้กําหนดตําแหน่งเลขาธิการศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (เลขาธิการ ศอ.บต.) เป็นตําแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง และกําหนดชื่อตําแหน่งในการบริหารงานชื่อตําแหน่งในสายงาน ประเภทและระดับตําแหน่ง เป็นตําแหน่งเลขาธิการศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ตําแหน่งนักบริหาร)ประเภทบริหารระดับสูง มีฐานะเทียบเท่าปลัดกระทรวงจํานวน ๑ ตําแหน่งในศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)และให้ปฏิบัติงานประจําใน ศอ.บต. โดยให้รับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่ของ ศอ.บต.และเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการพนักงานและลูกจ้าง ซึ่งปฏิบัติงานใน ศอ.บต. ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรีตามพระราชบัญญัติการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2553 1.9.5 ตําแหน่งรองเลขาธิการศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้กําหนดตําแหน่งรองเลขาธิการศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (รองเลขาธิการ ศอ.บต.) เป็นตําแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง และกําหนดชื่อตําแหน่งในการบริหารงานชื่อตําแหน่งในสายงาน ประเภทและระดับตําแหน่งเป็นตําแหน่งรองเลขาธิการศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ตําแหน่งนักบริหาร)ประเภทบริหารระดับสูง มีฐานะเทียบเท่ารองปลัดกระทรวงในศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)และให้ปฏิบัติงานประจําใน ศอ.บต. โดยจะให้มีรองเลขาธิการตามจํานวนที่นายกรัฐมนตรีกําหนดเป็นผู้ช่วยสั่งและปฏิบัติงานตามที่เลขาธิการมอบหมายก็ได้ตามพระราชบัญญัติการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2553” จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นายนนทิกร กาญจนะจิตรา) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - สํานักพัฒนาระบบจําแนกตําแหน่งและค่าตอบแทน โทร. 0 2547 1000 ต่อ 8128, 8132 โทรสาร 0 2547 1439
6,416
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1008/ว 6 เรื่อง กำหนดระยะเวลาดำเนินการกรณี ก.พ.ค. มีคำวินิจฉัย หรือ ก.พ. มีมติให้ยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
ที่ นร 1008/ว 6 สํานักงาน ก.พ. ถนนพิษณุโลก กทม. 10300 30 มีนาคม 2554 เรื่อง กําหนดระยะเวลาดําเนินการกรณี ก.พ.ค. มีคําวินิจฉัย หรือ ก.พ. มีมติให้ยกเลิกคําสั่งแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ เรียน (เวียนกระทรวง กรม และจังหวัด) อ้างถึง หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1008/ว 46 ลงวันที่ 30 กันยายน 2553 อื่นๆ - ตามหนังสือที่อ้างถึง แจ้งมติ ก.พ. กําหนดแนวทางการดําเนินการกรณี ก.พ.ค. มีคําวินิจฉัยหรือ ก.พ. มีมติให้ยกเลิกคําสั่งแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มาเพื่อถือปฏิบัติ นั้น บัดนี้ ก.พ. พิจารณาเห็นว่า เพื่อให้การดําเนินการกรณี ก.พ.ค. มีคําวินิจฉัย หรือ ก.พ. มีมติให้ยกเลิกคําสั่งแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ก.พ. จึงมีมติให้กําหนดระยะเวลาดําเนินการดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ส่วนราชการรับทราบคําวินิจฉัยของ ก.พ.ค. หรือมติ ก.พ. แล้วแต่กรณี จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นายนนทิกร กาญจนะจิตรา) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - สํานักพัฒนาระบบจําแนกตําแหน่งและค่าตอบแทน โทร. 0 2547 1000 ต่อ 8128, 8132 โทรสาร 0 2547 1439
6,417
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1012/ว 7 เรื่อง ระเบียบ ก.พ. ว่าด้วยวันออกจากราชการของข้าราชการพลเรือนสามัญ พ.ศ. 2554
ที่ นร 1012/ว 7 สํานักงาน ก.พ. ถนนพิษณุโลก กทม. 10300 7 เมษายน 2554 เรื่อง ระเบียบ ก.พ. ว่าด้วยวันออกจากราชการของข้าราชการพลเรือนสามัญ พ.ศ. 2554 เรียน (เวียนกระทรวง กรม และจังหวัด) สิ่งที่ส่งมาด้วย ระเบียบ ก.พ. ว่าด้วยวันออกจากราชการของข้าราชการพลเรือนสามัญ พ.ศ. 2554 อื่นๆ - ด้วย ก.พ. ได้ออกระเบียบ ก.พ. ว่าด้วยวันออกจากราชการของข้าราชการพลเรือนสามัญ พ.ศ. 2554 และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 128 ตอนพิเศษ 23 ง วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2554 แล้ว รายละเอียดปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นายนนทิกร กาญจนะจิตรา) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - สํานักมาตรฐานวินัย โทร 0 2547 1631 โทรสาร 0 2547 1630
6,418
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1008.1/ว 8 เรื่อง การปรับเงินเดือนเข้าสู่บัญชีเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูงของข้าราชการพลเรือนสามัญ
ที่ นร 1008.1/ว 8 สํานักงาน ก.พ. ถนนพิษณุโลก กทม. 10300 28 เมษายน 2554 เรื่อง การปรับเงินเดือนเข้าสู่บัญชีเงินเดือนขั้นต่ําขั้นสูงของข้าราชการพลเรือนสามัญ เรียน (เวียนกระทรวง กรม และจังหวัด) อ้างถึง (1) หนังสือสํานักงาน ก.พ. ด่วนที่สุด ที่ นร 1008.1/ว 28 ลงวันที่ 22 ตุลาคม 2552 (2) กฎ ก.พ.ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินเดือน พ.ศ. 2551 สิ่งที่ส่งมาด้วย (1) พระราชกฤษฎีกาการปรับเงินเดือนขั้นต่ําขั้นสูงของข้าราชการพลเรือนสามัญ พ.ศ. 2554 (2) กฎ ก.พ.ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินเดือน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 (3) แบบคําสั่งให้ข้าราชการได้รับเงินเดือนกรณีปรับเงินเดือนเข้าสู่บัญชีเงินเดือนขั้นต่ําขั้นสูงของข้าราชการพลเรือนสามัญที่ได้รับการปรับใหม่ อื่นๆ - ตามหนังสือที่อ้างถึง (1) แจ้งว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบระบบการเลื่อนเงินเดือนข้าราชการพลเรือนสามัญ และ ก.พ. ได้อาศัยอํานาจตามความในข้อ 6 ของกฎ ก.พ.ว่าด้วยการเลื่อนเงินเดือน พ.ศ. 2552 กําหนดฐานในการคํานวณและช่วงเงินเดือน และตามที่อ้างถึง (2) ก.พ. ได้กําหนดเงินเดือนสูงสุดสําหรับผู้ดํารงตําแหน่งประเภททั่วไประดับอาวุโสและประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ เพื่อให้ส่วนราชการทราบและถือปฏิบัติ ความแจ้งแล้ว นั้น บัดนี้ ได้มีการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาการปรับเงินเดือนขั้นต่ําขั้นสูงของข้าราชการพลเรือนสามัญ พ.ศ. 2554 และกฎ ก.พ.ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินเดือน (ฉบับที่ 2)พ.ศ. 2554 โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2554 ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย (1) และ (2) และเพื่อให้การสั่งให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินเดือนเป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาและกฎ ก.พ. ดังกล่าว สํานักงาน ก.พ. จึงขอชี้แจงแนวทางปฏิบัติที่ผ่านความเห็นชอบของ ก.พ. สําหรับการออกคําสั่งในวันที่ 1 เมษายน 2554 ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ 1. ให้ผู้มีอํานาจสั่งเลื่อนเงินเดือนพิจารณาการเลื่อนเงินเดือนตามผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการพลเรือนสามัญระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2553 ถึง 31 มีนาคม 2554 โดยใช้ฐานในการคํานวณและช่วงเงินเดือนตามหนังสือที่อ้างถึง (1) ในกรณีที่ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใดได้รับการพิจารณาเลื่อนเงินเดือนเกินกว่าเงินเดือนขั้นสูงของบัญชีเงินเดือนขั้นต่ําขั้นสูงท้ายพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 หรือเงินเดือนสูงสุดที่ ก.พ. กําหนดตามข้อ 3 ของกฎ ก.พ.ตามอ้างถึง (2) ให้ผู้นั้นได้รับค่าตอบแทนพิเศษตามอัตราของผลการประเมินตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายค่าตอบแทนพิเศษของข้าราชการและลูกจ้างประจําผู้ได้รับเงินเดือนหรือค่าจ้างถึงขั้นสูงหรือใกล้ถึงขั้นสูงของอันดับหรือตําแหน่ง พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม 2. ในกรณีที่ผู้มีอํานาจออกคําสั่งที่มีผลต่อการรับเงินเดือนของข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใด (ถ้ามี) เช่น คําสั่งเลื่อนระดับตําแหน่ง ให้ผู้นั้นได้รับเงินเดือนตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กําหนดในเรื่องนั้น ๆ 3. เมื่อผู้มีอํานาจได้มีคําสั่งเลื่อนเงินเดือนตามข้อ 1 หรือมีคําสั่งตามข้อ 2 ให้แก่ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใดแล้วแต่กรณีแล้ว ให้ออกคําสั่งปรับเงินเดือนให้ข้าราชการผู้นั้นเข้าสู่บัญชีเงินเดือนขั้นต่ําขั้นสูงของข้าราชการพลเรือนสามัญท้ายพระราชกฤษฎีกาตามสิ่งที่ส่งมาด้วย (1) ตามประเภทและระดับตําแหน่งที่ได้รับแต่งตั้ง โดยปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ตามแบบคําสั่งให้ข้าราชการได้รับเงินเดือนกรณีปรับเงินเดือนเข้าสู่บัญชีเงินเดือนขั้นต่ําขั้นสูงของข้าราชการพลเรือนสามัญที่ได้รับการปรับใหม่ ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย (3) ทั้งนี้ หากข้าราชการผู้ใดได้รับค่าตอบแทนพิเศษตามอัตราของผลการประเมินในกรณีตามข้อ 1 และเงินเดือนที่ได้รับการปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ยังต่ํากว่าเงินเดือนขั้นสูงของบัญชีเงินเดือนขั้นต่ําขั้นสูงท้ายพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวหรือเงินเดือนสูงสุดที่ ก.พ. กําหนดตามกฎ ก.พ.ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย (2) ให้ผู้นั้นได้รับเงินเดือนตามอัตราของผลการประเมิน ในกรณีที่อัตราของผลการประเมินเกินกว่าเงินเดือนที่เหลืออยู่ให้ได้รับเงินเดือนจนถึงเงินเดือนขั้นสูงตามบัญชีเงินเดือนขั้นต่ําขั้นสูงท้ายพระราชกฤษฎีกาหรือเงินเดือนสูงสุดที่ ก.พ.กําหนดตามกฎ ก.พ. ดังกล่าวก่อน แล้วนําจํานวนอัตราที่เหลือมาเบิกจ่ายเป็นค่าตอบแทนพิเศษตามระเบียบกระทรวงการคลังที่กล่าวข้างต้นโดยอนุโลม ทั้งนี้ ในการคํานวณเงินเดือนเพื่อออกคําสั่งแต่ละครั้งตามข้อ 1 ข้อ 2 และข้อ 3 ให้ถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2554 ในกรณีที่มีเศษไม่ถึงสิบบาทให้ปัดเป็นสิบบาท จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นายนนทิกร กาญจนะจิตรา) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - สํานักพัฒนาระบบจําแนกตําแหน่งและค่าตอบแทน โครงการปรับระบบค่าตอบแทนฯ โทร. 0 2547 1379, 0 2547 1450 0 2547 1363, 0 2547 1402 0 2547 1416 โทรสาร 0 2547 1362
6,419
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 62/2563 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประจำเดือนกันยายน 2563
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 62/2563 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประจําเดือนกันยายน 2563 ------------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประจําเดือนกันยายน 2563 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประจําเดือนกันยายน 2563 ดังนี้ | | | | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | อัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋ว(ร้อยละต่อปี) | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน | วันครบกําหนด | ประเภทอายุ | อายุคงเหลือ | | 35/91/63 | - | 50,000 | 1 ก.ย. 63 | 3 ก.ย. 63 | 3 ธ.ค. 63 | 91 วัน | 91 วัน | | 35/182/63 | - | 20,000 | 1 ก.ย. 63 | 3 ก.ย. 63 | 4 มี.ค. 64 | 182 วัน | 182 วัน | | 9/364/63 | - | 50,000 | 1 ก.ย. 63 | 3 ก.ย. 63 | 2 ก.ย. 64 | 364 วัน | 364 วัน | | 36/92/63 | - | 50,000 | 8 ก.ย. 63 | 10 ก.ย. 63 | 11 ธ.ค. 63 | 92 วัน | 92 วัน | | 36/182/63 | - | 50,000 | 8 ก.ย. 63 | 10 ก.ย. 63 | 11 มี.ค. 64 | 182 วัน | 182 วัน | | 2/2ปี/2563 | 0.61 | 35,000 | 10 ก.ย. 63 | 14 ก.ย. 63 | 25 พ.ค. 65 | 2 ปี | 1.69 ปี | | 37/91/63 | - | 50,000 | 15 ก.ย. 63 | 17 ก.ย. 63 | 17 ธ.ค. 63 | 91 วัน | 91 วัน | | 37/182/63 | - | 20,000 | 15 ก.ย. 63 | 17 ก.ย. 63 | 18 มี.ค. 64 | 182 วัน | 182 วัน | | 38/91/63 | | 50,000 | 22 ก.ย. 63 | 24 ก.ย. 63 | 24 ธ.ค. 63 | 91 วัน | 91 วัน | | 38/182/63 | - | 50,000 | 22 ก.ย. 63 | 24 ก.ย. 63 | 25 มี.ค. 64 | 182 วัน | 182 วัน | | 2/3ปี/2563 | จะกําหนดประกาศในวันที่ 22 ก.ย. 63 | 40,000 | 24 ก.ย. 63 | 28 ก.ย. 63 | 28 ก.ย. 66 | 3 ปี | 3 ปี | | 39/95/63 | - | 50,000 | 29 ก.ย. 63 | 1 ต.ค. 63 | 4 ม.ค. 64 | 95 วัน | 95 วัน | | 39/182/63 | - | 20,000 | 29 ก.ย. 63 | 1 ต.ค. 63 | 1 เม.ย. 64 | 182 วัน | 182 วัน | พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย รุ่นที่ 2/3ปี/2563 มีรายละเอียด ดังนี้ | | | | --- | --- | | อัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋ว (Coupon Rate) | ธนาคารแห่งประเทศไทยจพกําหนดและประกาศในวันอังคารที่ 22 กันยายน 2563 | | การจ่ายดอกเบี้ย | แบ่งเป็นปีละ 2 งวด งวดละเท่าๆกัน | | วันจ่ายดอกเบี้ย | วันที่ 28 มีนาคม และ 28 กันยายน ของทุกปี | | วันจ่ายดอกเบี้ยงวดแรก | วันที่ 28 มีนาคม 2564 | | วันครบกําหนดไถ่ถอน | วันที่ 28 กันยายน 2566 เป็นการไถ่ถอนครั้งเดียวเต็มตามจํานวนที่ออกและจะไม่มีการไถ่ถอนก่อนกําหนด | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2563 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 28 สิงหาคม 2563 (นางสาววชิรา อารมย์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,420
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1008.1/ว 9 เรื่อง การกำหนดอัตราเงินเดือนสำหรับคุณวุฒิที่ ก.พ. รับรอง
ด่วนที่สุด ที่ นร 1008.1/ว 9 สํานักงาน ก.พ. ถนนพิษณุโลก กทม. 10300 9 พฤษภาคม 2554 เรื่อง การกําหนดอัตราเงินเดือนสําหรับคุณวุฒิที่ ก.พ. รับรอง เรียน (เวียนกระทรวง กรม และจังหวัด) อ้างถึง หนังสือสํานักงาน ก.พ. ด่วนที่สุด ที่ นร 1008.1/ว 31 ลงวันที่ 17 กันยายน 2553 สิ่งที่ส่งมาด้วย อัตราเงินเดือนสําหรับคุณวุฒิที่ ก.พ. รับรองเพื่อการบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ (เอกสารแนบท้าย 1 (ก) - (ค)) อื่นๆ - ตามหนังสือที่อ้างถึง ก.พ. ได้กําหนดหลักเกณฑ์และวิธีการกําหนดอัตราเงินเดือนสําหรับคุณวุฒิที่ ก.พ. รับรองเพื่อการบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ มาเพื่อทราบและถือปฏิบัติ ความแจ้งแล้ว นั้น บัดนี้ ก.พ. พิจารณาเห็นว่า เนื่องจากได้มีการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาการปรับเงินเดือนขั้นต่ําขั้นสูงของข้าราชการพลเรือนสามัญ พ.ศ. 2554 ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 128 ตอนที่ 22 ก เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2554 โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2554 เป็นต้นไป ก.พ. จึงมีมติดังนี้ 1. ให้ยกเลิกข้อ 1 ของหลักเกณฑ์และวิธีการกําหนดอัตราเงินเดือนสําหรับคุณวุฒิที่ ก.พ. รับรอง เพื่อการบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ในสิ่งที่ส่งมาด้วยของหนังสือที่อ้างถึง และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "ข้อ 1 กําหนดอัตราเงินเดือนตามคุณวุฒิที่ ก.พ. รับรองเพื่อการบรรจุและแต่งตั้งผู้เข้ารับราชการตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2554 เป็นต้นไป ตามประเภทและระดับตําแหน่ง และให้ได้รับเงินเดือนตามคุณวุฒิตามเอกสารแนบท้าย 1 (ก) - (ค))" 2. ให้ยกเลิกข้อ 2.1 ข้อ 2.2 และข้อ 2.3 ของหลักเกณฑ์และวิธีการกํากําหนดอัตราเงินเดือนสําหรับคุณวุฒิที่ ก.พ. รับรองเพื่อการบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ในสิ่งที่ส่งมาด้วยของหนังสือที่อ้างถึง และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "ข้อ 2.1 การบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2554 ให้ได้รับเงินเดือนตามคุณวุฒิตามช่วงเงินเดือนในเอกสารแนบท้าย 1 (ก) - (ค) ในช่องอัตราเงินเดือนใหม่ (2) เช่น ลําดับที่ 13 คุณวุฒิปริญญาโททั่วไป กําหนดช่วงเงินเดือนตั้งแต่ 12,600 - 12,980 บาท ข้อ 2.2 การบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2554 ให้ได้รับเงินเดือนตามคุณวุฒิตามช่วงเงินเดือนในเอกสารแนบท้าย 1 (ก) - (ค) ในช่องอัตราเงินเดือนใหม่ (3) เช่น ลําดับที่ 13 คุณวุฒิปริญญาโททั่วไป กําหนดช่วงเงินเดือนตั้งแต่ 12,600 - 13,360 บาท ข้อ 2.3 การบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2555 ให้ได้รับเงินเดือนตามคุณวุฒิตามช่วงเงินเดือนในเอกสารแนบท้าย 1 (ก) - (ค) ในช่องอัตราเงินเดือนใหม่ (4) เช่น ลําดับที่ 13 คุณวุฒิปริญญาโททั่วไป กําหนดช่วงเงินเดือนตั้งแต่ 12,600 - 13,860 บาท" 3. ให้ยกเลิกอัตราเงินเดือนสําหรับคุณวุฒิที่ ก.พ. รับรองเพื่อการบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ตามเอกสารแนบท้าย 1 (ก) - (ค) ในสิ่งที่ส่งมาด้วยของหนังสือที่อ้างถึง และให้ใช้อัตราเงินเดือนสําหรับคุณวุฒิที่ ก.พ. รับรองเพื่อการบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญตามสิ่งที่ส่งมาด้วยของหนังสือฉบับนี้แทน จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นายนนทิกร กาญจนะจิตรา) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - สํานักพัฒนาระบบจําแนกตําแหน่งและค่าตอบแทน โครงการปรับระบบค่าตอบแทนฯ โทร. 0 2547 1363 0 2547 1379 โทรสาร 0 2547 1362
6,421
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1012/ว 10 เรื่อง ระเบียบ ก.พ. ว่าด้วยการเพิ่มพูนประสิทธิภาพของข้าราชการโดยการให้ไปปฏิบัติงานที่หน่วยงานอื่นในประเทศ พ.ศ. 2554
ที่ นร 1012/ว 10 สํานักงาน ก.พ. ถนนพิษณุโลก กทม. 10300 12 พฤษภาคม 2554 เรื่อง ระเบียบ ก.พ. ว่าด้วยการเพิ่มพูนประสิทธิภาพของข้าราชการโดยการให้ไปปฏิบัติงานที่หน่วยงานอื่นในประเทศ พ.ศ. 2554 เรียน (เวียนกระทรวงกรม และจังหวัด) สิ่งที่ส่งมาด้วย ระเบียบ ก.พ. ว่าด้วยการเพิ่มพูนประสิทธิภาพของข้าราชการโดยการให้ไปปฏิบัติงานที่หน่วยงานอื่นในประเทศ พ.ศ. 2554 อื่นๆ - ด้วย ก.พ. ได้ออกระเบียบ ก.พ. ว่าด้วยการเพิ่มพูนประสิทธิภาพของข้าราชการ โดยการให้ไปปฏิบัติงานที่หน่วยงานอื่นในประเทศ พ.ศ. 2554 และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 128 ตอนพิเศษ 46 ง วันที่ 21 เมษายน 2554 แล้ว รายละเอียดปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นายนนทิกร กาญจนะจิตรา) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - สํานักวิจัยและพัฒนาระบบงานบุคคล โทร. 0 2547 1840 โทรสาร 0 2547 1868
6,422
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 63/2563 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 2 สัปดาห์ ในเดือนกันยายน 2563
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 63/2563 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 2 สัปดาห์ ในเดือนกันยายน 2563 ------------------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 2 สัปดาห์ ในเดือนกันยายน 2563 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 2 สัปดาห์ ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ.35/14/63 | 45,000 | 2 กันยายน 2563 | 08/09/63 – 22/09/63 | 14 | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2563 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 1 กันยายน 2563 (นางสาววชิรา อารมย์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,423
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1008.1/ว 11 เรื่อง การเลื่อนเงินเดือนข้าราชการพลเรือนสามัญ
ที่ นร 1008.1/ว 11 สํานักงาน ก.พ. ถนนพิษณุโลก กทม. 10300 6 มิถุนายน 2554 เรื่อง การเลื่อนเงินเดือนข้าราชการพลเรือนสามัญ เรียน (เวียนกระทรวง กรม และจังหวัด) อ้างถึง หนังสือสํานักงาน ก.พ. ด่วนที่สุด ที่ นร 1008.1/ว 28 ลงวันที่ 22 ตุลาคม 2552 สิ่งที่ส่งมาด้วย ฐานในการคํานวณและช่วงเงินเดือนสําหรับการเลื่อนเงินเดือนในแต่ละประเภทและระดับตําแหน่ง อื่นๆ - ตามหนังสือที่อ้างถึง ก.พ. ได้กําหนดฐานในการคํานวณและช่วงเงินเดือนสําหรับการเลื่อนเงินเดือนในแต่ละประเภทและระดับตําแหน่งตามกฎ ก.พ. ว่าด้วยการเลื่อนเงินเดือน พ.ศ. 2552 มาเพื่อส่วนราชการทราบและถือปฏิบัติ ความแจ้งแล้ว นั้น บัดนี้ ก.พ. พิจารณาเห็นว่า เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับเงินเดือนขั้นต่ําขั้นสูงตามพระราชกฤษฎีกาการปรับเงินเดือนขั้นต่ําขั้นสูงของข้าราชการพลเรือนสามัญ พ.ศ. 2554 ก.พ. จึงมีมติให้ยกเลิกฐานในการคํานวณและช่วงเงินเดือนตามหนังสือที่อ้างถึง และกําหนดฐานในการคํานวณและช่วงเงินเดือนสําหรับการเลื่อนเงินเดือนในแต่ละประเภทและระดับตําแหน่งตั้งแต่รอบการประเมินผลการปฏิบัติราชการระหว่างวันที่ 1 เมษายน ถึง 30 กันยายน 2554 เป็นต้นไป ตามสิ่งที่ส่งมาด้วยของหนังสือฉบับนี้แทน จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นายนนทิกร กาญจนะจิตรา เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - สํานักพัฒนาระบบจําแนกตําแหน่งและค่าตอบแทน โครงการปรับระบบค่าตอบแทนฯ โทร. 0 2547 1379 0 2547 1450 0 2547 1363 0 2547 1402 0 2547 1416 โทรสาร 0 2547 1362
6,424
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 64/2563 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 2 สัปดาห์ ในประจําเดือนกันยายน 2563
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 64/2563 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 2 สัปดาห์ ในประจําเดือนกันยายน 2563 --------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 2 สัปดาห์ ในประจําเดือนกันยายน 2563 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 2 สัปดาห์ ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ.36/14/63 | 50,000 | 11 กันยายน 2563 | 15/09/63 – 29/09/63 | 14 | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน 2563 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 10 กันยายน 2563 (นางสาววชิรา อารมย์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,425
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 65/2563 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 2 สัปดาห์ ในเดือกันยายน 2563
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 65/2563 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 2 สัปดาห์ ในเดือกันยายน 2563 ------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 2 สัปดาห์ ในเดือนกันยายน 2563 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 2 สัปดาห์ ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ.37/14/63 | 45,000 | 18 กันยายน 2563 | 22/09/63 – 6/10/63 | 14 | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2563 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 16 กันยายน 2563 (นางสาววชิรา อารมย์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,426
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1008/ว 12 เรื่อง การเพิ่มคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งประเภทวิชาการ
ที่ นร 1008/ว 12 สํานักงาน ก.พ. ถนนพิษณุโลก กทม. 10300 15 มิถุนายน พ.ศ.2554 เรื่อง การเพิ่มคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งประเภทวิชาการ เรียน (เวียนกระทรวง กรม และจังหวัด) อ้างถึง หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1008/ว 10 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2551 สิ่งที่ส่งมาด้วย รายการแสดงสายงานและตําแหน่งที่ ก.พ. มีมติให้เพิ่มคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งจํานวน 105 สายงาน อื่นๆ - ตามหนังสือที่อ้างถึง แจ้งว่า ก.พ. ได้จัดทํามาตรฐานกําหนดตําแหน่ง โดยจําแนกเป็นประเภทและสายงานตามลักษณะงาน พร้อมทั้งนําส่งบัญชีแสดงมาตรฐานกําหนดตําแหน่งแยกตามประเภท สายงาน และระดับตําแหน่ง รวมทั้งแผ่นบันทึกข้อมูลซีดีรอมเรื่องมาตรฐานกําหนดตําแหน่งมาเพื่อส่วนราชการทราบและถือปฏิบัติ ความละเอียดแจ้งแล้ว นั้น บัดนี้ ก.พ. มีมติให้เพิ่มคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งในมาตรฐานกําหนดตําแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชํานาญการ ของสายงานและตําแหน่งตามสิ่งที่ส่งมาด้วย ซึ่งไม่รวมถึงสายงานที่กําหนดคุณวุฒิการศึกษาระดับปริญญาทุกสาขาวิชาเป็นคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่ง โดยให้ปรับลดระยะเวลาการดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ ให้สอดคล้องกับระยะเวลาการศึกษาในบางสาขาวิชาจากเดิมที่กําหนดให้ดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ ไม่น้อยกว่า 6 ปี สําหรับผู้มีคุณวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี โดยกําหนดเวลา 6 ปี ให้ลดเป็น 5 ปี สําหรับผู้มีคุณวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีที่มีหลักสูตรกําหนดเวลาศึกษาไม่น้อยกว่า 5 ปี ต่อจากวุฒิประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลาย (เฉพาะปริญญาที่ ก.พ. กําหนดให้ได้รับเงินเดือนตามหลักสูตร 5 ปี) และให้ลดเป็น 4 ปี สําหรับผู้มีคุณวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีที่มีหลักสูตรกําหนดเวลาศึกษาไม่น้อยกว่า 6 ปี ต่อจากวุฒิประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2554 เป็นต้นไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นายนนทิกร กาญจนะจิตรา) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - สํานักพัฒนาระบบจําแนกตําแหน่งและค่าตอบแทน โทร. 0 2547 1000 ต่อ 8111, 8133, 8120 โทรสาร 0 2547 1439
6,427
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 66/2563 เรื่อง กำหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี ประจำเดือนกันยายน พ.ศ. 2563
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 66/2563 เรื่อง กําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี ประจําเดือนกันยายน พ.ศ. 2563 ----------------------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี ประจําเดือนกันยายน พ.ศ. 2563 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยคงที่ อายุ 3 ปี ประจําเดือนกันยายน ปี 2563 (รุ่นที่ 2/3ปี/2563) โดยจะกําหนดและประกาศอัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋ว (Coupon rate) ในวันที่ 22 กันยายน 2563 นั้น ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว รุ่นที่ 2/3ปี/2563 ที่จะประมูลในวันที่ 24 กันยายน 2563 เท่ากับร้อยละ 0.65 ต่อปี อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน 2563 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 22 กันยายน 2563 (นางสาววชิรา อารมย์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,428
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 52/2561 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนสิงหาคม 2561
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 52/2561 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนสิงหาคม 2561 ---------------------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนสิงหาคม 2561 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ. 31/14/61 | 30,000 | 3 สิงหาคม 2561 | 7/8/61 – 21/8/61 | 14 | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม 2561 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 1 สิงหาคม 2561 (นางสาววชิรา อารมณ์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,429
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 67/2563 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 2 สัปดาห์ ในประจําเดือนกันยายน 2563
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 68/2563 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 2 สัปดาห์ ในประจําเดือนตุลาคม 2563 --------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 2 สัปดาห์ ในประจําเดือนตุลาคม 2563 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 2 สัปดาห์ ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ.39/14/63 | 45,000 | 2 ตุลาคม 2563 | 06/10/63 – 20/10/63 | 14 | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2563 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 30 กันยายน 2563 (นางสาววชิรา อารมย์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,430
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1008/ว 13 เรื่อง การปรับปรุงมาตรฐานกำหนดตำแหน่งประเภทวิชาการ
ที่ นร 1008/ว 13 สํานักงาน ก.พ. ถนนพิษณุโลก กทม. 10300 17 มิถุนายน 2554 เรื่อง การปรับปรุงมาตรฐานกําหนดตําแหน่งประเภทวิชาการ เรียน (เวียนกระทรวง กรม และจังหวัด) อ้างถึง หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1008/ว10 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2551 สิ่งที่ส่งมาด้วย 1.มาตรฐานกําหนดตําแหน่งประเภทวิชาการ (ซีดีรอม) จํานวน 87 สายงาน 2.รายงานแสดงสายงานและตําแหน่งที่ ก.พ.มีมติให้ อ.ก.พ.กรม เป็นผู้พิจารณาคุณวุฒิการศึกษา จํานวน 64 สายงาน อื่นๆ - ตามหนังสือที่อ้างถึง แจ้งว่า ก.พ. ได้จัดทํามาตรฐานกําหนดตําแหน่งตามมาตรา 48 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 จํานวน 245 สายงาน มาเพื่อส่วนราชการทราบ และถือปฏิบัติ ความละเอียดแจ้งแล้ว นั้น บัดนี้ ก.พ. มีมติให้ปรับปรุงมาตรฐานกําหนดตําแหน่งประเภทวิชาการ จํานวน 87 สายงาน ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 1และให้ อ.ก.พ.กรม เป็นผู้พิจารณาคุณวุฒิการศึกษาระดับปริญญาเป็นคุณสมบัติเฉพาะ สําหรับตําแหน่ง สําหรับปริญญาในสาขาวิชาที่เห็นว่ามีความรู้เทียบได้ในระดับเดียวกันกับสาขาที่กําหนดไว้ในมาตรฐานกําหนดตําแหน่งซึ่งมีความเหมาะสมกับหน้าที่ความรับผิดชอบและลักษณะงานปฏิบัติ ตามรายการแสดงสายงานและตําแหน่งในสิ่งที่ส่งมาด้วย 2 ทั้งนี้ ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2554 เป็นต้นไป พร้อมกับรายการผลการพิจารณาของ อ.ก.พ.กรม ดังกล่าวให้ ก.พ. ทราบด้วย จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นายนนทิกร กาญจนะจิตรา) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - สํานักพัฒนาระบบจําแนกตําแหน่งและค่าตอบแทน โทร 0 547 1000 ต่อ 8111,8133,8120 โทรสาร 0 8547 1439
6,431
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 68/2563 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 2 สัปดาห์ ในประจำเดือนตุลาคม 2563
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 68/2563 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 2 สัปดาห์ ในประจําเดือนตุลาคม 2563 ------------------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 2 สัปดาห์ ในประจําเดือนตุลาคม 2563 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 2 สัปดาห์ ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ.39/14/63 | 45,000 | 2 ตุลาคม 2563 | 06/10/63 – 20/10/63 | 14 | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2563 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 30 กันยายน 2563 (นางสาววชิรา อารมย์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,432
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 53/2561 เรื่อง กำหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2560 สำหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 7 สิงหาคม 2561
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 53/2561 เรื่อง กําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2560 สําหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 7 สิงหาคม 2561 -------------------------- อื่นๆ - 1.เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2560 สําหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 7 สิงหาคม 2561 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ตามกําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประจําเดือนธันวาคม พ.ศ. 2563 ที่จะเปิดประมูลพันธบัตรประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อายุ 3 ปี รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2560 สําหรับงวดเริ่มต้นวันที่ 7 สิงหาคม 2561 เท่ากับร้อยละ 1.48539 ต่อปี (เท่ากับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงระยะสั้นการกู้ยืมเงินระหว่างธนาคารของตลาดกรุงเทพฯ (BIBOR) ระยะ 3 เดือน ณ วันที่ 3 สิงหาคม 2561 ลบร้อยละ 0.1) อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม 2561 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 3 สิงหาคม 2561 (นางสาววชิรา อารมย์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,433
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 69/2563 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประจำเดือนตุลาคม 2563
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 69/2563 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประจําเดือนตุลาคม 2563 --------------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประจําเดือนตุลาคม 2563 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประจําเดือนตุลาคม 2563 ดังนี้ | | | | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | อัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋ว(ร้อยละต่อปี) | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน | วันครบกําหนด | ประเภทอายุ | อายุคงเหลือ | | 40/91/63 | - | 50,000 | 6 ต.ค. 63 | 8 ต.ค. 63 | 7 ม.ค. 64 | 91 วัน | 91 วัน | | 40/182/63 | - | 40,000 | 6 ต.ค. 63 | 8 ต.ค. 63 | 8 เม.ย. 64 | 182 วัน | 182 วัน | | 10/364/63 | - | 45,000 | 6 ต.ค. 63 | 8 ต.ค. 63 | 7 ต.ค. 64 | 364 วัน | 364 วัน | | 41/91/63 | - | 50,000 | 12 ต.ค. 63 | 15 ต.ค. 63 | 14 ม.ค. 64 | 91 วัน | 91 วัน | | 1/FRB3ปี/2563 | 3M BIBOR -0.1(เท่ากับ 0.52903 สําหรับงวดเริ่มต้น วันที่ 18 ส.ค. 63) | 10,000 | 16 ต.ค. 63 | 20 ต.ค. 63 | 18 ก.พ. 66 | 3 ปี | 2.33 ปี | | 42/91/63 | 0.61 | 50,000 | 20 ต.ค. 63 | 22 ต.ค. 63 | 21 ม.ค. 64 | 91 วัน | 91 วัน | | 41/182/63 | - | 40,000 | 20 ต.ค. 63 | 22 ต.ค. 63 | 22 เม.ย. 64 | 182 วัน | 182 วัน | | 2/2ปี/63 | 0.61 | 25,000 | 22 ต.ค. 63 | 27 ต.ค. 63 | 25 พ.ค. 65 | 2 ปี | 1.58 ปี | | 43/91/63 | - | 50,000 | 27 ต.ค. 63 | 29 ต.ค. 63 | 28 ม.ค. 64 | 91 วัน | 91 วัน | ทั้งนี้เพื่อดูแลปริมาณพันธบัตรภาครัฐโดยรวมอยู่ในระดับที่เหมาะสม ธปท. จังยกเว้นการประมูลพันธบัตร ธปท. ระยะ 6 เดือนในวันที่ 12 และ 27 ตุลาคม 2563 เนื่องจากมีการประมูลตั๋วเงินคลังที่ระยะเดียวกันในสัปดาห์ดังกล่าว โดยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย รุ่นที่ 1/FRB3ปี/2563 ธปท. จํากําหนดและประกาศอัตราดอกเบี้ยในการคํานวณราคาสําหรับช่วงวันชําระเงินถึงวันจ่ายดอกเบี้ยถัดไป (I1) และ อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง (I2) ในวันพุธที่ 14 ตุลาคม 2563 อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2563 (นางสาววชิรา อารมย์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,434
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 54/2561 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนสิงหาคม 2561
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 54/2561 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนสิงหาคม 2561 ---------------------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนสิงหาคม 2561 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ. 32/14/61 | 20,000 | 9 สิงหาคม 2561 | 14/8/61 – 28/8/61 | 14 | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม 2561 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 7 สิงหาคม 2561 (นางสาววชิรา อารมณ์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,435
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 55/2561 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนสิงหาคม 2561
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 55/2561 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนสิงหาคม 2561 ---------------------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนสิงหาคม 2561 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ. 33/14/61 | 30,000 | 17 สิงหาคม 2561 | 21/8/61 – 4/9/61 | 14 | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2561 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 14 สิงหาคม 2561 (นางสาววชิรา อารมณ์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,436
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สรข. 56/2561 เรื่อง กำหนดอัตราดอกเบี้ยในการคำนวณราคาพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2560
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สรข. 56/2561 เรื่อง กําหนดอัตราดอกเบี้ยในการคํานวณราคาพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2560 อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดอัตราดอกเบี้ยในการคํานวณราคา สําหรับพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2560 ที่จะประมูลในวันที่ 17 สิงหาคม 2561 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ตามกําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประจําเดือนเมษายน พ.ศ. 2561 ที่จะเปิดประมูลพันธบัตรประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว รุ่นที่ 1/FRB 3 ปี/2560 ในวันที่ 17 สิงหาคม 2513 โดยธนาคารแห่งประเทศไทยจะประกาศอัตราดอกเบี้ยเพื่อใช้ในการคํานวณราคาพันธบัตรดังกล่าว ในวันที่ 15 สิงหาคม 2561 นั้น ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดอัตราดอกเบี้ยในการคํานวณราคาพันธบัตรดังกล่าว เพื่อใช้สําหรับช่วงวันชําระเงินถึงวันจ่ายดอกเบี้ยถัดไป (I1) เท่ากับร้อยละ 1.56738 ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง (I2) เท่ากับร้อยละ 1.58552 ต่อปี อื่นๆ ๔ 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2561 เป็นต้นไป ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2561 (นายวชิรา อารมย์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,437
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1008/ว 14 เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการกำหนดตำแหน่ง
ที่ นร 1008/ว 14 สํานักงาน ก.พ. ถนนพิษณุโลก กทม. 10300 17 มิถุนายน 2554 เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการกําหนดตําแหน่ง เรียน (เวียนกระทรวง กรมและจังหวัด) อ้างถึง หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1008/ว 17 ลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2552 สิ่งที่ส่งมาด้วย 1. หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการกําหนดตําแหน่งผู้ช่วยหัวหน้าส่วนราชการ 2. มาตรฐานกําหนดตําแหน่งในสายงานบริหาร ระดับต้น อื่นๆ - ตามหนังสือที่อ้างถึง แจ้งมติ ก.พ.กําหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการกําหนดตําแหน่งประเภทบริหาร ประเภทอํานวยการ ประเภทวิชาการ และประเภททั่วไป รวมทั้งหลักเกณฑ์อื่นๆ ตามมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาเพื่อส่วนราชการทราบและถือปฏิบัติ ความแจ้งแล้ว นั้น บัดนี้ ก.พ. ได้พิจารณาเห็นว่า เพื่อให้การกําหนดตําแหน่งและการบริหารทรัพยากรบุคคลของส่วนราชการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับหลักการบริหารราชการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดินและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 47 และมาตรา 48 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ก.พ. จึงมีมติกําหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการกําหนดตําแหน่งประเภทบริหารระดับต้นเพิ่มเติม สําหรับตําแหน่งผู้ช่วยหัวหน้าส่วนราชการในส่วนราชการที่มีกฎหมายรองรับการกําหนดตําแหน่งผู้ช่วยหัวหน้าส่วนราชการไว้แล้วตามมาตรา 13 มาตรา 14 มาตรา 16 และมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดินพ.ศ. 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และตามมาตรา 23 และมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 โดย อ.ก.พ. กระทรวงสามารถดําเนินการกําหนดให้มีตําแหน่งดังกล่าวได้ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ ก.พ. กําหนด ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 1 และได้ปรับปรุงมาตรฐานกําหนดตําแหน่งในสายงานบริหารระดับต้นให้ครอบคลุมตําแหน่งผู้ช่วยหัวหน้าส่วนราชการที่กําหนดเพิ่มใหม่แล้วตามมาตรฐานกําหนดตําแหน่ง ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 2 สําหรับส่วนราชการซึ่งยังไม่มีกฎหมายรองรับการกําหนดตําแหน่งผู้ช่วยหัวหน้าส่วนราชการไว้นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการดําเนินการโดยหน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อให้มีการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องซึ่งจะแจ้งให้ทราบต่อไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นายนนทิกร กาญจนะจิตรา) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - สํานักพัฒนาระบบจําแนกตําแหน่งและค่าตอบแทน โทร. 0 2547 1000 ต่อ1971, 8123 โทรสาร 0 2547 1439
6,438
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 57/2561 เรื่อง กำหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยประเภทอัตราดอกเบี้ยคงที่ อายุ 2 ปี ประจำเดือนสิงหาคม ปี 2561
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 57/2561 เรื่อง กําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยคงที่ อายุ 2 ปี ประจําเดือนสิงหาคม ปี 2561 อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยคงที่ อายุ 2 ปี ประจําเดือนสิงหาคม ปี 2561 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ตามธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทอัตราดอกเบี้ยคงที่ อายุ 2 ปี ประจําเดือนสิงหาคม ปี 2561 (รุ่นที่ 3/2ปี/2561) โดยจะกําหนดและประกาศอัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋ว (Coupon Rate) ในวันที่ 21 สิงหาคม 2561 นั้น ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดอัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋วของพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย รุ่นที่ 3/2ปี/2561 ที่จะประมูลในวันที่ 23 สิงหาคม 2561 เท่ากับร้อยละ 1.82 ต่อปี อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม 2561 เป็นต้นไป ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 21 สิงหาคม 2561 (นายวชิรา อารมย์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,439
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 58/2561 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนสิงหาคม 2561
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 58/2561 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนสิงหาคม 2561 ---------------------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนสิงหาคม 2561 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ. 34/14/61 | 30,000 | 24 สิงหาคม 2561 | 28/8/61 – 11/9/61 | 14 | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2561 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 21 สิงหาคม 2561 (นางสาววชิรา อารมณ์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,440
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1003/ว 15 เรื่องการคัดเลือกข้าราชการเพื่อแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงและหัวหน้าส่วนราชการระดับกรมที่อยู่ในบังคับบัญชาหรือรับผิดชอบการปฏิบัติราชการขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรีหรือต่อรัฐมนตรี
ที่ นร 1003/ว 15 สํานักงาน ก.พ. ถนนพิษณุโลก กทม. 10300 28 มิถุนายน พ.ศ.2554 เรื่อง การคัดเลือกข้าราชการเพื่อแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดํารงตําแหน่งหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงและหัวหน้าส่วนราชการระดับกรมที่อยู่ในบังคับบัญชาหรือรับผิดชอบการปฏิบัติราชการขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรีหรือต่อรัฐมนตรี เรียน (เวียนกระทรวง กรม และจังหวัด) อ้างถึง 1. หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1006/ว 7 ลงวันที่ 6 มีนาคม 2552 2. หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1006/ว 16 ลงวันที่ 22 มิถุนายน 2552 3. หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 0708.1/ว 2216 ลงวันที่ 30 กันยายน 2540 4. หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1003/ว 9 ลงวันที่ 26 สิงหาคม 2548 5. หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1036/ว 22 ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2553 สิ่งที่ส่งมาด้วย แนวทางการจัดทําบัญชีรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิที่ ก.พ. กําหนด เพื่อเป็นประธาน หรือกรรมการคัดเลือกข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งประเภทบริหาร อื่นๆ - ตามหนังสือที่อ้างถึง 1 และ 2 ก.พ. กําหนดแนวทางการดําเนินการเพื่อใช้ปฏิบัติสําหรับกรณีการเลื่อนระดับตําแหน่งและการแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งต่างประเภทในตําแหน่งประเภทบริหาร และประเภทอํานวยการ ระดับสูง ที่ใช้หลักเกณฑ์และวิธีการตามหนังสือที่อ้างถึง 3 และ 4 แนวทางในการปฏิบัติการคัดเลือกข้าราชการพลเรือนสามัญขึ้นแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งประเภทบริหาร และประเภทอํานวยการ ระดับสูง ตามหนังสือที่อ้างถึง 5 ความแจ้งแล้ว นั้น เพื่อให้การคัดเลือกข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ไม่เคยดํารงตําแหน่งหัวหน้าส่วนราชการที่มีฐานะเป็นกระทรวง หัวหน้าส่วนราชการที่มีฐานะเป็นกรมและอยู่ในบังคับบัญชาหรือรับผิดชอบการปฏิบัติราชการขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรีหรือต่อรัฐมนตรี และตําแหน่งอื่นที่ ก.พ. กําหนดเป็นตําแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง ทั้งนี้ เฉพาะตําแหน่งที่ได้รับเงินประจําตําแหน่งในอัตราตามข้อ 3 (3) แห่งกฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินประจําตําแหน่ง พ.ศ. 2551 มีความโปร่งใส เป็นระบบเปิดภายในระบบราชการ มีความคล่องตัว สามารถสับเปลี่ยนหมุนเวียนข้าราชการในส่วนราชการต่าง ๆ ในวงกว้าง สามารถคัดเลือกข้าราชการระดับสูงที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์เหมาะสมที่สุดอันจะก่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดแก่ราชการ และเพื่อให้ระบบ ขั้นตอน และวิธีการดําเนินการคัดเลือกเป็นธรรม และมีความชัดเจน เป็นระบบมากขึ้น อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 132 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ก.พ. จึงกําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคัดเลือกข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ไม่เคยดํารงตําแหน่งหัวหน้าส่วนราชการที่มีฐานะเป็นกระทรวง หัวหน้าส่วนราชการที่มีฐานะเป็นกรมและอยู่ในบังคับบัญชาหรือรับผิดชอบการปฏิบัติราชการขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรีหรือต่อรัฐมนตรี และตําแหน่งอื่นที่ ก.พ. กําหนดเป็นตําแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง ทั้งนี้ เฉพาะตําแหน่งที่ได้รับเงินประจําตําแหน่งในอัตราตามข้อ 3 (3) แห่งกฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินประจําตําแหน่ง พ.ศ. 2551 เพื่อแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งดังกล่าว ไว้ดังต่อไปนี้ 1. เมื่อมีกรณีที่จะต้องคัดเลือกข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ไม่เคยดํารงตําแหน่งหัวหน้าส่วนราชการที่มีฐานะเป็นกระทรวง หัวหน้าส่วนราชการที่มีฐานะเป็นกรมและอยู่ในบังคับบัญชาหรือรับผิดชอบการปฏิบัติราชการขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรีหรือต่อรัฐมนตรี และตําแหน่งอื่นที่ ก.พ. กําหนดเป็นตําแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง ทั้งนี้ เฉพาะตําแหน่งที่ได้รับเงินประจําตําแหน่งตามข้อ 3 (3) แห่งกฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินประจําตําแหน่ง พ.ศ. 2551 ให้หัวหน้าส่วนราชการที่มีตําแหน่งว่างหรือจะว่างแจ้งชื่อตําแหน่ง เลขที่ตําแหน่ง และหน้าที่ความรับผิดชอบให้ ก.พ. ทราบ เพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือก 2. ให้ ก.พ. แต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือก ประกอบด้วย (1) ผู้ทรงคุณวุฒิที่ อ.ก.พ. กระทรวง เลือกจากบัญชีรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิที่สมควรแต่งตั้งให้ทําหน้าที่ประธานกรรมการตาม 4 เป็นประธาน (2) ผู้ทรงคุณวุฒิจากกรรมการ ก.พ. จํานวนหนึ่งคน เป็นกรรมการ (3) ผู้ทรงคุณวุฒิที่ อ.ก.พ. กระทรวง เลือกจากบัญชีรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิที่สมควรแต่งตั้งให้ทําหน้าที่กรรมการคัดเลือกตาม 4 จํานวนหนึ่งคน เป็นกรรมการ (4) หัวหน้าส่วนราชการที่มีฐานะเป็นกระทรวง หัวหน้าส่วนราชการที่มีฐานะเป็นกรมและอยู่ในบังคับบัญชาหรือรับผิดชอบการปฏิบัติราชการขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรีหรือต่อคณะรัฐมนตรี และตําแหน่งอื่นที่ ก.พ. กําหนดเป็นตําแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง ทั้งนี้ เฉพาะตําแหน่งที่ได้รับเงินประจําตําแหน่งตามข้อ 3 (3) แห่งกฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินประจําตําแหน่ง พ.ศ. 2551 แล้วแต่กรณี เป็นกรรมการ (5) เลขาธิการ ก.พ. เป็นกรรมการและเลขานุการ ในกรณีที่ผู้ดํารงตําแหน่งตาม (4) พ้นจากตําแหน่งก่อนการพิจารณาคัดเลือก ให้คณะกรรมการคัดเลือก ประกอบด้วย กรรมการตาม (1) (2) (3) และ (5) ให้คณะกรรมการคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญผู้รับผิดชอบการดําเนินการบริหารทรัพยากรบุคคลของกระทรวงหรือส่วนราชการดังกล่าว เป็นผู้ช่วยเลขานุการ จํานวนไม่เกินสองคน กรรมการตาม (5) ต้องเป็นผู้ดํารงตําแหน่ง หรือผู้รักษาราชการแทน ให้นําบทบัญญัติว่าด้วยคณะกรรมการที่มีอํานาจดําเนินการพิจารณาทางปกครองตามกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองมาใช้บังคับแก่การประชุมคณะกรรมการคัดเลือก โดยอนุโลม 3. คณะกรรมการคัดเลือกมีอํานาจหน้าที่ ดังนี้ (1) กําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคัดเลือก (2) พิจารณาคัดเลือกผู้สมัครที่เห็นว่าเหมาะสมกับตําแหน่งที่จะแต่งตั้ง (3) พิจารณาวินิจฉัยในกรณีที่มีปัญหาในการดําเนินการตามอํานาจหน้าที่ (4) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อช่วยดําเนินการหรือปฏิบัติหน้าที่ตามที่มอบหมาย 4. ให้สํานักงาน ก.พ. จัดทําบัญชีรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิที่สมควรแต่งตั้งให้ทําหน้าที่ประธานกรรมการและบัญชีรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิที่สมควรแต่งตั้งให้ทําหน้าที่กรรมการคัดเลือก ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ ก.พ. กําหนด และต้องปรับปรุงรายชื่อในบัญชีดังกล่าวอย่างน้อยทุกปี 5. ให้หัวหน้าส่วนราชการชี้แจงหน้าที่ความรับผิดชอบ ขอบเขตของงาน ลักษณะงาน ความรู้ ความสามารถ และข้อมูลอื่นที่จําเป็นสําหรับตําแหน่งดังกล่าว ให้คณะกรรมการคัดเลือกทราบ และให้คณะกรรมการคัดเลือกขอทราบสมรรถนะที่เกี่ยวข้องกับงานที่ต้องการจากรัฐมนตรีเจ้าสังกัด 6. เมื่อได้รับข้อมูลตาม 5 แล้ว ให้คณะกรรมการคัดเลือกกําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคัดเลือก โดยอาจกําหนดให้ใช้วิธีการสัมภาษณ์ การเสนอวิสัยทัศน์ การทดสอบความสามารถ การสอบข้อเขียน หรือวิธีการอย่างอื่น วิธีการอื่นใดวิธีการหนึ่งหรือหลายวิธีตามที่เห็นว่าเหมาะสมและสอดคล้องกับหลักเกณฑ์การคัดเลือกตาม 8 ให้คณะกรรมการคัดเลือกประกาศรับสมัครผู้มีคุณสมบัติตามที่กําหนด พร้อมกับหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามวรรคหนึ่ง ให้ทราบล่วงหน้าเป็นการทั่วไป ประกาศตามวรรคสอง ต้องประกาศให้ทราบล่วงหน้าก่อนวันเปิดรับสมัครไม่น้อยกว่าสามวันทําการ และต้องมีระยะเวลาในการรับสมัครไม่น้อยกว่าเจ็ดวันทําการ 7. ให้ผู้ประสงค์จะเข้ารับการคัดเลือก ยื่นใบสมัครเข้ารับการคัดเลือกตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการคัดเลือกกําหนดตามประกาศรับสมัครตาม 6 8. ให้คณะกรรมการคัดเลือกพิจารณาคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมที่จะแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งโดยพิจารณาตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ (1) ผลสัมฤทธิ์ของงานอันเป็นที่ประจักษ์ในความสามารถ โดยพิจารณาจากผลการปฏิบัติราชการย้อนหลังไม่น้อยกว่าสามปี (2) สมรรถนะสําหรับผู้ดํารงตําแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง ตามที่ ก.พ. กําหนด (3) ประวัติการรับราชการ ความประพฤติ ความรู้ ความสามารถ และความเชี่ยวชาญ (4) วิสัยทัศน์และเป้าหมายสัมฤทธิ์ของการบริหารงาน 9. ให้คณะกรรมการคัดเลือกเสนอรายชื่อผู้ที่เหมาะสมที่จะแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งจํานวนสามคน เรียงตามลําดับตัวอักษร พร้อมทั้งระบุเหตุผลและความเหมาะสมของผู้ได้รับการเสนอชื่อแต่ละรายชื่อส่งหัวหน้าส่วนราชการนั้น เพื่อเสนอให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดพิจารณาต่อไป ในกรณีที่มีเหตุผลและความจําเป็นที่ทําให้มีผู้ได้รับการคัดเลือกน้อยกว่าจํานวนที่กําหนดตามวรรคหนึ่ง ให้เสนอรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกตามจํานวนที่คัดเลือกได้นั้นพร้อมเหตุผล แต่ถ้าไม่มีผู้ใดได้รับการคัดเลือก ให้เริ่มต้นดําเนินการคัดเลือกใหม่ 10. ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดพิจารณาเลือกผู้ที่เห็นว่าเหมาะสมที่จะแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งจากรายชื่อที่คณะกรรมการคัดเลือกเสนอตาม 9 และให้ระบุความสมควรที่จะได้รับการแต่งตั้งพร้อมทั้งเหตุผลในการดําเนินการตามขั้นตอนที่กําหนดไว้ในมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ต่อไป เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาตามวรรคหนึ่ง รัฐมนตรีเจ้าสังกัดจะปรึกษาหารือกับคณะกรรมการคัดเลือกก็ได้ ในกรณีที่รัฐมนตรีเจ้าสังกัดเห็นสมควร จะขอให้คณะกรรมการคัดเลือกดําเนินการคัดเลือกใหม่ก็ได้ 11. ในระหว่างที่สํานักงาน ก.พ. ยังจัดทําบัญชีรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิตาม 4 ไม่แล้วเสร็จ ให้ อ.ก.พ. กระทรวง เสนอรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิตาม 2 (1) และ (3) เพื่อให้ ก.พ. พิจารณาแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นประธานกรรมการหรือกรรมการคัดเลือก ตามความเหมาะสม 12. การใดที่อยู่ระหว่างดําเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ ก.พ. กําหนดไว้ในหนังสือที่อ้างถึงข้างต้น ก่อนวันที่หนังสือฉบับนี้ใช้บังคับ ให้คงดําเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ ก.พ. กําหนดไว้ในหนังสือที่อ้างถึงข้างต้น ต่อไปจนกว่าจะแล้วเสร็จ จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นายนนทิกร กาญจนะจิตรา) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - ศูนย์นักบริหารระดับสูง โทร. 0 2547 1734 โทรสาร 0 2547 1736
6,441
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 59/2561 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนสิงหาคม 2561
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 59/2561 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนสิงหาคม 2561 ---------------------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนสิงหาคม 2561 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ. 35/14/61 | 30,000 | 31 สิงหาคม 2561 | 4/9/61 – 18/9/61 | 14 | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2561 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 28 สิงหาคม 2561 (นางสาววชิรา อารมณ์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,442
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 61/2561 เรื่อง กำหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนกันยายน 2561
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 61/2561 เรื่อง กําหนดการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนกันยายน 2561 ---------------------------------------- อื่นๆ - 1. เหตุผลในการออกประกาศ เพื่อกําหนดแผนการออกพันธบัตรแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ในเดือนกันยายน 2561 อื่นๆ - 2. อํานาจตามกฎหมาย เพื่ออนุวัตตามข้อ 2 แห่งระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกง. 1/2560 ว่าด้วยการออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อื่นๆ - 3. เนื้อหา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดแผนการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุไม่เกิน 15 วัน ดังนี้ | | | | | | | --- | --- | --- | --- | --- | | รุ่นที่ | วงเงิน(ล้านบาท) | ประมูลวันที่ | วันที่ชําระเงิน - วันครบกําหนด | อายุ(วัน) | | พ. 36/14/61 | 30,000 | 7 กันยายน 2561 | 11/9/61 – 25/9/61 | 14 | อื่นๆ - 4. วันเริ่มต้นบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2561 ผู้มีอํานาจลงนาม - ประกาศ ณ วันที่ 4 กันยายน 2561 (นางสาววชิรา อารมณ์ดี) ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ผู้ว่าการแทน ธนาคารแห่งประเทศไทย
6,443
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1011/ว 16 เรื่อง การดำเนินการตามบทเฉพาะกาลแห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
ที่ นร 1011/ว 16 สํานักงาน ก.พ. ถนนพิษณุโลก กทม. 10300 30 มิถุนายน 2554 เรื่อง การดําเนินการตามบทเฉพาะกาลแห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 เรียน (เวียนกระทรวง กรม และจังหวัด) อ้างถึง 1. หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1011/ว 13 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2551 2. หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1011/ว 21 ลงวันที่ 15 กันยายน 2552 อื่นๆ - ตามหนังสือที่อ้างถึง แจ้งมติ ก.พ. กําหนดการดําเนินการตามบทเฉพาะกาล มาตรา 132 และมาตรา 137 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาเพื่อปฏิบัติ นั้น บัดนี้ ก.พ. ได้มีมติกําหนดการดําเนินการตามมาตราดังกล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนโทษลดขั้นเงินเดือน และการลงโทษลดเงินเดือน ดังต่อไปนี้ 1. โดยที่ีเมื่อกฎ ก.พ. ว่าด้วยการเลื่อนเงินเดือน พ.ศ. 2552 ใช้บังคับแล้ว ทําให้การลงโทษลดขั้นเงินเดือนข้าราชการพลเรือนสามัญในกรณีที่มีการกระทําผิดวินัยตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 ไม่อาจดําเนินการได้ เนื่องจากไม่มีอัตราเงินเดือนที่ใช้ระบบเงินเดือนแบบขั้น ฉะนั้น ในกรณีที่จะต้องสั่งลงโทษข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใดตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 ในสถานโทษลดขั้นเงินเดือนครั้งหนึ่งไม่เกินหนึ่งขั้นก็ให้เปลี่ยนสถานโทษเป็นลดเงินเดือน และสั่งได้ครั้งหนึ่งในอัตราโทษ 2 เปอร์เซ็นต์ หรือ 4 เปอร์เซ็นต์ของอัตราเงินเดือนของผู้นั้น ตามควรแก่กรณี 2. การสั่งลงโทษลดเงินเดือนตามมาตรา 96 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ให้สั่งได้ในอัตราที่กําหนดใน 1 3. การสั่งลงโทษลดเงินเดือนในกรณีที่ผู้ถูกลงโทษเป็นผู้ได้รับเงินเดือนขั้นสูงในประเภทตําแหน่งและระดับตําแหน่งที่ผู้นั้นดํารงอยู่ และได้รับค่าตอบแทนพิเศษตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายค่าตอบแทนพิเศษของข้าราชการและลูกจ้างประจําผู้ได้รับเงินเดือนหรือค่าจ้างถึงขั้นสูงหรือใกล้ถึงขั้นสูงของอันดับหรือตําแหน่ง พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ให้ลดได้เฉพาะเงินเดือนขั้นสูงของผู้นั้นโดยไม่รวมค่าตอบแทนพิเศษ 4. ในกรณีสั่งลงโทษลดเงินเดือน ถ้าจํานวนเงินที่จะต้องลดมีเศษไม่ถึงสิบบาทให้ตัดเศษทิ้ง 5. การสั่งลงโทษลดเงินเดือนในกรณีที่ผู้ถูกลงโทษเป็นผู้ได้รับเงินเดือนขั้นต่ําหรือขั้นต่ําชั่วคราวในประเภทตําแหน่งและระดับตําแหน่งที่ผู้นั้นดํารงอยู่ในวันที่ออกคําสั่ง ทําให้ไม่อาจลงโทษลดเงินเดือนได้ ให้เปลี่ยนสถานโทษลดเงินเดือนเป็นตัดเงินเดือน 5 เปอร์เซ็นต์ของอัตราเงินเดือนของผู้นั้น เป็นเวลาสามเดือน ซึ่งเป็นอัตราโทษตัดเงินเดือนที่สูงสุดตามกฎ ก.พ. ฉบับที่ 8 (พ.ศ. 2536) ออกตามความในพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นายนนทิกร กาญจนะจิตรา) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - สํานักมาตรฐานวินัย โทร. 0 2547 1631 โทรสาร 0 2547 1630
6,444
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1008/ว 17 เรื่อง การปรับปรุงตารามแสดงค่าตอบแทนเฉลี่ยของตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ
ที่ นร 1008/ว 17 สํานักงาน ก.พ. ถนนพิษณุโลก กทม. 10300 30 มิถุนายน 2554 เรื่อง การปรับปรุงตารามแสดงค่าตอบแทนเฉลี่ยของตําแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ เรียน (เวียนกระทรวง กรม และจังหวัด) สิ่งที่ส่งมาด้วย ตารางแสดงค่าตอบแทนเฉลี่ยของตําแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญจําแนกตามประเภทตําแหน่งและระดับตําแหน่ง อื่นๆ - ตามหนังสือที่อ้างถึง ก.พ. ได้กําหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการกําหนดตําแหน่งตามมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 พร้อมตารางแสดงค่าตอบแทนเฉลี่ยของตําแหน่งข้าราชการพลเรือนตามประเภทและระดับตําแหน่งมาเพื่อทราบและถือปฏิบัติ ความแจ้งแล้ว นั้น บัดนี้ ก.พ. พิจารณาเห็นว่า เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับเงินเดือนขั้นต่ําขั้นสูงตามพระราชกฤษฎีกาการปรับเงินเดือนขั้นต่ําขั้นสูงของข้าราชการพลเรือนสามัญ พ.ศ. 2554 ก.พ. จึงมีมติให้ยกเลิกตารางแสดงค่าตอบแทนเฉลี่ยของตําแหน่งข้าราชการพลเรือนตามประเภทและระดับตําแหน่งที่กําหนดไว้ในหนังสือที่อ้างถึงและให้ใช้ตารางแสดงค่าตอบแทนเฉลี่ยของตําแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญจําแนกตามประเภทตําแหน่งและระดับตําแหน่งตามสิ่งที่ส่งมาด้วย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2554 เป็นต้นไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นายนนทิกร กาญจนะจิตรา) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - สํานักพัฒนาระบบจําแนกตําแหน่งและค่าตอบแทน โทร. 0 2547 1000 ต่อ 8101 โทรสาร 0 2547 1437
6,445
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1011/ว 18 เรื่อง กฎ ก.พ. ว่าด้วยการสั่งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ประจำส่วนราชการเป็นการชั่วคราว พ.ศ. 2554
ที่ นร 1011/ว 18 สํานักงาน ก.พ. ถนนพิษณุโลก กทม. 10300 28 กรกฎาคม 2554 เรื่อง กฎ ก.พ. ว่าด้วยการสั่งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ประจําส่วนราชการเป็นการชั่วคราว พ.ศ. 2554 เรียน (เวียนกระทรวง กรม จังหวัด) สิ่งที่ส่งมาด้วย กฎ ก.พ. ว่าด้วยการสั่งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ประจําส่วนราชการเป็นการชั่วคราว พ.ศ. 2554 อื่นๆ - ด้วย ก.พ. ได้ออกกฎ ก.พ. ว่าด้วยการสั่งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ประจําส่วนราชการเป็นการชั่วคราว พ.ศ. 2554 และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 128 ตอนที่ 35 ก วันที่ 12 พฤษภาคม 2554 แล้ว รายละเอียดปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นายนนทิกร กาญจนะจิตรา) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - สํานักมาตรฐานวินัย โทร 0 2547 1631 โทรสาร 0 2547 1630
6,446
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1011/ว 19 เรื่อง กฎ ก.พ. ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการดำเนินการทางวินัย และการสั่งลงโทษ กรณีไม่ปฏิบัติตามมติ ก.พ. ตามมาตรา 9 พ.ศ. 2554
ที่ นร 1011/ว 19 สํานักงาน ก.พ. ถนนพิษณุโลก กทม. 10300 28 กรกฎาคม 2554 เรื่อง กฎ ก.พ. ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการดําเนินการทางวินัย และการสั่งลงโทษกรณีไม่ปฏิบัติตามมติ ก.พ. ตามมาตรา 9 พ.ศ. 2554 เรียน (เวียนกระทรวง กรม จังหวัด) สิ่งที่ส่งมาด้วย กฎ ก.พ. ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการดําเนินการทางวินัย และการสั่งลงโทษ กรณีไม่ปฏิบัติตามมติ ก.พ. ตามมาตรา 9 พ.ศ. 2554 อื่นๆ - ด้วย ก.พ. ได้ออก กฎ ก.พ. ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการดําเนินการทางวินัย และการสั่งลงโทษ กรณีไม่ปฏิบัติตามมติ ก.พ. ตามมาตรา 9 พ.ศ. 2554 และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับกฤษฎีกา เล่ม 128 ตอนที่ 41 ก วันที่ 24 พฤษภาคม 2554 แล้ว รายละเอียดปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นายนนทิกร กาญจนะจิตรา) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - สํานักมาตรฐานวินัย โทร 0 2547 1631 โทรสาร 0 2547 1630
6,447
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1008/ว 20 เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลให้ได้รับเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ตำแหน่งนิติกร (พ.ต.ก.)
ที่ นร 1008/ว 20 สํานักงาน ก.พ. ถนนพิษณุโลก กทม. 10300 1 สิงหาคม 2554 เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลให้ได้รับเงินเพิ่มสําหรับตําแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ตําแหน่งนิติกร (พ.ต.ก.) เรียน (เวียนกระทรวง กรม และจังหวัด) อ้างถึง หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1008/ว 3 ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2554 สิ่งที่ส่งมาด้วย 1. ตัวอย่างประกาศนียบัตรบัณฑิตทางกฎหมายมหาชน 2. ตัวอย่างหนังสือรับรองผลการศึกษา (Transcript) 3. ตัวอย่างหนังสือรับรองการอบรมเพิ่มเติม สําหรับผู้สําเร็จการศึกษาของหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตทางกฎหมายมหาชน ตั้งแต่ปีการศึกษา 2542 - 2545 (รุ่นที่ 1 - 13) อื่นๆ - ตามหนังสือที่อ้างถึง ก.พ. ได้กําหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลให้ได้รบเงินเพิ่มสําหรับตําแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ตําแหน่งนิติกร (พ.ต.ก.) ตามระเบียบ ก.พ. ว่าด้วยเงินเพิ่มสําหรับตําแหน่งที่มีเหตุพิเศษของข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2552 และประกาศ ก.พ. เรื่อง การกําหนดตําแหน่งและเงินเพิ่มสําหรับตําแหน่งที่มีเหตุพิเศษของข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2552 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 ให้ส่วนราชการถือปฏิบัติ โดยกําหนดคุณสมบัติของบุคคลผู้ดํารงตําแหน่งนิติกรที่ขอรับการคัดเลือกให้ได้รับ พ.ต.ก. ประการหนึ่งว่า "ต้องได้รับประกาศนียบัตรการอบรมหลักสูตรการพัฒนานักกฎหมายภาครัฐหรือหลักสูตรอื่นที่เทียบเท่าซึ่ง ก.พ. กําหนดหรือรับรอง" ความละเอียดแจ้งแล้ว นั้น โดยที่ ก.พ. ได้มีมติรับรองหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตทางกฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นหลักสูตรที่เทียบเท่าหลักสูตรการพัฒนานักกฎหมายภาครัฐ ระดับกลาง เพื่อใช้เป็นคุณสมบัติของบุคคลในการขอรับการคัดเลือกเพื่อรับเงินเพิ่มสําหรับตําแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ตําแหน่งนิติกร (พ.ต.ก.) โดยมีเงื่อนไขให้คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพิ่มเติมหลักสูตรให้ครอบคลุมเนื้อหาเกี่ยวกับ (1) วิสัยทัศน์เกี่ยวกับโลก (2) วิสัยทัศน์เกี่ยวกับสังคมไทย (3) การปฏิรูปภาครัฐเปรียบเทียบ และ (4) คุณภาพและคุณธรรมสําหรับนักกฎหมายไทย ซึ่งทางคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แจ้งว่าได้ปรับปรุงหลักสูตรดังกล่าวตามเงื่อนไขที่ ก.พ. กําหนดแล้ว และสามารถนํามาใช้ได้ในหลักสูตรสําหรับปีการศึกษา 2555 (รุ่นที่ 14) เป็นต้นไป ทั้งนี้ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้จัดให้มีการอบรมเพิ่มเติมในเนื้อหา 4 หัวข้อดังกล่าวให้กับผู้ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตทางกฎหมายมหาชน ตั้งแต่ปีการศึกษา 2542 - 2554 (รุ่นที่ 1 - 13) แล้ว ดังนั้น กรณีการพิจารณาคัดเลือกบุคคลให้ได้รับ พ.ต.ก. ซึ่งผู้ดํารงตําแหน่งนิติกรได้นําหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตทางกฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มาใช้เป็นคุณสมบัติของบุคคลในการขอรับการคัดเลือก ให้ส่วนราชการตรวจสอบคุณสมบัติของบุคคลในส่วนของการได้รับประกาศนียบัตรฯ ตามรายละเอียดสิ่งที่ส่งมาด้วย 1 และ 2 สําหรับผู้ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตทางกฎหมายมหาชน รุ่นที่ 1 - 13 ให้นําหนังสือรับรองการอบรมเพิ่มเติมตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 3 มาใช้เพื่อประกอบการพิจารณาขอรับการคัดเลือกให้ได้รับ พ.ต.ก. ด้วย จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นายนนทิกร กาญจนะจิตรา) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - สํานักพัฒนาระบบจําแนกตําแหน่งและค่าตอบแทน กลุ่มบริหารค่าตอบแทน โทร. 0 2547 1983, 0 2547 1985, 0 2547 1000 ต่อ 8100 8101 โทรสาร 0 2547 1437
6,448
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่่ นร 1004.3/ว 21 เรื่อง การรับรองปริญญาและประกาศนียบัตรวิชาชีพของสถาบันอุดมศึกษาเอกชน
ที่ นร 1004.3/ว 21 สํานักงาน ก.พ. ถนนพิษณุโลก กทม. 10300 18 สิงหาคม 2554 เรื่อง การรับรองปริญญาและประกาศนียบัตรวิชาชีพของสถาบันอุดมศึกษาเอกชน เรียน (เวียนกระทรวง กรม และจังหวัด) อ้างถึง 1. หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1004.3/ว 14 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2551 2. หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1004.3/ว 9 ลงวันที่ 12 กันยายน 2546 3. หนังสือสํานักงาน ก.พ. ด่วนที่สุด ที่ นร 1008.1/ว 31 ลงวันที่ 17 กันยายน 2553 4. หนังสือสํานักงาน ก.พ. ด่วนที่สุด ที่ นร 1008.1/ว 9 ลงวันที่ 9 พฤษภาคม 2554 สิ่งที่ส่งมาด้วย คู่มือปริญญาและประกาศนียบัตรวิชาชีพของสถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่ ก.พ. รับรอง จํานวน 1 เล่ม อื่นๆ - ตามหนังสือที่อ้างถึง 1 ก.พ. ได้กําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการรับรองคุณวุฒิและกําหนดอัตราเงินเดือนของผู้ได้รับปริญญา ประกาศนียบัตรวิชาชีพหรือคุณวุฒิอย่างอื่นจากสถานศึกษาในประเทศและต่างประเทศ และตามหนังสือที่อ้างถึง 2 สํานักงาน ก.พ. ได้รวบรวมปริญญาและประกาศนียบัตรวิชาชีพของสถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่ ก.พ. รับรอง จัดทําเป็นคู่มือเพื่อประโยชน์ในการบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนแจ้งให้ส่วนราชการทราบและถือปฏิบัติ ความแจ้งแล้ว นั้น เนื่องจากมาตรฐานกําหนดตําแหน่งที่ออกตามความในพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ได้กําหนดคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งที่เกี่ยวกับคุณวุฒิการศึกษาเป็นสาขาวิชา และทาง ก.พ. จึงมีมติให้ยกเลิกการรับรองปริญญาและประกาศนียบัตรวิชาชีพ ตามหนังสือที่อ้างถึง 2 และให้ใช้ปริญญาและประกาศนียบัตรวิชาชีพของสถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่ ก.พ. รับรอง เพื่อการบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ตามสิ่งที่ส่งมาด้วยแทน อนึ่ง สําหรับอัตราเงินเดือนตามที่กําหนดในหนังสือที่อ้างถึง 1 2 และ 3 ให้ใช้บังคับถึงวันที่ 31 มีนาคม 2554 ส่วนอัตราเงินเดือนตามที่กําหนดในหนังสือที่อ้างถึง 4 ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2554 เป็นต้นไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นายนนทิกร กาญจนะจิตรา) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - ศูนย์สรรหาและเลือกสรร โทร. 0 2547 1921 - 7 โทรสาร 0 2547 1928
6,449
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ นร 1004/ว 22 เรื่อง การสรรหาและเลือกสรรคนพิการเข้ารับราชการ
ที่ นร 1004/ว 22 สํานักงาน ก.พ. ถนนพิษณุโลก กทม. 10300 23 สิงหาคม 2554 เรื่อง การสรรหาและเลือกสรรคนพิการเข้ารับราชการ เรียน (กระทรวง กรม และจังหวัด) อ้างถึง 1. หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1004.1/ว 15 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2551 2. หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1004.1/ว 16 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2551 สิ่งที่ส่งมาด้วย 1. กฎกระทรวง กําหนดจํานวนคนพิการที่นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการและหน่วยงานของรัฐจะต้องรับเข้าทํางาน และจํานวนเงินที่นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการจะต้องนําส่งเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2554 2. ประกาศกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เรื่องประเภทและหลักเกณฑ์ความพิการ ลงวันที่ 30 เมษายน 2552 อื่นๆ - ตามที่ ก.พ. ได้กําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ และการคัดเลือกเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการมาเพื่อถือปฏิบัติ ตามที่อ้างถึง 1 และ 2 ความแจ้งแล้ว นั้น โดยที่กฎกระทรวงกําหนดจํานวนคนพิการที่นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการและหน่วยงานของรัฐจะต้องรับเข้าทํางาน และจํานวนเงินที่นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการจะต้องนําส่งเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2554 ได้กําหนดกําหนดให้หน่วยงานของรัฐซึ่งมีผู้ปฏิบัติงานตั้งแต่หนึ่งร้อยคนขึ้นไปรับคนพิการที่สามารถทํางานได้ไม่ว่าจะอยู่ในตําแหน่งใดในอัตราส่วนผู้ปฏิบัติงานที่มิใช่คนพิการทุกหนึ่งร้อยคนต่อคนพิการหนึ่งคน เศษของหนึ่งร้อยคนถ้าเกินห้าสิบคนต้องรับคนพิการเพิ่มอีกหนึ่งคน ดังมีรายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 1 ก.พ. จึงกําหนดแนวทางปฏิบัติในการสรรหาและเลือกสรรคนพิการเข้ารับราชการ ดังนี้ 1. ส่วนราชการสามารถดําเนินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขของหนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1004.1/ว 15 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2551 ที่อ้างถึง 1 โดยรับสมัครเฉพาะคนพิการที่มีบัตรประจําตัวคนพิการ มีประเภทความพิการเหมาะสมกับลักษณะงาน มีคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งตรงตามมาตรฐานกําหนดตําแหน่ง และสอบผ่านภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก.) ของ ก.พ. 2. ส่วนราชการสามารถดําเนินการคัดเลือกเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขของหนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1004.1/ว 16 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2551 ที่อ้างถึง 2 กรณีข้อ 1 (3) โดยรับสมัครเฉพาะคนพิการที่มีบัตรประจําตัวคนพิการ มีประเภทความพิการเหมาะสมกับลักษณะงาน และมีคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งตรงตามมาตรฐานกําหนดตําแหน่ง ทั้งนี้ ได้แนบประกาศกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เรื่อง ประเภทและหลักเกณฑ์ความพิการ รายละเอียดในสิ่งที่ส่งมาด้วย 2 เพื่อประกอบการดําเนินการด้วยแล้ว จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว ผู้มีอํานาจลงนาม - ขอแสดงความนับถือ (นายนนทิกร กาญจนะจิตรา) เลขาธิการ ก.พ. อื่นๆ - ศูนย์สรรหาและเลือกสรร โทร. 0 2547 1941 - 1948 โทรสาร 0 2547 1954
6,450