question_id
int32
1
4k
article_id
int32
665
954k
context
stringlengths
75
87.2k
question
stringlengths
11
135
answers
sequence
1,153
544,206
พงศกร เมตตาริกานนท์ พงศกร เมตตาริกานนท์ (เกิด 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535) ชื่อเล่น เต้ย เป็นนักแสดงชาวไทย สังกัดบริษัทแอนเชียนส์เอนเตอร์เทน และสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 มีผลงานที่เป็นที่รู้จักจากละครเรื่อง คุณชายรัชชานนท์, บางระจัน , ซ่อนรักกามเทพ และภาพยนตร์ พันท้ายนรสิงห์ประวัติ ประวัติ. พงศกร เมตตาริกานนท์ เกิดที่จังหวัดอำนาจเจริญ เป็นบุตรคนโตจากทั้งหมดสามคนของพิชาญ ลี้ประกอบบุญ กับอุศนา เมตตาริกานนท์ ครอบครัวเป็นเจ้าของโรงสีข้าว มีน้องสองคนคืออรุมา (ชื่อเล่น ตวง) และธนาต์ (ชื่อเล่น ตัง) ตามลำดับ ทั้งนี้เขาเป็นหลานของธนา เมตตาริกานนท์ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เขาสำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนอนุบาลอำนาจเจริญ, ระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนอำนาจเจริญ และปริญญาตรีจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ภาควิชาโฆษณา พงศกรเริ่มต้นเข้าสู่วงการบันเทิงโดยเข้าร่วมการประกวดโครงการ "The ldol Project 2" เมื่อปี พ.ศ. 2554 ซึ่งเป็นการประกวดหาพระเอก-นางเอกหน้าใหม่ของช่อง 3 ซึ่งสามารถคว้าตำแหน่ง "Top of The Idol" โดยปัจจุบัน เขาเป็นนักแสดงในสังกัดบริษัทออลสตาร์เอนเตอร์เทนเมนต์ผลงานละครโทรทัศน์ซีรีส์ภาพยนตร์รางวัล
เต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์ เข้าสู่่วงการบันเทิงจากการประกวดโครงการอะไร
{ "answer": [ "The ldol Project 2" ], "answer_begin_position": [ 892 ], "answer_end_position": [ 910 ] }
1,154
364,697
พชร จิราธิวัฒน์ พชร จิราธิวัฒน์ (เกิด 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2536) ชื่อเล่น พีช เป็นนักร้อง นักแสดง นายแบบ และ นักดนตรีชาวไทย มีชื่อเสียงมาจากบท คุ้ง และ เค ในภาพยนตร์เรื่อง ซักซี้ด ห่วยขั้นเทพ มีผลงานเพลงร่วมกับกลุ่มเพื่อนในนามวงรูฟท็อป โดยเขาอยู่ในตำแหน่งมือคีย์บอร์ดและกีต้าร์ ปัจจุบันเป็นนักร้องนำร่วมกับ บีม ภากร มุสิกบุญเลิศ ในนามของ วงไวท์โรส (WHITE ROSE) มีสไตล์เพลงแนวอิเลคทรอนิคร็อค สังกัดค่ายสไปซีดิสก์ (SPICY DISC)ประวัติ ประวัติ. พชร จิราธิวัฒน์ เกิดที่กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรคนกลางจากพี่น้องสามคน เขาเป็นบุตรของธีรยุทธ์ จิราธิวัฒน์ และเป็นหลานของสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ ผู้บริหารเครือเซ็นทรัล ส่วนมารดาชื่อ ชนัดดา จิราธิวัฒน์ เป็นเจ้าของธุรกิจเพชร ไดมอนด์ ทูเดย์ มีพี่สาว 1 คน ชื่อ ศศิปรียา ศิลปินในสังกัดค่ายสมอลล์รูม และน้องสาวชื่อ เขมณัฏฐ์ และเป็นหลานชายของ ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์ นักร้องชาวไทย พชรจบประถมศึกษา-มัธยมศึกษาจากโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี สาขาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พชร ได้อุปสมบทเพื่อทดแทนพระคุณบิดามารดา เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 ที่วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ โดยหลังพิธีอุปสมบทได้รับฉายาว่า "คุณวชิโร" แปลว่า ผู้ที่ตัดสินใจกระทำแต่ความดี มีกำหนดศึกษาธรรมะเป็นเวลา 3 สัปดาห์ ปัจจุบันเขาได้เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัดช่อง 3 เป็นระยะเวลา 5 ปี และกำลังทำธุรกิจ ร้านเฟรนช์ฟรายส์ Potato Corner ที่เซ็นทรัลเวิลด์เป็นสาขาแรกชีวิตส่วนตัว ชีวิตส่วนตัว. พชร เคยคบหาดูใจกับนักร้องสาว นท พนายางกูร เป็นระยะเวลา 3 ปี แต่ได้เลิกรากันไป และปัจจุบัน กำลังคบหาดูใจกับ แพทริเซีย ธัญชนก กู๊ด นักแสดงช่อง 3ผลงานละครโทรทัศน์ภาพยนตร์ภาพยนตร์สั้นผลงาน. ภาพยนตร์สั้น. - โตไปไม่โกง ตอน Band Next Door - sucKseed (GTH side stories) - ตามหาคนพิเศษซีรีส์เพลงคอนเสิร์ต คอนเสิร์ต. พ.ศ. 2554- มันไก่มาก (27 สิงหาคม) - Big Mountain Music Festival 3 (ร่วมร้องเพลงกับพาราด็อกซ์ และวง Penny Lane) (10 ธันวาคม) พ.ศ. 2560- LOVE IS IN THE AIR : CHANNEL3 CHARITY CONCERT (29 เมษายน)(2560)รายการโทรทัศน์พ.ศ. 2560 รายการโทรทัศน์. พ.ศ. 2560. เมนเทอร์รายการ เดอะเฟซเมนไทยแลนด์ ร่วมกับ เมทินี กิ่งโพยม และ พลพัฒน อัศวประภารางวัลรางวัล. - เข้าชิงรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ ครั้งที่ 21 สาขาผู้แสดงสมทบชายยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์ ซักซี้ด ห่วยขั้นเทพ - เข้าชิงรางวัลแบง มิวสิค อวอร์ด 2012 สาขาหนุ่มฮอตแห่งปี - รางวัลสยามดารา สตาร์ส อวอร์ดส์ 2012 สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์ จากภาพยนตร์ Top Secret วัยรุ่นพันล้าน - รางวัลพิฆเนศวร ครั้งที่ 2 ประจำปี 2556 สาขาผู้เป็นแบบอย่างเยาวชนดีเด่น - รางวัลแคช อวอร์ด 2015 สาขาศิลปินสุดแนว
พชร จิราธิวัฒน์ (เกิด 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2536) ชื่อเล่นว่าอะไร
{ "answer": [ "พีช" ], "answer_begin_position": [ 159 ], "answer_end_position": [ 162 ] }
1,155
364,697
พชร จิราธิวัฒน์ พชร จิราธิวัฒน์ (เกิด 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2536) ชื่อเล่น พีช เป็นนักร้อง นักแสดง นายแบบ และ นักดนตรีชาวไทย มีชื่อเสียงมาจากบท คุ้ง และ เค ในภาพยนตร์เรื่อง ซักซี้ด ห่วยขั้นเทพ มีผลงานเพลงร่วมกับกลุ่มเพื่อนในนามวงรูฟท็อป โดยเขาอยู่ในตำแหน่งมือคีย์บอร์ดและกีต้าร์ ปัจจุบันเป็นนักร้องนำร่วมกับ บีม ภากร มุสิกบุญเลิศ ในนามของ วงไวท์โรส (WHITE ROSE) มีสไตล์เพลงแนวอิเลคทรอนิคร็อค สังกัดค่ายสไปซีดิสก์ (SPICY DISC)ประวัติ ประวัติ. พชร จิราธิวัฒน์ เกิดที่กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรคนกลางจากพี่น้องสามคน เขาเป็นบุตรของธีรยุทธ์ จิราธิวัฒน์ และเป็นหลานของสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ ผู้บริหารเครือเซ็นทรัล ส่วนมารดาชื่อ ชนัดดา จิราธิวัฒน์ เป็นเจ้าของธุรกิจเพชร ไดมอนด์ ทูเดย์ มีพี่สาว 1 คน ชื่อ ศศิปรียา ศิลปินในสังกัดค่ายสมอลล์รูม และน้องสาวชื่อ เขมณัฏฐ์ และเป็นหลานชายของ ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์ นักร้องชาวไทย พชรจบประถมศึกษา-มัธยมศึกษาจากโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี สาขาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พชร ได้อุปสมบทเพื่อทดแทนพระคุณบิดามารดา เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 ที่วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ โดยหลังพิธีอุปสมบทได้รับฉายาว่า "คุณวชิโร" แปลว่า ผู้ที่ตัดสินใจกระทำแต่ความดี มีกำหนดศึกษาธรรมะเป็นเวลา 3 สัปดาห์ ปัจจุบันเขาได้เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัดช่อง 3 เป็นระยะเวลา 5 ปี และกำลังทำธุรกิจ ร้านเฟรนช์ฟรายส์ Potato Corner ที่เซ็นทรัลเวิลด์เป็นสาขาแรกชีวิตส่วนตัว ชีวิตส่วนตัว. พชร เคยคบหาดูใจกับนักร้องสาว นท พนายางกูร เป็นระยะเวลา 3 ปี แต่ได้เลิกรากันไป และปัจจุบัน กำลังคบหาดูใจกับ แพทริเซีย ธัญชนก กู๊ด นักแสดงช่อง 3ผลงานละครโทรทัศน์ภาพยนตร์ภาพยนตร์สั้นผลงาน. ภาพยนตร์สั้น. - โตไปไม่โกง ตอน Band Next Door - sucKseed (GTH side stories) - ตามหาคนพิเศษซีรีส์เพลงคอนเสิร์ต คอนเสิร์ต. พ.ศ. 2554- มันไก่มาก (27 สิงหาคม) - Big Mountain Music Festival 3 (ร่วมร้องเพลงกับพาราด็อกซ์ และวง Penny Lane) (10 ธันวาคม) พ.ศ. 2560- LOVE IS IN THE AIR : CHANNEL3 CHARITY CONCERT (29 เมษายน)(2560)รายการโทรทัศน์พ.ศ. 2560 รายการโทรทัศน์. พ.ศ. 2560. เมนเทอร์รายการ เดอะเฟซเมนไทยแลนด์ ร่วมกับ เมทินี กิ่งโพยม และ พลพัฒน อัศวประภารางวัลรางวัล. - เข้าชิงรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ ครั้งที่ 21 สาขาผู้แสดงสมทบชายยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์ ซักซี้ด ห่วยขั้นเทพ - เข้าชิงรางวัลแบง มิวสิค อวอร์ด 2012 สาขาหนุ่มฮอตแห่งปี - รางวัลสยามดารา สตาร์ส อวอร์ดส์ 2012 สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์ จากภาพยนตร์ Top Secret วัยรุ่นพันล้าน - รางวัลพิฆเนศวร ครั้งที่ 2 ประจำปี 2556 สาขาผู้เป็นแบบอย่างเยาวชนดีเด่น - รางวัลแคช อวอร์ด 2015 สาขาศิลปินสุดแนว
พีช พชร เป็นลูกหลาน ของกลุ่มธุรกิจใด
{ "answer": [ "เซ็นทรัล" ], "answer_begin_position": [ 681 ], "answer_end_position": [ 689 ] }
1,156
579,314
พุฒิชัย เกษตรสิน พุฒิชัย เกษตรสิน (เกิด 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2529) ชื่อเล่น พุฒ เป็นนักแสดง นายแบบ พิธีกร และดีเจชาวไทย มีผลงานที่เป็นที่รู้จักจากซีรีส์ Ugly Duckling รักนะเป็ดโง่ประวัติ ประวัติ. พุฒิชัย เกษตรสิน เกิดเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2529 ที่จังหวัดราชบุรี เป็นบุตรคนที่ 4 ของครอบครัวจากบุตรชายทั้งหมด 6 คน เดิมครอบครัวประกอบอาชีพเกษตรกรรมในจังหวัดราชบุรี และเคยอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพก่อนที่จะเข้าสู่วงการบันเทิงโดยการชักชวนของรุ่นพี่ เป็นแฟนกับจุ๋ย วรัทยา นิลคูหาการศึกษา การศึกษา. พุฒิชัยเข้าเรียนที่โรงเรียนวันทามารีอา จังหวัดราชบุรี เรียนตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หลังจากนั้นก็ย้ายไปเรียนโรงเรียนประสาทรัฐประชากิจจนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปัจจุบันจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิตวงการบันเทิง วงการบันเทิง. พุฒิชัยเริ่มต้นชีวิตในวงการบันเทิงจากการเป็นวีเจ อยู่ที่รายการ โอไอซีทางช่อง 5 และจัดรายการวิทยุที่คลื่น HOTWAVE 91.5 ก่อนจะย้ายมาจัดที่ Chill 89.0 ในช่วงเวลาแปดโมงเช้าถึงสิบโมงเช้า พุฒิชัยเริ่มงานการแสดงครั้งแรกในละครซิทคอมเรื่อง คู่รักต่างขั้ว' ของทีวีธันเดอร์ กำกับโดย มารุต สาโรวาท พุฒิชัยเป็นดีเจที่มีผลงานโดดเด่นทั้งงานพิธีกรและการแสดงจนได้รับความสนใจจาก ปิยวดี มาลีนนท์ ผู้จัดการละครค่ายเวฟทีวี ได้ชักชวนให้เข้ามาร่วมงานแสดงกับสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เป็นครั้งแรก ในละครแนวลึกลับเรื่อง จุดนัดภพ ปี 2 กับบทบาทของ ร.ต.ท.บูรพา ธาราทิพย์ หรือหมวดบู๊ชีวิตส่วนตัว ชีวิตส่วนตัว. ปัจจุบันกำลังคบหาดูใจกับ วรัทยา นิลคูหาผลงานละครโทรทัศน์ละครโทรทัศน์ต่างประเทศผลงาน. ละครโทรทัศน์ต่างประเทศ. - ละครจีนละครสั้นและซีรีส์มิวสิกวีดีโอเพลงเพลง. - "คำถามซึ่งไร้คนตอบ" เพลงประกอบซีรีส์ Ugly Duckling รักนะเป็ดโง่ ตอน Perfect Match แฟนฉัน! รับประกันความเพอร์เฟ็กต์ - "แสนล้านนาที" เพลงประกอบละคร I Wanna Be Sup'Tar วันหนึ่งจะเป็นซุปตาร์ - "เธอยัง" เพลงประกอบซีรีส์ Love Flight รักสุดท้ายที่ปลายฟ้า - "ไม่อยากเป็นของใคร" เพลงประกอบละคร แหวนดอกไม้ ร้องคู่กับ อริย์กันตา มหาพฤกษ์พงศ์พิธีกรพิธีกร. - O:IC - Pepsi Poll Me Please - Cafe' de Song - อีเม้าท์ มาเต็ม - หาเช้า โชว์ค่ำ - เซียนแกะสูตร - ร้องล่าเนื้อดีเจดีเจ. - Chill FM 89 - DJ คลื่น ฮอต 91.5 ไลฟ์แอนด์แชร์ - อีเอฟเอ็ม 104.5โฆษณาโฆษณา. - เอไอเอส - Land & Houses - จีเอสเอ็ม - บราเดอร์ - SALZ ร่วมกับ จุฑาวุฒิ ภัทรกำพล - Yamaha FINO - โยเกิร์ตดัชชี่ ร่วมกับ เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์ - Yuki - โออิชิ - Karmart - บะหมี่มาม่า - C-Vitt - SALZ ยาสีฟัน ร่วมกับ สุภัสสรา ธนชาติ - Nissan Note 2017คอนเสิร์ตรางวัล
พุฒิชัย เกษตรสิน เกิดเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2529 ที่จังหวัดใด
{ "answer": [ "จังหวัดราชบุรี" ], "answer_begin_position": [ 337 ], "answer_end_position": [ 351 ] }
1,157
579,314
พุฒิชัย เกษตรสิน พุฒิชัย เกษตรสิน (เกิด 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2529) ชื่อเล่น พุฒ เป็นนักแสดง นายแบบ พิธีกร และดีเจชาวไทย มีผลงานที่เป็นที่รู้จักจากซีรีส์ Ugly Duckling รักนะเป็ดโง่ประวัติ ประวัติ. พุฒิชัย เกษตรสิน เกิดเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2529 ที่จังหวัดราชบุรี เป็นบุตรคนที่ 4 ของครอบครัวจากบุตรชายทั้งหมด 6 คน เดิมครอบครัวประกอบอาชีพเกษตรกรรมในจังหวัดราชบุรี และเคยอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพก่อนที่จะเข้าสู่วงการบันเทิงโดยการชักชวนของรุ่นพี่ เป็นแฟนกับจุ๋ย วรัทยา นิลคูหาการศึกษา การศึกษา. พุฒิชัยเข้าเรียนที่โรงเรียนวันทามารีอา จังหวัดราชบุรี เรียนตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หลังจากนั้นก็ย้ายไปเรียนโรงเรียนประสาทรัฐประชากิจจนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปัจจุบันจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิตวงการบันเทิง วงการบันเทิง. พุฒิชัยเริ่มต้นชีวิตในวงการบันเทิงจากการเป็นวีเจ อยู่ที่รายการ โอไอซีทางช่อง 5 และจัดรายการวิทยุที่คลื่น HOTWAVE 91.5 ก่อนจะย้ายมาจัดที่ Chill 89.0 ในช่วงเวลาแปดโมงเช้าถึงสิบโมงเช้า พุฒิชัยเริ่มงานการแสดงครั้งแรกในละครซิทคอมเรื่อง คู่รักต่างขั้ว' ของทีวีธันเดอร์ กำกับโดย มารุต สาโรวาท พุฒิชัยเป็นดีเจที่มีผลงานโดดเด่นทั้งงานพิธีกรและการแสดงจนได้รับความสนใจจาก ปิยวดี มาลีนนท์ ผู้จัดการละครค่ายเวฟทีวี ได้ชักชวนให้เข้ามาร่วมงานแสดงกับสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เป็นครั้งแรก ในละครแนวลึกลับเรื่อง จุดนัดภพ ปี 2 กับบทบาทของ ร.ต.ท.บูรพา ธาราทิพย์ หรือหมวดบู๊ชีวิตส่วนตัว ชีวิตส่วนตัว. ปัจจุบันกำลังคบหาดูใจกับ วรัทยา นิลคูหาผลงานละครโทรทัศน์ละครโทรทัศน์ต่างประเทศผลงาน. ละครโทรทัศน์ต่างประเทศ. - ละครจีนละครสั้นและซีรีส์มิวสิกวีดีโอเพลงเพลง. - "คำถามซึ่งไร้คนตอบ" เพลงประกอบซีรีส์ Ugly Duckling รักนะเป็ดโง่ ตอน Perfect Match แฟนฉัน! รับประกันความเพอร์เฟ็กต์ - "แสนล้านนาที" เพลงประกอบละคร I Wanna Be Sup'Tar วันหนึ่งจะเป็นซุปตาร์ - "เธอยัง" เพลงประกอบซีรีส์ Love Flight รักสุดท้ายที่ปลายฟ้า - "ไม่อยากเป็นของใคร" เพลงประกอบละคร แหวนดอกไม้ ร้องคู่กับ อริย์กันตา มหาพฤกษ์พงศ์พิธีกรพิธีกร. - O:IC - Pepsi Poll Me Please - Cafe' de Song - อีเม้าท์ มาเต็ม - หาเช้า โชว์ค่ำ - เซียนแกะสูตร - ร้องล่าเนื้อดีเจดีเจ. - Chill FM 89 - DJ คลื่น ฮอต 91.5 ไลฟ์แอนด์แชร์ - อีเอฟเอ็ม 104.5โฆษณาโฆษณา. - เอไอเอส - Land & Houses - จีเอสเอ็ม - บราเดอร์ - SALZ ร่วมกับ จุฑาวุฒิ ภัทรกำพล - Yamaha FINO - โยเกิร์ตดัชชี่ ร่วมกับ เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์ - Yuki - โออิชิ - Karmart - บะหมี่มาม่า - C-Vitt - SALZ ยาสีฟัน ร่วมกับ สุภัสสรา ธนชาติ - Nissan Note 2017คอนเสิร์ตรางวัล
พุฒิ พุฒิชัย เกษตรสิน เข้าสู่วงการบันเทิงจากทางใด
{ "answer": [ "เป็นวีเจ อยู่ที่รายการ โอไอซีทางช่อง 5" ], "answer_begin_position": [ 893 ], "answer_end_position": [ 931 ] }
1,158
214,341
ภูธเนศ หงษ์มานพ ภูธเนศ หงษ์มานพ เกิดเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2519 ความเป็นจริงภูธเนศมีชื่อเล่นว่าปุ๋ยแต่ทำไมไม่รู้คนเรียกว่ากัปตัน เป็นนักแสดงและพิธีกรชาวไทย เป็นพี่ชายคนโตในจำนวนพี่น้อง 2 คน มีน้องสาว 1 คน จบการศึกษาระดับอนุบาลที่ โรงเรียนอนุบาลทัศนียวรรณ ระดับประถมและมัธยมศึกษาตอนต้นที่ โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มัธยมศึกษาตอนปลายที่ โรงเรียนเตรียมวิศวกรรมศาสตร์ไทย-เยอรมัน ระดับอุดมศึกษาที่ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มีผลงานแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกคือ กระโปรงบานขาสั้น ชีวิตส่วนตัว สมรสแล้วกับ เอ้ก บุษกร ตันติภนา หลังคบหากันมานานกว่า 5 ปี หลังจากนั้นในปี 2560 ก็มีทายาทคือเด็กชาย ภักดีบดินทร์ หงษ์มานพ ชื่อเล่น ดินผลงานละครโทรทัศน์ภาพยนตร์ละครซิทคอมละครสั้นผลงาน. ละครสั้น. - 3 แยก 3 ชีวิต (ช่อง 7)กำกับการแสดงเพลงเพลง. - วงยูเอชที อัลบั้ม ดูดีดีนะเพื่อน (ปี 2537) - วงยูเอชที Mini Album ที่ว่างของเธอ (ปี 2538) - วงยูเอชที อัลบั้มพิเศษ 6.2.12 (ปี 2538) - วงยูเอชที อัลบั้ม U.H.T.Summer Time (ปี 2539) - เพลง ดอกไม้ อัลบั้ม Happy Birthday (Sgl) (ปี 2540) - วงยูเอชที อัลบั้ม U.H.T. 2U (ปี 2546) - เพลง More Than Words อัลบั้ม Your Songs (ปี 2546) - เพลง Run To Me อัลบั้ม Your Songs 2 (ปี 2546) - วงยูเอชที อัลบั้ม U.H.T.Red Message (ปี 2547) - อัลบั้ม CJL Friends Club (เพลงประกอบละคร เรื่อง เพื่อน) - เพลงประกอบภาพยนตร์ เรื่อง ประถม มัธยม เปรี้ยวอมหวาน - เพลงประกอบละคร เรื่อง หกตกไม่แตก - เพลงประกอบละคร เรื่อง ครอบครัวคงกระพัน - เพลงประกอบละคร เรื่อง พี่ชายที่แสนดี (เพลง: เจ้าหญิงของฉัน) - เพลงประกอบละคร เรื่อง เกมรักพยาบาท (เพลง: ทำไม) - เพลงประกอบละคร เรื่อง ลิขิตรัก ลิขิตเลือด (เพลง: ลิขิตรัก) - เพลงประกอบละคร เรื่อง ทาสรักทระนง (เพลง: คู่กัด คู่กัน) ร้องร่วมกับ พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร - เพลงประกอบละครเวที ทวิภพ เดอะมิวสิคัล - เพลงประกอบละคร เรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง (เพลง: สุดท้ายก็ต้องรักกัน) ร้องร่วมกับ เปาวลี พรพิมลโฆษณาโฆษณา. - 2538 : Eversense Cologne ร่วมกับ นันทวัฒน์ อาศิรพจนกุล - 2539 : Lotte Candy ร่วมกับ อัลเบิร์ท เดมอน, ลีโอ พุฒ, เจสัน ยัง - 2546 : ชั้นในชาย เจ.เพรส - 2561 : ผลิตภัณฑ์ ดีนี่เพียว ออร์แกนิค ร่วมกับครอบครัวละครเวทีละครเวที. - 2548 - 2549 ทวิภพ เดอะมิวสิคัล รับบท คุณหลวงอัครเทพวรากรพิธีกรพิธีกร. - รายการ “เรื่องของเรื่อง″ ทาง ช่อง 5รางวัลได้รับรางวัลรางวัล. ได้รับรางวัล. - ได้รับรางวัลผู้แสดงสมทบชายยอดเยี่ยม จากละครเรื่อง ความลับของ Superstar จากงาน สตาร์เอนเตอร์เทนเมนต์อวอร์ดส 2008 ครั้งที่ 7 - ได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากละครเรื่อง มาลัยสามชาย จากงาน รางวัลนาฏราช ครั้งที่ 2เข้าชิงรางวัลเข้าชิงรางวัล. - เข้าชิงรางวัลผู้แสดงนำชายยอดเยี่ยม จากละครเรื่อง เมืองดาหลา จากงาน สตาร์เอนเตอร์เทนเมนต์อวอร์ดส 2003 ครั้งที่ 2 - เข้าชิงรางวัลดารานำแสดงชายยอดเยี่ยม สาขาละครดราม่า จากละครเรื่อง รักแปดพันเก้า จากงาน อาเซียน เทเลวิชั่น อวอร์ดส์ ประจำปี 2547 - เข้าชิงรางวัลดาราสมทบชายยอดเยี่ยม จากละครเรื่อง ความลับของ Superstar จากงาน ท็อปอวอร์ด 2008 - เข้าชิงรางวัลดาราสนับสนุนชายดีเด่น จากละครเรื่อง ความลับของ Superstar จากงาน รางวัลโทรทัศน์ทองคำ ครั้งที่ 23 - เข้าชิงรางวัลนักแสดงชายแห่งปี จากละครเรื่อง บ้านนี้มีรัก, ความลับของ Superstar จากงาน รางวัลไนน์เอ็นเตอร์เทน อวอร์ดส์ ครั้งที่ 2 - เข้าชิงรางวัลดารานำชายดีเด่น จากละครเรื่อง ชิงชัง จากงาน รางวัลโทรทัศน์ทองคำ ครั้งที่ 24 - เข้าชิงรางวัลผู้แสดงนำชายยอดเยี่ยม จากละครเรื่อง ชิงชัง จากงาน สตาร์เอนเตอร์เทนเมนต์อวอร์ดส 2009 ครั้งที่ 8 - เข้าชิงรางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยม จากละครเรื่อง ชิงชัง จากงาน สยามดาราสตาร์อวอร์ด 2010 - เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากละครเรื่อง มาลัยสามชาย จากงาน คมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 8 - เข้าชิงรางวัลนักแสดงชายแห่งปี จากละครเรื่อง บ้านนี้มีรัก, มาลัยสามชาย จากงาน รางวัลไนน์เอ็นเตอร์เทน อวอร์ดส์ ครั้งที่ 4 - เข้าชิงรางวัลดารานำชายดีเด่น จากละครเรื่อง มาลัยสามชาย จากงาน รางวัลโทรทัศน์ทองคำ ครั้งที่ 25 - เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากละครเรื่อง กุหลาบซาตาน จากงาน รางวัลนาฏราช ครั้งที่ 3 - เข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม จากละครเรื่อง อีสา-รวีช่วงโชติ จากงาน รางวัลนาฏราช ครั้งที่ 6
กัปตัน ภูธเนศ หงษ์มานพ เข้าสู่วงการบันเทิงจากการเป็นนักร้องนำวงอะไร
{ "answer": [ "วงยูเอชที" ], "answer_begin_position": [ 839 ], "answer_end_position": [ 848 ] }
1,657
214,341
ภูธเนศ หงษ์มานพ ภูธเนศ หงษ์มานพ เกิดเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2519 ความเป็นจริงภูธเนศมีชื่อเล่นว่าปุ๋ยแต่ทำไมไม่รู้คนเรียกว่ากัปตัน เป็นนักแสดงและพิธีกรชาวไทย เป็นพี่ชายคนโตในจำนวนพี่น้อง 2 คน มีน้องสาว 1 คน จบการศึกษาระดับอนุบาลที่ โรงเรียนอนุบาลทัศนียวรรณ ระดับประถมและมัธยมศึกษาตอนต้นที่ โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มัธยมศึกษาตอนปลายที่ โรงเรียนเตรียมวิศวกรรมศาสตร์ไทย-เยอรมัน ระดับอุดมศึกษาที่ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มีผลงานแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกคือ กระโปรงบานขาสั้น ชีวิตส่วนตัว สมรสแล้วกับ เอ้ก บุษกร ตันติภนา หลังคบหากันมานานกว่า 5 ปี หลังจากนั้นในปี 2560 ก็มีทายาทคือเด็กชาย ภักดีบดินทร์ หงษ์มานพ ชื่อเล่น ดินผลงานละครโทรทัศน์ภาพยนตร์ละครซิทคอมละครสั้นผลงาน. ละครสั้น. - 3 แยก 3 ชีวิต (ช่อง 7)กำกับการแสดงเพลงเพลง. - วงยูเอชที อัลบั้ม ดูดีดีนะเพื่อน (ปี 2537) - วงยูเอชที Mini Album ที่ว่างของเธอ (ปี 2538) - วงยูเอชที อัลบั้มพิเศษ 6.2.12 (ปี 2538) - วงยูเอชที อัลบั้ม U.H.T.Summer Time (ปี 2539) - เพลง ดอกไม้ อัลบั้ม Happy Birthday (Sgl) (ปี 2540) - วงยูเอชที อัลบั้ม U.H.T. 2U (ปี 2546) - เพลง More Than Words อัลบั้ม Your Songs (ปี 2546) - เพลง Run To Me อัลบั้ม Your Songs 2 (ปี 2546) - วงยูเอชที อัลบั้ม U.H.T.Red Message (ปี 2547) - อัลบั้ม CJL Friends Club (เพลงประกอบละคร เรื่อง เพื่อน) - เพลงประกอบภาพยนตร์ เรื่อง ประถม มัธยม เปรี้ยวอมหวาน - เพลงประกอบละคร เรื่อง หกตกไม่แตก - เพลงประกอบละคร เรื่อง ครอบครัวคงกระพัน - เพลงประกอบละคร เรื่อง พี่ชายที่แสนดี (เพลง: เจ้าหญิงของฉัน) - เพลงประกอบละคร เรื่อง เกมรักพยาบาท (เพลง: ทำไม) - เพลงประกอบละคร เรื่อง ลิขิตรัก ลิขิตเลือด (เพลง: ลิขิตรัก) - เพลงประกอบละคร เรื่อง ทาสรักทระนง (เพลง: คู่กัด คู่กัน) ร้องร่วมกับ พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร - เพลงประกอบละครเวที ทวิภพ เดอะมิวสิคัล - เพลงประกอบละคร เรื่อง สายฟ้ากับสมหวัง (เพลง: สุดท้ายก็ต้องรักกัน) ร้องร่วมกับ เปาวลี พรพิมลโฆษณาโฆษณา. - 2538 : Eversense Cologne ร่วมกับ นันทวัฒน์ อาศิรพจนกุล - 2539 : Lotte Candy ร่วมกับ อัลเบิร์ท เดมอน, ลีโอ พุฒ, เจสัน ยัง - 2546 : ชั้นในชาย เจ.เพรส - 2561 : ผลิตภัณฑ์ ดีนี่เพียว ออร์แกนิค ร่วมกับครอบครัวละครเวทีละครเวที. - 2548 - 2549 ทวิภพ เดอะมิวสิคัล รับบท คุณหลวงอัครเทพวรากรพิธีกรพิธีกร. - รายการ “เรื่องของเรื่อง″ ทาง ช่อง 5รางวัลได้รับรางวัลรางวัล. ได้รับรางวัล. - ได้รับรางวัลผู้แสดงสมทบชายยอดเยี่ยม จากละครเรื่อง ความลับของ Superstar จากงาน สตาร์เอนเตอร์เทนเมนต์อวอร์ดส 2008 ครั้งที่ 7 - ได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากละครเรื่อง มาลัยสามชาย จากงาน รางวัลนาฏราช ครั้งที่ 2เข้าชิงรางวัลเข้าชิงรางวัล. - เข้าชิงรางวัลผู้แสดงนำชายยอดเยี่ยม จากละครเรื่อง เมืองดาหลา จากงาน สตาร์เอนเตอร์เทนเมนต์อวอร์ดส 2003 ครั้งที่ 2 - เข้าชิงรางวัลดารานำแสดงชายยอดเยี่ยม สาขาละครดราม่า จากละครเรื่อง รักแปดพันเก้า จากงาน อาเซียน เทเลวิชั่น อวอร์ดส์ ประจำปี 2547 - เข้าชิงรางวัลดาราสมทบชายยอดเยี่ยม จากละครเรื่อง ความลับของ Superstar จากงาน ท็อปอวอร์ด 2008 - เข้าชิงรางวัลดาราสนับสนุนชายดีเด่น จากละครเรื่อง ความลับของ Superstar จากงาน รางวัลโทรทัศน์ทองคำ ครั้งที่ 23 - เข้าชิงรางวัลนักแสดงชายแห่งปี จากละครเรื่อง บ้านนี้มีรัก, ความลับของ Superstar จากงาน รางวัลไนน์เอ็นเตอร์เทน อวอร์ดส์ ครั้งที่ 2 - เข้าชิงรางวัลดารานำชายดีเด่น จากละครเรื่อง ชิงชัง จากงาน รางวัลโทรทัศน์ทองคำ ครั้งที่ 24 - เข้าชิงรางวัลผู้แสดงนำชายยอดเยี่ยม จากละครเรื่อง ชิงชัง จากงาน สตาร์เอนเตอร์เทนเมนต์อวอร์ดส 2009 ครั้งที่ 8 - เข้าชิงรางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยม จากละครเรื่อง ชิงชัง จากงาน สยามดาราสตาร์อวอร์ด 2010 - เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากละครเรื่อง มาลัยสามชาย จากงาน คมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 8 - เข้าชิงรางวัลนักแสดงชายแห่งปี จากละครเรื่อง บ้านนี้มีรัก, มาลัยสามชาย จากงาน รางวัลไนน์เอ็นเตอร์เทน อวอร์ดส์ ครั้งที่ 4 - เข้าชิงรางวัลดารานำชายดีเด่น จากละครเรื่อง มาลัยสามชาย จากงาน รางวัลโทรทัศน์ทองคำ ครั้งที่ 25 - เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากละครเรื่อง กุหลาบซาตาน จากงาน รางวัลนาฏราช ครั้งที่ 3 - เข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม จากละครเรื่อง อีสา-รวีช่วงโชติ จากงาน รางวัลนาฏราช ครั้งที่ 6
กัปตัน ภูธเนศ หงษ์มานพ เกิดเมื่อวันที่เท่าไร
{ "answer": [ "16" ], "answer_begin_position": [ 138 ], "answer_end_position": [ 140 ] }
1,159
210,860
หม่อมเจ้าทองเติม ทองแถม หม่อมเจ้าทองเติม ทองแถม อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี และผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ประวัติ ประวัติ. หม่อมเจ้าทองเติม ทองแถม ประสูติเมื่อ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2435 และสิ้นชีพตักษัยเมื่อ พ.ศ. 2506 พระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าทองแถมถวัลยวงศ์ กรมหลวงสรรพสาตรศุภกิจ กับ หม่อมเจ้าเม้า รองทรง พระธิดาในพระเจ้าราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารองทรง กรมหมื่นสิทธิสุขุมการ หม่อมเจ้าทองเติม ทองแถม มีพระเชษฐาและพระอนุชาร่วมพระบิดา พระมารดา เดียวกับ- หม่อมเจ้าทองเชื้อธรรมชาติ ทองแถม (พ.ศ. 2427 - 2476) เษกสมรสกับหม่อมเจ้าหญิงพันธ์สิหิงค์ ทองใหญ่ - หม่อมเจ้าทองชมพูนุท ทองแถม (พ.ศ. 2433 - 2491) เษกสมรสกับหม่อมหลวงแฉล้ม อิศรเสนา - หม่อมเจ้าทองต่อ ทองแถม (พ.ศ. 2436 - 2501) เษกสมรสกับหม่อมเจ้าพิมพ์รำไพ รพีพัฒน์ - หม่อมเจ้าทองบรรณาการ ทองแถม (พ.ศ. 2446 - 2506) เษกสมรสกับหม่อมราชวงศ์หญิงศรีถนอม ศรีธวัช หม่อมเจ้าทองเติม ทองแถม เสกสมรสกับหม่อมเชิญ บุตรีเจ้าพระยาสุรสีห์วิสิษฐศักดิ์ (เชย กัลยาณมิตร) และท่านผู้หญิงพุ่ม สุรสีห์วิศิษฐศักดิ์ มีโอรสธิดาดังนี้1. หม่อมราชวงศ์ทองเพิ่ม ทองแถม ( 22 มิถุนายน 2455 - 27 มีนาคม 2513) 2. หม่อมราชวงศ์ทองทศ ทองแถม ( 19 ธันวาคม 2456 - 16 กันยายน 2470) 3. พันเอก หม่อมราชวงศ์แววจักร ทองแถม ( 1 พฤษภาคม 2458 - 2 พฤสจิกายน 2506) 4. หม่อมราชวงศ์หญิงสายทอง ทองแถม ( 13 ตุลาคม 2459 - 20 กันยายน 2519) 5. หม่อมราชวงศ์หญิงสร้อยทอง ทองแถม ( 26 ธันวาคม 2462 - ? ) 6. หม่อมราชวงศ์หญิงครุยทอง ทองแถม ( 17 เมษายน 2465 - ?) 7. หม่อมราชวงศ์หญิงชาลทอง ทองแถม ( 23 กันยายน 2467 - ?) 8. หม่อมราชวงศ์หญิงเฟื่องทอง ทองแถมการทรงงาน การทรงงาน. หม่อมเจ้าทองเติม ทองแถม ทรงรับราชการในกระทรวงมหาดไทย จนกระทั่งทรงเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ระหว่าง พ.ศ. 2457-2471 และผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระหว่าง พ.ศ. 2471-2476
หม่อมเจ้าทองเติม ทองแถม ประสูติเมื่อใด
{ "answer": [ "3 สิงหาคม พ.ศ. 2435" ], "answer_begin_position": [ 271 ], "answer_end_position": [ 290 ] }
1,160
210,860
หม่อมเจ้าทองเติม ทองแถม หม่อมเจ้าทองเติม ทองแถม อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี และผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ประวัติ ประวัติ. หม่อมเจ้าทองเติม ทองแถม ประสูติเมื่อ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2435 และสิ้นชีพตักษัยเมื่อ พ.ศ. 2506 พระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าทองแถมถวัลยวงศ์ กรมหลวงสรรพสาตรศุภกิจ กับ หม่อมเจ้าเม้า รองทรง พระธิดาในพระเจ้าราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารองทรง กรมหมื่นสิทธิสุขุมการ หม่อมเจ้าทองเติม ทองแถม มีพระเชษฐาและพระอนุชาร่วมพระบิดา พระมารดา เดียวกับ- หม่อมเจ้าทองเชื้อธรรมชาติ ทองแถม (พ.ศ. 2427 - 2476) เษกสมรสกับหม่อมเจ้าหญิงพันธ์สิหิงค์ ทองใหญ่ - หม่อมเจ้าทองชมพูนุท ทองแถม (พ.ศ. 2433 - 2491) เษกสมรสกับหม่อมหลวงแฉล้ม อิศรเสนา - หม่อมเจ้าทองต่อ ทองแถม (พ.ศ. 2436 - 2501) เษกสมรสกับหม่อมเจ้าพิมพ์รำไพ รพีพัฒน์ - หม่อมเจ้าทองบรรณาการ ทองแถม (พ.ศ. 2446 - 2506) เษกสมรสกับหม่อมราชวงศ์หญิงศรีถนอม ศรีธวัช หม่อมเจ้าทองเติม ทองแถม เสกสมรสกับหม่อมเชิญ บุตรีเจ้าพระยาสุรสีห์วิสิษฐศักดิ์ (เชย กัลยาณมิตร) และท่านผู้หญิงพุ่ม สุรสีห์วิศิษฐศักดิ์ มีโอรสธิดาดังนี้1. หม่อมราชวงศ์ทองเพิ่ม ทองแถม ( 22 มิถุนายน 2455 - 27 มีนาคม 2513) 2. หม่อมราชวงศ์ทองทศ ทองแถม ( 19 ธันวาคม 2456 - 16 กันยายน 2470) 3. พันเอก หม่อมราชวงศ์แววจักร ทองแถม ( 1 พฤษภาคม 2458 - 2 พฤสจิกายน 2506) 4. หม่อมราชวงศ์หญิงสายทอง ทองแถม ( 13 ตุลาคม 2459 - 20 กันยายน 2519) 5. หม่อมราชวงศ์หญิงสร้อยทอง ทองแถม ( 26 ธันวาคม 2462 - ? ) 6. หม่อมราชวงศ์หญิงครุยทอง ทองแถม ( 17 เมษายน 2465 - ?) 7. หม่อมราชวงศ์หญิงชาลทอง ทองแถม ( 23 กันยายน 2467 - ?) 8. หม่อมราชวงศ์หญิงเฟื่องทอง ทองแถมการทรงงาน การทรงงาน. หม่อมเจ้าทองเติม ทองแถม ทรงรับราชการในกระทรวงมหาดไทย จนกระทั่งทรงเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ระหว่าง พ.ศ. 2457-2471 และผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระหว่าง พ.ศ. 2471-2476
ในช่วงปี พ.ศ. 2457-2471 หม่อมเจ้าทองเติม ทองแถมดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดอะไร
{ "answer": [ "ปราจีนบุรี" ], "answer_begin_position": [ 1661 ], "answer_end_position": [ 1671 ] }
1,161
645,469
ศิวกร ชุ่มชื่น ศิวกร ชุ่มชื่น อดีตนายแบบโดมอนแมน เป็นอดีตสมาชิกวงยูโฟร์ ค่ายคีตา เอนเตอร์เทนเมนท์ประวัติ ประวัติ. เริ่มเข้าวงการบันเทิงโดยเป็นนายแบบโดมอนแมนหลังได้รางวัลอันดับ2 หลังจากนั้นจิมมี่ก็ได้เป็นศิลปิน นักร้องบอยแบนด์วงยูโฟร์ ที่มาแทนเบียร์ที่เสียชีวิตไป ปัจจุบันจิมมี่ทำธุรกิจเบื้องหลังผลงานเพลงอัลบั้มU4ผลงานเพลง. อัลบั้มU4. - อัลบั้ม แปดขาสี่คนคอนเสิร์ตคอนเสิร์ต. - 2550 Marie France Presents : Kita Back To The Future Concertผลงานภาพยนตร์ผลงานภาพยนตร์. - 2538 ฉากสุดท้ายของทัดทรวง
ศิวกร ชุ่มชื่น เข้ามาเป็นนักร้องวงยูโฟร์แทนใคร
{ "answer": [ "เบียร์" ], "answer_begin_position": [ 331 ], "answer_end_position": [ 337 ] }
1,162
275,753
มิฟฟ์ โมล ไอร์วิง มิลเฟรด "มิฟฟ์" โมล () หรือ มิฟฟ์ โมล นักทรอมโบนแจ๊สและหัวหน้าวงดนตรี ได้การยอมรับว่าเป็น "นักทรอมโบนที่พัฒนาการเล่นโซโลทรอมโบนในแนวแจ๊สได้อย่างโดดเด่น และมีอิทธิพลต่อวงการแจ๊ส" มิฟฟ์ โมล เริ่มเล่นเปียโนและไวโอลินตั้งแต่เด็ก และหันมาเล่นทรอมโบนเมื่ออายุ 15 ปี โดยเริ่มเล่นดนตรีกับวงออเคสตรา ในปี ค.ศ. 1923 ขณะอายุ 25 ปี ได้ร่วมวงดนตรีของเรด นิโคลส์ นักทรัมเป็ต ซึ่งต่อมาได้ร่วมกันตั้งวงดนตรีชื่อ "Miff Mole and his (Little) Molers" ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1926 ถึง 1930 มิฟฟ์ โมลยังเป็นนักดนตรีอิสระ ที่เล่นบันทึกเสียงให้กับวงแจ๊สของพอล ไวท์แมน เบนนี กูดแมน และเอดดี คอนดอน ในช่วงทศวรรษ 1940 ผลงานเพลงที่มีชื่อเสียงของมิฟฟ์ ได้แก่เพลง "Slippin' Around", "Red Hot Mama", "Miff's Blues", "Toddlin' Blues", "Davenport Blues" และเพลง "There'll Come a Time (Wait and See)" ที่นำไปใช้ประกอบภาพยนตร์ The Curious Case of Benjamin Button ที่ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลดนตรีประกอบยอดเยี่ยม รางวัลออสการ์ ครั้งที่ 81
มิฟฟ์ โมล หันมาเล่นทรอมโบนเมื่ออายุกี่ปี
{ "answer": [ "15 ปี" ], "answer_begin_position": [ 356 ], "answer_end_position": [ 361 ] }
1,163
275,753
มิฟฟ์ โมล ไอร์วิง มิลเฟรด "มิฟฟ์" โมล () หรือ มิฟฟ์ โมล นักทรอมโบนแจ๊สและหัวหน้าวงดนตรี ได้การยอมรับว่าเป็น "นักทรอมโบนที่พัฒนาการเล่นโซโลทรอมโบนในแนวแจ๊สได้อย่างโดดเด่น และมีอิทธิพลต่อวงการแจ๊ส" มิฟฟ์ โมล เริ่มเล่นเปียโนและไวโอลินตั้งแต่เด็ก และหันมาเล่นทรอมโบนเมื่ออายุ 15 ปี โดยเริ่มเล่นดนตรีกับวงออเคสตรา ในปี ค.ศ. 1923 ขณะอายุ 25 ปี ได้ร่วมวงดนตรีของเรด นิโคลส์ นักทรัมเป็ต ซึ่งต่อมาได้ร่วมกันตั้งวงดนตรีชื่อ "Miff Mole and his (Little) Molers" ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1926 ถึง 1930 มิฟฟ์ โมลยังเป็นนักดนตรีอิสระ ที่เล่นบันทึกเสียงให้กับวงแจ๊สของพอล ไวท์แมน เบนนี กูดแมน และเอดดี คอนดอน ในช่วงทศวรรษ 1940 ผลงานเพลงที่มีชื่อเสียงของมิฟฟ์ ได้แก่เพลง "Slippin' Around", "Red Hot Mama", "Miff's Blues", "Toddlin' Blues", "Davenport Blues" และเพลง "There'll Come a Time (Wait and See)" ที่นำไปใช้ประกอบภาพยนตร์ The Curious Case of Benjamin Button ที่ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลดนตรีประกอบยอดเยี่ยม รางวัลออสการ์ ครั้งที่ 81
เครื่องดนตรีที่มิฟฟ์ โมลฝึกเล่นก่อนจะมาเล่นทรอมโบนคือเครื่องดนตรีอะไร
{ "answer": [ "เปียโนและไวโอลิน" ], "answer_begin_position": [ 299 ], "answer_end_position": [ 315 ] }
1,164
525,272
อเล็กซ์ โมลตัน อเล็กซานเดอร์ เอริก "อเล็กซ์" โมลตัน ซีบีอี (, 9 เมษายน ค.ศ. 1920 - 9 ธันวาคม ค.ศ. 2012) เป็นวิศวกรและนักประดิษฐ์ชาวอังกฤษ มีชื่อเสียงในฐานะผู้ออกแบบระบบกันสะเทือนของรถยนต์มินิ อเล็กซ์ โมลตันเกิดในครอบครัวนักอุตสาหกรรมยางพารา ปู่ทวดของเขาเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมยางวัลกาไนซ์ในสหราชอาณาจักร หลังจบการศึกษาจากวิทยาลัยมาร์โบโรฮ์ และคิงส์คอลเลจ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ โมลตันทำงานเป็นวิศวกรออกแบบเครื่องยนต์ จากนั้นได้ทำงานในบริษัทของครอบครัว และเมื่อออกมาตั้งบริษัท โมลตัน ดีเวลล็อปเมนต์ส เป็นของตัวเอง ก็ได้ใช้ประสบการณ์ในอุตสาหกรรมยางพารา ออกแบบระบบกันสะเทือนแบบใหม่ ที่ใช้เบ้ายาง ให้กับรถยนต์มินิรุ่นใหม่ของเซอร์ อเล็กซ์ อิซซิโกนิส ทำให้มีระบบกันสะเทือนที่มีขนาดเล็ก และมีประสิทธิภาพ อเล็กซ์ โมลตันยังมีชื่อเสียงในฐานะผู้ออกแบบจักรยาน ที่ใช้ล้อขนาดเล็ก และใช้ระบบกันสะเทือนแบบเบ้ายางเช่นเดียวกับรถมินิ ใช้ชื่อการค้าว่า จักรยานโมลตัน
อเล็กซ์ โมลตัน เป็นวิศวกรและนักประดิษฐ์ชาวอะไร
{ "answer": [ "ชาวอังกฤษ" ], "answer_begin_position": [ 217 ], "answer_end_position": [ 226 ] }
1,165
525,272
อเล็กซ์ โมลตัน อเล็กซานเดอร์ เอริก "อเล็กซ์" โมลตัน ซีบีอี (, 9 เมษายน ค.ศ. 1920 - 9 ธันวาคม ค.ศ. 2012) เป็นวิศวกรและนักประดิษฐ์ชาวอังกฤษ มีชื่อเสียงในฐานะผู้ออกแบบระบบกันสะเทือนของรถยนต์มินิ อเล็กซ์ โมลตันเกิดในครอบครัวนักอุตสาหกรรมยางพารา ปู่ทวดของเขาเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมยางวัลกาไนซ์ในสหราชอาณาจักร หลังจบการศึกษาจากวิทยาลัยมาร์โบโรฮ์ และคิงส์คอลเลจ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ โมลตันทำงานเป็นวิศวกรออกแบบเครื่องยนต์ จากนั้นได้ทำงานในบริษัทของครอบครัว และเมื่อออกมาตั้งบริษัท โมลตัน ดีเวลล็อปเมนต์ส เป็นของตัวเอง ก็ได้ใช้ประสบการณ์ในอุตสาหกรรมยางพารา ออกแบบระบบกันสะเทือนแบบใหม่ ที่ใช้เบ้ายาง ให้กับรถยนต์มินิรุ่นใหม่ของเซอร์ อเล็กซ์ อิซซิโกนิส ทำให้มีระบบกันสะเทือนที่มีขนาดเล็ก และมีประสิทธิภาพ อเล็กซ์ โมลตันยังมีชื่อเสียงในฐานะผู้ออกแบบจักรยาน ที่ใช้ล้อขนาดเล็ก และใช้ระบบกันสะเทือนแบบเบ้ายางเช่นเดียวกับรถมินิ ใช้ชื่อการค้าว่า จักรยานโมลตัน
รถยนตร์ชนิดใดที่สร้างชื่อเสียงให้กับอเล็กซ์ โมลตันในการเป็นผู้ออกแบบระบบกันสะเทือน
{ "answer": [ "รถยนต์มินิ" ], "answer_begin_position": [ 270 ], "answer_end_position": [ 280 ] }
1,166
266,437
แมกซ์ โรช แมกซ์เวล เลมูเอล โรช นักแต่งเพลง นักดนตรีแจ๊สชาวอเมริกัน เล่นดนตรีในตำแหน่งมือกลอง และเพอร์คัสชัน โดยได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในผู้นำการเล่นจังหวะใหม่สไตล์บีบ็อพ ร่วมกับเคนนี คลาร์ก นอกจากนี้ยังเล่นดนตรีแจ๊สในอีกหลายสไตล์ แมกซ์ โรช เคยร่วมงานกับนักดนตรีแจ๊สคนสำคัญจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นโคลแมน ฮอว์กินส์ ดิซซี กิลเลสพี ชาร์ลี พาร์กเกอร์ ไมล์ส เดวิส ดุค เอลลิงตัน ชาร์ลส มิงกัส ซันนี โรลลินส์ คลิฟฟอร์ด บราวน์ โรชยังเป็นหัวหน้าวงดนตรีของตัวเอง และผลิตผลงานที่มีเนื้อหาต่อสู้เพื่อสิทธิของคนผิวดำ ชื่อชุด We Insist! - Freedom Now ในปี ค.ศ.1960 ในปี ค.ศ. 1966 แมกซ์ โรช ได้ออกผลงานชื่อ Drums Unlimited เป็นผลงานชุดแรกๆ ที่มีหลายเพลงเน้นการโซโลกลองและเพอร์คัสชัน โดยโรชยืนยันมาตลอดว่า กลองก็เป็นเครื่องดนตรีที่สามารถผสมเสียง จังหวะ และทำนองได้ ผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของโรช คือผลงานในปี 1962 ร่วมกับชาร์ลส มิงกัส และดุค เอลลิงตัน Money Jungle ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในอัลบั้มแจ๊สทริโอ (เปียโน, เบส และกลอง) ที่ดีที่สุด
แมกซ์ โรช เล่นดนตรีในตำแหน่งอะไร
{ "answer": [ "มือกลอง และเพอร์คัสชัน" ], "answer_begin_position": [ 169 ], "answer_end_position": [ 191 ] }
1,167
266,437
แมกซ์ โรช แมกซ์เวล เลมูเอล โรช นักแต่งเพลง นักดนตรีแจ๊สชาวอเมริกัน เล่นดนตรีในตำแหน่งมือกลอง และเพอร์คัสชัน โดยได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในผู้นำการเล่นจังหวะใหม่สไตล์บีบ็อพ ร่วมกับเคนนี คลาร์ก นอกจากนี้ยังเล่นดนตรีแจ๊สในอีกหลายสไตล์ แมกซ์ โรช เคยร่วมงานกับนักดนตรีแจ๊สคนสำคัญจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นโคลแมน ฮอว์กินส์ ดิซซี กิลเลสพี ชาร์ลี พาร์กเกอร์ ไมล์ส เดวิส ดุค เอลลิงตัน ชาร์ลส มิงกัส ซันนี โรลลินส์ คลิฟฟอร์ด บราวน์ โรชยังเป็นหัวหน้าวงดนตรีของตัวเอง และผลิตผลงานที่มีเนื้อหาต่อสู้เพื่อสิทธิของคนผิวดำ ชื่อชุด We Insist! - Freedom Now ในปี ค.ศ.1960 ในปี ค.ศ. 1966 แมกซ์ โรช ได้ออกผลงานชื่อ Drums Unlimited เป็นผลงานชุดแรกๆ ที่มีหลายเพลงเน้นการโซโลกลองและเพอร์คัสชัน โดยโรชยืนยันมาตลอดว่า กลองก็เป็นเครื่องดนตรีที่สามารถผสมเสียง จังหวะ และทำนองได้ ผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของโรช คือผลงานในปี 1962 ร่วมกับชาร์ลส มิงกัส และดุค เอลลิงตัน Money Jungle ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในอัลบั้มแจ๊สทริโอ (เปียโน, เบส และกลอง) ที่ดีที่สุด
ผลงานที่มีชื่อว่า We Insist! Freedom Now ของแมกซ์ โรช มีเนื้อหาต่อสู้เพื่อใคร
{ "answer": [ "สิทธิของคนผิวดำ" ], "answer_begin_position": [ 572 ], "answer_end_position": [ 587 ] }
1,168
578,050
พระบวรราชวังสีทา พระบวรราชวังสีทา ตั้งอยู่ที่ตำบลสองคอน อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ประวัติพระราชวังแห่งนี้พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสร้างที่ริมแม่น้ำป่าสักฝั่งตะวันตก ณ ตำบลบ้านสีทา ในแขวงจังหวัดสระบุรีสร้างคราวเดียวกับเมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) ทรงสร้างพระนารายณ์ราชนิเวศน์ ที่เมืองลพบุรี มูลเหตุเกิดแต่คราวหาที่สร้างราชธานีสำหรับเวลาสงครามดังกล่าวมานั้น ได้โปรดให้พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ เสด็จไปตรวจเมืองนครราชสีมา ทรงเห็นภูมิลำเนากันดารไม่เหมาะ มาโปรดที่เขาคอก ในแขวงจังหวัดสระบุรี ว่าเหมือนเป็นป้อมอยู่โดยธรรมชาติจึงสร้างที่ประทับขึ้น ณ ตำบลบ้านสีทา อันอาจไม่มาถึงเขาคอกได้สะดวก แล้วเสด็จประทับ ณ ที่นั่น เพื่อตกแต่งเขาคอกไว้เป็นป้อมปราการสำหรับต่อสู้ข้าศึกแห่งหนึ่งสถาปัตยกรรม สถาปัตยกรรม. สร้างเป็นเรือนไม้เครื่องไม้ บริเวณที่สร้างวังกว้างขวางมาก ประมาณ 150 ไร่เศษ ซากที่เป็นพื้นก่อเรือนไม้ ก่อด้วยอิฐฉาบปูนเป็นบัวคว่ำบัวหงายมีรากฐานกว้างประมาณ 10 วา ยาวประมาณ 20 วา โดยคาดว่าสร้างขึ้น 2 หลัง อิฐสมัยนั้นแข็งแรงมาก ขนาด 4 นิ้ว กว้าง 6 นิ้ว ยาว 12 นิ้ว ครั้นพระสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ เสด็จสวรรคตแล้ว พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ โปรดรื้อตำหนักลงมาสร้างวังพระราชทานพระเจ้าลูกเธอในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ ที่เหลืออยู่ก็หักพังสูญไปหมดปัจจุบัน ปัจจุบัน. ปัจจุบันบริเวณซึ่งที่เคยเป็นพระราชวังกลับเป็นบ้านราษฎร ประกอบอาชีพ ทำไร่ปลูกข้าวโพด มีการไถทำลายซากเดิมแทบจะสังเกตไม่ออก ต่อมากำนัน สุพัฒน์ ฤทธิ์จำปา กันเอาไว้เป็นที่สาธารณะประมาณ 4 ไร่เศษ บริเวณนี้ปรากฏเป็นชานประตูก่ออิฐฉาบปูน มีรอยวางแผ่นกระดานทำสะพานยื่นไปยังบึงน้ำ ชาวบ้านเรียกว่า "บึงตลาดไชย" ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของตัววังสีทา ห่างประมาณ 100 เมตรเศษ เล่ากันว่าทรงให้ใช้เป็นที่ประทับสรงน้ำจากบึงแห่งนี้ และเป็นที่ชุมนุมเหล่าสนมกำนัลนางฝ่ายใน เมื่อคราวเสด็จมาพักแรมในฤดูร้อนทุกๆ ปี และยังมีลูกๆ หลานๆ เหล่าสนมสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ อยู่เล่าสืบกันว่าสนมของพระองค์ทุกนางเก่งในทางแอ่วลาวมากที่สุด จนกระทั่งพระองค์เองสามารถเป่าแคนและแอ่วลาวได้ ถึงกับทรงพระราชนิพนธ์กลอนลำแอ่วลาวไว้หลายเล่มสมุดไทย คงเหลือปรากฏอยู่ในหอสมุดแห่งชาติ จนถึงทุกวันนี้
พระบวรราชวังสีทาอยู่ในจังหวัดใด
{ "answer": [ "จังหวัดสระบุรี" ], "answer_begin_position": [ 160 ], "answer_end_position": [ 174 ] }
1,169
578,050
พระบวรราชวังสีทา พระบวรราชวังสีทา ตั้งอยู่ที่ตำบลสองคอน อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ประวัติพระราชวังแห่งนี้พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสร้างที่ริมแม่น้ำป่าสักฝั่งตะวันตก ณ ตำบลบ้านสีทา ในแขวงจังหวัดสระบุรีสร้างคราวเดียวกับเมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) ทรงสร้างพระนารายณ์ราชนิเวศน์ ที่เมืองลพบุรี มูลเหตุเกิดแต่คราวหาที่สร้างราชธานีสำหรับเวลาสงครามดังกล่าวมานั้น ได้โปรดให้พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ เสด็จไปตรวจเมืองนครราชสีมา ทรงเห็นภูมิลำเนากันดารไม่เหมาะ มาโปรดที่เขาคอก ในแขวงจังหวัดสระบุรี ว่าเหมือนเป็นป้อมอยู่โดยธรรมชาติจึงสร้างที่ประทับขึ้น ณ ตำบลบ้านสีทา อันอาจไม่มาถึงเขาคอกได้สะดวก แล้วเสด็จประทับ ณ ที่นั่น เพื่อตกแต่งเขาคอกไว้เป็นป้อมปราการสำหรับต่อสู้ข้าศึกแห่งหนึ่งสถาปัตยกรรม สถาปัตยกรรม. สร้างเป็นเรือนไม้เครื่องไม้ บริเวณที่สร้างวังกว้างขวางมาก ประมาณ 150 ไร่เศษ ซากที่เป็นพื้นก่อเรือนไม้ ก่อด้วยอิฐฉาบปูนเป็นบัวคว่ำบัวหงายมีรากฐานกว้างประมาณ 10 วา ยาวประมาณ 20 วา โดยคาดว่าสร้างขึ้น 2 หลัง อิฐสมัยนั้นแข็งแรงมาก ขนาด 4 นิ้ว กว้าง 6 นิ้ว ยาว 12 นิ้ว ครั้นพระสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ เสด็จสวรรคตแล้ว พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ โปรดรื้อตำหนักลงมาสร้างวังพระราชทานพระเจ้าลูกเธอในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ ที่เหลืออยู่ก็หักพังสูญไปหมดปัจจุบัน ปัจจุบัน. ปัจจุบันบริเวณซึ่งที่เคยเป็นพระราชวังกลับเป็นบ้านราษฎร ประกอบอาชีพ ทำไร่ปลูกข้าวโพด มีการไถทำลายซากเดิมแทบจะสังเกตไม่ออก ต่อมากำนัน สุพัฒน์ ฤทธิ์จำปา กันเอาไว้เป็นที่สาธารณะประมาณ 4 ไร่เศษ บริเวณนี้ปรากฏเป็นชานประตูก่ออิฐฉาบปูน มีรอยวางแผ่นกระดานทำสะพานยื่นไปยังบึงน้ำ ชาวบ้านเรียกว่า "บึงตลาดไชย" ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของตัววังสีทา ห่างประมาณ 100 เมตรเศษ เล่ากันว่าทรงให้ใช้เป็นที่ประทับสรงน้ำจากบึงแห่งนี้ และเป็นที่ชุมนุมเหล่าสนมกำนัลนางฝ่ายใน เมื่อคราวเสด็จมาพักแรมในฤดูร้อนทุกๆ ปี และยังมีลูกๆ หลานๆ เหล่าสนมสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ อยู่เล่าสืบกันว่าสนมของพระองค์ทุกนางเก่งในทางแอ่วลาวมากที่สุด จนกระทั่งพระองค์เองสามารถเป่าแคนและแอ่วลาวได้ ถึงกับทรงพระราชนิพนธ์กลอนลำแอ่วลาวไว้หลายเล่มสมุดไทย คงเหลือปรากฏอยู่ในหอสมุดแห่งชาติ จนถึงทุกวันนี้
กษัตริย์พระองค์ใดทรงโปรดรื้อตำหนักลงมาสร้างวังพระราชทานพระเจ้าลูกเธอในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ
{ "answer": [ "พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ" ], "answer_begin_position": [ 1136 ], "answer_end_position": [ 1160 ] }
1,170
642,610
โทะชิอะกิ โยะชิดะ โทะชิอะกิ โยะชิดะ (; ; 2 ตุลาคม ค.ศ. 1954 — ) เป็นผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอลชาวญี่ปุ่น จากเมืองยะมะงะตะ จังหวัดยะมะงะตะ ประเทศญี่ปุ่นประวัติ ประวัติ. โทะชิอะกิ โยะชิดะ เริ่มเล่นวอลเลย์บอลที่ยะมะงะตะตั้งแต่อายุหกขวบ ในรูปแบบทีม 6 คน เขาสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมปลายยะมะงะตะใต้ และระดับอุดมศึกษาจากมหาวิทยาลัยจุนเทนโด รวมถึงสำเร็จการศึกษาหลักสูตรการฝึกสอนกีฬาจากมหาวิทยาลัยสึคุบะ ภายหลังจากสำเร็จการศึกษาหลักสูตรผู้ฝึกสอนใน ค.ศ. 1979 เขาได้เดินทางไปยังสหรัฐอเมริกา เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอนให้แก่วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติสหรัฐอเมริกา ภายใต้การดูแลของอารี เซริงเงอร์ หลังจากกลับบ้านในปี ค.ศ. 1982 เขาก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ฝึกสอนทีมฮิตาชิเบลล์ฟียู โดยทีมดังกล่าวได้เป็นแชมป์ลีกของญี่ปุ่น จากนั้น ในเดือนเมษายน ค.ศ. 1983 เขาได้ย้ายไปทำหน้าที่เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมวอลเลย์บอลหญิงมหาวิทยาลัยโตเกียวงะคุเง ค.ศ. 1998 เขาได้เดินทางสู่สหรัฐอเมริกา และได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติสหรัฐอเมริกาอีกครั้ง หลังจากการแข่งขันวอลเลย์บอลในโอลิมปิกฤดูร้อน 2000 ที่ซิดนีย์ เขาก็ได้เป็นชาวญี่ปุ่นคนแรกที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติสหรัฐอเมริกา และสามารถพาทีมเข้ารับรางวัลเหรียญเงินจากการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2002 และออกจากการทำหน้าที่ดังกล่าวหลังการแข่งขันวอลเลย์บอลในโอลิมปิกฤดูร้อน 2004 ที่กรุงเอเธนส์ ตั้งแต่เดือนเมษายน ค.ศ. 2005 เขาได้ทำหน้าที่เป็นศาสตราจารย์ที่วิทยาลัยกีฬาบิวะโกะเซเก ในปี ค.ศ. 2006 เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนให้แก่ทีมไพโอเนียร์เรดวิงส์ โดยทำหน้าที่ฝึกสอนเป็นระยะเวลาสามปี และออกจากทีมในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2009 เดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2009 เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมอะเงะโอะเมดิกส์ ในการแข่งขันวี.ชาลเลนจ์ลีก
โทะชิอะกิ โยะชิดะ เริ่มเล่นวอลเลย์ที่ยะมะงะตะตอนอายุกี่ขวบ
{ "answer": [ "หกขวบ" ], "answer_begin_position": [ 312 ], "answer_end_position": [ 317 ] }
1,171
642,610
โทะชิอะกิ โยะชิดะ โทะชิอะกิ โยะชิดะ (; ; 2 ตุลาคม ค.ศ. 1954 — ) เป็นผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอลชาวญี่ปุ่น จากเมืองยะมะงะตะ จังหวัดยะมะงะตะ ประเทศญี่ปุ่นประวัติ ประวัติ. โทะชิอะกิ โยะชิดะ เริ่มเล่นวอลเลย์บอลที่ยะมะงะตะตั้งแต่อายุหกขวบ ในรูปแบบทีม 6 คน เขาสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมปลายยะมะงะตะใต้ และระดับอุดมศึกษาจากมหาวิทยาลัยจุนเทนโด รวมถึงสำเร็จการศึกษาหลักสูตรการฝึกสอนกีฬาจากมหาวิทยาลัยสึคุบะ ภายหลังจากสำเร็จการศึกษาหลักสูตรผู้ฝึกสอนใน ค.ศ. 1979 เขาได้เดินทางไปยังสหรัฐอเมริกา เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอนให้แก่วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติสหรัฐอเมริกา ภายใต้การดูแลของอารี เซริงเงอร์ หลังจากกลับบ้านในปี ค.ศ. 1982 เขาก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ฝึกสอนทีมฮิตาชิเบลล์ฟียู โดยทีมดังกล่าวได้เป็นแชมป์ลีกของญี่ปุ่น จากนั้น ในเดือนเมษายน ค.ศ. 1983 เขาได้ย้ายไปทำหน้าที่เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมวอลเลย์บอลหญิงมหาวิทยาลัยโตเกียวงะคุเง ค.ศ. 1998 เขาได้เดินทางสู่สหรัฐอเมริกา และได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติสหรัฐอเมริกาอีกครั้ง หลังจากการแข่งขันวอลเลย์บอลในโอลิมปิกฤดูร้อน 2000 ที่ซิดนีย์ เขาก็ได้เป็นชาวญี่ปุ่นคนแรกที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติสหรัฐอเมริกา และสามารถพาทีมเข้ารับรางวัลเหรียญเงินจากการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2002 และออกจากการทำหน้าที่ดังกล่าวหลังการแข่งขันวอลเลย์บอลในโอลิมปิกฤดูร้อน 2004 ที่กรุงเอเธนส์ ตั้งแต่เดือนเมษายน ค.ศ. 2005 เขาได้ทำหน้าที่เป็นศาสตราจารย์ที่วิทยาลัยกีฬาบิวะโกะเซเก ในปี ค.ศ. 2006 เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนให้แก่ทีมไพโอเนียร์เรดวิงส์ โดยทำหน้าที่ฝึกสอนเป็นระยะเวลาสามปี และออกจากทีมในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2009 เดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2009 เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมอะเงะโอะเมดิกส์ ในการแข่งขันวี.ชาลเลนจ์ลีก
โทะชิอะกิ โยะชิดะได้เป็นหัวหน้าฝึกสอนให้แก่ทีมไพดอเนียร์เรดวิงส์ในปีค.ศ.ใด
{ "answer": [ "ค.ศ. 2006" ], "answer_begin_position": [ 1462 ], "answer_end_position": [ 1471 ] }
1,172
168,389
สถาบันปรีดี พนมยงค์ สถาบันปรีดี พนมยงค์ เป็นสถาบันไม่แสวงหากำไรที่มีจุดประสงค์ดำเนินกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อสังคมและราษฎรไทย ตามอุดมการณ์ของนายปรีดี พนมยงค์ รัฐบุรุษอาวุโสและผู้นำคณะราษฎรในการปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475 สถาบันก่อตั้งโดยมูลนิธิปรีดี พนมยงค์เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ปรีดี และเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2538 จุดประสงค์ในการดำเนินงานของสถาบันคือ ส่งเสริมงานด้านวิชาการซึ่งเชื่อมโยงกับแนวความคิด อุดมการณ์สันติธรรมของนายปรีดี พนมยงค์ เพื่อให้ประสานสัมพันธ์กับคนรุ่นใหม่ และสภาพปัญหาสังคมปัจจุบัน เป็นเวทีทางด้านศิลปวัฒนธรรมทุกแขนง เพื่อเป็นสื่อให้ความดีและสัจจะทางสังคม ได้แสดงออกสู่สาธารณะอย่างงดงามมีสุนทรียภาพ และประสานงานและร่วมมือกับองค์กรพันธมิตรอื่น ๆ ในเรื่องการวิจัย สัมมนา อบรม และกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ สถาบันปรีดี พนมยงค์ ตั้งอยู่ที่ ซอยทองหล่อ (สุขุมวิท 55) ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร บนเนื้อที่ 371 ตารางวา ซึ่งมูลนิธิไชยวนามอบให้
สถาบันปรีดี พนมยงค์ สร้างขึ้นตามอุดมการณ์ของใคร
{ "answer": [ "นายปรีดี พนมยงค์" ], "answer_begin_position": [ 235 ], "answer_end_position": [ 251 ] }
1,173
168,389
สถาบันปรีดี พนมยงค์ สถาบันปรีดี พนมยงค์ เป็นสถาบันไม่แสวงหากำไรที่มีจุดประสงค์ดำเนินกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อสังคมและราษฎรไทย ตามอุดมการณ์ของนายปรีดี พนมยงค์ รัฐบุรุษอาวุโสและผู้นำคณะราษฎรในการปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475 สถาบันก่อตั้งโดยมูลนิธิปรีดี พนมยงค์เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ปรีดี และเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2538 จุดประสงค์ในการดำเนินงานของสถาบันคือ ส่งเสริมงานด้านวิชาการซึ่งเชื่อมโยงกับแนวความคิด อุดมการณ์สันติธรรมของนายปรีดี พนมยงค์ เพื่อให้ประสานสัมพันธ์กับคนรุ่นใหม่ และสภาพปัญหาสังคมปัจจุบัน เป็นเวทีทางด้านศิลปวัฒนธรรมทุกแขนง เพื่อเป็นสื่อให้ความดีและสัจจะทางสังคม ได้แสดงออกสู่สาธารณะอย่างงดงามมีสุนทรียภาพ และประสานงานและร่วมมือกับองค์กรพันธมิตรอื่น ๆ ในเรื่องการวิจัย สัมมนา อบรม และกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ สถาบันปรีดี พนมยงค์ ตั้งอยู่ที่ ซอยทองหล่อ (สุขุมวิท 55) ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร บนเนื้อที่ 371 ตารางวา ซึ่งมูลนิธิไชยวนามอบให้
วันเปิดทำการของสถาบันปรีดี พนมยงค์คือวันอะไร
{ "answer": [ "วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2538" ], "answer_begin_position": [ 397 ], "answer_end_position": [ 425 ] }
1,174
270,055
เอ็นซี ทรู บริษัท เอ็นซี ทรู จำกัด (NC True Co.,Ltd.) เป็นผู้ให้บริการเกมออนไลน์ ในประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นในปี 2547 จากความร่วมมือระหว่างบริษัท NCsoft ประเทศเกาหลี และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยเกมที่บริษัทเปิดให้บริการอยู่ในตอนนี้ได้แก่ ลินเนจ 2 กิลด์วอร์ส และ เครซี่ มอน เรซซิ่ง นอกจากนี้ยังเปิดให้บริการเว็บไซต์ Game Portal อย่าง hitsplay.com ด้วยประวัติ ประวัติ. บริษัท เอ็นซี ทรู จำกัด ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2547 ดำเนินธุรกิจในการให้บริการประเภทเกมคอมพิวเตอร์ออนไลน์ โดยการร่วมมือกับบริษัทเกมอื่นๆ โดยเฉพาะในแถบภูมิภาคเอเชีย อย่าง เกาหลีใต้ เพื่อสร้างสรรค์ผลงาน และการพัฒนาเกมในรูปแบบภาษาไทย เพื่อสนองความต้องการของผู้เล่นเกมออนไลน์ภายในประเทศ ก้าวที่สำคัญที่ทำให้บริษัท เอ็นซี ทรู จำกัด เป็นที่รู้จักในฐานะบริษัทผู้ให้บริการเกมออนไลน์ นั่นก็คือการร่วมมือกับ บริษัท NCsoft ประเทศเกาหลีใต้ ผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เกมออนไลน์ ที่โด่งดังไปทั่วโลก ลินเนจ 2 ซึ่งเกม ลินเนจ 2 ใช้เวลาในการพัฒนาถึง 5 ปี โดยใช้งบประมาณไปทั้งสิ้นมากกว่า 200,000,000 วอน ซึ่งนับว่าสูงที่สุดในบรรดาเกมออนไลน์ และได้นำมาพัฒนาเป็นภาษาไทยในเวลาต่อมา จากนั้นปี 2549 บริษัทนำเข้าเกม กิลด์วอร์ส จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับรางวัลทางด้านกราฟิกที่ดีที่สุดแห่งปี 2548 จากนั้นปี 2550 บริษัทเปิดเกม เครซี่ มอน เรซซิ่ง หรือ (CMR) และปิดตัวเกมลงปี2554 , ในปี 2551 บริษัทเปิดตัวเกม พ้อยท์แบงค์ หรือ (PB) จนถึงปัจจุบันและเกม เลิฟบีทส์ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปลายปี 2553.บริษัทยุติการให้บริการเกม บริษัทยุติการให้บริการเกม. นับตั้งแต่บริษัท เอ็นซี ทรู จำกัด ได้เปิดให้บริการเกม Lineage II ในประเทศไทย ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2547 จนถึงเวลาปัจจุบัน นับเป็นเวลากว่า 10 ปี ซึ่งได้รับการตอบรับและการสนับสนุนจากผู้เล่นทุกท่านเป็นอย่างดีมาโดยตลอดได้ยุติการให้บริการเกม โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2556 เวลา 23.59 น. นี้เป็นต้นไปได้ปิดตัวอย่างเป็นทางการ.Game BackgroundGame ChannelGame Channel. - Hitsplay - Lineage II - Point Blank - Crazy Mon Racing - Guild Wars - Hits flash game - Popcap
บริษัท เอ็นซี ทรู จำกัด เป็นผู้ให้บริการด้านใด
{ "answer": [ "เกมออนไลน์" ], "answer_begin_position": [ 155 ], "answer_end_position": [ 165 ] }
1,175
270,055
เอ็นซี ทรู บริษัท เอ็นซี ทรู จำกัด (NC True Co.,Ltd.) เป็นผู้ให้บริการเกมออนไลน์ ในประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นในปี 2547 จากความร่วมมือระหว่างบริษัท NCsoft ประเทศเกาหลี และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยเกมที่บริษัทเปิดให้บริการอยู่ในตอนนี้ได้แก่ ลินเนจ 2 กิลด์วอร์ส และ เครซี่ มอน เรซซิ่ง นอกจากนี้ยังเปิดให้บริการเว็บไซต์ Game Portal อย่าง hitsplay.com ด้วยประวัติ ประวัติ. บริษัท เอ็นซี ทรู จำกัด ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2547 ดำเนินธุรกิจในการให้บริการประเภทเกมคอมพิวเตอร์ออนไลน์ โดยการร่วมมือกับบริษัทเกมอื่นๆ โดยเฉพาะในแถบภูมิภาคเอเชีย อย่าง เกาหลีใต้ เพื่อสร้างสรรค์ผลงาน และการพัฒนาเกมในรูปแบบภาษาไทย เพื่อสนองความต้องการของผู้เล่นเกมออนไลน์ภายในประเทศ ก้าวที่สำคัญที่ทำให้บริษัท เอ็นซี ทรู จำกัด เป็นที่รู้จักในฐานะบริษัทผู้ให้บริการเกมออนไลน์ นั่นก็คือการร่วมมือกับ บริษัท NCsoft ประเทศเกาหลีใต้ ผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เกมออนไลน์ ที่โด่งดังไปทั่วโลก ลินเนจ 2 ซึ่งเกม ลินเนจ 2 ใช้เวลาในการพัฒนาถึง 5 ปี โดยใช้งบประมาณไปทั้งสิ้นมากกว่า 200,000,000 วอน ซึ่งนับว่าสูงที่สุดในบรรดาเกมออนไลน์ และได้นำมาพัฒนาเป็นภาษาไทยในเวลาต่อมา จากนั้นปี 2549 บริษัทนำเข้าเกม กิลด์วอร์ส จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับรางวัลทางด้านกราฟิกที่ดีที่สุดแห่งปี 2548 จากนั้นปี 2550 บริษัทเปิดเกม เครซี่ มอน เรซซิ่ง หรือ (CMR) และปิดตัวเกมลงปี2554 , ในปี 2551 บริษัทเปิดตัวเกม พ้อยท์แบงค์ หรือ (PB) จนถึงปัจจุบันและเกม เลิฟบีทส์ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปลายปี 2553.บริษัทยุติการให้บริการเกม บริษัทยุติการให้บริการเกม. นับตั้งแต่บริษัท เอ็นซี ทรู จำกัด ได้เปิดให้บริการเกม Lineage II ในประเทศไทย ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2547 จนถึงเวลาปัจจุบัน นับเป็นเวลากว่า 10 ปี ซึ่งได้รับการตอบรับและการสนับสนุนจากผู้เล่นทุกท่านเป็นอย่างดีมาโดยตลอดได้ยุติการให้บริการเกม โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2556 เวลา 23.59 น. นี้เป็นต้นไปได้ปิดตัวอย่างเป็นทางการ.Game BackgroundGame ChannelGame Channel. - Hitsplay - Lineage II - Point Blank - Crazy Mon Racing - Guild Wars - Hits flash game - Popcap
เกมอะไรที่บริษัท เอ็นซี ทรู จำกัด ได้เปิดให้บริการในประเทศไทยตั้งแต่เดือนธันวาคม 2547
{ "answer": [ "Lineage II" ], "answer_begin_position": [ 1527 ], "answer_end_position": [ 1537 ] }
1,176
673,775
พระเทพรัตนมุนี (สุรชัย สุรชโย) พระเทพรัตนมุนี (สุรชัย สุรชโย) นามสกุล วิชชุกิจมงคล เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้าคณะภาค 12 และรักษาการเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหารประวัติ ประวัติ. พระเทพรัตนมุนี มีนามเดิมว่าสุรชัย สุรชโยได้เข้ารับการบรรพชา ณ.วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) ครั้นดำรงสมณศักดิ พระพรหมคุณาภรณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ จากนั้นสามเณรสุรชัยได้คอยปรนนิบัติรับใช้สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) และศึกษาพระธรรมวินัยควบคู่กันไปด้วย จนได้เข้าพิธีอุปสมบทเมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2521 ณ พระอุโบสถ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่พระพรหมคุณาภรณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า "สุรชโย" หลังจากอุปสมบทก็ได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งผู้ช้วยเจ้าอาวาสเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ดูแลงานปกครอง ในขณะเดียวกันยังเป็นครูสอนพระปริยัติธรรม สำนักเรียนวัดสระเกศ เป็นกรรมการตรวจนักธรรมสนามหลวง สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก ได้สั่งให้พระพรหมสุธีพักการปฏิบัติหน้าที่เจ้าคณะภาค 12 โดยให้พระเทพรัตนมุนี (สุรชัย สุรชโย) รองเจ้าคณะภาค12 เป็นรักษาการเจ้าคณะภาค 12 แทน ในปัจจุบัน พระเทพรัตนมุนี จำวัดอยู่ที่คณะ 8 วัดสระเกศราชวรมหาวิหารปริญญาที่ได้รับการถวายปริญญาที่ได้รับการถวาย. - พ.ศ. 2534 พุทธศาสตรบัณฑิต สาขาพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยสมณศักดิ์สมณศักดิ์. - รับฐานานุศักดิ์ในราชทินนามที่ พระครูปลัดสัมพิพัฒนธุตาจารย์ พระครูฐานานุกรมในสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) - ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระปัญญาวชิราภรณ์ - ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชปัญญาโสภณ - พ.ศ. 2557 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพรัตนมุนี ศรีศาสนกิจสุนทร ตรีปิฎกวราลงกรณ์ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสีตำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์ตำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์. - ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร - เจ้าคณะภาค12 - ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
พระเทพรัตนมุนี ดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสของวัดใด
{ "answer": [ "วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร" ], "answer_begin_position": [ 263 ], "answer_end_position": [ 285 ] }
1,177
673,775
พระเทพรัตนมุนี (สุรชัย สุรชโย) พระเทพรัตนมุนี (สุรชัย สุรชโย) นามสกุล วิชชุกิจมงคล เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้าคณะภาค 12 และรักษาการเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหารประวัติ ประวัติ. พระเทพรัตนมุนี มีนามเดิมว่าสุรชัย สุรชโยได้เข้ารับการบรรพชา ณ.วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) ครั้นดำรงสมณศักดิ พระพรหมคุณาภรณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ จากนั้นสามเณรสุรชัยได้คอยปรนนิบัติรับใช้สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) และศึกษาพระธรรมวินัยควบคู่กันไปด้วย จนได้เข้าพิธีอุปสมบทเมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2521 ณ พระอุโบสถ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่พระพรหมคุณาภรณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า "สุรชโย" หลังจากอุปสมบทก็ได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งผู้ช้วยเจ้าอาวาสเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ดูแลงานปกครอง ในขณะเดียวกันยังเป็นครูสอนพระปริยัติธรรม สำนักเรียนวัดสระเกศ เป็นกรรมการตรวจนักธรรมสนามหลวง สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก ได้สั่งให้พระพรหมสุธีพักการปฏิบัติหน้าที่เจ้าคณะภาค 12 โดยให้พระเทพรัตนมุนี (สุรชัย สุรชโย) รองเจ้าคณะภาค12 เป็นรักษาการเจ้าคณะภาค 12 แทน ในปัจจุบัน พระเทพรัตนมุนี จำวัดอยู่ที่คณะ 8 วัดสระเกศราชวรมหาวิหารปริญญาที่ได้รับการถวายปริญญาที่ได้รับการถวาย. - พ.ศ. 2534 พุทธศาสตรบัณฑิต สาขาพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยสมณศักดิ์สมณศักดิ์. - รับฐานานุศักดิ์ในราชทินนามที่ พระครูปลัดสัมพิพัฒนธุตาจารย์ พระครูฐานานุกรมในสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) - ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระปัญญาวชิราภรณ์ - ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชปัญญาโสภณ - พ.ศ. 2557 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพรัตนมุนี ศรีศาสนกิจสุนทร ตรีปิฎกวราลงกรณ์ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสีตำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์ตำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์. - ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร - เจ้าคณะภาค12 - ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
ตอนพระเทพรัตนมุนีเป็นสามเณรได้คอยปรนนิบัติรับใช้ใคร
{ "answer": [ "สมเด็จพระพุฒาจารย์" ], "answer_begin_position": [ 519 ], "answer_end_position": [ 537 ] }
1,178
590,383
การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา พ.ศ. 2547 การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ค.ศ. 2004 เป็นการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาครั้งที่ 55 และมีขึ้นในวันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 2004 ในการเลือกตั้งนี้ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จอร์จ ดับเบิลยู. บุช จากพรรครีพับลิกัน สามารถเอาชนะจอห์น เคร์รี วุฒิสมาชิกรัฐแมสซาชูเซตส์จากพรรคเดโมแครตรายการอ้างอิง
การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาครั้งที่ 55 จัดขึ้นในปีใด
{ "answer": [ "ค.ศ. 2004" ], "answer_begin_position": [ 205 ], "answer_end_position": [ 214 ] }
1,179
590,383
การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา พ.ศ. 2547 การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ค.ศ. 2004 เป็นการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาครั้งที่ 55 และมีขึ้นในวันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 2004 ในการเลือกตั้งนี้ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จอร์จ ดับเบิลยู. บุช จากพรรครีพับลิกัน สามารถเอาชนะจอห์น เคร์รี วุฒิสมาชิกรัฐแมสซาชูเซตส์จากพรรคเดโมแครตรายการอ้างอิง
จอร์จ ดับเบิลยู บุช เป็นผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเป็นคนของพรรคใด
{ "answer": [ "พรรครีพับลิกัน" ], "answer_begin_position": [ 373 ], "answer_end_position": [ 387 ] }
1,180
332,173
โอซูร์ดาโตนัมมูราโต โอซูร์ดาโตนัมมูราโต (; ; แปลว่า "The Soldier in Love") บางครั้งเรียกสั้นๆ ว่า โอซูร์ดาโต () เป็นเพลงที่แต่งโดยเอนริโก แคนนิโอ (1874 - 1949) แต่งคำร้องภาษานาโปลีโดยอานีเอลโล กาลีฟาโน (1870 - 1919) ชาวเนเปิลส์ เมื่อ ค.ศ. 1915 เนื้อร้องบรรยายถึงความโศกเศร้าของทหารอิตาลีที่ต้องจากคนรัก ไปอยู่ท่ามกลางสนามรบ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เพลงนี้เป็นเพลงภาษานาโปลีเพลงหนึ่งที่มีชื่อเสียงที่สุด และได้ถูกนำมาร้องใหม่หลายครั้ง ฉบับหนึ่งที่มีชื่อเสียง คือฉบับที่ขับร้องโดยอันนา มัญญานี (1908 – 1973) นักแสดงชาวอิตาลีในภาพยนตร์โทรทัศน์ปี ค.ศ. 1970 เรื่อง La sciantosa เนื้อหาเกี่ยวกับนักร้องหญิงสูงวัยที่เข้าไปในค่ายทหารเพื่อขับร้องเพลงให้กำลังใจทหารบาดเจ็บจากการสู้รบ และร้องเพลงโอซูร์ดาโตนี้ด้วยความรู้สึกสะเทือนใจ , ฉบับที่ขับร้องโดยมัสซีโม รานีเอรี , อันเดรอา โบเชลลี, ลูชาโน ปาวารอตตี และเดอะคอรร์ส เพลงนี้ยังถูกนำไปใช้เป็นเพลงเชียร์กีฬาแบบไม่เป็นทางการของสโมสรฟุตบอลนาโปลี และถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ในชื่อเดียวกับชื่อเพลง คือ 'O surdato 'nnammurato ในปี ค.ศ. 1983
โอซูร์ดาโตนัมมูราโต เป็นเพลงที่แต่งโดยใคร
{ "answer": [ "เอนริโก แคนนิโอ" ], "answer_begin_position": [ 224 ], "answer_end_position": [ 239 ] }
1,181
332,173
โอซูร์ดาโตนัมมูราโต โอซูร์ดาโตนัมมูราโต (; ; แปลว่า "The Soldier in Love") บางครั้งเรียกสั้นๆ ว่า โอซูร์ดาโต () เป็นเพลงที่แต่งโดยเอนริโก แคนนิโอ (1874 - 1949) แต่งคำร้องภาษานาโปลีโดยอานีเอลโล กาลีฟาโน (1870 - 1919) ชาวเนเปิลส์ เมื่อ ค.ศ. 1915 เนื้อร้องบรรยายถึงความโศกเศร้าของทหารอิตาลีที่ต้องจากคนรัก ไปอยู่ท่ามกลางสนามรบ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เพลงนี้เป็นเพลงภาษานาโปลีเพลงหนึ่งที่มีชื่อเสียงที่สุด และได้ถูกนำมาร้องใหม่หลายครั้ง ฉบับหนึ่งที่มีชื่อเสียง คือฉบับที่ขับร้องโดยอันนา มัญญานี (1908 – 1973) นักแสดงชาวอิตาลีในภาพยนตร์โทรทัศน์ปี ค.ศ. 1970 เรื่อง La sciantosa เนื้อหาเกี่ยวกับนักร้องหญิงสูงวัยที่เข้าไปในค่ายทหารเพื่อขับร้องเพลงให้กำลังใจทหารบาดเจ็บจากการสู้รบ และร้องเพลงโอซูร์ดาโตนี้ด้วยความรู้สึกสะเทือนใจ , ฉบับที่ขับร้องโดยมัสซีโม รานีเอรี , อันเดรอา โบเชลลี, ลูชาโน ปาวารอตตี และเดอะคอรร์ส เพลงนี้ยังถูกนำไปใช้เป็นเพลงเชียร์กีฬาแบบไม่เป็นทางการของสโมสรฟุตบอลนาโปลี และถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ในชื่อเดียวกับชื่อเพลง คือ 'O surdato 'nnammurato ในปี ค.ศ. 1983
ฉากการขับร้องเพลงโอซูร์ดาโตด้วยความรู้สึกสะเทือนใจ เป็นฉากในหนังเรื่องใด
{ "answer": [ "La sciantosa" ], "answer_begin_position": [ 659 ], "answer_end_position": [ 671 ] }
1,182
81,098
2499 อันธพาลครองเมือง 2499 อันธพาลครองเมือง ภาพยนตร์ไทย ที่มีเนื้อหาเล่าย้อนถึงกรุงเทพมหานครยุคก่อนพุทธศักราช 2500 ที่เหล่านักเลงอันธพาลวัยรุ่นมีอิทธิพลและครองเมืองอย่างไม่หวั่นเกรงกฎหมาย กำกับโดย นนทรีย์ นิมิบุตร สร้างโดย บริษัท ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด เพลงประกอบภาพยนตร์ โดย วูล์ฟแพ็ค ออกฉายเมื่อวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2540เนื้อเรื่อง เนื้อเรื่อง. เรื่องราวทั้งหมดเล่าโดยผ่านความทรงจำของ เปี๊ยก วิสุทธิ์กษัตริย์ (สุริยัน ศักดิ์ไธสง-เสียงบรรยายโดย รุจน์ รณภพ) ก่อนปี พ.ศ. 2500 สมัยที่กรุงเทพ ฯ ยังถูกเรียกว่าพระนคร อิทธิพลของวัฒนธรรมตะวันตกเริ่มหลั่งไหลมายังกลุ่มวัยรุ่นเมืองไทย แดง (เจษฎาภรณ์ ผลดี) เป็นหัวโจกเด็กวัยรุ่น แดงเป็นลูกของ โฉม (ปาริชาต บริสุทธิ์) คนงานบ้านโสเภณีที่ตรอกไบเล่ย์ ข้างหัวลำโพง เขาจึงสร้างปมเด่นขึ้นมาด้วยการเป็นหัวหน้าแก๊งอันธพาลเพื่อกลบปมด้อยที่เป็นลูกโสเภณี แดงมีเพื่อนสนิทคือ ปุ๊ (ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ), ดำ (ชาติชาย งามสรรพ์), แหลม (นพชัย มัททวีวงศ์) และ เปี๊ยก (อรรถพร ธีมากร) แดงสร้างชื่อจากการสังหารเฮียหมา นักเลงท้องถิ่นในงานฉลองวันขึ้นปีใหม่ วันหนึ่งในงานเจมส์ ดีนรำลึก พวกแดงได้เจอกับนักร้องสาวคนหนึ่งชื่อ วัลลภา (แชมเปญ เอ็กซ์) วัลลภามีท่าทีสนใจแดงทั้งสองคนจึงได้รู้จักกัน ครั้งนึงปุ๊ไปมีเรื่องกับเด็กในแก๊งของเปี๊ยก ทำให้เปี๊ยกออกรับหน้าแทนจึงเกิดการทะเลาะวิวาทกันขึ้น ทำให้เปี้ยกต้องติดคุกและโดนไล่ออกจากโรงเรียนในภายหลัง เป็นชนวนเหตุให้แก๊งระเบิดขวดที่นำโดยปุ๊ และแก๊งไบเล่ย์ของแดงเกิดบาดหมางและก่อให้เกิดเรื่องราวความรุนแรงในเวลาต่อมา ทั้งคู่ยกพวกตีกันหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นที่ถนนสิบสามห้าง ย่านบางลำพู หรือในที่ใด ๆ ก็ตาม จนเมื่อเกิดการรัฐประหารโดยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ในปี พ.ศ. 2501 ความเด็ดขาดที่จะปราบปรามแก๊งวัยรุ่น ทำให้แดงและเปี๊ยกต้องหนีไปพึ่ง หมู่เชียร (อภิชาติ ชูสกุล) ลูกพี่เก่าที่อู่ตะเภา หมู่เชียรกำลังจะเปิดคาสิโนแห่งใหม่ที่นั่นเพื่อรองรับเหล่าทหารอเมริกันที่มารบในสงครามเวียดนาม จึงรับแดงและเปี๊ยกเข้ามาเป็นลูกน้อง ต่อมาไม่นานแหลมก็ตามมา รวมทั้งปุ๊และดำด้วย แดงไม่เห็นด้วยที่หมู่เชียรรับปุ๊และดำ ในที่สุดปุ๊และดำก็ทรยศ โดยไปเข้ากับผู้ใหญ่เต๊ก ผู้ทรงอิทธิพลคู่แข่งหมู่เชียร ในที่สุดหมู่เชียรก็ถูกยิงตาย แดงและพวกจึงตกอยู่ในสภาพเสียหัวเรือ ต่อมาได้ล้างแค้นให้หมู่เชียรโดยยิงกับพวกปุ๊และผู้ใหญ่เต๊กกลางตลาด ต่อมา แม่ของแดงขอให้แดงบวช แดงยอมบวช แต่ในงานบวช ปุ๊และดำก็มาป่วน แดงและพวกยิงกับปุ๊และดำกลางงาน หลายคนตาย แดงก็บาดเจ็บสาหัสหนัก ที่สุดเขาก็ไม่ได้บวช และไปเป็นลูกน้องเสี่ยจิว ผู้ทรงอิทธิพลที่ชลบุรี และท้ายที่สุดเขาก็รถคว่ำตาย ด้วยวัยเพียง 24 ปี แบบเดียวกับ เจมส์ ดีน วีรบุรุษที่เขารักปรากฏการณ์ภาพยนตร์ ปรากฏการณ์ภาพยนตร์. 2499 อันธพาลครองเมือง มีชื่อภาษาอังกฤษว่า "Dang Bireley's and Young Gangsters" หรือ "Dang Bireley's Story" สร้างมาจากบทประพันธ์เรื่อง "เส้นทางมาเฟีย" ของสุริยัน ศักดิ์ไธสง หรือ เปี๊ยก วิสุทธิกษัตริย์ ในเรื่อง เมื่อออกฉายได้รับความนิยมอย่างมาก เป็นที่พูดคุยวิพากษ์วิจารณ์จนเป็นกระแสในสังคมระยะหนึ่ง ถึงเรื่องราวความจริงกับสิ่งที่ปรากฏในภาพยนตร์ เช่น หลายคนบอกว่าแดงแท้ที่จริงไม่เคยฆ่าคนและชอบกินมิลค์เช็ค, เปี๊ยก วิสุทธิกษัตริย์ เป็นบุคคลที่ไม่มีใครรู้จัก เป็นต้น อีกทั้งยังเป็นการแจ้งเกิดของหลายคน ไม่ว่าจะเป็นผู้กำกับที่เพิ่งจะสร้างหนังเป็นเรื่องแรก และนักแสดงนำ ซึ่งในขณะนั้นทุกคนยังคงเป็นนักแสดงหน้าใหม่ทั้งหมด และเป็นการเปิดศักราชยุคใหม่ให้ภาพยนตร์ไทยอย่างแท้จริง เนื่องด้วยสามารถทำรายได้ถล่มทลายไม่แพ้ภาพยนตร์ต่างประเทศเป็นเรื่องแรกในวงการ อีกทั้งเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่สร้างได้มาตรฐานสากล เมื่อออกไปฉายในงานเทศกาลต่างประเทศ ก็ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากงานประกวดภาพยนตร์อิสระที่ประเทศเบลเยี่ยมด้วย
2499 อันธพาลครองเมือง ภาพยนตร์ที่เนื้อหาเล่าย้อนถึงสถานที่ใดก่อนยุคก่อนพุทธศักราช 2500
{ "answer": [ "กรุงเทพมหานคร" ], "answer_begin_position": [ 173 ], "answer_end_position": [ 186 ] }
1,183
81,098
2499 อันธพาลครองเมือง 2499 อันธพาลครองเมือง ภาพยนตร์ไทย ที่มีเนื้อหาเล่าย้อนถึงกรุงเทพมหานครยุคก่อนพุทธศักราช 2500 ที่เหล่านักเลงอันธพาลวัยรุ่นมีอิทธิพลและครองเมืองอย่างไม่หวั่นเกรงกฎหมาย กำกับโดย นนทรีย์ นิมิบุตร สร้างโดย บริษัท ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด เพลงประกอบภาพยนตร์ โดย วูล์ฟแพ็ค ออกฉายเมื่อวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2540เนื้อเรื่อง เนื้อเรื่อง. เรื่องราวทั้งหมดเล่าโดยผ่านความทรงจำของ เปี๊ยก วิสุทธิ์กษัตริย์ (สุริยัน ศักดิ์ไธสง-เสียงบรรยายโดย รุจน์ รณภพ) ก่อนปี พ.ศ. 2500 สมัยที่กรุงเทพ ฯ ยังถูกเรียกว่าพระนคร อิทธิพลของวัฒนธรรมตะวันตกเริ่มหลั่งไหลมายังกลุ่มวัยรุ่นเมืองไทย แดง (เจษฎาภรณ์ ผลดี) เป็นหัวโจกเด็กวัยรุ่น แดงเป็นลูกของ โฉม (ปาริชาต บริสุทธิ์) คนงานบ้านโสเภณีที่ตรอกไบเล่ย์ ข้างหัวลำโพง เขาจึงสร้างปมเด่นขึ้นมาด้วยการเป็นหัวหน้าแก๊งอันธพาลเพื่อกลบปมด้อยที่เป็นลูกโสเภณี แดงมีเพื่อนสนิทคือ ปุ๊ (ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ), ดำ (ชาติชาย งามสรรพ์), แหลม (นพชัย มัททวีวงศ์) และ เปี๊ยก (อรรถพร ธีมากร) แดงสร้างชื่อจากการสังหารเฮียหมา นักเลงท้องถิ่นในงานฉลองวันขึ้นปีใหม่ วันหนึ่งในงานเจมส์ ดีนรำลึก พวกแดงได้เจอกับนักร้องสาวคนหนึ่งชื่อ วัลลภา (แชมเปญ เอ็กซ์) วัลลภามีท่าทีสนใจแดงทั้งสองคนจึงได้รู้จักกัน ครั้งนึงปุ๊ไปมีเรื่องกับเด็กในแก๊งของเปี๊ยก ทำให้เปี๊ยกออกรับหน้าแทนจึงเกิดการทะเลาะวิวาทกันขึ้น ทำให้เปี้ยกต้องติดคุกและโดนไล่ออกจากโรงเรียนในภายหลัง เป็นชนวนเหตุให้แก๊งระเบิดขวดที่นำโดยปุ๊ และแก๊งไบเล่ย์ของแดงเกิดบาดหมางและก่อให้เกิดเรื่องราวความรุนแรงในเวลาต่อมา ทั้งคู่ยกพวกตีกันหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นที่ถนนสิบสามห้าง ย่านบางลำพู หรือในที่ใด ๆ ก็ตาม จนเมื่อเกิดการรัฐประหารโดยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ในปี พ.ศ. 2501 ความเด็ดขาดที่จะปราบปรามแก๊งวัยรุ่น ทำให้แดงและเปี๊ยกต้องหนีไปพึ่ง หมู่เชียร (อภิชาติ ชูสกุล) ลูกพี่เก่าที่อู่ตะเภา หมู่เชียรกำลังจะเปิดคาสิโนแห่งใหม่ที่นั่นเพื่อรองรับเหล่าทหารอเมริกันที่มารบในสงครามเวียดนาม จึงรับแดงและเปี๊ยกเข้ามาเป็นลูกน้อง ต่อมาไม่นานแหลมก็ตามมา รวมทั้งปุ๊และดำด้วย แดงไม่เห็นด้วยที่หมู่เชียรรับปุ๊และดำ ในที่สุดปุ๊และดำก็ทรยศ โดยไปเข้ากับผู้ใหญ่เต๊ก ผู้ทรงอิทธิพลคู่แข่งหมู่เชียร ในที่สุดหมู่เชียรก็ถูกยิงตาย แดงและพวกจึงตกอยู่ในสภาพเสียหัวเรือ ต่อมาได้ล้างแค้นให้หมู่เชียรโดยยิงกับพวกปุ๊และผู้ใหญ่เต๊กกลางตลาด ต่อมา แม่ของแดงขอให้แดงบวช แดงยอมบวช แต่ในงานบวช ปุ๊และดำก็มาป่วน แดงและพวกยิงกับปุ๊และดำกลางงาน หลายคนตาย แดงก็บาดเจ็บสาหัสหนัก ที่สุดเขาก็ไม่ได้บวช และไปเป็นลูกน้องเสี่ยจิว ผู้ทรงอิทธิพลที่ชลบุรี และท้ายที่สุดเขาก็รถคว่ำตาย ด้วยวัยเพียง 24 ปี แบบเดียวกับ เจมส์ ดีน วีรบุรุษที่เขารักปรากฏการณ์ภาพยนตร์ ปรากฏการณ์ภาพยนตร์. 2499 อันธพาลครองเมือง มีชื่อภาษาอังกฤษว่า "Dang Bireley's and Young Gangsters" หรือ "Dang Bireley's Story" สร้างมาจากบทประพันธ์เรื่อง "เส้นทางมาเฟีย" ของสุริยัน ศักดิ์ไธสง หรือ เปี๊ยก วิสุทธิกษัตริย์ ในเรื่อง เมื่อออกฉายได้รับความนิยมอย่างมาก เป็นที่พูดคุยวิพากษ์วิจารณ์จนเป็นกระแสในสังคมระยะหนึ่ง ถึงเรื่องราวความจริงกับสิ่งที่ปรากฏในภาพยนตร์ เช่น หลายคนบอกว่าแดงแท้ที่จริงไม่เคยฆ่าคนและชอบกินมิลค์เช็ค, เปี๊ยก วิสุทธิกษัตริย์ เป็นบุคคลที่ไม่มีใครรู้จัก เป็นต้น อีกทั้งยังเป็นการแจ้งเกิดของหลายคน ไม่ว่าจะเป็นผู้กำกับที่เพิ่งจะสร้างหนังเป็นเรื่องแรก และนักแสดงนำ ซึ่งในขณะนั้นทุกคนยังคงเป็นนักแสดงหน้าใหม่ทั้งหมด และเป็นการเปิดศักราชยุคใหม่ให้ภาพยนตร์ไทยอย่างแท้จริง เนื่องด้วยสามารถทำรายได้ถล่มทลายไม่แพ้ภาพยนตร์ต่างประเทศเป็นเรื่องแรกในวงการ อีกทั้งเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่สร้างได้มาตรฐานสากล เมื่อออกไปฉายในงานเทศกาลต่างประเทศ ก็ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากงานประกวดภาพยนตร์อิสระที่ประเทศเบลเยี่ยมด้วย
ภาพยนตร์ 2499 อัธพาลครองเมือง ได้ออกฉายในต่างประเทศ ทำให้ได้รับรางวัลภาพยนตร์อิสระของประเทศอะไร
{ "answer": [ "ประเทศเบลเยี่ยม" ], "answer_begin_position": [ 3369 ], "answer_end_position": [ 3384 ] }
1,184
41,424
ดิมอยน์ ดิมอยน์ (Des Moines; IPA: [dɪˈmɔɪn]) เป็นเมืองหลวงของรัฐไอโอวา ก่อตั้งเมื่อ 22 กันยายน พ.ศ. 2394 ในชื่อ ฟอร์ตดิมอยน์ (Fort Des Moines) และเปลี่ยนชื่อมาเป็น ดิมอยน์ ในปี พ.ศ. 2400 ดิมอยน์ตั้งอยู่ในเคาน์ตีโพล์ก สถิติปี พ.ศ. 2543 ดิมอยน์ มีประชากร 198,682 คน ประวัติของเมืองดิมอยม์นับย้อนไปปี พ.ศ. 2377 ที่จอห์น ดูเฮอร์ที แนะนำให้มีการตั้งค่ายทหานในบริเวณดิมอยน์ในปัจจุบัน ดิมอยน์ตั้งอยู่บนแม่น้ำดิมอยน์ และเป็นหนึ่งในสี่เมืองของเขตเมืองติดกันของ ดิมอยน์ เวสต์ดิมอยน์ ไคลฟ์ และ เออร์บันเดล
ดิมอยน์ เป็นเมืองหลวงของรัฐใด
{ "answer": [ "รัฐไอโอวา" ], "answer_begin_position": [ 141 ], "answer_end_position": [ 150 ] }
1,185
41,424
ดิมอยน์ ดิมอยน์ (Des Moines; IPA: [dɪˈmɔɪn]) เป็นเมืองหลวงของรัฐไอโอวา ก่อตั้งเมื่อ 22 กันยายน พ.ศ. 2394 ในชื่อ ฟอร์ตดิมอยน์ (Fort Des Moines) และเปลี่ยนชื่อมาเป็น ดิมอยน์ ในปี พ.ศ. 2400 ดิมอยน์ตั้งอยู่ในเคาน์ตีโพล์ก สถิติปี พ.ศ. 2543 ดิมอยน์ มีประชากร 198,682 คน ประวัติของเมืองดิมอยม์นับย้อนไปปี พ.ศ. 2377 ที่จอห์น ดูเฮอร์ที แนะนำให้มีการตั้งค่ายทหานในบริเวณดิมอยน์ในปัจจุบัน ดิมอยน์ตั้งอยู่บนแม่น้ำดิมอยน์ และเป็นหนึ่งในสี่เมืองของเขตเมืองติดกันของ ดิมอยน์ เวสต์ดิมอยน์ ไคลฟ์ และ เออร์บันเดล
ดิมอยน์ เมืองหลวงของรัฐไอโอวา มีชื่อเดิมว่าอะไร
{ "answer": [ "ฟอร์ตดิมอยน์" ], "answer_begin_position": [ 192 ], "answer_end_position": [ 204 ] }
1,186
625,576
แอซิเตต แอซิเตด () เป็นไอออนลบ ตรงแบบพบในสารละลายน้ำ (aqueous solution) มักเขียนด้วยสูตรเคมี CHO โมเลกุลที่เป็นกลางทางไฟฟ้าอันเกิดจากการรวมแอซิเตดไอออนกับไอออนบวกโดยทั่วไปเรียก "แอซิเตดส์" (acetates) สารอย่างง่ายที่สุดในกลุ่มนี้ คือ ไฮโดรเจนแอซิเตด หรือกรดแอซิติก กับเกลือ เอสเทอร์ที่สอดคล้อง และไอออนบวกหลายอะตอม CHCO หรือ CHCOO กรดแอซิติกที่ผลิตในอุตสาหกรรม 5 พันล้านกิโลกรัมส่วนใหญ่ใช้ในการผลิตแอซิเตด ซึ่งมักอยู่ในรูปพอลิเมอร์ แอซิเตดเป็นหน่วยชีวสังเคราะห์ที่พบมากที่สุดในธรรมชาติ ตัวอย่างเช่น กรดไขมันเกิดจากการเชื่อมสองอะตอมคาร์บอนจากแอซิเตดเข้ากับกรดไขมันที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
แอชิแตด เป็นไอออนอะไร
{ "answer": [ "ไอออนลบ" ], "answer_begin_position": [ 105 ], "answer_end_position": [ 112 ] }
1,187
625,576
แอซิเตต แอซิเตด () เป็นไอออนลบ ตรงแบบพบในสารละลายน้ำ (aqueous solution) มักเขียนด้วยสูตรเคมี CHO โมเลกุลที่เป็นกลางทางไฟฟ้าอันเกิดจากการรวมแอซิเตดไอออนกับไอออนบวกโดยทั่วไปเรียก "แอซิเตดส์" (acetates) สารอย่างง่ายที่สุดในกลุ่มนี้ คือ ไฮโดรเจนแอซิเตด หรือกรดแอซิติก กับเกลือ เอสเทอร์ที่สอดคล้อง และไอออนบวกหลายอะตอม CHCO หรือ CHCOO กรดแอซิติกที่ผลิตในอุตสาหกรรม 5 พันล้านกิโลกรัมส่วนใหญ่ใช้ในการผลิตแอซิเตด ซึ่งมักอยู่ในรูปพอลิเมอร์ แอซิเตดเป็นหน่วยชีวสังเคราะห์ที่พบมากที่สุดในธรรมชาติ ตัวอย่างเช่น กรดไขมันเกิดจากการเชื่อมสองอะตอมคาร์บอนจากแอซิเตดเข้ากับกรดไขมันที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
แอซิแตดมีสูตรทางเคมีว่าอะไรที่เป็นกลางทางกระแสไฟฟ้า
{ "answer": [ "CHO" ], "answer_begin_position": [ 175 ], "answer_end_position": [ 178 ] }
1,188
341,942
สาคู (อาหาร)สาคู สาคู. เป็นชื่ออาหารไทย และเป็นอาหารว่างชนิดหนึ่ง ทำมาจากแป้งของต้นสาคู (ปาล์ม) หรืออาจทำมาจาก มันสำปะหลัง เป็นแป้งเม็ดเล็ก นำมานวดกับน้ำร้อนให้ดิบ ๆ สุก ๆ ปั้นเป็นก้อน มีเนื้อหมูสับเป็นต้น แล้วนำมาผัดกับเครื่องปรุงทำเป็นไส้แล้วนำไปนึ่ง เวลารับประทาน ใช้กระเทียมเจียวโรยหน้า กับ ผักชี และ พริก(ขี้หนู) เป็นเม็ดส่วนประกอบเครื่องปรุง
สาคู เป็นอาหารของประเทศอะไร
{ "answer": [ "ไทย" ], "answer_begin_position": [ 123 ], "answer_end_position": [ 126 ] }
1,189
341,942
สาคู (อาหาร)สาคู สาคู. เป็นชื่ออาหารไทย และเป็นอาหารว่างชนิดหนึ่ง ทำมาจากแป้งของต้นสาคู (ปาล์ม) หรืออาจทำมาจาก มันสำปะหลัง เป็นแป้งเม็ดเล็ก นำมานวดกับน้ำร้อนให้ดิบ ๆ สุก ๆ ปั้นเป็นก้อน มีเนื้อหมูสับเป็นต้น แล้วนำมาผัดกับเครื่องปรุงทำเป็นไส้แล้วนำไปนึ่ง เวลารับประทาน ใช้กระเทียมเจียวโรยหน้า กับ ผักชี และ พริก(ขี้หนู) เป็นเม็ดส่วนประกอบเครื่องปรุง
ในส่วนผสมของสาคูมีเนื้อของสัตว์อะไรผสมอยู่
{ "answer": [ "หมูสับ" ], "answer_begin_position": [ 279 ], "answer_end_position": [ 285 ] }
1,190
305,004
จังหวัดมาแยน มาแยน (, ฟังเสียง) เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ในแคว้นเปอีเดอลาลัวร์ในประเทศฝรั่งเศส จังหวัดมาแยนตั้งตามชื่อแม่น้ำมาแยน ตัวจังหวัดตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ โดยมีลาวาลเป็นเมืองหลวง มาแยนเป็นหนึ่งใน 83 จังหวัดที่ก่อตั้งขึ้นระหว่างการปฏิวัติฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 4 มีนาคม ค.ศ. 1790 จากบางส่วนของอดีตจังหวัดแมน
จังหวัดมาแยนตั้งอยู่ในประเทศอะไร
{ "answer": [ "ฝรั่งเศส" ], "answer_begin_position": [ 170 ], "answer_end_position": [ 178 ] }
1,191
305,004
จังหวัดมาแยน มาแยน (, ฟังเสียง) เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ในแคว้นเปอีเดอลาลัวร์ในประเทศฝรั่งเศส จังหวัดมาแยนตั้งตามชื่อแม่น้ำมาแยน ตัวจังหวัดตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ โดยมีลาวาลเป็นเมืองหลวง มาแยนเป็นหนึ่งใน 83 จังหวัดที่ก่อตั้งขึ้นระหว่างการปฏิวัติฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 4 มีนาคม ค.ศ. 1790 จากบางส่วนของอดีตจังหวัดแมน
จังหวัดมาแยนเป็นหนึ่งในกี่จังหวัดที่ตั้งขึ้นระหว่างการปฏิวัติฝรั่งเศส
{ "answer": [ "83" ], "answer_begin_position": [ 303 ], "answer_end_position": [ 305 ] }
1,192
348,705
ปีเตอร์ เคราช์ ปีเตอร์ เคราช์ (; เกิดเมื่อวันที่ 30 มกราคม 1981) นักฟุตบอลอาชีพชาวอังกฤษ ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งกองหน้า ในพรีเมียร์ลีก ให้กับสโตกซิตี และทีมชาติอังกฤษ เคราช์มีชื่อจริงว่า ปีเตอร์ เจมส์ เคราช์ (Peter James Crouch) เริ่มอาชีพของตนเอง ด้วยการฝึกหัดกับทอตแนมฮ็อตสเปอร์ อย่างไรก็ดีเคราช์ผิดหวังกับการเล่นให้กับสโมสรครั้งแรก โดยได้ออกจากสโมสรไปในปี ค.ศ. 2000 แต่หลังจากได้ก็ได้เล่นกับสโมสรอื่นในพรีเมียร์ลีก 4 สโมสร คือ พอร์ทสมัธ, แอสตันวิลลา, เซาแทมป์ตัน และลิเวอร์พูล ก่อนที่จะมาลงเล่นในทีมชุดใหญ่ครั้งแรกให้กับทอตแนมฮ็อตสเปอร์ ในปี ค.ศ. 2009 เคราช์เป็นผู้ทำประตูสูงสุดอันดับ 2 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2006-07 ตามหลังกาก้า จากเอซีมิลาน ในเซเรียอา เคราช์เป็นนักฟุตบอลที่มีรูปร่างสูงโย่ง ด้วยส่วนสูงถึง 201 เซนติเมตร จึงถนัดในการเล่นลูกกลางอากาศ และได้รับการบันทึกไว้ในกินเนสส์บุ๊คว่าเป็นผู้เล่นที่โหม่งทำประตูได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก
ปีเตอร์ เคราช์ เป็นนักฟุตบอลชาวอังกฤษเล่นในตำแหน่งอะไรในพรีเมียร์ลีก
{ "answer": [ "กองหน้า" ], "answer_begin_position": [ 199 ], "answer_end_position": [ 206 ] }
1,193
348,705
ปีเตอร์ เคราช์ ปีเตอร์ เคราช์ (; เกิดเมื่อวันที่ 30 มกราคม 1981) นักฟุตบอลอาชีพชาวอังกฤษ ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งกองหน้า ในพรีเมียร์ลีก ให้กับสโตกซิตี และทีมชาติอังกฤษ เคราช์มีชื่อจริงว่า ปีเตอร์ เจมส์ เคราช์ (Peter James Crouch) เริ่มอาชีพของตนเอง ด้วยการฝึกหัดกับทอตแนมฮ็อตสเปอร์ อย่างไรก็ดีเคราช์ผิดหวังกับการเล่นให้กับสโมสรครั้งแรก โดยได้ออกจากสโมสรไปในปี ค.ศ. 2000 แต่หลังจากได้ก็ได้เล่นกับสโมสรอื่นในพรีเมียร์ลีก 4 สโมสร คือ พอร์ทสมัธ, แอสตันวิลลา, เซาแทมป์ตัน และลิเวอร์พูล ก่อนที่จะมาลงเล่นในทีมชุดใหญ่ครั้งแรกให้กับทอตแนมฮ็อตสเปอร์ ในปี ค.ศ. 2009 เคราช์เป็นผู้ทำประตูสูงสุดอันดับ 2 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2006-07 ตามหลังกาก้า จากเอซีมิลาน ในเซเรียอา เคราช์เป็นนักฟุตบอลที่มีรูปร่างสูงโย่ง ด้วยส่วนสูงถึง 201 เซนติเมตร จึงถนัดในการเล่นลูกกลางอากาศ และได้รับการบันทึกไว้ในกินเนสส์บุ๊คว่าเป็นผู้เล่นที่โหม่งทำประตูได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก
ปีเตอร์ เคราชเป็นผู้ทำประตูสูงสุดอันดับ 2 รองจากใครในยูฟ่าแชมเปียนลีก ฤดูกาล 2006 ถึง 2007
{ "answer": [ "กาก้า จากเอซีมิลาน" ], "answer_begin_position": [ 720 ], "answer_end_position": [ 738 ] }
1,194
138,071
สายพิคคาดิลลี่ สายพิคคาดิลลี่ ในรถไฟใต้ดินลอนดอน สีประจำเส้นทางคือสีน้ำเงิน มีผู้โดยสารมากเป็นอันดับที่ 4 ในระบบ คือ 210,000,000 คนต่อปี วิ่งทิศเหนือไปตะวันตก มีจำนวน 53 สถานี โดยมี 25 สถานีอยู่ใต้ดิน ยาวเป็นอันดับที่ 2 ในระบบรองจาก สายเซ็นทรัล มีจำนวนสถานีมากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 รองจาก สายดิสทริกต์ โดยสายนี้สามารถเชื่อมต่อกับท่าอากาศยานลอนดอนฮีทโธรว์ได้แผนที่
สายพิคคาดิลลี่มีสีประจำเส้นทางคือสีอะไร
{ "answer": [ "สีน้ำเงิน" ], "answer_begin_position": [ 155 ], "answer_end_position": [ 164 ] }
1,195
138,071
สายพิคคาดิลลี่ สายพิคคาดิลลี่ ในรถไฟใต้ดินลอนดอน สีประจำเส้นทางคือสีน้ำเงิน มีผู้โดยสารมากเป็นอันดับที่ 4 ในระบบ คือ 210,000,000 คนต่อปี วิ่งทิศเหนือไปตะวันตก มีจำนวน 53 สถานี โดยมี 25 สถานีอยู่ใต้ดิน ยาวเป็นอันดับที่ 2 ในระบบรองจาก สายเซ็นทรัล มีจำนวนสถานีมากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 รองจาก สายดิสทริกต์ โดยสายนี้สามารถเชื่อมต่อกับท่าอากาศยานลอนดอนฮีทโธรว์ได้แผนที่
สายรถไฟใต้ดินสายใดที่มีจำนวนสถานีมากที่สุดในลอนดอน
{ "answer": [ "สายดิสทริกต์" ], "answer_begin_position": [ 378 ], "answer_end_position": [ 390 ] }
1,196
554,266
เจริญจิตต์ ณ สงขลา นายเจริญจิตต์ ณ สงขลา เป็นอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลนายอานันท์ ปันยารชุน (ครม.47, 49) และเป็นอดีตปลัดกระทรวงมหาดไทยประวัติ ประวัติ. เจริญจิตต์ ณ สงขลา เกิดเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2473 สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย จบปริญญาตรีรัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 27 เจริญจิตต์ ณ สงขลา ได้รับปริญญารัฐประศาสนศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตตมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์การทำงาน การทำงาน. เจริญจิตต์ ณ สงขลา เริ่มรับราชการในตำแหน่งปลัดอำเภอตรี อำเภอเมืองสงขลา เป็นนายอำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ จังหวัดสงขลา เป็นผู้อำนวยการ ศอ.บต. (คนแรก) เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย และเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย ในปี พ.ศ. 2534 เจริญจิตต์ ณ สงขลา ได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการนโยบายแห่งชาติ ซึ่งแต่งตั้งขึ้นภายหลังการรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2534 โดยคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ และต่อมาได้รับการคัดเลือกเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติในปีพุทธศักราช 2534-2535 ได้รับการคัดเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาในปีพุทธศักราช 2535-2539 ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการศูนย์ดำเนินการวิจัยผู้อพยพ กระทรวงมหาดไทย ผู้ช่วยผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในแห่งราชอาณาจักร ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนภาคใต้ ในปีพุทธศักราช 2531 นอกจากนั้นยังเป็นอาจารย์บรรยายหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรและบรรยายวิชาปัญหาความขัดแย้งในจังหวัดชายแดนภาคใต้แก่นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงและมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ต่อมาเขาได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลนายอานันท์ ปันยารชุน (ครม.47, 49)เครื่องราชอิสริยาภรณ์เครื่องราชอิสริยาภรณ์. - พ.ศ. 2530 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้น มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก - พ.ศ. 2526 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้น มหาวชิรมงกุฏ
เจริญจิตต์ ณ สงขลาสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมจากโรงเรียนอะไร
{ "answer": [ "โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย" ], "answer_begin_position": [ 346 ], "answer_end_position": [ 378 ] }
3,888
554,266
เจริญจิตต์ ณ สงขลา นายเจริญจิตต์ ณ สงขลา เป็นอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลนายอานันท์ ปันยารชุน (ครม.47, 49) และเป็นอดีตปลัดกระทรวงมหาดไทยประวัติ ประวัติ. เจริญจิตต์ ณ สงขลา เกิดเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2473 สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย จบปริญญาตรีรัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 27 เจริญจิตต์ ณ สงขลา ได้รับปริญญารัฐประศาสนศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตตมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์การทำงาน การทำงาน. เจริญจิตต์ ณ สงขลา เริ่มรับราชการในตำแหน่งปลัดอำเภอตรี อำเภอเมืองสงขลา เป็นนายอำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ จังหวัดสงขลา เป็นผู้อำนวยการ ศอ.บต. (คนแรก) เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย และเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย ในปี พ.ศ. 2534 เจริญจิตต์ ณ สงขลา ได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการนโยบายแห่งชาติ ซึ่งแต่งตั้งขึ้นภายหลังการรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2534 โดยคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ และต่อมาได้รับการคัดเลือกเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติในปีพุทธศักราช 2534-2535 ได้รับการคัดเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาในปีพุทธศักราช 2535-2539 ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการศูนย์ดำเนินการวิจัยผู้อพยพ กระทรวงมหาดไทย ผู้ช่วยผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในแห่งราชอาณาจักร ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนภาคใต้ ในปีพุทธศักราช 2531 นอกจากนั้นยังเป็นอาจารย์บรรยายหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรและบรรยายวิชาปัญหาความขัดแย้งในจังหวัดชายแดนภาคใต้แก่นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงและมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ต่อมาเขาได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลนายอานันท์ ปันยารชุน (ครม.47, 49)เครื่องราชอิสริยาภรณ์เครื่องราชอิสริยาภรณ์. - พ.ศ. 2530 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้น มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก - พ.ศ. 2526 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้น มหาวชิรมงกุฏ
นายเจริญจิตต์ ณ สงขลา เกิดเมื่อวันที่เท่าไร
{ "answer": [ "8" ], "answer_begin_position": [ 298 ], "answer_end_position": [ 299 ] }
1,197
437,962
วงศ์นกคุ่มอืด วงศ์นกคุ่มอืด หรือ วงศ์นกคุ่ม (วงศ์: Turnicidae) เป็นวงศ์นกในอันดับนกนางนวล (Charadriiformes) ใช้ชื่อวงศ์ว่า Turnicidae จัดเป็นนกขนาดย่อม มีลักษณะคล้ายกับนกกระทาที่อยู่ในวงศ์ Phasianidae หรือวงศ์ไก่ แต่ทว่าแตกต่างกันที่ นกคุ่มอืดนั้นจะมีนิ้วเท้า 3 นิ้ว และไม่มีเดือยที่ข้อเท้า มีลักษณะโดยรวม คือ มีขนาดย่อม ปีกมีขนาดเล็ก ไม่สามารถบินได้ นอกจากในระยะใกล้ ๆ เช่น บินขึ้นไปบนต้นไม้ จึงหากินบนพื้นดินเช่นเดียวกันเป็นหลัก สีขนตามลำตัวมีลายประสีต่าง ๆ เพื่อแฝงตัวเข้ากับสภาพแวดล้อม ตัวเมียมีขนาดตัวใหญ่กว่าตัวผู้ มีสีสดใสกว่า และเป็นฝ่ายเกี้ยวพาราสี ขณะที่ตัวผู้จะทำหน้าที่กกไข่และเลี้ยงดูลูก ไข่ใช้เวลาฟักประมาณ 12-13 วัน ลูกอ่อนใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ จึงสามารถอกนอกรังได้ มี 16 ชนิดทั่วโลก พบกระจายพันธุ์ทั้งในทวีปเอเชีย, แอฟริกา และออสเตรเลีย แบ่งออกเป็น 2 สกุล (ดูในตาราง) สำหรับในประเทศไทยพบ 3 ชนิด คือ นกคุ่มอืดเล็ก (Turnix sylvatica), นกคุ่มอืดใหญ่ (T. tanki) และนกคุ่มอกลาย (T. suscitator)
วงศ์นกคุ่มอืด เป็นวงศ์นกในอันดับของนกอะไร
{ "answer": [ "นกนางนวล" ], "answer_begin_position": [ 169 ], "answer_end_position": [ 177 ] }
1,198
437,962
วงศ์นกคุ่มอืด วงศ์นกคุ่มอืด หรือ วงศ์นกคุ่ม (วงศ์: Turnicidae) เป็นวงศ์นกในอันดับนกนางนวล (Charadriiformes) ใช้ชื่อวงศ์ว่า Turnicidae จัดเป็นนกขนาดย่อม มีลักษณะคล้ายกับนกกระทาที่อยู่ในวงศ์ Phasianidae หรือวงศ์ไก่ แต่ทว่าแตกต่างกันที่ นกคุ่มอืดนั้นจะมีนิ้วเท้า 3 นิ้ว และไม่มีเดือยที่ข้อเท้า มีลักษณะโดยรวม คือ มีขนาดย่อม ปีกมีขนาดเล็ก ไม่สามารถบินได้ นอกจากในระยะใกล้ ๆ เช่น บินขึ้นไปบนต้นไม้ จึงหากินบนพื้นดินเช่นเดียวกันเป็นหลัก สีขนตามลำตัวมีลายประสีต่าง ๆ เพื่อแฝงตัวเข้ากับสภาพแวดล้อม ตัวเมียมีขนาดตัวใหญ่กว่าตัวผู้ มีสีสดใสกว่า และเป็นฝ่ายเกี้ยวพาราสี ขณะที่ตัวผู้จะทำหน้าที่กกไข่และเลี้ยงดูลูก ไข่ใช้เวลาฟักประมาณ 12-13 วัน ลูกอ่อนใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ จึงสามารถอกนอกรังได้ มี 16 ชนิดทั่วโลก พบกระจายพันธุ์ทั้งในทวีปเอเชีย, แอฟริกา และออสเตรเลีย แบ่งออกเป็น 2 สกุล (ดูในตาราง) สำหรับในประเทศไทยพบ 3 ชนิด คือ นกคุ่มอืดเล็ก (Turnix sylvatica), นกคุ่มอืดใหญ่ (T. tanki) และนกคุ่มอกลาย (T. suscitator)
หน้าที่เกี้ยวพาราสีของวงศ์นกคุ่มอืดเป็นของเพศไหน
{ "answer": [ "ตัวเมีย" ], "answer_begin_position": [ 578 ], "answer_end_position": [ 585 ] }
1,199
160,186
อุมิเนะโกะโนะนะกุโคะโระนิ อุมิเนะโกะโนะนะกุโคะโระนิ () เป็นเกมนิยายภาพโดจินชิแนวสืบสวนสยองขวัญที่ผลิตโดย 07th expansion เกมนี้บทแรกได้วางขายครั้งแรกในงาน Comiket 72 ในวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2550 โดยใช้เล่นในคอมพิวเตอร์ และเป็นผลงานชิ้นที่สองจากยามเมื่อเหล่าจักจั่นกรีดร้องเนื้อเรื่องย่อ เนื้อเรื่องย่อ. เหตุการณ์ใน Umineko no Naku Koro ni เกิดขึ้นในระหว่างวันที่ 4 และ 5 ตุลาคม 1986 บนเกาะที่ชื่อว่า"รคเค็นจิมะ" เมื่อหัวหน้าตระกูลอุชิโรมิยะที่มั่งคั่งและเป็นเจ้าของเกาะได้ล้มป่วยลง หมอบอกว่าจะอยู่ได้ไม่ถึง 3 เดือน ทำให้บรรดาลูกหลานทั้งหมด 11 ชีวิต ได้นัดหมายมาประชุมบนเกาะรคเค็นจิมะเพื่ออภิปรายเกี่ยวกับการแบ่งมรดกเมื่อหัวหน้าตระกูลตายลง เมื่อบรรดาลูกหลานมาถึงเกาะรคเค็นจิมะในวันที่ 4 ตุลาคม พายุไต้ฝุ่นได้เริ่มก่อตัวขึ้น ในตอนนั้นเองก็มีจดหมายลึกลับจากผู้ที่อ้างว่าเป็น"แม่มดเบอาตรีเช"แห่งตำนานของเกาะรคเค็นจิมะ ในจดหมายกล่าวว่าจะเก็บ”ดอกเบี้ย”ของเงินที่หัวหน้าตระกูลเคยยืม โดยจะยกเลิกการเก็บดอกเบี้ยเมื่อมีใครคนใดคนหนึ่งสามารถแก้ปริศนาที่ซ่อนทองคำ 10 ตันของหัวหน้าตระกูลได้ ทำให้บรรดาลูกหลานและคนรับใช้บนเกาะรวม 18 ชีวิตสนใจเป็นอย่างมาก แต่เมื่อคืนวันที่ 4 ตุลาคมผ่านพ้นไป... ในวันที่ 5 ตุลาคมช่วงเช้า พายุไต้ฝุ่นยังคงเข้าถล่มเกาะรคเค็นจิมะ แต่แล้วบรรดาคนบนเกาะต่างก็ต้องช็อคกับการฆาตกรรมอันน่าขนลุกขนพอง เมื่อมีเหยื่อเสียชีวิตถึง 6 ศพภายในคืนเดียว การฆาตกรรมที่แสดงถึงความโหดร้ายทารุณ เรือ , โทรศัพท์ หรือแม้กระทั่งสัญญาณวิทยุถูกตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง คนบนเกาะไม่สามารถออกจากเกาะรคเค็นจิมะได้ และในขณะเดียวกันฆาตกรที่อ้างว่าเป็นแม่มดก็ไม่สามารถหนีจากเกาะได้เช่นกัน พูดง่ายๆก็คือ มันเป็นการฆาตกรรมต่อเนื่องระทึกขวัญบนเกาะปิดตายนั่นเอง ใครจะเป็นรายต่อไป การสืบสวนเพื่อ”ตามหา”ฆาตกร แต่ในขณะเดียวกันก็ต้อง”เอาชีวิตรอด”จากฆาตกร การฆ่าคน 6 คนพร้อมกันอย่างโหดเหี้ยม การฆาตกรรมในห้องปิดตาย การทำให้เหยื่อออกจากห้องโดยไม่ทิ้งร่องรอย การฆาตกรรมที่มีแต่แม่มดเท่านั้นที่ทำได้ การเล่นสงครามจิตวิทยาและการดิ้นรนเอาชีวิตรอด ใครคือฆาตกร แม่มด? หรือมนุษย์? ทั้งหมดคือส่วนที่น่าตื่นเต้นของเรื่อง แบทเลอร์กล่าวว่า "ชั้นจะพิสูจน์ให้ดูเองว่ามันเป็นฝีมือของมนุษย์!!!"บทต่างๆบทต่างๆ. - บทที่ 1 Legend of the Golden Witch บทนี้เป็นบทเปิดม่านเรื่องราวของ Umineko no Naku Koro ni โดยเนื้อหาจะมองผ่านมุมมองของแบทเลอร์- บทที่ 2 Turn of the Golden Witch เป็นบทที่มองผ่านมุมมองของเมดสาวชาน่อน เหตุการณ์ที่เกิดต่างจากบทแรก, ทั้งความรักของจอร์จกับชาน่อน ความรักของเจสซิก้ากับคาน่อน- บทที่ 3 Banquet of the Golden Witch เป็นที่อยู่ในมุมมองของ เอวา เบอาตรีเช่ แม่มดคนใหม่ที่มาแทน เบอาตรีเช่ เหตุการ์ที่แตกต่างจากบทแรก ทั้งอดีตของเอวา และเด็กสาวลึกลับที่มีนามว่า แองเจ- บทที่ 4 Alliance of the Golden Witch ต่อจาก บทที่ 3 อยู่ใหนมุมมองของ แองเจ เบอาตรีเช่ ซึ่งเป็นการย้อนอดีตกลับมาที่เหตุการณ์ฆาตกรรมในรคเค็นจิมะ,- บทที่ 5 End of Golden Witch- บทที่ 6 Dawn of Golden Witch- บทที่ 7 Requiem of the Golden Witch เป็นบทที่มองผ่านมุมมองของวิลลาร์ด เอช ไรท์ เจ้าหน้าที่จากหน่วย SSVD ที่สืบคดีเกี่ยวกับเกาะรคเค็นจิมะโดยมีอุชิโรมิยะ ลีออน ที่เป็นลูกของนัตสึฮิ เป็นผู้ช่วยตามคำท้าทายของเบิร์นคาสเทล ที่ว่า 'ใครเป็นคนฆ่าเบอาทรีเช่' ทั้งเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างลีออน,แคลร์และเบอาทริเช่ กฎของ SS Van Dine ทั้ง 20 ข้อ อดีตของคินโซ และยาสุ- บทที่ 8 Twilight of the Golden Witch บทสรุปส่งท้ายเกมแห่งเสียงร่ำไห้ของนางนวล ในบทนี้เป็นมุมมองของอุชิโรมิยะ แองเจ น้องสาวของแบทเลอร์ ที่พยายามตามหาความจริงบนเกาะรคเค็นจิมะเมื่อ 12 ปีก่อน และได้แบทเลอร์เป็นคนเปลี่ยนปาฎิหาย์ช่วงที่แองเจ เมื่อตอน 6 ขวบไม่ได้มา ให้มาได้ ความลับในอดีตที่แบทเลอร์ไม่สามารถบอกแองเจได้คืออะไร 'ทำไมถึงต้องโกหกหนูด้วย?'เพลงประกอบอะนิเมะเพลงเปิดที่1 Katayoko no tori ขับร้องโดย Shikata Akiko เพลงประกอบอะนิเมะ. เพลงเปิดที่1 Katayoko no tori ขับร้องโดย Shikata Akiko. ใช้เพลงนี้เปิดทุกบท แต่มีการเปลี่ยนแปลงภาพเนื้อหาในบางส่วนให้เข้ากับบทนั้นๆเพลงปิดที่1 la divina tragedia ~Makyoku~ ขับร้องโดย Jimangตัวละครตระกูลอุชิโรมิยะตัวละคร. ตระกูลอุชิโรมิยะ. - อุชิโรมิยะ คินโซ|右代宮 金蔵 | Ushiromiya Kinzo- อุชิโรมิยะ เคลาส์ |右代宮 蔵臼|Ushiromiya Krauss- อุชิโรมิยะ นัตสึฮิ |右代宮 夏妃|Ushiromiya Natsuhi- อุชิโรมิยะ เจสซิก้า |右代宮 朱志香|Ushiromiya Jessica- อุชิโรมิยะ เอวา|右代宮 絵羽|Ushiromiya Eva- อุชิโรมิยะ ฮิเดโยชิ|右代宮 秀吉|Ushiromiya Hideyoshi- อุชิโรมิยะ จอร์จ|右代宮 譲治|Ushiromiya George- อุชิโรมิยะ รูดอลฟ์|右代宮 留弗夫|Ushiromiya Rudolf- อุชิโรมิยะ คิริเอะ|右代宮 霧江|Ushiromiya Kyrie- อุชิโรมิยะ แบทเลอร์|右代宮 戦人|Ushiromiya Battler- อุชิโรมิยะ โรซ่า|右代宮 楼座|Ushiromiya Roza- อุชิโรมิยะ มาเรีย|右代宮 真里亞|Ushiromiya Mariaคนงานในคฤหาสน์คนงานในคฤหาสน์. - นันโจ เทรุมาสะ (南條 輝正, Nanjō Terumasa)- โรโนเอ เกนจิ (呂ノ上 源次, Ronoue Genji)- ชานอน (紗音, Shanon)- คานอน (嘉音, Kanon)- โกดะ โทชิโระ (郷田 俊朗, Gōda Toshirō)- คุมาซาวะ จิโยะ (熊沢 チヨ, Kumasawa Chiyo)เหล่าแม่มดเหล่าแม่มด. - เบียทริเช่ [Beatrice;ベアトリーチェ] เบียทริเช่เป็นคุณหนูประจำตระกูลอุชิโรมิยะ แต่ถูกฆาตกรรมและวิญญาณของเธอยังวนเวียนอยู่ จึงเป็นที่มาของตำนานแม่มดเบียทริเช่ที่มาเรียชอบพูดถึงบ่อยๆ มักจะถูกทุกคนเรียกว่า "เบียโตะ" รู้จักกันในนาม "แม่มดสีทอง" มีความสามารถในการควบคุมชีวิตและความตาย สามารถอัญเชิญสิ่งของต่างๆได้หลายครั้ง ยกตัวอย่างเช่น สามารถอัญเชิญ "หอคอยเพียงไหล่" ที่สร้างหอคอยที่สามารถยิงหอกแห่งแสงได้ในระหว่างที่สู้กับเวอร์กิลเลีย ตัวของเบียทริเช่รู้ดีว่า "เวทมนตร์นิรันดร์" นี้มีเพื่อสร้างภาพมายาทุกชนิด และทำลายได้ตลอดกาลไม่มีที่สิ้นสุด เป็นคู่แข่งของอุชิโรมิยะ แบทเลอร์- แองเจ-เบียทริเช่ [Ange-Beatrice;エンジェ·ベアトリーチェ] เป็นแม่มดที่ประกฎตัวในช่วงหลังในโลกของเธอ เธอเป็นน้องสาวของมาเรีย แต่ทว่าย้อนอดีตกลับมาในโลกที่มาเรียยังเป็นเด็กอยู่โดยมาพร้อมกับลูกน้อง 7 คน ที่เรียกว่า "เหล่าพี่น้องแห่งบาป" ซึ่งชื่อพี่น้องเหล่านั้นตั้งตามปีศาจในบาปทั้งเจ็ดของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอร์ลิค อันที่จริงเธอคือน้องสาวของแบทเลอร์ ไม่ใช่มาเรีย เธอเป็นที่รู้จักของแม่มดในนาม "แม่มดแห่งการคืนชีพ" ความสามารถของเธอคือการคืนชีพ เธอถูกสอนเรื่องเวทมนตร์มาจากร่างแม่มดของมาเรียผ่านไดอารี่ของมาเรีย ด้วยความที่เธอเป็นเบียทริเช่คนต่อมา เธอจึงมีความสามารถในการอัญเชิญเหมือนเบียทริเช่รุ่นก่อนๆได้ และเพราะเธอย้อนอดีตมา 12 ปี จากอนาคต เธอจึงมีทักษะด้านเวทมนตร์ที่สูงมาก จึงเป็นที่หวาดกลัวของเหล่าแม่มดด้วยกันเอง- มาเรีย-เบียทริเช่ [Maria-Beatrice;マリア·ベアトリーチ] รู้จักกันในนาม " แม่มดแห่งการเริ่มต้น" เป็นแม่มดที่เกิดจากอุชิโรมิยะ มาเรีย มีคู่หูคือซากุทาโร่ที่เกิดจากตุ๊กตาสิงโตของเธอ เธอมีพลังเวทมนตร์ที่สามารถให้กำเนิดหนึ่งจากทะเลถึงศูนย์ แม้ว่าคุณจะคูณศูนย์ไปเท่าไหร่ มันจะไม่ยอมเป็นศูนย์ สามารถสร้างเหล่าขนมให้ตกจากท้องฟ้า สามารถเนรมิตอาหาร และสามารถควบคุมสภาพอากาศได้- เวอร์กิลเลีย [Vergillia;ワルギリア] แม่มดผมขาว สวมหมวกและมีท่าทางในแบบผู้ดีที่สุดในบรรดาแม่มดทั้งหมด เป็นคนเงียบๆ ปกติจะอยู่ในร่างหญิงแก่ประจำบ้านอุชิโรมิยะ แต่เดิมเป็นครูของเบียทริเช่ และเป็นสุดยอดแม่มดที่มีพลังแข็งแกร่งที่สุด รู้จักกันในนาม "แม่มดแห่งการจำกัด" เธอมีพลังเวทมนตร์ที่แข็งแกร่งพอที่จะปะทะกับเบอาทริเช่ได้ สามารถบิน,เคลื่อนย้ายตัวเอง,สร้างเกราะเวทย์เพื่อป้องกัน และอัญเชิญค้อนศักดิ์สิทธิ์ "มโจเนีย"และหอกศักดิ์สิทธิ์ "กังเนียร์" เธอชอบปิดตาตัวเองเพราะสามารถกลบเกลื่อนหรือเพิ่มพลังเวทย์ให้กับตนได้นั่นเอง- เอวา-เบียทริเช่ [Eva-Beatrice;エヴァ·ベアトリーチェ] เด็กสาวแม่มดอีกคนที่ปรากฏตัวในรื่อง มีผมสีส้ม สวมชุดโลลิต้าสีม่วง-ดำ มีนิสัยโหดเหี้ยมคล้ายเบอาทริเช่ เธอเป็นร่างแยกในด้านลบของอุชิโรมิยะ เอวา แน่นอนว่าพลังเวทย์ของเธอส่วนใหญ่ก็จะมาจากเบอาทริเช่นั่นเอง มีความสามารถในการสร้างสิ่งของต่างๆ สามารถอัญเชิญเหล่าคนใช้ (ในที่นี้จะเรียกว่าเฟอร์นิเจอร์) ของเบอาทริเช่ได้อย่าง "เหล่าพี่น้องแห่งบาป" หรือโรนอเว่ก็ได้ แต่ส่วนใหญ่เธอจะใช้พวกซีเอสต้าเพราะความแข็งแกร่งของพวกนั้นนั่นเอง พลังที่เธอต้องการมากคือการฟื้นคืนจากความตาย และการฆ่าทุกทางเพียงเพื่อจะซ้ำว่าเธอเบื่อ สามารถปลอมแปลงตัวเองเป็นอุชิโรมิยะ เอวาได้- ซากุทาโร่ [Sakutaro;さくたろう] เป็นตุ๊กตาสิงโตที่มาเรียเล่นด้วยตอนเด็กๆ ถูกทำให้กลายเป็นมนุษย์เพราะมาเรียอยากเป็นเพื่อนด้วย- เบิร์นคาสเทล [Bernkastel;ベルンカステル] รู้จักกันในนาม "แม่มดแห่งปาฏิหาริย์" แม่มดผมยาวสีน้ำเงิน ชุดสีดำ มีนิสัยนิ่ง เงียบ สามารถทำลายหรือฆ่าทุกสิ่งได้เพื่อความสนุกของเธอเอง มีอาวุธคือเคียวสีดำ ที่สามารถแยกปาฎิหาริย์จากความเป็นจริงได้- แลมบ์ดาเดลต้า [Lambdadelta;ラムダデルタ] รู้จักกันในนาม " แม่มดแห่งความเสถียรภาพ" แม่มดอีกคนที่อยู่กับเบิร์นคาสเทล แม่มดผมสั้นสีบลอนด์ มักปรากฏตัวในชุดหวานๆสีชมพูอ่อน เป้าหมายของเธอคือการกักขังเบิร์นคาสเทลให้อยู่ใน "เกม" ระหว่างอุชิโรมิยะ แบทเลอร์ กับ เบอาทริเช่ ไปตลอดกาลนั่นเอง- เอริกะ ฟุรุโดะ [Erika Furudo;古戸ヱリカ] รู้จักกันในนาม "แม่มดแห่งความจริง" แต่เดิมเป็นนักสืบที่เก่งกาจ มากความสามารถ และให้คำตอบของปริศนาต่างๆได้เป็นอย่างดี สุดท้ายเธอเสียชีวิตและได้ถูกนำมาเข้าพวกกับเบอาทริเช่ และเป็นแม่มดเอริกะในที่สุด เธอมีผมสีน้ำเงินอ่อน มักปรากฏตัวในชุดโบสีชมพู เบิร์นคาสเทลเคยพูดไว้ว่า ตัวเอริกะนั้นจริงๆแล้วเป็นภาพที่ถูกสร้างตามความคิดของเบิร์นคาสเทลขึ้นมาเอง- เฟียเธอรีน ออร์กัสตัส ออโรร่า [Featherine Augustus Aurora;フェザリーヌ··アウグストゥスアウローラ] แม่มดที่ปรากฏตัวเป็นคนสุดท้าย พร้อมกับชุดญี่ปุ่นสีชมพูและผ้าคาดสีเขียว เป็นแม่มดที่ถือกำเนิดจากฮาจิโจ อิคุโกะ(ฮาจิโจ โทยะ) ผู้เขียนนิยายลึกลับที่เขียนเกี่ยวกับเกาะรคเค็นจิมะ เป็นที่รู้จักในนาม "แม่มดแห่งการละคร" และ "ผู้สร้าง" เธอคือคนที่แข็งแกร่งมากถึงขนาดทำให้เบิร์นคาสเทลกลัว บางครั้งเธอก็เบื่อที่จะมีชีวิตนานๆ จึงรีบมีชีวิตแล้วก็ตาย แลมบ์ดาเดลต้า เคยพูดไว้ว่าความทรงจำของเฟียเธอรีนถูกกระทบกระเทือนจนทำให้นิสัยและการแต่งตัวเปลี่ยนไป- แกพ[Gaap;ガァプ] ปีศาจผมลอนสีส้มในชุดเซ็กซี่สีแดง ได้รับฉายาว่า "รูปปั้นปีศาจ"- โรนอเว่ [Ronove;ロノウェ] ทหารองครักษ์ของเวอร์กิลเลีย ได้รับฉายาว่า "พ่อบ้านปีศาจ"- ซีเปอร์ [Zepar;ゼパル] ปีศาจผมสีฟ้าอ่อนเป็นลอน สวมชุดเหมือนเมดสีดำสลับขาว จริงๆเธอเป็นเพศชายในชุดเมดแบบผู้หญิง- ฟูฟู [Furfur;フルフル] ปีศาจสาวผมสีส้มสวมชุดคล้ายซเปอร์ แต่เป็นสีเหลือง เป็นฝาแฝดกับซีเปอร์ ทั้งคู่เลยได้รับฉายาว่า "ปีศาจแห่งรัก"- แคลร์ เวอซ์ เบอร์นาร์ดัส [Clair Vaux Bernardus;クレル··ヴォーブベルナルドゥス] แม่มดสีขาว เป็นแม่มดที่รู้จักกันในนามแม่มดบริสุทธิ์ไอเซอร์เนอะ จุงเฟราไอเซอร์เนอะ จุงเฟรา. - ดรานอร์ เอ น็อกซ์ [Dlanor A Knox;ドラノール··ノックス] หัวหน้าของเหล่าไอเซอร์เนอะ มีผมขาวและแขนข้างซ้ายเป็นเหล็กจึงเป็นที่มาของชื่อ [ไอเซอร์เนอะ จุงเฟรา Eiserne Jungfrau เป็นภาษาเยอรมัน แปลว่า หญิงเหล็ก] มีนิสัยเยือกเย็นและจริงจังต่อหน้าที่มาก- คอร์เนเลีย [Cornelia;コーネリア] สาวใช้ผมสั้นสีน้ำตาลในชุดซิสเตอร์สีน้ำเงิน เธอเป็นเสนาธิการของไอเซอร์เนอะ- เกอร์ทรูด [Gertrude;ガートルード] สาวใช้ที่มีหน้าตาคล้ายคอร์เนเลีย มีผมสีน้ำตาลอ่อน สวมชุดเดียวกับคอร์เนเลีย เธอเป็นเสนาธิการชั้นสูงสุดของไอเซอร์เนอะเหล่าพี่น้องแห่งบาป เหล่าพี่น้องแห่งบาป. เหล่าพี่น้องแห่งบาปมีชื่อตามปีศาจประจำบาปในศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาร์ทอลิค ทั้งสามใส่เครื่องแบบนักเรียนเหมือนกัน- ลูซิเฟอร์ Lucifer,ルシファー เป็นพี่โตสุด ลูซิเฟอร์ตัวแทนของบาปแห่งความหยิ่งยะโส มีนิสัยโหดเหี้ยมเหมือนกับเหล่าแม่มดที่สร้างตนขึ้นมา มักถูกเรียกชื่อเล่นว่า "ลูซี่" Lucie- เลวีอาธาน Laviathan,レヴィアタン เลวีอาธานเป็นตัวแทนของบาปแห่งความริษยา มีนิสัยขี้แย เป็นน้องสาวของลูซิเฟอร์ มักถูกเรียกชื่อเล่นว่า "วีต้า" Vita- ซาตาน Satan,サタン ซาตานเป็นตัวแทนของบาปแห่งโทสะ เธอเป็นน้องสาวคนที่ 3 ของพี่น้องแห่งบาปทั้งหมด เป็นคนโกรธง่ายสมชื่อ โดยมักทำอะไรไม่เข้าเรื่อง ชอบโกรธอยู่คนเดียว ลักษณะของเธอมีผมสีขาวสั้น ม้วนเป็นลอน มักถุกเรียกชื่อเล่นว่า "ซาตาน่า" Satana- เบลเฟกอร์ Belphegor,ベルフェゴール เบลเฟกอร์เป็นตัวแทนของบาปแห่งความเกียจคร้าน เป็นคนเฉื่อยชาตามชื่อ แต่เป็นคนที่ทำงานอย่างสมเหตุสมผลที่สุด มักถูกเรียกชื่อเล่นว่า "เบล" Bel- แมมมอน Mammon,マモン แมมมอนเป็นตัวของบาปแห่งความโลภะ มีความเป็นผู้ใหญ่มากที่สุด เธอมักทำงานรับใช้แม่มดได้ดีเพื่อหวังผลตอบแทนจากสิ่งที่ทำ จึงได้ชื่อว่าเป็นคนโลภสมชื่อ แต่กระนั้นมองในแง่ดีก็เหมือนว่าเธอเป็นคนที่จริงจังต่องานมากที่สุด มักถูกเรียกชื่อเล่นว่า "แมกม่า" Magma- เบลเซบับ Beelzebub,ベルゼブブ เบลเซบับเป็นตัวแทนของบาปแห่งความตะกละ แต่จริงๆแล้วในเรื่องเธอก็มีหุ่นดีเหมือนพี่น้องคนอื่นๆ มักถูกเรียกชื่อเล่นว่า "บีเอล" Beel- อัสโมเดียส Asmodeus,アスモデウス อัสโมเดียสเป็นตัวแทนของบาปแห่งตัณหาราคะ หากเธอตกหลุมรักใครจะทุ่มเทให้อย่างเต็มที่ มีความหื่นมากสมชื่อ มักถูกเรียกชื่อเล่นว่า "แอสโม่" Asmoเหล่าซีเอสต้า เหล่าซีเอสต้า. เหล่าซีเอสต้า แต่เดิมเป็นกระต่ายของเล่นของมาเรียที่ถูกทำให้มีชีวิต หน้าตาของเหล่าซีเอสต้าจึงคล้ายกระต่าย มีหูและห่างเหมือนกระต่ายนั่นเอง- ซีเอสต้า 410 [,シエスタ410] หรือซีเอสต้า โยงอิจิมารุ เธอสวมใส่ยูนิฟอร์มแบบทหารอังกฤษสีฟ้า เธอยิ้มและหัวเราะได้ตลอดเวลา มีผมสีเขียว ไว้ผมสั้น มีนิสัยโหดเหี้ยม ซาดิสม์ มีความร่าเริงที่สุดในหมู่ซีเอสต้าด้วยกัน- ซีเอสต้า 45 [シエスタ45] หรือซีเอสต้า ยงจูโกะ เธอสวมใส่ยูนิฟอร์มแบบทหารอังกฤษสีแดง มีผมสีชมพู ไว้ผมยาว เป็นคนขี้อาย ทำอะไรชักช้าถ้าไม่มีซีเอสต้า 410 คอยช่วย โดยปกติเป็นคนค่อนข้างเอ๋อ พูดติดอ่างอยู่บ่อยๆ- ซีเอสต้า 00 [シエスタ00] หรือซีเอสต้า ดับเบิลโอ (ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียงว่า "ดาบุรุโอะ") เธอสวมใส่ยูนิฟอร์มแบบทหารอังกฤษสีดำ มีผมยาว สีบลอนด์ เป็นคนเงียบๆ ดูภายนอกก็มองออกได้ถึงความหยิ่งยโสในตัว- ซีเอสต้า 556 [シエスタ556] หรือซีเอสต้า โกโกะโระกุ เธอสวมใส่ยูนิฟอร์มแบบทหารอังกฤษม่วง มีผมสั้นสีดำ ในหมู่ซีเอสต้าด้วยกัน ดูเหมือนเธอจะเป็นคนที่ปกติที่สุด
เหตุการณ์ในเกมอุมิเนะโกะโนะนะกุโคะโระมิ เกิดขึ้นบนเกาะอะไร
{ "answer": [ "รคเค็นจิมะ" ], "answer_begin_position": [ 500 ], "answer_end_position": [ 510 ] }
3,890
160,186
อุมิเนะโกะโนะนะกุโคะโระนิ อุมิเนะโกะโนะนะกุโคะโระนิ () เป็นเกมนิยายภาพโดจินชิแนวสืบสวนสยองขวัญที่ผลิตโดย 07th expansion เกมนี้บทแรกได้วางขายครั้งแรกในงาน Comiket 72 ในวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2550 โดยใช้เล่นในคอมพิวเตอร์ และเป็นผลงานชิ้นที่สองจากยามเมื่อเหล่าจักจั่นกรีดร้องเนื้อเรื่องย่อ เนื้อเรื่องย่อ. เหตุการณ์ใน Umineko no Naku Koro ni เกิดขึ้นในระหว่างวันที่ 4 และ 5 ตุลาคม 1986 บนเกาะที่ชื่อว่า"รคเค็นจิมะ" เมื่อหัวหน้าตระกูลอุชิโรมิยะที่มั่งคั่งและเป็นเจ้าของเกาะได้ล้มป่วยลง หมอบอกว่าจะอยู่ได้ไม่ถึง 3 เดือน ทำให้บรรดาลูกหลานทั้งหมด 11 ชีวิต ได้นัดหมายมาประชุมบนเกาะรคเค็นจิมะเพื่ออภิปรายเกี่ยวกับการแบ่งมรดกเมื่อหัวหน้าตระกูลตายลง เมื่อบรรดาลูกหลานมาถึงเกาะรคเค็นจิมะในวันที่ 4 ตุลาคม พายุไต้ฝุ่นได้เริ่มก่อตัวขึ้น ในตอนนั้นเองก็มีจดหมายลึกลับจากผู้ที่อ้างว่าเป็น"แม่มดเบอาตรีเช"แห่งตำนานของเกาะรคเค็นจิมะ ในจดหมายกล่าวว่าจะเก็บ”ดอกเบี้ย”ของเงินที่หัวหน้าตระกูลเคยยืม โดยจะยกเลิกการเก็บดอกเบี้ยเมื่อมีใครคนใดคนหนึ่งสามารถแก้ปริศนาที่ซ่อนทองคำ 10 ตันของหัวหน้าตระกูลได้ ทำให้บรรดาลูกหลานและคนรับใช้บนเกาะรวม 18 ชีวิตสนใจเป็นอย่างมาก แต่เมื่อคืนวันที่ 4 ตุลาคมผ่านพ้นไป... ในวันที่ 5 ตุลาคมช่วงเช้า พายุไต้ฝุ่นยังคงเข้าถล่มเกาะรคเค็นจิมะ แต่แล้วบรรดาคนบนเกาะต่างก็ต้องช็อคกับการฆาตกรรมอันน่าขนลุกขนพอง เมื่อมีเหยื่อเสียชีวิตถึง 6 ศพภายในคืนเดียว การฆาตกรรมที่แสดงถึงความโหดร้ายทารุณ เรือ , โทรศัพท์ หรือแม้กระทั่งสัญญาณวิทยุถูกตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง คนบนเกาะไม่สามารถออกจากเกาะรคเค็นจิมะได้ และในขณะเดียวกันฆาตกรที่อ้างว่าเป็นแม่มดก็ไม่สามารถหนีจากเกาะได้เช่นกัน พูดง่ายๆก็คือ มันเป็นการฆาตกรรมต่อเนื่องระทึกขวัญบนเกาะปิดตายนั่นเอง ใครจะเป็นรายต่อไป การสืบสวนเพื่อ”ตามหา”ฆาตกร แต่ในขณะเดียวกันก็ต้อง”เอาชีวิตรอด”จากฆาตกร การฆ่าคน 6 คนพร้อมกันอย่างโหดเหี้ยม การฆาตกรรมในห้องปิดตาย การทำให้เหยื่อออกจากห้องโดยไม่ทิ้งร่องรอย การฆาตกรรมที่มีแต่แม่มดเท่านั้นที่ทำได้ การเล่นสงครามจิตวิทยาและการดิ้นรนเอาชีวิตรอด ใครคือฆาตกร แม่มด? หรือมนุษย์? ทั้งหมดคือส่วนที่น่าตื่นเต้นของเรื่อง แบทเลอร์กล่าวว่า "ชั้นจะพิสูจน์ให้ดูเองว่ามันเป็นฝีมือของมนุษย์!!!"บทต่างๆบทต่างๆ. - บทที่ 1 Legend of the Golden Witch บทนี้เป็นบทเปิดม่านเรื่องราวของ Umineko no Naku Koro ni โดยเนื้อหาจะมองผ่านมุมมองของแบทเลอร์- บทที่ 2 Turn of the Golden Witch เป็นบทที่มองผ่านมุมมองของเมดสาวชาน่อน เหตุการณ์ที่เกิดต่างจากบทแรก, ทั้งความรักของจอร์จกับชาน่อน ความรักของเจสซิก้ากับคาน่อน- บทที่ 3 Banquet of the Golden Witch เป็นที่อยู่ในมุมมองของ เอวา เบอาตรีเช่ แม่มดคนใหม่ที่มาแทน เบอาตรีเช่ เหตุการ์ที่แตกต่างจากบทแรก ทั้งอดีตของเอวา และเด็กสาวลึกลับที่มีนามว่า แองเจ- บทที่ 4 Alliance of the Golden Witch ต่อจาก บทที่ 3 อยู่ใหนมุมมองของ แองเจ เบอาตรีเช่ ซึ่งเป็นการย้อนอดีตกลับมาที่เหตุการณ์ฆาตกรรมในรคเค็นจิมะ,- บทที่ 5 End of Golden Witch- บทที่ 6 Dawn of Golden Witch- บทที่ 7 Requiem of the Golden Witch เป็นบทที่มองผ่านมุมมองของวิลลาร์ด เอช ไรท์ เจ้าหน้าที่จากหน่วย SSVD ที่สืบคดีเกี่ยวกับเกาะรคเค็นจิมะโดยมีอุชิโรมิยะ ลีออน ที่เป็นลูกของนัตสึฮิ เป็นผู้ช่วยตามคำท้าทายของเบิร์นคาสเทล ที่ว่า 'ใครเป็นคนฆ่าเบอาทรีเช่' ทั้งเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างลีออน,แคลร์และเบอาทริเช่ กฎของ SS Van Dine ทั้ง 20 ข้อ อดีตของคินโซ และยาสุ- บทที่ 8 Twilight of the Golden Witch บทสรุปส่งท้ายเกมแห่งเสียงร่ำไห้ของนางนวล ในบทนี้เป็นมุมมองของอุชิโรมิยะ แองเจ น้องสาวของแบทเลอร์ ที่พยายามตามหาความจริงบนเกาะรคเค็นจิมะเมื่อ 12 ปีก่อน และได้แบทเลอร์เป็นคนเปลี่ยนปาฎิหาย์ช่วงที่แองเจ เมื่อตอน 6 ขวบไม่ได้มา ให้มาได้ ความลับในอดีตที่แบทเลอร์ไม่สามารถบอกแองเจได้คืออะไร 'ทำไมถึงต้องโกหกหนูด้วย?'เพลงประกอบอะนิเมะเพลงเปิดที่1 Katayoko no tori ขับร้องโดย Shikata Akiko เพลงประกอบอะนิเมะ. เพลงเปิดที่1 Katayoko no tori ขับร้องโดย Shikata Akiko. ใช้เพลงนี้เปิดทุกบท แต่มีการเปลี่ยนแปลงภาพเนื้อหาในบางส่วนให้เข้ากับบทนั้นๆเพลงปิดที่1 la divina tragedia ~Makyoku~ ขับร้องโดย Jimangตัวละครตระกูลอุชิโรมิยะตัวละคร. ตระกูลอุชิโรมิยะ. - อุชิโรมิยะ คินโซ|右代宮 金蔵 | Ushiromiya Kinzo- อุชิโรมิยะ เคลาส์ |右代宮 蔵臼|Ushiromiya Krauss- อุชิโรมิยะ นัตสึฮิ |右代宮 夏妃|Ushiromiya Natsuhi- อุชิโรมิยะ เจสซิก้า |右代宮 朱志香|Ushiromiya Jessica- อุชิโรมิยะ เอวา|右代宮 絵羽|Ushiromiya Eva- อุชิโรมิยะ ฮิเดโยชิ|右代宮 秀吉|Ushiromiya Hideyoshi- อุชิโรมิยะ จอร์จ|右代宮 譲治|Ushiromiya George- อุชิโรมิยะ รูดอลฟ์|右代宮 留弗夫|Ushiromiya Rudolf- อุชิโรมิยะ คิริเอะ|右代宮 霧江|Ushiromiya Kyrie- อุชิโรมิยะ แบทเลอร์|右代宮 戦人|Ushiromiya Battler- อุชิโรมิยะ โรซ่า|右代宮 楼座|Ushiromiya Roza- อุชิโรมิยะ มาเรีย|右代宮 真里亞|Ushiromiya Mariaคนงานในคฤหาสน์คนงานในคฤหาสน์. - นันโจ เทรุมาสะ (南條 輝正, Nanjō Terumasa)- โรโนเอ เกนจิ (呂ノ上 源次, Ronoue Genji)- ชานอน (紗音, Shanon)- คานอน (嘉音, Kanon)- โกดะ โทชิโระ (郷田 俊朗, Gōda Toshirō)- คุมาซาวะ จิโยะ (熊沢 チヨ, Kumasawa Chiyo)เหล่าแม่มดเหล่าแม่มด. - เบียทริเช่ [Beatrice;ベアトリーチェ] เบียทริเช่เป็นคุณหนูประจำตระกูลอุชิโรมิยะ แต่ถูกฆาตกรรมและวิญญาณของเธอยังวนเวียนอยู่ จึงเป็นที่มาของตำนานแม่มดเบียทริเช่ที่มาเรียชอบพูดถึงบ่อยๆ มักจะถูกทุกคนเรียกว่า "เบียโตะ" รู้จักกันในนาม "แม่มดสีทอง" มีความสามารถในการควบคุมชีวิตและความตาย สามารถอัญเชิญสิ่งของต่างๆได้หลายครั้ง ยกตัวอย่างเช่น สามารถอัญเชิญ "หอคอยเพียงไหล่" ที่สร้างหอคอยที่สามารถยิงหอกแห่งแสงได้ในระหว่างที่สู้กับเวอร์กิลเลีย ตัวของเบียทริเช่รู้ดีว่า "เวทมนตร์นิรันดร์" นี้มีเพื่อสร้างภาพมายาทุกชนิด และทำลายได้ตลอดกาลไม่มีที่สิ้นสุด เป็นคู่แข่งของอุชิโรมิยะ แบทเลอร์- แองเจ-เบียทริเช่ [Ange-Beatrice;エンジェ·ベアトリーチェ] เป็นแม่มดที่ประกฎตัวในช่วงหลังในโลกของเธอ เธอเป็นน้องสาวของมาเรีย แต่ทว่าย้อนอดีตกลับมาในโลกที่มาเรียยังเป็นเด็กอยู่โดยมาพร้อมกับลูกน้อง 7 คน ที่เรียกว่า "เหล่าพี่น้องแห่งบาป" ซึ่งชื่อพี่น้องเหล่านั้นตั้งตามปีศาจในบาปทั้งเจ็ดของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอร์ลิค อันที่จริงเธอคือน้องสาวของแบทเลอร์ ไม่ใช่มาเรีย เธอเป็นที่รู้จักของแม่มดในนาม "แม่มดแห่งการคืนชีพ" ความสามารถของเธอคือการคืนชีพ เธอถูกสอนเรื่องเวทมนตร์มาจากร่างแม่มดของมาเรียผ่านไดอารี่ของมาเรีย ด้วยความที่เธอเป็นเบียทริเช่คนต่อมา เธอจึงมีความสามารถในการอัญเชิญเหมือนเบียทริเช่รุ่นก่อนๆได้ และเพราะเธอย้อนอดีตมา 12 ปี จากอนาคต เธอจึงมีทักษะด้านเวทมนตร์ที่สูงมาก จึงเป็นที่หวาดกลัวของเหล่าแม่มดด้วยกันเอง- มาเรีย-เบียทริเช่ [Maria-Beatrice;マリア·ベアトリーチ] รู้จักกันในนาม " แม่มดแห่งการเริ่มต้น" เป็นแม่มดที่เกิดจากอุชิโรมิยะ มาเรีย มีคู่หูคือซากุทาโร่ที่เกิดจากตุ๊กตาสิงโตของเธอ เธอมีพลังเวทมนตร์ที่สามารถให้กำเนิดหนึ่งจากทะเลถึงศูนย์ แม้ว่าคุณจะคูณศูนย์ไปเท่าไหร่ มันจะไม่ยอมเป็นศูนย์ สามารถสร้างเหล่าขนมให้ตกจากท้องฟ้า สามารถเนรมิตอาหาร และสามารถควบคุมสภาพอากาศได้- เวอร์กิลเลีย [Vergillia;ワルギリア] แม่มดผมขาว สวมหมวกและมีท่าทางในแบบผู้ดีที่สุดในบรรดาแม่มดทั้งหมด เป็นคนเงียบๆ ปกติจะอยู่ในร่างหญิงแก่ประจำบ้านอุชิโรมิยะ แต่เดิมเป็นครูของเบียทริเช่ และเป็นสุดยอดแม่มดที่มีพลังแข็งแกร่งที่สุด รู้จักกันในนาม "แม่มดแห่งการจำกัด" เธอมีพลังเวทมนตร์ที่แข็งแกร่งพอที่จะปะทะกับเบอาทริเช่ได้ สามารถบิน,เคลื่อนย้ายตัวเอง,สร้างเกราะเวทย์เพื่อป้องกัน และอัญเชิญค้อนศักดิ์สิทธิ์ "มโจเนีย"และหอกศักดิ์สิทธิ์ "กังเนียร์" เธอชอบปิดตาตัวเองเพราะสามารถกลบเกลื่อนหรือเพิ่มพลังเวทย์ให้กับตนได้นั่นเอง- เอวา-เบียทริเช่ [Eva-Beatrice;エヴァ·ベアトリーチェ] เด็กสาวแม่มดอีกคนที่ปรากฏตัวในรื่อง มีผมสีส้ม สวมชุดโลลิต้าสีม่วง-ดำ มีนิสัยโหดเหี้ยมคล้ายเบอาทริเช่ เธอเป็นร่างแยกในด้านลบของอุชิโรมิยะ เอวา แน่นอนว่าพลังเวทย์ของเธอส่วนใหญ่ก็จะมาจากเบอาทริเช่นั่นเอง มีความสามารถในการสร้างสิ่งของต่างๆ สามารถอัญเชิญเหล่าคนใช้ (ในที่นี้จะเรียกว่าเฟอร์นิเจอร์) ของเบอาทริเช่ได้อย่าง "เหล่าพี่น้องแห่งบาป" หรือโรนอเว่ก็ได้ แต่ส่วนใหญ่เธอจะใช้พวกซีเอสต้าเพราะความแข็งแกร่งของพวกนั้นนั่นเอง พลังที่เธอต้องการมากคือการฟื้นคืนจากความตาย และการฆ่าทุกทางเพียงเพื่อจะซ้ำว่าเธอเบื่อ สามารถปลอมแปลงตัวเองเป็นอุชิโรมิยะ เอวาได้- ซากุทาโร่ [Sakutaro;さくたろう] เป็นตุ๊กตาสิงโตที่มาเรียเล่นด้วยตอนเด็กๆ ถูกทำให้กลายเป็นมนุษย์เพราะมาเรียอยากเป็นเพื่อนด้วย- เบิร์นคาสเทล [Bernkastel;ベルンカステル] รู้จักกันในนาม "แม่มดแห่งปาฏิหาริย์" แม่มดผมยาวสีน้ำเงิน ชุดสีดำ มีนิสัยนิ่ง เงียบ สามารถทำลายหรือฆ่าทุกสิ่งได้เพื่อความสนุกของเธอเอง มีอาวุธคือเคียวสีดำ ที่สามารถแยกปาฎิหาริย์จากความเป็นจริงได้- แลมบ์ดาเดลต้า [Lambdadelta;ラムダデルタ] รู้จักกันในนาม " แม่มดแห่งความเสถียรภาพ" แม่มดอีกคนที่อยู่กับเบิร์นคาสเทล แม่มดผมสั้นสีบลอนด์ มักปรากฏตัวในชุดหวานๆสีชมพูอ่อน เป้าหมายของเธอคือการกักขังเบิร์นคาสเทลให้อยู่ใน "เกม" ระหว่างอุชิโรมิยะ แบทเลอร์ กับ เบอาทริเช่ ไปตลอดกาลนั่นเอง- เอริกะ ฟุรุโดะ [Erika Furudo;古戸ヱリカ] รู้จักกันในนาม "แม่มดแห่งความจริง" แต่เดิมเป็นนักสืบที่เก่งกาจ มากความสามารถ และให้คำตอบของปริศนาต่างๆได้เป็นอย่างดี สุดท้ายเธอเสียชีวิตและได้ถูกนำมาเข้าพวกกับเบอาทริเช่ และเป็นแม่มดเอริกะในที่สุด เธอมีผมสีน้ำเงินอ่อน มักปรากฏตัวในชุดโบสีชมพู เบิร์นคาสเทลเคยพูดไว้ว่า ตัวเอริกะนั้นจริงๆแล้วเป็นภาพที่ถูกสร้างตามความคิดของเบิร์นคาสเทลขึ้นมาเอง- เฟียเธอรีน ออร์กัสตัส ออโรร่า [Featherine Augustus Aurora;フェザリーヌ··アウグストゥスアウローラ] แม่มดที่ปรากฏตัวเป็นคนสุดท้าย พร้อมกับชุดญี่ปุ่นสีชมพูและผ้าคาดสีเขียว เป็นแม่มดที่ถือกำเนิดจากฮาจิโจ อิคุโกะ(ฮาจิโจ โทยะ) ผู้เขียนนิยายลึกลับที่เขียนเกี่ยวกับเกาะรคเค็นจิมะ เป็นที่รู้จักในนาม "แม่มดแห่งการละคร" และ "ผู้สร้าง" เธอคือคนที่แข็งแกร่งมากถึงขนาดทำให้เบิร์นคาสเทลกลัว บางครั้งเธอก็เบื่อที่จะมีชีวิตนานๆ จึงรีบมีชีวิตแล้วก็ตาย แลมบ์ดาเดลต้า เคยพูดไว้ว่าความทรงจำของเฟียเธอรีนถูกกระทบกระเทือนจนทำให้นิสัยและการแต่งตัวเปลี่ยนไป- แกพ[Gaap;ガァプ] ปีศาจผมลอนสีส้มในชุดเซ็กซี่สีแดง ได้รับฉายาว่า "รูปปั้นปีศาจ"- โรนอเว่ [Ronove;ロノウェ] ทหารองครักษ์ของเวอร์กิลเลีย ได้รับฉายาว่า "พ่อบ้านปีศาจ"- ซีเปอร์ [Zepar;ゼパル] ปีศาจผมสีฟ้าอ่อนเป็นลอน สวมชุดเหมือนเมดสีดำสลับขาว จริงๆเธอเป็นเพศชายในชุดเมดแบบผู้หญิง- ฟูฟู [Furfur;フルフル] ปีศาจสาวผมสีส้มสวมชุดคล้ายซเปอร์ แต่เป็นสีเหลือง เป็นฝาแฝดกับซีเปอร์ ทั้งคู่เลยได้รับฉายาว่า "ปีศาจแห่งรัก"- แคลร์ เวอซ์ เบอร์นาร์ดัส [Clair Vaux Bernardus;クレル··ヴォーブベルナルドゥス] แม่มดสีขาว เป็นแม่มดที่รู้จักกันในนามแม่มดบริสุทธิ์ไอเซอร์เนอะ จุงเฟราไอเซอร์เนอะ จุงเฟรา. - ดรานอร์ เอ น็อกซ์ [Dlanor A Knox;ドラノール··ノックス] หัวหน้าของเหล่าไอเซอร์เนอะ มีผมขาวและแขนข้างซ้ายเป็นเหล็กจึงเป็นที่มาของชื่อ [ไอเซอร์เนอะ จุงเฟรา Eiserne Jungfrau เป็นภาษาเยอรมัน แปลว่า หญิงเหล็ก] มีนิสัยเยือกเย็นและจริงจังต่อหน้าที่มาก- คอร์เนเลีย [Cornelia;コーネリア] สาวใช้ผมสั้นสีน้ำตาลในชุดซิสเตอร์สีน้ำเงิน เธอเป็นเสนาธิการของไอเซอร์เนอะ- เกอร์ทรูด [Gertrude;ガートルード] สาวใช้ที่มีหน้าตาคล้ายคอร์เนเลีย มีผมสีน้ำตาลอ่อน สวมชุดเดียวกับคอร์เนเลีย เธอเป็นเสนาธิการชั้นสูงสุดของไอเซอร์เนอะเหล่าพี่น้องแห่งบาป เหล่าพี่น้องแห่งบาป. เหล่าพี่น้องแห่งบาปมีชื่อตามปีศาจประจำบาปในศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาร์ทอลิค ทั้งสามใส่เครื่องแบบนักเรียนเหมือนกัน- ลูซิเฟอร์ Lucifer,ルシファー เป็นพี่โตสุด ลูซิเฟอร์ตัวแทนของบาปแห่งความหยิ่งยะโส มีนิสัยโหดเหี้ยมเหมือนกับเหล่าแม่มดที่สร้างตนขึ้นมา มักถูกเรียกชื่อเล่นว่า "ลูซี่" Lucie- เลวีอาธาน Laviathan,レヴィアタン เลวีอาธานเป็นตัวแทนของบาปแห่งความริษยา มีนิสัยขี้แย เป็นน้องสาวของลูซิเฟอร์ มักถูกเรียกชื่อเล่นว่า "วีต้า" Vita- ซาตาน Satan,サタン ซาตานเป็นตัวแทนของบาปแห่งโทสะ เธอเป็นน้องสาวคนที่ 3 ของพี่น้องแห่งบาปทั้งหมด เป็นคนโกรธง่ายสมชื่อ โดยมักทำอะไรไม่เข้าเรื่อง ชอบโกรธอยู่คนเดียว ลักษณะของเธอมีผมสีขาวสั้น ม้วนเป็นลอน มักถุกเรียกชื่อเล่นว่า "ซาตาน่า" Satana- เบลเฟกอร์ Belphegor,ベルフェゴール เบลเฟกอร์เป็นตัวแทนของบาปแห่งความเกียจคร้าน เป็นคนเฉื่อยชาตามชื่อ แต่เป็นคนที่ทำงานอย่างสมเหตุสมผลที่สุด มักถูกเรียกชื่อเล่นว่า "เบล" Bel- แมมมอน Mammon,マモン แมมมอนเป็นตัวของบาปแห่งความโลภะ มีความเป็นผู้ใหญ่มากที่สุด เธอมักทำงานรับใช้แม่มดได้ดีเพื่อหวังผลตอบแทนจากสิ่งที่ทำ จึงได้ชื่อว่าเป็นคนโลภสมชื่อ แต่กระนั้นมองในแง่ดีก็เหมือนว่าเธอเป็นคนที่จริงจังต่องานมากที่สุด มักถูกเรียกชื่อเล่นว่า "แมกม่า" Magma- เบลเซบับ Beelzebub,ベルゼブブ เบลเซบับเป็นตัวแทนของบาปแห่งความตะกละ แต่จริงๆแล้วในเรื่องเธอก็มีหุ่นดีเหมือนพี่น้องคนอื่นๆ มักถูกเรียกชื่อเล่นว่า "บีเอล" Beel- อัสโมเดียส Asmodeus,アスモデウス อัสโมเดียสเป็นตัวแทนของบาปแห่งตัณหาราคะ หากเธอตกหลุมรักใครจะทุ่มเทให้อย่างเต็มที่ มีความหื่นมากสมชื่อ มักถูกเรียกชื่อเล่นว่า "แอสโม่" Asmoเหล่าซีเอสต้า เหล่าซีเอสต้า. เหล่าซีเอสต้า แต่เดิมเป็นกระต่ายของเล่นของมาเรียที่ถูกทำให้มีชีวิต หน้าตาของเหล่าซีเอสต้าจึงคล้ายกระต่าย มีหูและห่างเหมือนกระต่ายนั่นเอง- ซีเอสต้า 410 [,シエスタ410] หรือซีเอสต้า โยงอิจิมารุ เธอสวมใส่ยูนิฟอร์มแบบทหารอังกฤษสีฟ้า เธอยิ้มและหัวเราะได้ตลอดเวลา มีผมสีเขียว ไว้ผมสั้น มีนิสัยโหดเหี้ยม ซาดิสม์ มีความร่าเริงที่สุดในหมู่ซีเอสต้าด้วยกัน- ซีเอสต้า 45 [シエスタ45] หรือซีเอสต้า ยงจูโกะ เธอสวมใส่ยูนิฟอร์มแบบทหารอังกฤษสีแดง มีผมสีชมพู ไว้ผมยาว เป็นคนขี้อาย ทำอะไรชักช้าถ้าไม่มีซีเอสต้า 410 คอยช่วย โดยปกติเป็นคนค่อนข้างเอ๋อ พูดติดอ่างอยู่บ่อยๆ- ซีเอสต้า 00 [シエスタ00] หรือซีเอสต้า ดับเบิลโอ (ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียงว่า "ดาบุรุโอะ") เธอสวมใส่ยูนิฟอร์มแบบทหารอังกฤษสีดำ มีผมยาว สีบลอนด์ เป็นคนเงียบๆ ดูภายนอกก็มองออกได้ถึงความหยิ่งยโสในตัว- ซีเอสต้า 556 [シエスタ556] หรือซีเอสต้า โกโกะโระกุ เธอสวมใส่ยูนิฟอร์มแบบทหารอังกฤษม่วง มีผมสั้นสีดำ ในหมู่ซีเอสต้าด้วยกัน ดูเหมือนเธอจะเป็นคนที่ปกติที่สุด
อุมิเนะโกะโนะนะกุโคะโระนิ เป็นเกมนิยายภาพโดจินชิแนวสืบสวนสยองขวัญ เกมนี้ได้วางขายครั้งแรกในวันที่เท่าไร
{ "answer": [ "17" ], "answer_begin_position": [ 274 ], "answer_end_position": [ 276 ] }
1,200
743,626
ทีวีอี (ประเทศอินโดนีเซีย) ทีวีอี (สถานีโทรทัศน์เพื่อการศึกษา) เป็นสถานีโทรทัศน์ประเทศอินโดนีเซีย อยู่ภ่ายใต้การดูแลของกระทรวงการศึกษาและวัฒนธรรม ออกอากาศรายการประเภทการศึกษา สถานีทีวีอี ออกอากาศอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 ตุลาคม ค.ศ. 2004 ปัจจุบันทีวีอี มี 2ช่อง ช่อง 1 สำหรับนักเรียนและช่อง 2 สำหรับครูผู้สอน
ทีวีอี เป็นสถานีโทรทัศน์เพื่อการศึกษาของประเทศอะไร
{ "answer": [ "ประเทศอินโดนีเซีย" ], "answer_begin_position": [ 181 ], "answer_end_position": [ 198 ] }
1,945
743,626
ทีวีอี (ประเทศอินโดนีเซีย) ทีวีอี (สถานีโทรทัศน์เพื่อการศึกษา) เป็นสถานีโทรทัศน์ประเทศอินโดนีเซีย อยู่ภ่ายใต้การดูแลของกระทรวงการศึกษาและวัฒนธรรม ออกอากาศรายการประเภทการศึกษา สถานีทีวีอี ออกอากาศอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 ตุลาคม ค.ศ. 2004 ปัจจุบันทีวีอี มี 2ช่อง ช่อง 1 สำหรับนักเรียนและช่อง 2 สำหรับครูผู้สอน
วันที่ออกอากาศอย่างเป็นทางการของสถานีโทรทัศน์ทีวีอีของประเทศอินโดนีเซียคือวันที่เท่าไร
{ "answer": [ "12" ], "answer_begin_position": [ 320 ], "answer_end_position": [ 322 ] }
1,201
121,748
วัดโรงธรรมสามัคคี วัดโรงธรรมสามัคคี ตั้งอยู่ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ประวัติ ประวัติ. เดิมเป็นเพียงอารามเล็กๆ ที่อยู่ในบริเวณสวนมันแกว บ้านตลาดสันกำแพง ต่อมามีคณะผู้ศรัทธาได้ทำการซื้อที่ดินดังกล่าว แล้วยกให้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ฟังเทศน์ โดยได้ก่อสร้างศาลาบำเพ็ญบุญหลังหนึ่ง ชาวจึงเรียกตามสำเนียงคำเมืองว่า "โฮงธรรม" (โรงธรรม)โดยจะอาราธานานิมนต์พระภิกษุจากวัดต่างๆ มาเพื่อรับภัตตาหารและเทศนาธรรมทุกวันพระ ในช่วงเข้าพรรษา ต่อมา ได้อาราธนาพระอาจารย์กู่ ธมมทินโน พระกรรมฐานสาย พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต มาจำพรรษา และมีการอาราธนาพระอาจารย์อีกหลายรูป จึงมีการสร้างเสนาสนะ และถวาวรวัตถุขึ้นไปตามลำดับ- ได้ประกาศตั้งเป็นวัดวันที่ ๑๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๐๑ - ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา - ประกอบพิธีผูกพัทธสีมา เมื่อวันที่ ๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๐สถาปัตยกรรมสถาปัตยกรรม. - พระเจดีย์โพธิปักธิยธรรม เป็นเจดีย์ที่มีรูปร่างแปลกไปจากที่อื่น โดยชื่อหมายถึงธรรมอันเป็นฝักฝ่ายหนือเกื้อกุลแก่การตรัสรู้ ๓๗ ประการ ได้แก่ สติปัฏฐาน ๔, สัมมัปปธาน ๔, อิทธิบาท ๔, อินทรีย์ ๕, พละ ๕, โพชณงค์ ๗, มรรคมีองค์ ๘ รวมเป็น โพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการ ฐานเจดีย์เป็นทรงกลม ภายในประกอบห้องสมุด, ห้องแสดงศิลปวัตถุ, ประดิษฐานพระพุทธรูปประจำวันเกิดและพระพุทธรูปต่าง ๆ และชั้นสูงสุดได้ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
วัดโรงธรรมสามัคคี อำเภอสันกำแพง ตั้งอยู่ในจังหวัดใด
{ "answer": [ "จังหวัดเชียงใหม่" ], "answer_begin_position": [ 151 ], "answer_end_position": [ 167 ] }
1,202
121,748
วัดโรงธรรมสามัคคี วัดโรงธรรมสามัคคี ตั้งอยู่ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ประวัติ ประวัติ. เดิมเป็นเพียงอารามเล็กๆ ที่อยู่ในบริเวณสวนมันแกว บ้านตลาดสันกำแพง ต่อมามีคณะผู้ศรัทธาได้ทำการซื้อที่ดินดังกล่าว แล้วยกให้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ฟังเทศน์ โดยได้ก่อสร้างศาลาบำเพ็ญบุญหลังหนึ่ง ชาวจึงเรียกตามสำเนียงคำเมืองว่า "โฮงธรรม" (โรงธรรม)โดยจะอาราธานานิมนต์พระภิกษุจากวัดต่างๆ มาเพื่อรับภัตตาหารและเทศนาธรรมทุกวันพระ ในช่วงเข้าพรรษา ต่อมา ได้อาราธนาพระอาจารย์กู่ ธมมทินโน พระกรรมฐานสาย พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต มาจำพรรษา และมีการอาราธนาพระอาจารย์อีกหลายรูป จึงมีการสร้างเสนาสนะ และถวาวรวัตถุขึ้นไปตามลำดับ- ได้ประกาศตั้งเป็นวัดวันที่ ๑๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๐๑ - ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา - ประกอบพิธีผูกพัทธสีมา เมื่อวันที่ ๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๐สถาปัตยกรรมสถาปัตยกรรม. - พระเจดีย์โพธิปักธิยธรรม เป็นเจดีย์ที่มีรูปร่างแปลกไปจากที่อื่น โดยชื่อหมายถึงธรรมอันเป็นฝักฝ่ายหนือเกื้อกุลแก่การตรัสรู้ ๓๗ ประการ ได้แก่ สติปัฏฐาน ๔, สัมมัปปธาน ๔, อิทธิบาท ๔, อินทรีย์ ๕, พละ ๕, โพชณงค์ ๗, มรรคมีองค์ ๘ รวมเป็น โพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการ ฐานเจดีย์เป็นทรงกลม ภายในประกอบห้องสมุด, ห้องแสดงศิลปวัตถุ, ประดิษฐานพระพุทธรูปประจำวันเกิดและพระพุทธรูปต่าง ๆ และชั้นสูงสุดได้ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
วัดโรงธรรมสามัคคี จังหวัดเชียงใหม่ ในสำเนียงชาวเหนือเรียกว่าอะไร
{ "answer": [ "โฮงธรรม" ], "answer_begin_position": [ 407 ], "answer_end_position": [ 414 ] }
1,203
529,959
มาลีเอตัว เลาเปปา มาลีเอตัว เลาเปปา () (ค.ศ. 1841 – 22 สิงหาคม ค.ศ. 1898) ทรงเป็นมาลีเอตัวแห่งประเทศซามัว ในปลายศตวรรษที่ 19 มาลีเอตัว เลาเปปา เป็นโอรสในมาลีเอตัว โมลีกับฟาอาลาอิตูอิโอ ฟูอาติโน ซูอา พระองค์ทรงได้เข้ารับศึกษาที่ศาสนาที่วิทยาลัยมาลาอู ทำให้พระองค์ทรงเคร่งศาสนาคริสต์เป็นอย่างมาก พระองค์ทรงอภิเษกสมสกับซิซาวาอิ มาลูโป นิอูวาอาอิมีพระราชโอรส-ธิดาด้วยกัน 3 พระองค์ หนึ่งในนั้นคือมาลีเอตัว ตานุมาฟิลิที่ 1 พระองค์ทรงครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์แห่งซามัว โดยมีจักรวรรดิเยอรมัน สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักรคอยแทรกแทรงทางการเมือง ตามาเซเซไม่ยอมรับพระองค์ และพยายามที่จะทำสงครามชิงราชบัลลังก์ ในที่สุดสงครามก็จบลงด้วยสนธิสัญญาสงบศึก พระองค์ยังคงครองราชย์ต่อไป มาลีเอตัว เลาเปปา เสด็จสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ค.ศ. 1898 มาลีเอตัว ตานุมาฟิลิที่ 1 จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระมหากษัตริย์ซามัวต่อจากพระองค์
มาลีเอตัว เลาเปปา ทรงได้รับการศึกษาจากที่ใด
{ "answer": [ "วิทยาลัยมาลาอู" ], "answer_begin_position": [ 327 ], "answer_end_position": [ 341 ] }
1,204
529,959
มาลีเอตัว เลาเปปา มาลีเอตัว เลาเปปา () (ค.ศ. 1841 – 22 สิงหาคม ค.ศ. 1898) ทรงเป็นมาลีเอตัวแห่งประเทศซามัว ในปลายศตวรรษที่ 19 มาลีเอตัว เลาเปปา เป็นโอรสในมาลีเอตัว โมลีกับฟาอาลาอิตูอิโอ ฟูอาติโน ซูอา พระองค์ทรงได้เข้ารับศึกษาที่ศาสนาที่วิทยาลัยมาลาอู ทำให้พระองค์ทรงเคร่งศาสนาคริสต์เป็นอย่างมาก พระองค์ทรงอภิเษกสมสกับซิซาวาอิ มาลูโป นิอูวาอาอิมีพระราชโอรส-ธิดาด้วยกัน 3 พระองค์ หนึ่งในนั้นคือมาลีเอตัว ตานุมาฟิลิที่ 1 พระองค์ทรงครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์แห่งซามัว โดยมีจักรวรรดิเยอรมัน สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักรคอยแทรกแทรงทางการเมือง ตามาเซเซไม่ยอมรับพระองค์ และพยายามที่จะทำสงครามชิงราชบัลลังก์ ในที่สุดสงครามก็จบลงด้วยสนธิสัญญาสงบศึก พระองค์ยังคงครองราชย์ต่อไป มาลีเอตัว เลาเปปา เสด็จสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ค.ศ. 1898 มาลีเอตัว ตานุมาฟิลิที่ 1 จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระมหากษัตริย์ซามัวต่อจากพระองค์
ใครขึ้นครองราชย์เป็นคนต่อไปหลังจากมาลีเอตัว เลาเปปาเเสด็จสิ้นพระชนม์
{ "answer": [ "มาลีเอตัว ตานุมาฟิลิที่ 1" ], "answer_begin_position": [ 826 ], "answer_end_position": [ 851 ] }
1,205
518,953
ความไวและความจำเพาะ ความไวและความจำเพาะ เป็นค่าวัดทางสถิติที่ใช้ประเมินประสิทธิภาพของการทดสอบที่ให้ผลเป็นสองส่วน (เช่นเป็นบวกและลบ) โดย- ความไว () คือสัดส่วนของผลบวกที่เป็นจริงสำหรับภาวะนั้น ๆ (เช่น สัดส่วนของการตรวจพบโรคในผู้ที่ป่วยจริง) มีไวพจน์เป็นคำอื่น ๆ รวมทั้ง อัตราผลบวกจริง (true positive rate), recall, probability of detection ซึ่งใช้ในสาขาต่าง ๆ - ความจำเพาะ () คือสัดส่วนของผลลบที่เป็นจริงสำหรับภาวะนั้น ๆ (เช่น สัดส่วนของการตรวจไม่พบโรคในผู้ที่ไม่ป่วย) มีไวพจน์เป็นคำอื่น ๆ รวมทั้ง อัตราผลลบจริง (true negative rate) ความไวจึงมีประโยชน์ในการวินิจฉัยแยกกันผลลบปลอม (false negative) เพราะว่าการทดสอบยิ่งไวเท่าไร โอกาสการได้ผลลบ (เช่น การพบว่าไม่มีโรค) ที่ไม่เป็นจริง (เช่น บุคคลจริง ๆ มีโรค) ก็น้อยลงเท่านั้น และดังนั้น ถ้าความไวอยู่ที่ 100% โอกาสได้ผลลบปลอมก็อยู่ที่ 0% และความจำเพาะจึงมีประโยชน์ในการยืนยันภาวะที่มี โดยกันผลบวกปลอม (false positive) เพราะว่าการทดสอบยิ่งจำเพาะเท่าไร โอกาสการได้ผลบวก (เช่น การพบว่ามีโรค) ที่ไม่เป็นจริง (เช่น บุคคลจริง ๆ ไม่มีโรค) ก็น้อยลงเท่านั้น และดังนั้น ถ้าความจำเพาะอยู่ที่ 100% โอกาสได้ผลบวกปลอมก็อยู่ที่ 0% ในการทดสอบหนึ่ง ๆ ปกติจะต้องแลกเปลี่ยนข้อดีข้อเสีย ยกตัวอย่างเช่น เพื่อความปลอดภัยของท่าอากาศยาน เครื่องตรวจโลหะอาจจะตั้งให้ส่งสัญญาณเตือนแม้สำหรับวัตถุที่เสี่ยงน้อย เช่น หัวเข็มขัดหรือลูกกุญแจ (คือการตรวจมีความจำเพาะต่ำ) เพื่อลดโอกาสเสี่ยงพลาดวัตถุอันตราย (คือการตรวจมีความไวสูง) การแลกเปลี่ยนข้อดีข้อเสียเช่นนี้สามารถแสดงในกราฟเส้นโค้ง receiver operating characteristic (ROC) การทดสอบที่สมบูรณ์จะไว 100% (เช่น คนป่วยทั้งหมดมีผลบวก) และจำเพาะ 100% (เช่น คนปกติทั้งหมดมีผลลบ) แต่ว่า โดยทฤษฎีแล้ว การทดสอบทุกอย่างจะมีขอบเขตความผิดพลาดต่ำสุดที่เรียกว่า Bayes error rateนิยาม นิยาม. ลองสมมุติว่ากำลังประเมินการทดสอบชนิดใหม่ที่ตรวจคัดกรองโรคชนิดหนึ่ง แต่ละคนที่ทดสอบจริง ๆ มีหรือไม่มีโรค ผลสอบอาจเป็นบวก คือจัดบุคคลว่ามีโรค หรือเป็นลบ คือจัดบุคคลว่าไม่มีโรค แต่ผลของแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกับภาวะจริง ๆ ดังนั้น จะมีกรณีต่าง ๆ 4 อย่าง คือ- ผลบวกจริง (true positive) ผู้ป่วยตรวจพบว่ามีโรคอย่างถูกต้อง - ผลบวกปลอม (false positive) คนปกติตรวจพบว่ามีโรคอย่างไม่ถูกต้อง - ผลลบจริง (true negative) คนปกติตรวจพบว่าไม่มีโรคอย่างถูกต้อง - ผลลบปลอม (false negative) คนป่วยตรวจพบว่าไม่มีโรคอย่างไม่ถูกต้อง โดยทั่วไป Positive = identified และ negative = rejected ดังนั้น- True positive = correctly identified - False positive = incorrectly identified - True negative = correctly rejected - False negative = incorrectly rejected เราจะพิจารณากลุ่มทดสอบที่มีผลบวกมีจำนวน P และผลลบมีจำนวน N เนื่องจากโรคบางอย่าง ผล 4 อย่างสามารถทำเป็นตาราง contingency table หรือ confusion matrix ดังต่อไปนี้ความไว ความไว. ความไวหมายถึงสมรรถภาพของการทดสอบในการตรวจหาคนที่มีภาวะนั้น ๆ ในตัวอย่างของเรา ค่าความไวคือสัดส่วนของบุคคลที่ได้ผลบวกจากการทดสอบในบรรดาคนที่มีโรค ซึ่งเขียนเป็นสมการได้ดังต่อไปนี้ ผลลบจากการทดสอบที่ไวสูงจะมีประโยชน์ในการกันโรคออก (ruling out) คือเชื่อถือได้เมื่อผลเป็นลบ เพราะว่ามันไม่ค่อยวินิจฉัยผู้ที่มีโรคผิด การทดสอบที่ไว 100% จะตรวจเจอคนไข้ที่มีโรคทั้งหมดโดยให้ผลบวก ดังนั้น ผลลบจึงกันออกได้อย่างแน่นอนว่า คนไข้ไม่มีโรค แต่ผลบวกของการทดสอบที่ไวสูงไม่สามารถยืนยันว่ามีโรค (ruling in) คือ ลองสมมุติว่ามีการทดสอบ "ปลอม" ที่ออกแบบให้ออกแต่ผลบวกเท่านั้น ดังนั้น เมื่อทดสอบคนไข้ที่มีโรค คนไข้ทั้งหมดก็จะได้ผลบวก ซึ่งบ่งว่าการทดสอบมีความไว 100% แต่ว่า โดยนิยามแล้ว ค่าความไวไม่สามารถกันผลบวกปลอมได้ เพราะว่า การทดสอบปลอมก็จะออกผลบวกสำหรับคนปกติทั้งหมด ซึ่งบ่งว่าการทดสอบมีอัตราผลบวกปลอม 100% ทำให้ไม่มีประโยชน์อะไรในการตรวจจับ หรือยืนยันว่ามีโรค ความไวไม่ใช่อย่างเดียวกับความเที่ยง (precision) หรือค่าทำนายเมื่อผลเป็นบวก (positive predictive value) ซึ่งเป็นอัตราส่วนของผลบวกจริงต่อค่ารวมของผลบวกจริงกับผลบวกปลอม คือเป็นสัดส่วนของผลบวกจริงต่อประชากรที่แสดงผลบวก การคำนวณค่าความไวไม่รวมผลการทดสอบที่คลุมเครือ ถ้าไม่สามารถทดสอบใหม่ได้ ตัวอย่างที่คลุมเครือไม่ควรจะรวมเข้าเพื่อวิเคราะห์ (โดยให้ระบุจำนวนตัวอย่างที่ยกเว้นเมื่อแสดงค่าความไว) หรือสามารถปฏิบัติเหมือนกับผลลบปลอม (ซึ่งจะเป็นการแสดงค่าต่ำสุดของความไว และดังนั้น อาจจะเป็นค่าประเมินที่น้อยเกินจริง)ความจำเพาะ ความจำเพาะ. ความจำเพาะเป็นสมรรถภาพของการทดสอบในการตรวจหาบุคคลที่ไม่มีภาวะนั้น ๆ ลองพิจารณาตัวอย่างการทดสอบคนไข้ของเรา ค่าความจำเพาะของการทดสอบก็คือสัดส่วนของบุคคลปกติที่ไม่มีโรค ผู้จะทดสอบได้ผลลบ ซึ่งสามารถเขียนเป็นสมการ การได้ผลบวกจากการทดสอบจำเพาะสูงมีประโยชน์ในการวินิจฉัยว่าเป็นโรค (ruling in) เพราะว่า การทดสอบนี้ไม่ค่อยให้ผลบวกในคนปกติ เมื่อผลทดสอบเป็นบวก การทดสอบที่จำเพาะ 100% แสดงว่า ทั้งหมดเป็นผู้ป่วยโดยไม่มีคนปกติ ผลลบในการทดสอบที่จำเพาะสูงจะไม่มีประโยชน์ในการกันโรคออก ลองสมมุติว่ามีการทดสอบ "ปลอม" ที่ออกแบบให้แสดงผลลบเท่านั้น ซึ่งเมื่อทดสอบคนปกติทุกคน ก็จะแสดงผลลบทุกคน และนี่ก็จะให้ค่าจำเพาะ 100% ต่อการทดสอบ แต่การทดสอบเดียวกันก็จะให้ผลลบต่อผู้ป่วยทั้งหมดเหมือนกัน ดังนั้น ก็จะมีอัตราอัตราผลลบปลอมที่ 100% ซึ่งไม่มีประโยชน์อะไรในการกันโรคออก (ruling out) ความจำเพาะโดยนิยามไม่สามารถกันผลลบปลอมได้ การทดสอบที่จำเพาะสูงจะมีอัตราความผิดพลาดชนิดที่ 1 ต่ำตัวอย่างแสดงเป็นรูปตัวอย่างในการแพทย์ ตัวอย่างในการแพทย์. ในการวินิจฉัยทางการแพทย์ ความไวเป็นสมรรถภาพของการทดสอบในการระบุคนที่มีโรคอย่างถูกต้อง (อัตราผลบวกจริง) เทียบกับความจำเพาะที่เป็นสมรรถภาพในการระบุผู้ที่ไม่มีโรคอย่างถูกต้อง (อัตราผลลบจริง) ถ้ามีผู้ป่วย 100 คนที่ทดสอบ แต่มีเพียง 43 คนที่ได้ผลบวก การทดสอบนี้ก็จะมีความไว 43% ถ้ามีคนปกติ 100 คนที่ทดสอบ แต่มีคน 96 ที่ได้ผลลบ การทดสอบนี้ก็จะมีความจำเพาะ 96% ความไวและความจำเพาะเป็นคุณสมบัติของการทดสอบที่เป็นอิสระจากความชุกของโรค เพราะว่า ค่าของมันเฉพาะกับการทดสอบและไม่ได้ขึ้นอยู่กับความชุกของกลุ่มประชากรที่เป็นประเด็น เทียบกับค่าทำนายเมื่อผลเป็นบวก (positive predictive value) และค่าทำนายเมื่อผลเป็นลบ (negative predictive value) ซึ่งเป็นค่าที่ขึ้นกับความชุกของกลุ่มประชากรที่ทดสอบ แต่ความจำเพาะและความไวไม่ใช่ ค่าเหล่านี้แสดงให้ดูเป็นกราฟในแอปเพล็ตนี้ (Bayesian clinical diagnostic model) ซึ่งแสดงค่าทำนายเมื่อผลเป็นบวกและเมื่อผลเป็นลบโดยเป็นฟังก์ชันของความชุกของโรค ความไว และความจำเพาะสิ่งที่อาจทำให้เข้าใจผิด สิ่งที่อาจทำให้เข้าใจผิด. มักกล่าวกันว่า การทดสอบที่จำเพาะสูงมีประโยชน์ในการยืนยันว่ามีโรคเมื่อได้ผลบวก และการทดสอบที่ไวสูงในการกันโรคออกเมื่อได้ผลลบ มีแม้แต่รหัสช่วยจำ คือ SPIN และ SNOUT ที่ใช้กันอย่างกว้างขวาง ซึ่งมาจากวลีว่า a highly 'SPecific' test, when Positive, rules IN disease (SP-P-IN) คือ การทดสอบที่จำเพาะสูง เมื่อได้ผลบวก จะยืนยันโรค และจากวลีว่า a highly 'SeNsitive' test, when Negative rules OUT disease (SN-N-OUT) คือ การทดสอบที่ไวสูง เมื่อได้ผลบวก จะกันโรคออก แต่กฎทั้งสองนี้อาจทำให้เข้าใจเหตุผลผิดได้ เพราะว่า กำลังการวินิจฉัยของการทดสอบอย่างใดอย่างหนึ่งจะขึ้นอยู่กับทั้งความไวและความจำเพาะตารางแบบเติมตัวเลขการประเมินความผิดพลาดของค่าความไวและความจำเพาะ การประเมินความผิดพลาดของค่าความไวและความจำเพาะ. ค่าความไวและความจำเพาะเพียงอย่างเดียวอาจทำให้เข้าใจผิด คือ จะต้องคำนวณค่าแย่ที่สุด (worst-case) ของค่าทั้งสองเพื่อเลี่ยงการพึ่งผลการทดลองที่มีจำนวนน้อย ยกตัวอย่างเช่น การทดสอบหนึ่งไว 100% เมื่อเทียบกับวิธีการมาตรฐาน (gold standard) 4 ครั้ง แต่ว่าการทดสอบอีกครั้งหนึ่งแสดงผลที่ไม่เท่าเทียม คือเท่ากับแสดงความไวแค่ 80% วิธีสามัญอย่างหนึ่งก็คือมีการบ่ง binomial proportion confidence interval (คือ ช่วงความเชื่อมั่นในสัดส่วนหนึ่งของประชากรทางสถิติ) ซึ่งบ่อยครั้งคำนวณโดยใช้ Wilson score interval ดังนั้น ช่วงความเชื่อมั่น (confidence intervals) ของค่าความไวและความจำเพาะสามารถคำนวณได้ โดยให้พิสัยของค่า (คือกำหนดค่าสูงและต่ำ) ที่อยู่ในระดับความเชื่อมั่นขั้นหนึ่ง (เช่น ความเชื่อมั่นที่ 95% ว่าค่าอยู่ระหว่างค่านี้กับค่านี้)ศัพท์ในศาสตร์การค้นคืนสารสนเทศ ศัพท์ในศาสตร์การค้นคืนสารสนเทศ. ในการค้นคืนสารสนเทศ (information retrieval) ค่าทำนายเมื่อผลเป็นบวกเรียกว่า precision (ความเที่ยง) และค่าความไวเรียกว่า recall แต่ไม่เหมือนกับการแลกเปลี่ยนข้อดีข้อเสียระหว่างความจำเพาะเทียบกับความไว ค่าทั้งสองนี้เป็นอิสระจากผลลบจริง (true negative) ซึ่งปกติจะเป็นข้อมูลที่ไม่รู้โดยมีจำนวนมากกว่าจำนวนเอกสารที่เกี่ยวข้องและต้องการค้นคืนมาก และข้อสมมุติในเรื่องนี้ว่า ผลลบจริงเป็นจำนวนที่ใหญ่กว่ามากจะไม่ค่อยมีในการประยุกต์ใช้ค่าสองอย่างนี้ในประเด็นอื่น ๆ จึงมีการใช้ F-score เป็นค่าเดียวที่แสดงประสิทธิภาพของการทดสอบที่ได้ผลบวก โดยเป็น harmonic mean ของ precision และ recall คือศัพท์ในสถิติ ศัพท์ในสถิติ. ในการศึกษาโดยการตรวจสอบสมมติฐานทางสถิติ (statistical hypothesis testing) ความไวของการทดสอบจะเรียกว่า กำลังทางสถิติ (statistical power) ของการทดสอบ แต่คำว่า กำลัง (power) ในเรื่องนี้มีความหมายกว้างกว่าความไวที่ใช้ในบทความนี้ การทดสอบที่ไวจะมีความผิดพลาดชนิดที่ 2 จำนวนน้อยกว่า
ความไวและความจำเพาะ เป็นค่าวัดทางใด
{ "answer": [ "ทางสถิติ" ], "answer_begin_position": [ 144 ], "answer_end_position": [ 152 ] }
1,206
518,953
ความไวและความจำเพาะ ความไวและความจำเพาะ เป็นค่าวัดทางสถิติที่ใช้ประเมินประสิทธิภาพของการทดสอบที่ให้ผลเป็นสองส่วน (เช่นเป็นบวกและลบ) โดย- ความไว () คือสัดส่วนของผลบวกที่เป็นจริงสำหรับภาวะนั้น ๆ (เช่น สัดส่วนของการตรวจพบโรคในผู้ที่ป่วยจริง) มีไวพจน์เป็นคำอื่น ๆ รวมทั้ง อัตราผลบวกจริง (true positive rate), recall, probability of detection ซึ่งใช้ในสาขาต่าง ๆ - ความจำเพาะ () คือสัดส่วนของผลลบที่เป็นจริงสำหรับภาวะนั้น ๆ (เช่น สัดส่วนของการตรวจไม่พบโรคในผู้ที่ไม่ป่วย) มีไวพจน์เป็นคำอื่น ๆ รวมทั้ง อัตราผลลบจริง (true negative rate) ความไวจึงมีประโยชน์ในการวินิจฉัยแยกกันผลลบปลอม (false negative) เพราะว่าการทดสอบยิ่งไวเท่าไร โอกาสการได้ผลลบ (เช่น การพบว่าไม่มีโรค) ที่ไม่เป็นจริง (เช่น บุคคลจริง ๆ มีโรค) ก็น้อยลงเท่านั้น และดังนั้น ถ้าความไวอยู่ที่ 100% โอกาสได้ผลลบปลอมก็อยู่ที่ 0% และความจำเพาะจึงมีประโยชน์ในการยืนยันภาวะที่มี โดยกันผลบวกปลอม (false positive) เพราะว่าการทดสอบยิ่งจำเพาะเท่าไร โอกาสการได้ผลบวก (เช่น การพบว่ามีโรค) ที่ไม่เป็นจริง (เช่น บุคคลจริง ๆ ไม่มีโรค) ก็น้อยลงเท่านั้น และดังนั้น ถ้าความจำเพาะอยู่ที่ 100% โอกาสได้ผลบวกปลอมก็อยู่ที่ 0% ในการทดสอบหนึ่ง ๆ ปกติจะต้องแลกเปลี่ยนข้อดีข้อเสีย ยกตัวอย่างเช่น เพื่อความปลอดภัยของท่าอากาศยาน เครื่องตรวจโลหะอาจจะตั้งให้ส่งสัญญาณเตือนแม้สำหรับวัตถุที่เสี่ยงน้อย เช่น หัวเข็มขัดหรือลูกกุญแจ (คือการตรวจมีความจำเพาะต่ำ) เพื่อลดโอกาสเสี่ยงพลาดวัตถุอันตราย (คือการตรวจมีความไวสูง) การแลกเปลี่ยนข้อดีข้อเสียเช่นนี้สามารถแสดงในกราฟเส้นโค้ง receiver operating characteristic (ROC) การทดสอบที่สมบูรณ์จะไว 100% (เช่น คนป่วยทั้งหมดมีผลบวก) และจำเพาะ 100% (เช่น คนปกติทั้งหมดมีผลลบ) แต่ว่า โดยทฤษฎีแล้ว การทดสอบทุกอย่างจะมีขอบเขตความผิดพลาดต่ำสุดที่เรียกว่า Bayes error rateนิยาม นิยาม. ลองสมมุติว่ากำลังประเมินการทดสอบชนิดใหม่ที่ตรวจคัดกรองโรคชนิดหนึ่ง แต่ละคนที่ทดสอบจริง ๆ มีหรือไม่มีโรค ผลสอบอาจเป็นบวก คือจัดบุคคลว่ามีโรค หรือเป็นลบ คือจัดบุคคลว่าไม่มีโรค แต่ผลของแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกับภาวะจริง ๆ ดังนั้น จะมีกรณีต่าง ๆ 4 อย่าง คือ- ผลบวกจริง (true positive) ผู้ป่วยตรวจพบว่ามีโรคอย่างถูกต้อง - ผลบวกปลอม (false positive) คนปกติตรวจพบว่ามีโรคอย่างไม่ถูกต้อง - ผลลบจริง (true negative) คนปกติตรวจพบว่าไม่มีโรคอย่างถูกต้อง - ผลลบปลอม (false negative) คนป่วยตรวจพบว่าไม่มีโรคอย่างไม่ถูกต้อง โดยทั่วไป Positive = identified และ negative = rejected ดังนั้น- True positive = correctly identified - False positive = incorrectly identified - True negative = correctly rejected - False negative = incorrectly rejected เราจะพิจารณากลุ่มทดสอบที่มีผลบวกมีจำนวน P และผลลบมีจำนวน N เนื่องจากโรคบางอย่าง ผล 4 อย่างสามารถทำเป็นตาราง contingency table หรือ confusion matrix ดังต่อไปนี้ความไว ความไว. ความไวหมายถึงสมรรถภาพของการทดสอบในการตรวจหาคนที่มีภาวะนั้น ๆ ในตัวอย่างของเรา ค่าความไวคือสัดส่วนของบุคคลที่ได้ผลบวกจากการทดสอบในบรรดาคนที่มีโรค ซึ่งเขียนเป็นสมการได้ดังต่อไปนี้ ผลลบจากการทดสอบที่ไวสูงจะมีประโยชน์ในการกันโรคออก (ruling out) คือเชื่อถือได้เมื่อผลเป็นลบ เพราะว่ามันไม่ค่อยวินิจฉัยผู้ที่มีโรคผิด การทดสอบที่ไว 100% จะตรวจเจอคนไข้ที่มีโรคทั้งหมดโดยให้ผลบวก ดังนั้น ผลลบจึงกันออกได้อย่างแน่นอนว่า คนไข้ไม่มีโรค แต่ผลบวกของการทดสอบที่ไวสูงไม่สามารถยืนยันว่ามีโรค (ruling in) คือ ลองสมมุติว่ามีการทดสอบ "ปลอม" ที่ออกแบบให้ออกแต่ผลบวกเท่านั้น ดังนั้น เมื่อทดสอบคนไข้ที่มีโรค คนไข้ทั้งหมดก็จะได้ผลบวก ซึ่งบ่งว่าการทดสอบมีความไว 100% แต่ว่า โดยนิยามแล้ว ค่าความไวไม่สามารถกันผลบวกปลอมได้ เพราะว่า การทดสอบปลอมก็จะออกผลบวกสำหรับคนปกติทั้งหมด ซึ่งบ่งว่าการทดสอบมีอัตราผลบวกปลอม 100% ทำให้ไม่มีประโยชน์อะไรในการตรวจจับ หรือยืนยันว่ามีโรค ความไวไม่ใช่อย่างเดียวกับความเที่ยง (precision) หรือค่าทำนายเมื่อผลเป็นบวก (positive predictive value) ซึ่งเป็นอัตราส่วนของผลบวกจริงต่อค่ารวมของผลบวกจริงกับผลบวกปลอม คือเป็นสัดส่วนของผลบวกจริงต่อประชากรที่แสดงผลบวก การคำนวณค่าความไวไม่รวมผลการทดสอบที่คลุมเครือ ถ้าไม่สามารถทดสอบใหม่ได้ ตัวอย่างที่คลุมเครือไม่ควรจะรวมเข้าเพื่อวิเคราะห์ (โดยให้ระบุจำนวนตัวอย่างที่ยกเว้นเมื่อแสดงค่าความไว) หรือสามารถปฏิบัติเหมือนกับผลลบปลอม (ซึ่งจะเป็นการแสดงค่าต่ำสุดของความไว และดังนั้น อาจจะเป็นค่าประเมินที่น้อยเกินจริง)ความจำเพาะ ความจำเพาะ. ความจำเพาะเป็นสมรรถภาพของการทดสอบในการตรวจหาบุคคลที่ไม่มีภาวะนั้น ๆ ลองพิจารณาตัวอย่างการทดสอบคนไข้ของเรา ค่าความจำเพาะของการทดสอบก็คือสัดส่วนของบุคคลปกติที่ไม่มีโรค ผู้จะทดสอบได้ผลลบ ซึ่งสามารถเขียนเป็นสมการ การได้ผลบวกจากการทดสอบจำเพาะสูงมีประโยชน์ในการวินิจฉัยว่าเป็นโรค (ruling in) เพราะว่า การทดสอบนี้ไม่ค่อยให้ผลบวกในคนปกติ เมื่อผลทดสอบเป็นบวก การทดสอบที่จำเพาะ 100% แสดงว่า ทั้งหมดเป็นผู้ป่วยโดยไม่มีคนปกติ ผลลบในการทดสอบที่จำเพาะสูงจะไม่มีประโยชน์ในการกันโรคออก ลองสมมุติว่ามีการทดสอบ "ปลอม" ที่ออกแบบให้แสดงผลลบเท่านั้น ซึ่งเมื่อทดสอบคนปกติทุกคน ก็จะแสดงผลลบทุกคน และนี่ก็จะให้ค่าจำเพาะ 100% ต่อการทดสอบ แต่การทดสอบเดียวกันก็จะให้ผลลบต่อผู้ป่วยทั้งหมดเหมือนกัน ดังนั้น ก็จะมีอัตราอัตราผลลบปลอมที่ 100% ซึ่งไม่มีประโยชน์อะไรในการกันโรคออก (ruling out) ความจำเพาะโดยนิยามไม่สามารถกันผลลบปลอมได้ การทดสอบที่จำเพาะสูงจะมีอัตราความผิดพลาดชนิดที่ 1 ต่ำตัวอย่างแสดงเป็นรูปตัวอย่างในการแพทย์ ตัวอย่างในการแพทย์. ในการวินิจฉัยทางการแพทย์ ความไวเป็นสมรรถภาพของการทดสอบในการระบุคนที่มีโรคอย่างถูกต้อง (อัตราผลบวกจริง) เทียบกับความจำเพาะที่เป็นสมรรถภาพในการระบุผู้ที่ไม่มีโรคอย่างถูกต้อง (อัตราผลลบจริง) ถ้ามีผู้ป่วย 100 คนที่ทดสอบ แต่มีเพียง 43 คนที่ได้ผลบวก การทดสอบนี้ก็จะมีความไว 43% ถ้ามีคนปกติ 100 คนที่ทดสอบ แต่มีคน 96 ที่ได้ผลลบ การทดสอบนี้ก็จะมีความจำเพาะ 96% ความไวและความจำเพาะเป็นคุณสมบัติของการทดสอบที่เป็นอิสระจากความชุกของโรค เพราะว่า ค่าของมันเฉพาะกับการทดสอบและไม่ได้ขึ้นอยู่กับความชุกของกลุ่มประชากรที่เป็นประเด็น เทียบกับค่าทำนายเมื่อผลเป็นบวก (positive predictive value) และค่าทำนายเมื่อผลเป็นลบ (negative predictive value) ซึ่งเป็นค่าที่ขึ้นกับความชุกของกลุ่มประชากรที่ทดสอบ แต่ความจำเพาะและความไวไม่ใช่ ค่าเหล่านี้แสดงให้ดูเป็นกราฟในแอปเพล็ตนี้ (Bayesian clinical diagnostic model) ซึ่งแสดงค่าทำนายเมื่อผลเป็นบวกและเมื่อผลเป็นลบโดยเป็นฟังก์ชันของความชุกของโรค ความไว และความจำเพาะสิ่งที่อาจทำให้เข้าใจผิด สิ่งที่อาจทำให้เข้าใจผิด. มักกล่าวกันว่า การทดสอบที่จำเพาะสูงมีประโยชน์ในการยืนยันว่ามีโรคเมื่อได้ผลบวก และการทดสอบที่ไวสูงในการกันโรคออกเมื่อได้ผลลบ มีแม้แต่รหัสช่วยจำ คือ SPIN และ SNOUT ที่ใช้กันอย่างกว้างขวาง ซึ่งมาจากวลีว่า a highly 'SPecific' test, when Positive, rules IN disease (SP-P-IN) คือ การทดสอบที่จำเพาะสูง เมื่อได้ผลบวก จะยืนยันโรค และจากวลีว่า a highly 'SeNsitive' test, when Negative rules OUT disease (SN-N-OUT) คือ การทดสอบที่ไวสูง เมื่อได้ผลบวก จะกันโรคออก แต่กฎทั้งสองนี้อาจทำให้เข้าใจเหตุผลผิดได้ เพราะว่า กำลังการวินิจฉัยของการทดสอบอย่างใดอย่างหนึ่งจะขึ้นอยู่กับทั้งความไวและความจำเพาะตารางแบบเติมตัวเลขการประเมินความผิดพลาดของค่าความไวและความจำเพาะ การประเมินความผิดพลาดของค่าความไวและความจำเพาะ. ค่าความไวและความจำเพาะเพียงอย่างเดียวอาจทำให้เข้าใจผิด คือ จะต้องคำนวณค่าแย่ที่สุด (worst-case) ของค่าทั้งสองเพื่อเลี่ยงการพึ่งผลการทดลองที่มีจำนวนน้อย ยกตัวอย่างเช่น การทดสอบหนึ่งไว 100% เมื่อเทียบกับวิธีการมาตรฐาน (gold standard) 4 ครั้ง แต่ว่าการทดสอบอีกครั้งหนึ่งแสดงผลที่ไม่เท่าเทียม คือเท่ากับแสดงความไวแค่ 80% วิธีสามัญอย่างหนึ่งก็คือมีการบ่ง binomial proportion confidence interval (คือ ช่วงความเชื่อมั่นในสัดส่วนหนึ่งของประชากรทางสถิติ) ซึ่งบ่อยครั้งคำนวณโดยใช้ Wilson score interval ดังนั้น ช่วงความเชื่อมั่น (confidence intervals) ของค่าความไวและความจำเพาะสามารถคำนวณได้ โดยให้พิสัยของค่า (คือกำหนดค่าสูงและต่ำ) ที่อยู่ในระดับความเชื่อมั่นขั้นหนึ่ง (เช่น ความเชื่อมั่นที่ 95% ว่าค่าอยู่ระหว่างค่านี้กับค่านี้)ศัพท์ในศาสตร์การค้นคืนสารสนเทศ ศัพท์ในศาสตร์การค้นคืนสารสนเทศ. ในการค้นคืนสารสนเทศ (information retrieval) ค่าทำนายเมื่อผลเป็นบวกเรียกว่า precision (ความเที่ยง) และค่าความไวเรียกว่า recall แต่ไม่เหมือนกับการแลกเปลี่ยนข้อดีข้อเสียระหว่างความจำเพาะเทียบกับความไว ค่าทั้งสองนี้เป็นอิสระจากผลลบจริง (true negative) ซึ่งปกติจะเป็นข้อมูลที่ไม่รู้โดยมีจำนวนมากกว่าจำนวนเอกสารที่เกี่ยวข้องและต้องการค้นคืนมาก และข้อสมมุติในเรื่องนี้ว่า ผลลบจริงเป็นจำนวนที่ใหญ่กว่ามากจะไม่ค่อยมีในการประยุกต์ใช้ค่าสองอย่างนี้ในประเด็นอื่น ๆ จึงมีการใช้ F-score เป็นค่าเดียวที่แสดงประสิทธิภาพของการทดสอบที่ได้ผลบวก โดยเป็น harmonic mean ของ precision และ recall คือศัพท์ในสถิติ ศัพท์ในสถิติ. ในการศึกษาโดยการตรวจสอบสมมติฐานทางสถิติ (statistical hypothesis testing) ความไวของการทดสอบจะเรียกว่า กำลังทางสถิติ (statistical power) ของการทดสอบ แต่คำว่า กำลัง (power) ในเรื่องนี้มีความหมายกว้างกว่าความไวที่ใช้ในบทความนี้ การทดสอบที่ไวจะมีความผิดพลาดชนิดที่ 2 จำนวนน้อยกว่า
ค่าตัวไหนที่เป็นค่าเดียวที่แสดงประสิทธิภาพของการทดสอบที่ได้ผลบวก
{ "answer": [ "F-score" ], "answer_begin_position": [ 7803 ], "answer_end_position": [ 7810 ] }
1,207
884,687
พระนางเอลฟรีดา เอลฟ์ธรีธ [ภาษาอังกฤษ Ælfthryth] หรือบางครั้งก็เรียกว่า เอลฟรีด้า [ภาษาอังกฤษ Elfrida] เป็นราชินีแห่งอังกฤษ มเหสีองค์ที่สองหรือไม่ก็ที่สามของพระเจ้าเอ็ดการ์แห่งอังกฤษ เอลฟ์ธรีธเป็นมเหสีของกษัตริย์พระองค์แรกที่เป็นที่รับรู้ว่าได้รับการสวมมงกุฎและเจิมน้ำมันเป็นราชินีแห่งอาณาจักรอังกฤษ พระองค์เป็นพระมารดาของเอเธลเร็ดผู้ไม่พร้อม ทรงเป็นบุคคลทางการเมืองที่มีอำนาจ และอาจเกี่ยวข้องกับการปลงพระชนม์พระโอรสเลี้ยง พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดมรณสักขีราชินีคู่สมรสแห่งอังกฤษ ราชินีคู่สมรสแห่งอังกฤษ. เอลฟ์ธรีธเป็นบุตรสาวของผู้นำท้องถิ่นออร์ดการ์แห่งเดวอน พระราชสมภพในปีค.ศ.945 พระมารดาของพระองค์ถูกพูดถึงว่าเป็นสมาชิกของราชวงศ์เวสเซ็กซ์ พระบิดาของพระองค์ ผู้นำท้องถิ่นออร์ดการ์ เป็นเจ้าของที่ดินในเขตการปกครองท้องถิ่นตั้งแต่เอ็กเซเตอร์ในเดวอนจนถึงฟรูมในซัมเมอร์เซ็ต ออร์ดการ์ถูกฝังในเอ็กเซเตอร์ และบุตรชายของเขา ออร์ดวูล์ฟ สร้างทาวิสต็อกแอบบีย์หรือไม่ก็สร้างขึ้นมาใหม่ เอลฟ์ธรีธกลายเป็นมเหสีองค์ที่สองของพระเจ้าเอ็ดการ์ผู้รักสงบ พระราชปนัดดาของอัลเฟรดมหาราช ตามคำบอกเล่าของเบิร์ทเฟิร์ธแห่งแรมซีย์ พระองค์สมรสครั้งแรกกับเอเธลวาลด์ ผู้นำท้องถิ่นของอีสต์แองเกลีย บุตรชายของเอเธลสตานผู้เป็นกษัตริย์ครึ่งหนึ่ง วิลเลี่ยมแห่งมาล์มสบรีเล่าว่าความงามของเอลฟ์ธรีธเป็นที่สรรเสริญมากและถูกรายงานต่อพระเจ้าเอ็ดการ์ เอ็ดการ์ส่งเอเธลวาลด์ไปยลโฉมเอลฟ์ธรีธ ทรงมีพระราชบัญชาว่า "ให้เสนอการอภิเษกสมรส (กับเอ็ดการ์) หากนางงามเท่ากับที่ได้รับรายงานมา" ทว่าเอเธลวาลด์กลับแต่งงานกับเลดี้เสียเองและรายงานกลับมาหาเอ็ดการ์ว่านางค่อนข้างไม่เหมาะสม เอ็ดการ์ท้ายที่สุดก็รู้ความจริงประกาศว่าพระองค์จะเสด็จไปเยี่ยมเยียนเอลฟ์ธริธ เตือนเอเธลวาลด์ให้บอกภรรยาว่าให้ทำตัวให้ไม่ดึงดูดสายตาที่สุดเท่าที่จะทำได้ในช่วงที่กษัตริย์เสด็จมาเยี่ยมเยียน ทว่าเอลฟ์ธริธทำตรงกันข้าม เอ็ดการ์ประทับใจนางอย่างสุดซึ้งและได้สังหารเอเธลวาลด์ขณะกำลังล่าสัตว์ใกล้กับลองแพริชในแฮมพ์เชียร์ปัจจุบัน เหตุการณ์ได้รับการรำลึกในปีค.ศ.1825 โดยการสร้าง Dead Man's Plack จารึกบนด้านที่อยู่ทางเหนือของอนุสาวรีย์บรรยายถึงเหตุการณ์ตายของเอเธลวาลด์ เอลฟ์ธริธกับเอ็ดการ์อภิเษกสมรสกันและพระนางได้รับการสวมมงกุฎราชินีในวันที่ 11 พฤษภาคม ค.ศ.973 ที่บาธแอบบีย์ ซึ่งเป็นครั้งแรกของการราชาภิเษกราชินีแซ็กซันของอังกฤษ พระองค์เป็นคู่สมรสพระองค์แรกที่ได้เป็นราชินีนับตั้งแต่จูดิธ พระธิดาของชาร์ลผู้หัวล้าน ผู้ฉาวโฉ่ในศตวรรษก่อนหน้า เอลฟ์ธริธได้ประสูติพระโอรสที่มีพระนามว่าเอ็ดมุนด์ ในกฎบัตรของพระเจ้าเอ็ดการ์ที่พระราชทานอภิสิทธิ์ให้แก่นิวมินสเตอร์ วินเชสเตอร์ ในปีเดียวกัน เอ็ดมุนด์ได้เป็น "clito legitimus" (เจ้าชายแซ็กซันที่ถูกต้องตามกฎหมาย) และมาก่อนโอรสพระองค์อื่นของกษัตริย์ พระโอรสที่พระชนมายุมากกว่าจากการอภิเษกสมรสครั้งก่อน เอ็ดเวิร์ด ในรายชื่อพยาน เอ็ดมุนด์สิ้นพระชนม์ตั้งแต่ยังหนุ่มในปีค.ศ.970 แต่ในปีค.ศ.968 เอลฟ์ธรีธได้ประสูติพระโอรสองค์ที่สองที่มีพระนามว่าเอเธลเร็ด เอ็ดการ์สวรรคตในปีค.ศ.975 ทิ้งพระโอรสวัยเยาว์สองพระองค์ เอ็ดเวิร์ดและเอเธลเร็ด ไว้ พินัยกรรมของพระราชบิดาแจ้งพระนามของพระโอรสองค์โต เอ็ดเวิร์ด เป็นรัชทายาท และพระองค์ได้รับการสนับสนุนจากผู้มีอิทธิพลในยุคนั้น นักบุญดุนสตาน อาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์บรี เนื่องจากข้อโต้เถียงเรื่องพระสวามีคนแรกของเอลฟ์ธรีธ เอเธลวาลด์ อาร์ชบิชอปดุนสตานกล่าวหาเอลฟ์ธรีธกับเอ็ดการ์ว่ากระทำความผิดฐานคบชู้ สร้างความคลางแคลงใจในความชอบธรรมทางกฎหมายของเอเธลเร็ดน้อย ขุนนางหลายคนของราชอาณาจักรรวมถึงอัลเฟอร์ผู้ทรงอำนาจ ผู้นำท้องถิ่นของเมอร์เซียเอนเอียงไปทางเอเธลเร็ดวัยเจ็ดชันษา ประเทศถูกแบ่งแยกด้วยประเด็นที่ว่าโอรสพระองค์ใดควรสืบสันตติวงศ์ต่อจากพระเจ้าเอ็ดการ์ การประชุมของสภาวิทันที่ถูกจัดขึ้นที่คานในวินต์เชียร์เป็นการโต้เถียงที่ยาวนาน ท้ายที่สุดอิทธิพลของดุนสตานก็มีชียเหนือกว่าและเอ็ดเวิร์ดได้รับเลือกเป็นกษัตริย์การปลงพระชนม์พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดมาณสักขี การปลงพระชนม์พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดมาณสักขี. เอ็ดเวิร์ดได้รับการสวมมงกุฎโดยนักบุญดุนสตานที่คิงสตันเหนือเธมส์ในปีค.ศ.975 ด้วยพระชนมพรรษา 13 พรรษา หลังการบันทึกถึงการสืบสันตติวงศ์ของเอ็ดเวิร์ด พงศาวดารแองโกลแซ็กซันรายงานว่าเกิดดาวหาง และตามมาด้วยภาวะข้าวยากหมากแพงและความไม่สงบนานัปการ แม้จะผ่านไปแล้ว แต่สองพี่น้อง เอเธลเร็ดและเอ็ดเวิร์ด ดูเหมือนจะยังคงตัวติดกัน ทว่าราชินีม่ายเอลฟ์ธรีธเกลียดชังพระโอรสเลี้ยงจับใจและปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะให้พระโอรสของตนสืบสันตติวงศ์ของพระราชบิดา จากการยั่วยุของพระองค์ แผนการปลงพระชนม์กษัตริย์น้อยถูกวางขึ้นอย่างลับๆ เอ็ดเวิร์เสด็จไปเยี่ยมพระอนุชาต่างพระมารดา เอเธลเร็ดที่คอร์ฟในเนินพัวร์เบ็กของดอร์เซ็ต อจเป็นที่เดียวหรือใกล้ๆกับเนินที่ปัจจุบันซากปรังหักพังของปราสาทคอร์ฟตั้งอยู่ พระองค์เสด็จมาถึงในช่วงบ่ายของวันที่ 18 มีนาคม ค.ศ.978 ตามคำเชิญของพระมารดาเลี้ยง เอลฟ์ธรีธ ที่รอพบพระองค์อย่างมุ่งร้ายอยู่ที่ประตูและจุมพิตต้อนรับพระองค์ ต่อมาพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดได้รับการเสนอเครื่องดื่มท้องถิ่นเพื่อช่วยให้สดชื่น ขณะที่กษัตริย์หนุ่มดับกระหายอย่างสำราญหลังการเดินทางที่คลุกฝุ่น ผู้ติดตามคนหนึ่งของพระราชินีแทงหนุ่มวัย 16 พรรษาอย่างมุ่งร้ายที่หลัง แม้จะได้รับบาดเจ็บหลายแผล แต่พระองค์ก็ดึงบังเหียนม้าและหนีออกมาได้ พยายามเสด็จกลับไปหาผู้ร่วมเดินทางของพระองค์ แต่ทรงสวรรคตระหว่างทาง พระศพที่อาบเลือดของพระองค์ถูกลากกลับมาโดยสัตว์ร้าย บอกผู้ติดตามของพระองค์ให้ทราบถึงโชคชะตาของพระองค์ พงศาวดารแองโกลแซ็กซันเชื่อมโยงว่า "ปีนี้พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดถูกปลงพระชนม์ในยามเย็นที่ประตูคอร์ฟในวันที่ 15 ก่อนเดือนเมษายน (วันที่ 18 มีนาคม) และพระองค์ถูกฝังที่แวร์แฮมอย่างไร้ซึ่งเกียรติแห่งราชวงศ์" การบรรยายของพงศาวดารแองโกลแซ็กซันไม่ได้กล่าวโทษว่าใครเป็นผูสังหาร การกล่าวโทษในการปลงพระชนม์ครั้งแรกๆปรากฏอยู่ในชีวประวัติของนักบุญออสวาลด์ เขียนในปีค.ศ.1000 โดยเบิร์ทเฟิร์ธ แรมซีย์ เอ็ดเวิร์ดถูกพูดถึงว่าได้เสด็จไปเยี่ยมเยียนพระอนุชา เอเธลเร็ด และพระมารดาเลี้ยง เอลฟ์ธรีธ กลุ่มคนของเอเธลเร็ดเจิกับเอ็ดเวิร์ดและแทงพระองค์ก่อนที่จะทรงลงจากพาหนะได้ ไม่มีข้อชี้ชัดว่ามีคนอื่นนอกเหนือจากผู้ติดตามของเอเธลเร็ดเกี่ยวข้องกับการปลงพระชนม์ ในการเทศน์ของปีค.ศ.1014 อาร์ชบิชอปวูล์ฟสตานแห่งยอร์กพูดถึงการปลงพระชนม์ แต่เลี้ยงที่จะเอ่ยนามผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง "คนพวกนั้นวางแผนต่อต้านเอ็ดเวิร์ดและต่อมาก็ปลงพระชนม์พระองค์และเผาพระองค์หลังจากนั้น" เอ็ดเวิร์ดถูกฝังที่แวร์แฮมและการปลงพระชนม์พระองค์ไม่ได้รับการลงโทษ เอลฟ์ธรีธได้ขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการแทนของพระโอรสที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะจนกระทั่งพระองค์บรรลุนิติภาวะในปีค.ศ.984 เอเธลเร็ดปรากฏว่าถูกก่อกบฏโดยที่ปรึกษาอาวุโสของพระองค์ แต่น่าจะเป็นกลุ่มของขุนนางหนุ่มมากกว่า พระมารดาของพระองค์หายไปจากของพยานในกฎบัตรตั้งแต่ราวปีค.ศ.983-993 เมื่อพระนางปรากฏตัวอีกครั้งในตำแหน่งที่ต่ำกว่าเดิม พระนางยังคงเป็นคนสำคัญ มีหน้าที่ดูแลพระราชบุตรของเอเธลเร็ดกับมเหสีพระองค์แรก เอลฟ์จิฟู โอรสพระองค์โตของเอเธลเร็ด เอเธลสตาน สวดมนต์ให้กับดวงวิญญาณของพระอัยยิกาว่า "ผู้เลี้ยงดูข้า" ในพินัยกรรมในปีค.ศ.1014 ว่ากันว่าเพราะสำนึกผิดอย่างสุดซึ้งกับการปลงพระชนม์เอ็ดเวิร์ดมรณสักขี ราชินีเอลฟ์ธรีธจึงไปเป็นแม่ชีที่อารามประจำพระองค์ เวอร์เวลล์แอบบีย์ในแฮมพ์เชียร์ และสวรรคตที่นั่นในวันที่ 17 พฤศจิกายน ค.ศ.999, 1000 หรือไม่ก็ 1001 แหล่งข้อมูล แหล่งข้อมูล. - Queen Ælfthryth - Ælfthryth, wife of Edgar
เอลฟรีดา เป็นราชีนีของประเทศอะไร
{ "answer": [ "อังกฤษ" ], "answer_begin_position": [ 205 ], "answer_end_position": [ 211 ] }
1,208
884,687
พระนางเอลฟรีดา เอลฟ์ธรีธ [ภาษาอังกฤษ Ælfthryth] หรือบางครั้งก็เรียกว่า เอลฟรีด้า [ภาษาอังกฤษ Elfrida] เป็นราชินีแห่งอังกฤษ มเหสีองค์ที่สองหรือไม่ก็ที่สามของพระเจ้าเอ็ดการ์แห่งอังกฤษ เอลฟ์ธรีธเป็นมเหสีของกษัตริย์พระองค์แรกที่เป็นที่รับรู้ว่าได้รับการสวมมงกุฎและเจิมน้ำมันเป็นราชินีแห่งอาณาจักรอังกฤษ พระองค์เป็นพระมารดาของเอเธลเร็ดผู้ไม่พร้อม ทรงเป็นบุคคลทางการเมืองที่มีอำนาจ และอาจเกี่ยวข้องกับการปลงพระชนม์พระโอรสเลี้ยง พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดมรณสักขีราชินีคู่สมรสแห่งอังกฤษ ราชินีคู่สมรสแห่งอังกฤษ. เอลฟ์ธรีธเป็นบุตรสาวของผู้นำท้องถิ่นออร์ดการ์แห่งเดวอน พระราชสมภพในปีค.ศ.945 พระมารดาของพระองค์ถูกพูดถึงว่าเป็นสมาชิกของราชวงศ์เวสเซ็กซ์ พระบิดาของพระองค์ ผู้นำท้องถิ่นออร์ดการ์ เป็นเจ้าของที่ดินในเขตการปกครองท้องถิ่นตั้งแต่เอ็กเซเตอร์ในเดวอนจนถึงฟรูมในซัมเมอร์เซ็ต ออร์ดการ์ถูกฝังในเอ็กเซเตอร์ และบุตรชายของเขา ออร์ดวูล์ฟ สร้างทาวิสต็อกแอบบีย์หรือไม่ก็สร้างขึ้นมาใหม่ เอลฟ์ธรีธกลายเป็นมเหสีองค์ที่สองของพระเจ้าเอ็ดการ์ผู้รักสงบ พระราชปนัดดาของอัลเฟรดมหาราช ตามคำบอกเล่าของเบิร์ทเฟิร์ธแห่งแรมซีย์ พระองค์สมรสครั้งแรกกับเอเธลวาลด์ ผู้นำท้องถิ่นของอีสต์แองเกลีย บุตรชายของเอเธลสตานผู้เป็นกษัตริย์ครึ่งหนึ่ง วิลเลี่ยมแห่งมาล์มสบรีเล่าว่าความงามของเอลฟ์ธรีธเป็นที่สรรเสริญมากและถูกรายงานต่อพระเจ้าเอ็ดการ์ เอ็ดการ์ส่งเอเธลวาลด์ไปยลโฉมเอลฟ์ธรีธ ทรงมีพระราชบัญชาว่า "ให้เสนอการอภิเษกสมรส (กับเอ็ดการ์) หากนางงามเท่ากับที่ได้รับรายงานมา" ทว่าเอเธลวาลด์กลับแต่งงานกับเลดี้เสียเองและรายงานกลับมาหาเอ็ดการ์ว่านางค่อนข้างไม่เหมาะสม เอ็ดการ์ท้ายที่สุดก็รู้ความจริงประกาศว่าพระองค์จะเสด็จไปเยี่ยมเยียนเอลฟ์ธริธ เตือนเอเธลวาลด์ให้บอกภรรยาว่าให้ทำตัวให้ไม่ดึงดูดสายตาที่สุดเท่าที่จะทำได้ในช่วงที่กษัตริย์เสด็จมาเยี่ยมเยียน ทว่าเอลฟ์ธริธทำตรงกันข้าม เอ็ดการ์ประทับใจนางอย่างสุดซึ้งและได้สังหารเอเธลวาลด์ขณะกำลังล่าสัตว์ใกล้กับลองแพริชในแฮมพ์เชียร์ปัจจุบัน เหตุการณ์ได้รับการรำลึกในปีค.ศ.1825 โดยการสร้าง Dead Man's Plack จารึกบนด้านที่อยู่ทางเหนือของอนุสาวรีย์บรรยายถึงเหตุการณ์ตายของเอเธลวาลด์ เอลฟ์ธริธกับเอ็ดการ์อภิเษกสมรสกันและพระนางได้รับการสวมมงกุฎราชินีในวันที่ 11 พฤษภาคม ค.ศ.973 ที่บาธแอบบีย์ ซึ่งเป็นครั้งแรกของการราชาภิเษกราชินีแซ็กซันของอังกฤษ พระองค์เป็นคู่สมรสพระองค์แรกที่ได้เป็นราชินีนับตั้งแต่จูดิธ พระธิดาของชาร์ลผู้หัวล้าน ผู้ฉาวโฉ่ในศตวรรษก่อนหน้า เอลฟ์ธริธได้ประสูติพระโอรสที่มีพระนามว่าเอ็ดมุนด์ ในกฎบัตรของพระเจ้าเอ็ดการ์ที่พระราชทานอภิสิทธิ์ให้แก่นิวมินสเตอร์ วินเชสเตอร์ ในปีเดียวกัน เอ็ดมุนด์ได้เป็น "clito legitimus" (เจ้าชายแซ็กซันที่ถูกต้องตามกฎหมาย) และมาก่อนโอรสพระองค์อื่นของกษัตริย์ พระโอรสที่พระชนมายุมากกว่าจากการอภิเษกสมรสครั้งก่อน เอ็ดเวิร์ด ในรายชื่อพยาน เอ็ดมุนด์สิ้นพระชนม์ตั้งแต่ยังหนุ่มในปีค.ศ.970 แต่ในปีค.ศ.968 เอลฟ์ธรีธได้ประสูติพระโอรสองค์ที่สองที่มีพระนามว่าเอเธลเร็ด เอ็ดการ์สวรรคตในปีค.ศ.975 ทิ้งพระโอรสวัยเยาว์สองพระองค์ เอ็ดเวิร์ดและเอเธลเร็ด ไว้ พินัยกรรมของพระราชบิดาแจ้งพระนามของพระโอรสองค์โต เอ็ดเวิร์ด เป็นรัชทายาท และพระองค์ได้รับการสนับสนุนจากผู้มีอิทธิพลในยุคนั้น นักบุญดุนสตาน อาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์บรี เนื่องจากข้อโต้เถียงเรื่องพระสวามีคนแรกของเอลฟ์ธรีธ เอเธลวาลด์ อาร์ชบิชอปดุนสตานกล่าวหาเอลฟ์ธรีธกับเอ็ดการ์ว่ากระทำความผิดฐานคบชู้ สร้างความคลางแคลงใจในความชอบธรรมทางกฎหมายของเอเธลเร็ดน้อย ขุนนางหลายคนของราชอาณาจักรรวมถึงอัลเฟอร์ผู้ทรงอำนาจ ผู้นำท้องถิ่นของเมอร์เซียเอนเอียงไปทางเอเธลเร็ดวัยเจ็ดชันษา ประเทศถูกแบ่งแยกด้วยประเด็นที่ว่าโอรสพระองค์ใดควรสืบสันตติวงศ์ต่อจากพระเจ้าเอ็ดการ์ การประชุมของสภาวิทันที่ถูกจัดขึ้นที่คานในวินต์เชียร์เป็นการโต้เถียงที่ยาวนาน ท้ายที่สุดอิทธิพลของดุนสตานก็มีชียเหนือกว่าและเอ็ดเวิร์ดได้รับเลือกเป็นกษัตริย์การปลงพระชนม์พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดมาณสักขี การปลงพระชนม์พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดมาณสักขี. เอ็ดเวิร์ดได้รับการสวมมงกุฎโดยนักบุญดุนสตานที่คิงสตันเหนือเธมส์ในปีค.ศ.975 ด้วยพระชนมพรรษา 13 พรรษา หลังการบันทึกถึงการสืบสันตติวงศ์ของเอ็ดเวิร์ด พงศาวดารแองโกลแซ็กซันรายงานว่าเกิดดาวหาง และตามมาด้วยภาวะข้าวยากหมากแพงและความไม่สงบนานัปการ แม้จะผ่านไปแล้ว แต่สองพี่น้อง เอเธลเร็ดและเอ็ดเวิร์ด ดูเหมือนจะยังคงตัวติดกัน ทว่าราชินีม่ายเอลฟ์ธรีธเกลียดชังพระโอรสเลี้ยงจับใจและปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะให้พระโอรสของตนสืบสันตติวงศ์ของพระราชบิดา จากการยั่วยุของพระองค์ แผนการปลงพระชนม์กษัตริย์น้อยถูกวางขึ้นอย่างลับๆ เอ็ดเวิร์เสด็จไปเยี่ยมพระอนุชาต่างพระมารดา เอเธลเร็ดที่คอร์ฟในเนินพัวร์เบ็กของดอร์เซ็ต อจเป็นที่เดียวหรือใกล้ๆกับเนินที่ปัจจุบันซากปรังหักพังของปราสาทคอร์ฟตั้งอยู่ พระองค์เสด็จมาถึงในช่วงบ่ายของวันที่ 18 มีนาคม ค.ศ.978 ตามคำเชิญของพระมารดาเลี้ยง เอลฟ์ธรีธ ที่รอพบพระองค์อย่างมุ่งร้ายอยู่ที่ประตูและจุมพิตต้อนรับพระองค์ ต่อมาพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดได้รับการเสนอเครื่องดื่มท้องถิ่นเพื่อช่วยให้สดชื่น ขณะที่กษัตริย์หนุ่มดับกระหายอย่างสำราญหลังการเดินทางที่คลุกฝุ่น ผู้ติดตามคนหนึ่งของพระราชินีแทงหนุ่มวัย 16 พรรษาอย่างมุ่งร้ายที่หลัง แม้จะได้รับบาดเจ็บหลายแผล แต่พระองค์ก็ดึงบังเหียนม้าและหนีออกมาได้ พยายามเสด็จกลับไปหาผู้ร่วมเดินทางของพระองค์ แต่ทรงสวรรคตระหว่างทาง พระศพที่อาบเลือดของพระองค์ถูกลากกลับมาโดยสัตว์ร้าย บอกผู้ติดตามของพระองค์ให้ทราบถึงโชคชะตาของพระองค์ พงศาวดารแองโกลแซ็กซันเชื่อมโยงว่า "ปีนี้พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดถูกปลงพระชนม์ในยามเย็นที่ประตูคอร์ฟในวันที่ 15 ก่อนเดือนเมษายน (วันที่ 18 มีนาคม) และพระองค์ถูกฝังที่แวร์แฮมอย่างไร้ซึ่งเกียรติแห่งราชวงศ์" การบรรยายของพงศาวดารแองโกลแซ็กซันไม่ได้กล่าวโทษว่าใครเป็นผูสังหาร การกล่าวโทษในการปลงพระชนม์ครั้งแรกๆปรากฏอยู่ในชีวประวัติของนักบุญออสวาลด์ เขียนในปีค.ศ.1000 โดยเบิร์ทเฟิร์ธ แรมซีย์ เอ็ดเวิร์ดถูกพูดถึงว่าได้เสด็จไปเยี่ยมเยียนพระอนุชา เอเธลเร็ด และพระมารดาเลี้ยง เอลฟ์ธรีธ กลุ่มคนของเอเธลเร็ดเจิกับเอ็ดเวิร์ดและแทงพระองค์ก่อนที่จะทรงลงจากพาหนะได้ ไม่มีข้อชี้ชัดว่ามีคนอื่นนอกเหนือจากผู้ติดตามของเอเธลเร็ดเกี่ยวข้องกับการปลงพระชนม์ ในการเทศน์ของปีค.ศ.1014 อาร์ชบิชอปวูล์ฟสตานแห่งยอร์กพูดถึงการปลงพระชนม์ แต่เลี้ยงที่จะเอ่ยนามผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง "คนพวกนั้นวางแผนต่อต้านเอ็ดเวิร์ดและต่อมาก็ปลงพระชนม์พระองค์และเผาพระองค์หลังจากนั้น" เอ็ดเวิร์ดถูกฝังที่แวร์แฮมและการปลงพระชนม์พระองค์ไม่ได้รับการลงโทษ เอลฟ์ธรีธได้ขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการแทนของพระโอรสที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะจนกระทั่งพระองค์บรรลุนิติภาวะในปีค.ศ.984 เอเธลเร็ดปรากฏว่าถูกก่อกบฏโดยที่ปรึกษาอาวุโสของพระองค์ แต่น่าจะเป็นกลุ่มของขุนนางหนุ่มมากกว่า พระมารดาของพระองค์หายไปจากของพยานในกฎบัตรตั้งแต่ราวปีค.ศ.983-993 เมื่อพระนางปรากฏตัวอีกครั้งในตำแหน่งที่ต่ำกว่าเดิม พระนางยังคงเป็นคนสำคัญ มีหน้าที่ดูแลพระราชบุตรของเอเธลเร็ดกับมเหสีพระองค์แรก เอลฟ์จิฟู โอรสพระองค์โตของเอเธลเร็ด เอเธลสตาน สวดมนต์ให้กับดวงวิญญาณของพระอัยยิกาว่า "ผู้เลี้ยงดูข้า" ในพินัยกรรมในปีค.ศ.1014 ว่ากันว่าเพราะสำนึกผิดอย่างสุดซึ้งกับการปลงพระชนม์เอ็ดเวิร์ดมรณสักขี ราชินีเอลฟ์ธรีธจึงไปเป็นแม่ชีที่อารามประจำพระองค์ เวอร์เวลล์แอบบีย์ในแฮมพ์เชียร์ และสวรรคตที่นั่นในวันที่ 17 พฤศจิกายน ค.ศ.999, 1000 หรือไม่ก็ 1001 แหล่งข้อมูล แหล่งข้อมูล. - Queen Ælfthryth - Ælfthryth, wife of Edgar
เอ็ดเวิร์ดได้รับการสวมมงกุฎ ณ คิงสตันเหนือเธมส์ด้วยพระชนมพรรษากี่พรรษา
{ "answer": [ "พระชนมพรรษา 13 พรรษา" ], "answer_begin_position": [ 3631 ], "answer_end_position": [ 3651 ] }
1,209
748,117
โปเกมอน โกลด์และซิลเวอร์ โปเกมอนภาคโกลด์ และ ภาคซิลเวอร์ () เป็นเกมโปเกมอนเกมที่สองในวิดีโอเกมชุดโปเกมอนพัฒนาโดยบริษัทเกมฟรีก และจำหน่ายโดยนินเท็นโด สำหรับเครื่องเล่นเกมบอย ต่อมาเกมได้ปรับปรุงและทำการตลาดสำหรับเครื่องเล่นเกมบอยคัลเลอร์ ออกจำหน่ายครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นใน ค.ศ. 1999 ออสเตรเลียและอเมริกาเหนือใน ค.ศ. 2000 และยุโรปใน ค.ศ. 2001 โปเกมอนภาคคริสตัล เกมภาคพิเศษ ออกจำหน่ายสำหรับเครื่องเล่นเกมบอยคัลเลอร์ราว ๆ หนึ่งปีหลังของแต่ละภูมิภาค ใน ค.ศ. 2009 นินเท็นโดนำภาคโกลด์และซิลเวอร์มาทำใหม่สำหรับเครื่องนินเท็นโด ดีเอส ในชื่อ โปเกมอนภาคฮาร์ตโกลด์และโซลซิลเวอร์ เกมนำเสนอโปเกมอนสายพันธุ์ใหม่ 100 ชนิด และผู้เล่นได้ควบคุมตัวละคร โดยที่ผู้เล่นสามารถเลือกตั้งชื่อเองได้ ภารกิจคือเป็นยอดนักต่อสู้โปเกมอน เกมทั้งสองภาคเป็นอิสระต่อกันแต่มีเนื้อหาส่วนใหญ่เหมือนกัน ขณะที่เกมทั้งสองภาคสามารถเล่นแยกกันได้ แต่จำเป็นต้องแลกเปลี่ยนระหว่างภาคและภาคก่อนหน้าเพื่อเติมเต็มโปเกเดกซ์ เนื้อเรื่องอะนิเมะภาคโจโตซากายึดตามภูมิภาคในเกม โปเกมอนภาคโกลด์และซิลเวอร์ยังคงประสบความสำเร็จมหาศาลต่อจากภาคแรก เนื่องจากโปเกมอนเริ่มทำรายได้ได้ถึงหลักพันล้าน เกมทำรายได้เกือบเท่ากับยอดขายของโปเกมอนภาคเรดและบลู และยังคงขายได้รวมหลายล้านหน่วยทั่วโลก ใน ค.ศ. 2010 ยอดขายภาคโกลด์และซิลเวอร์ที่มีการบันทึกไว้คือ 23 ล้านหน่วย เกมโปเกมอนภาคนี้เป็นเกมโปเกมอนเกมเดียวที่ออกจำหน่ายในประเทศเกาหลีใต้ก่อนก่อตั้งสำนักงานย่อยของนินเท็นโด และบริษัท โปเกมอนโคเรีย จำกัด เมื่อ ค.ศ. 2006 และจำหน่ายเกมโปเกมอนภาคไดมอนด์และเพิร์ลที่นั่น โปเกมอนภาคโกลด์และซิลเวอร์ออกจำหน่ายในประเทศเกาหลีใต้ในวันที่ 24 เมษายน ค.ศ. 2002 สำหรับเครื่องเล่นเกมบอยคัลเลอร์เช่นเดียวกับโปเกมอนภาคคริสตัลระบบเกม ระบบเกม. เช่นเดียวกับโปเกมอนภาคเรด,บลู และเยลโลว์ ตัวโปเกมอน โกลด์และซิลเวอร์ มีมุมมองการเล่นจากด้านบนหรือเรียกว่าบุคคลที่สาม โดยสามารถใช้ผู้เล่นเดินทางไปได้ทั่วโลกของเกม และสามารถสนทนากับวัตถุและตัวละครอื่นได้ ในการสำรวจโลกของเกมก็จะมีภูมิประเทศที่แตกต่างกันออกไป เช่นทุ่งหญ้า,ป่า,ถ้ำและทะเล ซึ่งก็จะมีโปเกมอนที่มีสายพันธุ์แตกต่างกันอยู่ เมื่อเราเดินสุ่มแล้วเจอกับโปเกมอนเหล่านี้หน้าจอจะสลับไปที่"ฉากต่อสู้"ซึ่งจำเป็นต้องใช้โปเกมอนของเราเข้าสู้ ตัวเกมมีเป้าหมายหลักสองประการคือ: ต้องผ่านเนื้อเรื่องหลักของเกม และต้องเอาชนะสี่จตุรเทพ(Elite Four)และแชมป์คนเก่า เพื่อที่เราจะได้เป็นเป็นแชมป์คนใหม่ และเอาชนะเรด ซึ่งเราจะต้องเติมเต็มโปเกเด็กซ์ด้วยการจับและพัฒนา ให้ได้โปเกมอนครบ251ชนิด ส่วนสำคัญจะพัฒนาและเพิ่มโปเกมอนของผู้เล่นคือ โดยผู้เล่นจะต้องต่อสู้กับโปเกมอนตัวอื่นซึ่งสามารถพบได้ในป่า หรือโปเกมอนที่มีเจ้าของฝึกอบรมอื่นๆ ก็จะมีระบบค่าประสบการณ์(EXP) และเลเวล ลักษณะพบได้ทั่วไปในวิดีโอเกมโปเกมอนทุกภาค ซึ่งก็จะทำให้โปเกมอนเกิดการพัฒนาร่างจากการต่อสู้และได้เรียนรู้ท่าต่างๆระบบใหม่ ระบบใหม่. โปเกมอน ภาคโกลด์และซิลเวอร์ยังคงรักษากลไกพื้นฐานอย่างการควบคุม,การต่อสู้และการพัฒนาร่าง คุณสมบัติใหม่ที่ถูกเพิ่มขึ้นในเกมนี้คือระบบเวลา ซึ่งใช้ระบบเวลาจริงๆที่เป็นวัน,สัปดาห์ รวมทั้งยังมีการบันทึกเหตุการณ์บางอย่าง เช่นการปรากฏตัวของโปเกมอนใหม่ๆ ซึ่งก็ส่งผลต่อเกมนี้ และมีการเพิ่มไอเทมใหม่เพื่อที่ผู้เล่นจะได้นำมาใช้ประโยชน์: มีไอเทมฟื้นฟูสำหรับโปเกมอนดังนี้ มีไอเทมใหม่ซึ่งก็คือเบอร์รี่ ซึ่งสามารถฟื้นฟูพลังชีวิตหรือรักษาผลแทรกซ้อนอื่นๆให้กับโปเกมอนในระหว่างการต่อสู้ ได้มีการเพิ่มเติมชนิดของโปเกบอล และก็ทำให้จับโปเกมอนได้ง่ายขึ้นได้ง่ายในบางสถานการณ์ ซึ่งไดมีไอเทมใหม่โปเกเกียร์ () ซึ่งมีหน้าที่เป็นนาฬิกา,แผนที่,วิทยุ,โทรศัพท์, ช่วยให้ผู้เล่นสามารถคุยกับตัวละครอื่นๆได้ รวมทั้งยังมีหมายเลขโทรศัพท์ของตนเอง และผู้อื่น และตัวละครอื่นก็สมารถโทรบอกเรื่องที่เกี่ยวกับโปเกมอนหายากที่สามารถจับได้ในบางพื้นที่ เกมนี้ได้แนะนำไรโคว,เอ็นเทย์และซุยคุน โปเกมอนในตำนานชนิดใหม่ ที่จะเดินไปรอบๆเขตโจโตและจะเปลี่ยนสถานที่บ่อย สามารถติดตามได้ด้วยโปเกเด็กซ์ ซึ่งต้องเคยเจอ และมักจะพยายามหนี แต่พลังชีวิตก็ยังถือว่าน้อย นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ที่จะพบกับโปเกมอนที่มีสีแตกต่างจากโปเกมอนตามปกติ แต่ก็ปรากฏน้อยมาก มีการเพื่มชนิดของโปเกมอนใหม่สองชนิดคือ ธาตุเหล็กและธาตุความมืด ประเภทเหล็กจะเป็นโปเกมอนที่มีการป้องกันสูงมาก และไม่ก่อการเกิดปฏิกิริยาอื่นๆ ในขณะที่ธาตุความมืดเป็นโปเกมอนประเภทมีภูมิคุ้มกันต่อท่าพลังจิตและชนะทางต่อโปเกมอนประเภทพลังจิต รวมทั้งยังมีจุดอ่อนน้อย ในภาคโกลด์และซิลเวอร์ สามารถที่จะแลกเปลี่ยนโปเกมอนได้ แต่ไม่สามารถที่จะแลกเปลี่ยนโปเกมอนที่อยู่ในเจเนอร์เรชั่นก่อนๆได้ วิธีแก้ปัญหานี้จึงต้องย้ายระบบลบที่รู้จัก จึงจะสามารถลบหรือย้ายโปเกมอนได้ ที่สำคัญอีกคือการเปลี่ยนแปลงสถานะพิเศษในการโจมตีท่าพิเศษและการป้องกันท่าพิเศษที่เพิ่มขึ้นสำหรับต่อสู้ มีการแนะนำเพศของโปเกมอนสายพันธุ์เดียวกันเป็นครั้งแรกในเกม โปเกมอนที่นำไปเก็บไว้ในโปเกมอนเดย์แคร์ พวกมันอาจจะฟักไข่ออกมาเป็นโปเกมอนตัวใหม่ โปเกมอนตัวลูกจะสืบสายพันธุ์ทางฝั่งแม่ แต่ย้ายมาจากพ่อ อย่างไรก็ตาม โปเกมอนในตำนานบางชนิดก็ไม่สามารถที่จะผสมพันธุ์ได้โครงเรื่องฉากท้องเรื่อง โครงเรื่อง. ฉากท้องเรื่อง. โปเกมอน ภาคโกลด์และซิลเวอร์ตั้งอยู่ในภูมิภาคโจโตซึ่งอยู่ติดทางตะวันตกของเขตคันโตซึ่งตั้งอยู่ในภาคเรดและบลู สามปีหลังจากบทสรุปของเกมภาคก่อน การออกแบบโจโตได้แรงบันดาลใจมาจากภูมิภาคคันไซและโทไกที่ตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่น วัดจากภูมิภาคนี้มีความงดงามอย่างมาก จึงได้ถูกใส่ไว้ในเขตโจโตเนื้อเรื่อง เนื้อเรื่อง. เช่นเดียวกับเกมภาคก่อนๆ ตัวละครของผู้เล่น(เฉพาะเด็กผู้ชายในภาคโกลด์และซิลเวอร์,สามารถเลือกเล่นตัวละครเด็กผู้หญิงได้ในภาคคริสตัล) และจะต้องเลือกโปเกมอนเริ่มต้น ต้องเลือกชิโคริตา,ฮิโนอาราชิ และวานิโนโกะซึ่งเป็นโปเกมอนเขตท้องถิ่นตัวใดตัวหนึ่ง จากศาสตราจารย์อุสึกิ หลังจากนั้นก็เริ่มต้นเดินทาง และต้องเอาชนะโรงยิมแปดยิมในเขตโจโต และเอาชนะสี่จตุรเทพเพื่อเป็นโปเกมอนมาสเตอร์ ฝ่ายคู่แข่งของเรา จะเป็นคู่แข่งลึกลับ ที่จะขโมยโปเกมอนจากศูนย์วิจัยของศาสตราจารย์อุสึกิ และจะเป็นผู้ท้าแข่งเรา ผู้เล่นยังได้พบกับแก็งค์ร็อกเก็ตผู้ชั่วร้าย ได้รวมตัวกันขึ้นมาใหม่เพื่อค้นหาหัวหน้าแก็งก์ซาคากิ และจะได้ก่อตั้งแก็งก์ใหม่อีกรอบ หลังจากผู้เล่นเอาชนะแก็งก์ร็อคเก็ตได้ทั้งหมด,สี่จตุรเทพและแชมป์ของโปเกมอนคันโตลีก ผู้เล่นจะสามารถเดินทางไปยังเขตคันโตจากเกมภาคก่อน และสมารถท้าประลองผู้นำยิมได้ มีการเปลี่ยนแปลงในเขต ซึ่งเกิดขึ้น3ปีหลังจากเหตุการณ์ในภาคเรด และ ภาคบลู หลังจากเอาชนะผู้นำยิมในเขตคันโต ผู้เล่นจะได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปยังภูเขาซิลเวอร์ได้ ในเขตนี้จะมีโปเกมอนที่แข็งแกร่งมากกว่าปกติ และลึกเข้าไปภายในถ้ำภูเขาซิลเวอร์ จะได้พบกับเรดตัวเอกของภาคเรดและภาคบลูที่ผู้เล่นสามารถท้าแข่งได้ ซึ่งเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในเกมการพัฒนา การพัฒนา. ข้อมูลของภาคโกลด์และซิลเวอร์ออกแสดงครั้งแรก ในงานนินเท็นโด สเปซเวิลด์ เอ็กซ์โปในญี่ปุ่นปีค.ศ.1997 ซึ่งเป็นงานจัดแสดงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของทั้งหมด และแตกต่างจากเกมภาคก่อนหน้านี้อย่างโปเกมอน ภาคเยลโลว์ มีการตั้งชื่อภาคใหม่ให้ดูดีกว่า"โปเกมอน ภาคเรดและบลู" และทางทีมงานก็ได้แต่งเนื้อเรื่องในเกมขึ้นใหม่ ในทวีปใหม่ และโปเกมอนสายพันธุ์ใหม่ ภาคโกลด์และซิลเวอร์ได้รับการออกแบบมาสำหรับเล่นในเครื่องเกมบอยคัลเลอร์ ทำให้พวกเขาให้การสนับสนุนในการใส่สีลงในเกมอย่างเต็มรูปแบบ และรายละเอียดเพิ่มเติมอื่นๆเพิ่มเติมในสไปรต์ ซึ่งรวมถึงสีของโปเกมอนแต่ละสายพันธุ์ ไอเทมใหม่ของเกมได้ใช้ระบบเกมแกดเจ็ต มีชื่อว่าโปเกเกียร์ ซึ่งได้เลียนแบบระบบจริงๆของนาฬิกาและสามารถใช้ได้ร่วมกันกับระบบของภาคก่อนๆได้ ในระหว่างการสัมภาษณ์สึเนะคาสุ อิชิฮาระประธานบริษัทเครียเจอร์ จำกัดโดยเอบีซี นิวส์ เขาได้ให้ข้อมูลเชิงลึกในการกพัฒนาโปเกมอนสายพันธุ์ใหม่ๆเขาอธิบายว่า" ความคิดของมอนสเตอร์แต่ละตัวนี้ล้วนมาจากจินตนาการของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ในเกมฟรีก พวกเขานำความคิดนี้มาจากประสบการณ์ในวัยเด็กของพวกเขา ทั้งจากการอ่านมังงะ,ชื่อหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น,ประสบการณ์ที่ไม่ดอนพวกเขายังเป็นเด็ก,การจับแมลง และอื่นๆ ดังนั้น จากประสบการณ์เหล่านี้ในวัยเด็ก ความคิดเหล่านี้จึงได้สร้างสรรค์โปเกมอนชนิดต่างๆออกมา" ในขณะเดียวกันโปเกมอน ภาคเรดและบลูจะมีมิว และมีโปเกมอนเซเลบีในภาคโกลด์และซิลเวอร์ แต่ก็จะได้มาจากการเข้าโปรโมทเกมในงาน เหตุการณ์แรกอย่างเป็นทางการในการได้เซเลบีมา ในงานนินเท็นโด สเปซเวิลด์ ปีค.ศ.2000 ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุม100,000คนจะได้รับโปเกมอนตัวนี้ ในการที่จะได้มา ผู้เล่นต้องส่งโปสการ์ดใส่สลาก100,000ใบรับรองเซเลบี ช่วยให้สามารถเข้าร่วมการแข่งขันและได้รับมันดนตรี ดนตรี. จุนิชิ มะสุดะแต่งเพลงของเขาด้วยอะมิกา คอมพิวเตอร์ ซึ่งสันนิษฐานว่าเพลงนี้แก้ไขให้ใช้กับMIDI ซึ่งข้อมูลนี้ก็ถูกนำไปใช้กับเกมบอยคัลเลอร์การตอบรับ
โปรเกมอนภาคโกลด์ เป็นเกมที่พัฒนาโดยบริษัทใด
{ "answer": [ "บริษัทเกมฟรีก" ], "answer_begin_position": [ 211 ], "answer_end_position": [ 224 ] }
1,210
748,117
โปเกมอน โกลด์และซิลเวอร์ โปเกมอนภาคโกลด์ และ ภาคซิลเวอร์ () เป็นเกมโปเกมอนเกมที่สองในวิดีโอเกมชุดโปเกมอนพัฒนาโดยบริษัทเกมฟรีก และจำหน่ายโดยนินเท็นโด สำหรับเครื่องเล่นเกมบอย ต่อมาเกมได้ปรับปรุงและทำการตลาดสำหรับเครื่องเล่นเกมบอยคัลเลอร์ ออกจำหน่ายครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นใน ค.ศ. 1999 ออสเตรเลียและอเมริกาเหนือใน ค.ศ. 2000 และยุโรปใน ค.ศ. 2001 โปเกมอนภาคคริสตัล เกมภาคพิเศษ ออกจำหน่ายสำหรับเครื่องเล่นเกมบอยคัลเลอร์ราว ๆ หนึ่งปีหลังของแต่ละภูมิภาค ใน ค.ศ. 2009 นินเท็นโดนำภาคโกลด์และซิลเวอร์มาทำใหม่สำหรับเครื่องนินเท็นโด ดีเอส ในชื่อ โปเกมอนภาคฮาร์ตโกลด์และโซลซิลเวอร์ เกมนำเสนอโปเกมอนสายพันธุ์ใหม่ 100 ชนิด และผู้เล่นได้ควบคุมตัวละคร โดยที่ผู้เล่นสามารถเลือกตั้งชื่อเองได้ ภารกิจคือเป็นยอดนักต่อสู้โปเกมอน เกมทั้งสองภาคเป็นอิสระต่อกันแต่มีเนื้อหาส่วนใหญ่เหมือนกัน ขณะที่เกมทั้งสองภาคสามารถเล่นแยกกันได้ แต่จำเป็นต้องแลกเปลี่ยนระหว่างภาคและภาคก่อนหน้าเพื่อเติมเต็มโปเกเดกซ์ เนื้อเรื่องอะนิเมะภาคโจโตซากายึดตามภูมิภาคในเกม โปเกมอนภาคโกลด์และซิลเวอร์ยังคงประสบความสำเร็จมหาศาลต่อจากภาคแรก เนื่องจากโปเกมอนเริ่มทำรายได้ได้ถึงหลักพันล้าน เกมทำรายได้เกือบเท่ากับยอดขายของโปเกมอนภาคเรดและบลู และยังคงขายได้รวมหลายล้านหน่วยทั่วโลก ใน ค.ศ. 2010 ยอดขายภาคโกลด์และซิลเวอร์ที่มีการบันทึกไว้คือ 23 ล้านหน่วย เกมโปเกมอนภาคนี้เป็นเกมโปเกมอนเกมเดียวที่ออกจำหน่ายในประเทศเกาหลีใต้ก่อนก่อตั้งสำนักงานย่อยของนินเท็นโด และบริษัท โปเกมอนโคเรีย จำกัด เมื่อ ค.ศ. 2006 และจำหน่ายเกมโปเกมอนภาคไดมอนด์และเพิร์ลที่นั่น โปเกมอนภาคโกลด์และซิลเวอร์ออกจำหน่ายในประเทศเกาหลีใต้ในวันที่ 24 เมษายน ค.ศ. 2002 สำหรับเครื่องเล่นเกมบอยคัลเลอร์เช่นเดียวกับโปเกมอนภาคคริสตัลระบบเกม ระบบเกม. เช่นเดียวกับโปเกมอนภาคเรด,บลู และเยลโลว์ ตัวโปเกมอน โกลด์และซิลเวอร์ มีมุมมองการเล่นจากด้านบนหรือเรียกว่าบุคคลที่สาม โดยสามารถใช้ผู้เล่นเดินทางไปได้ทั่วโลกของเกม และสามารถสนทนากับวัตถุและตัวละครอื่นได้ ในการสำรวจโลกของเกมก็จะมีภูมิประเทศที่แตกต่างกันออกไป เช่นทุ่งหญ้า,ป่า,ถ้ำและทะเล ซึ่งก็จะมีโปเกมอนที่มีสายพันธุ์แตกต่างกันอยู่ เมื่อเราเดินสุ่มแล้วเจอกับโปเกมอนเหล่านี้หน้าจอจะสลับไปที่"ฉากต่อสู้"ซึ่งจำเป็นต้องใช้โปเกมอนของเราเข้าสู้ ตัวเกมมีเป้าหมายหลักสองประการคือ: ต้องผ่านเนื้อเรื่องหลักของเกม และต้องเอาชนะสี่จตุรเทพ(Elite Four)และแชมป์คนเก่า เพื่อที่เราจะได้เป็นเป็นแชมป์คนใหม่ และเอาชนะเรด ซึ่งเราจะต้องเติมเต็มโปเกเด็กซ์ด้วยการจับและพัฒนา ให้ได้โปเกมอนครบ251ชนิด ส่วนสำคัญจะพัฒนาและเพิ่มโปเกมอนของผู้เล่นคือ โดยผู้เล่นจะต้องต่อสู้กับโปเกมอนตัวอื่นซึ่งสามารถพบได้ในป่า หรือโปเกมอนที่มีเจ้าของฝึกอบรมอื่นๆ ก็จะมีระบบค่าประสบการณ์(EXP) และเลเวล ลักษณะพบได้ทั่วไปในวิดีโอเกมโปเกมอนทุกภาค ซึ่งก็จะทำให้โปเกมอนเกิดการพัฒนาร่างจากการต่อสู้และได้เรียนรู้ท่าต่างๆระบบใหม่ ระบบใหม่. โปเกมอน ภาคโกลด์และซิลเวอร์ยังคงรักษากลไกพื้นฐานอย่างการควบคุม,การต่อสู้และการพัฒนาร่าง คุณสมบัติใหม่ที่ถูกเพิ่มขึ้นในเกมนี้คือระบบเวลา ซึ่งใช้ระบบเวลาจริงๆที่เป็นวัน,สัปดาห์ รวมทั้งยังมีการบันทึกเหตุการณ์บางอย่าง เช่นการปรากฏตัวของโปเกมอนใหม่ๆ ซึ่งก็ส่งผลต่อเกมนี้ และมีการเพิ่มไอเทมใหม่เพื่อที่ผู้เล่นจะได้นำมาใช้ประโยชน์: มีไอเทมฟื้นฟูสำหรับโปเกมอนดังนี้ มีไอเทมใหม่ซึ่งก็คือเบอร์รี่ ซึ่งสามารถฟื้นฟูพลังชีวิตหรือรักษาผลแทรกซ้อนอื่นๆให้กับโปเกมอนในระหว่างการต่อสู้ ได้มีการเพิ่มเติมชนิดของโปเกบอล และก็ทำให้จับโปเกมอนได้ง่ายขึ้นได้ง่ายในบางสถานการณ์ ซึ่งไดมีไอเทมใหม่โปเกเกียร์ () ซึ่งมีหน้าที่เป็นนาฬิกา,แผนที่,วิทยุ,โทรศัพท์, ช่วยให้ผู้เล่นสามารถคุยกับตัวละครอื่นๆได้ รวมทั้งยังมีหมายเลขโทรศัพท์ของตนเอง และผู้อื่น และตัวละครอื่นก็สมารถโทรบอกเรื่องที่เกี่ยวกับโปเกมอนหายากที่สามารถจับได้ในบางพื้นที่ เกมนี้ได้แนะนำไรโคว,เอ็นเทย์และซุยคุน โปเกมอนในตำนานชนิดใหม่ ที่จะเดินไปรอบๆเขตโจโตและจะเปลี่ยนสถานที่บ่อย สามารถติดตามได้ด้วยโปเกเด็กซ์ ซึ่งต้องเคยเจอ และมักจะพยายามหนี แต่พลังชีวิตก็ยังถือว่าน้อย นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ที่จะพบกับโปเกมอนที่มีสีแตกต่างจากโปเกมอนตามปกติ แต่ก็ปรากฏน้อยมาก มีการเพื่มชนิดของโปเกมอนใหม่สองชนิดคือ ธาตุเหล็กและธาตุความมืด ประเภทเหล็กจะเป็นโปเกมอนที่มีการป้องกันสูงมาก และไม่ก่อการเกิดปฏิกิริยาอื่นๆ ในขณะที่ธาตุความมืดเป็นโปเกมอนประเภทมีภูมิคุ้มกันต่อท่าพลังจิตและชนะทางต่อโปเกมอนประเภทพลังจิต รวมทั้งยังมีจุดอ่อนน้อย ในภาคโกลด์และซิลเวอร์ สามารถที่จะแลกเปลี่ยนโปเกมอนได้ แต่ไม่สามารถที่จะแลกเปลี่ยนโปเกมอนที่อยู่ในเจเนอร์เรชั่นก่อนๆได้ วิธีแก้ปัญหานี้จึงต้องย้ายระบบลบที่รู้จัก จึงจะสามารถลบหรือย้ายโปเกมอนได้ ที่สำคัญอีกคือการเปลี่ยนแปลงสถานะพิเศษในการโจมตีท่าพิเศษและการป้องกันท่าพิเศษที่เพิ่มขึ้นสำหรับต่อสู้ มีการแนะนำเพศของโปเกมอนสายพันธุ์เดียวกันเป็นครั้งแรกในเกม โปเกมอนที่นำไปเก็บไว้ในโปเกมอนเดย์แคร์ พวกมันอาจจะฟักไข่ออกมาเป็นโปเกมอนตัวใหม่ โปเกมอนตัวลูกจะสืบสายพันธุ์ทางฝั่งแม่ แต่ย้ายมาจากพ่อ อย่างไรก็ตาม โปเกมอนในตำนานบางชนิดก็ไม่สามารถที่จะผสมพันธุ์ได้โครงเรื่องฉากท้องเรื่อง โครงเรื่อง. ฉากท้องเรื่อง. โปเกมอน ภาคโกลด์และซิลเวอร์ตั้งอยู่ในภูมิภาคโจโตซึ่งอยู่ติดทางตะวันตกของเขตคันโตซึ่งตั้งอยู่ในภาคเรดและบลู สามปีหลังจากบทสรุปของเกมภาคก่อน การออกแบบโจโตได้แรงบันดาลใจมาจากภูมิภาคคันไซและโทไกที่ตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่น วัดจากภูมิภาคนี้มีความงดงามอย่างมาก จึงได้ถูกใส่ไว้ในเขตโจโตเนื้อเรื่อง เนื้อเรื่อง. เช่นเดียวกับเกมภาคก่อนๆ ตัวละครของผู้เล่น(เฉพาะเด็กผู้ชายในภาคโกลด์และซิลเวอร์,สามารถเลือกเล่นตัวละครเด็กผู้หญิงได้ในภาคคริสตัล) และจะต้องเลือกโปเกมอนเริ่มต้น ต้องเลือกชิโคริตา,ฮิโนอาราชิ และวานิโนโกะซึ่งเป็นโปเกมอนเขตท้องถิ่นตัวใดตัวหนึ่ง จากศาสตราจารย์อุสึกิ หลังจากนั้นก็เริ่มต้นเดินทาง และต้องเอาชนะโรงยิมแปดยิมในเขตโจโต และเอาชนะสี่จตุรเทพเพื่อเป็นโปเกมอนมาสเตอร์ ฝ่ายคู่แข่งของเรา จะเป็นคู่แข่งลึกลับ ที่จะขโมยโปเกมอนจากศูนย์วิจัยของศาสตราจารย์อุสึกิ และจะเป็นผู้ท้าแข่งเรา ผู้เล่นยังได้พบกับแก็งค์ร็อกเก็ตผู้ชั่วร้าย ได้รวมตัวกันขึ้นมาใหม่เพื่อค้นหาหัวหน้าแก็งก์ซาคากิ และจะได้ก่อตั้งแก็งก์ใหม่อีกรอบ หลังจากผู้เล่นเอาชนะแก็งก์ร็อคเก็ตได้ทั้งหมด,สี่จตุรเทพและแชมป์ของโปเกมอนคันโตลีก ผู้เล่นจะสามารถเดินทางไปยังเขตคันโตจากเกมภาคก่อน และสมารถท้าประลองผู้นำยิมได้ มีการเปลี่ยนแปลงในเขต ซึ่งเกิดขึ้น3ปีหลังจากเหตุการณ์ในภาคเรด และ ภาคบลู หลังจากเอาชนะผู้นำยิมในเขตคันโต ผู้เล่นจะได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปยังภูเขาซิลเวอร์ได้ ในเขตนี้จะมีโปเกมอนที่แข็งแกร่งมากกว่าปกติ และลึกเข้าไปภายในถ้ำภูเขาซิลเวอร์ จะได้พบกับเรดตัวเอกของภาคเรดและภาคบลูที่ผู้เล่นสามารถท้าแข่งได้ ซึ่งเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในเกมการพัฒนา การพัฒนา. ข้อมูลของภาคโกลด์และซิลเวอร์ออกแสดงครั้งแรก ในงานนินเท็นโด สเปซเวิลด์ เอ็กซ์โปในญี่ปุ่นปีค.ศ.1997 ซึ่งเป็นงานจัดแสดงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของทั้งหมด และแตกต่างจากเกมภาคก่อนหน้านี้อย่างโปเกมอน ภาคเยลโลว์ มีการตั้งชื่อภาคใหม่ให้ดูดีกว่า"โปเกมอน ภาคเรดและบลู" และทางทีมงานก็ได้แต่งเนื้อเรื่องในเกมขึ้นใหม่ ในทวีปใหม่ และโปเกมอนสายพันธุ์ใหม่ ภาคโกลด์และซิลเวอร์ได้รับการออกแบบมาสำหรับเล่นในเครื่องเกมบอยคัลเลอร์ ทำให้พวกเขาให้การสนับสนุนในการใส่สีลงในเกมอย่างเต็มรูปแบบ และรายละเอียดเพิ่มเติมอื่นๆเพิ่มเติมในสไปรต์ ซึ่งรวมถึงสีของโปเกมอนแต่ละสายพันธุ์ ไอเทมใหม่ของเกมได้ใช้ระบบเกมแกดเจ็ต มีชื่อว่าโปเกเกียร์ ซึ่งได้เลียนแบบระบบจริงๆของนาฬิกาและสามารถใช้ได้ร่วมกันกับระบบของภาคก่อนๆได้ ในระหว่างการสัมภาษณ์สึเนะคาสุ อิชิฮาระประธานบริษัทเครียเจอร์ จำกัดโดยเอบีซี นิวส์ เขาได้ให้ข้อมูลเชิงลึกในการกพัฒนาโปเกมอนสายพันธุ์ใหม่ๆเขาอธิบายว่า" ความคิดของมอนสเตอร์แต่ละตัวนี้ล้วนมาจากจินตนาการของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ในเกมฟรีก พวกเขานำความคิดนี้มาจากประสบการณ์ในวัยเด็กของพวกเขา ทั้งจากการอ่านมังงะ,ชื่อหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น,ประสบการณ์ที่ไม่ดอนพวกเขายังเป็นเด็ก,การจับแมลง และอื่นๆ ดังนั้น จากประสบการณ์เหล่านี้ในวัยเด็ก ความคิดเหล่านี้จึงได้สร้างสรรค์โปเกมอนชนิดต่างๆออกมา" ในขณะเดียวกันโปเกมอน ภาคเรดและบลูจะมีมิว และมีโปเกมอนเซเลบีในภาคโกลด์และซิลเวอร์ แต่ก็จะได้มาจากการเข้าโปรโมทเกมในงาน เหตุการณ์แรกอย่างเป็นทางการในการได้เซเลบีมา ในงานนินเท็นโด สเปซเวิลด์ ปีค.ศ.2000 ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุม100,000คนจะได้รับโปเกมอนตัวนี้ ในการที่จะได้มา ผู้เล่นต้องส่งโปสการ์ดใส่สลาก100,000ใบรับรองเซเลบี ช่วยให้สามารถเข้าร่วมการแข่งขันและได้รับมันดนตรี ดนตรี. จุนิชิ มะสุดะแต่งเพลงของเขาด้วยอะมิกา คอมพิวเตอร์ ซึ่งสันนิษฐานว่าเพลงนี้แก้ไขให้ใช้กับMIDI ซึ่งข้อมูลนี้ก็ถูกนำไปใช้กับเกมบอยคัลเลอร์การตอบรับ
แก็งค์ผู้ชั่วร้ายแก็งค์ใดที่เป็นที่รู้จักในเกมโปเกมอนและผู้เล่นจะต้องพบเจอ
{ "answer": [ "แก็งค์ร็อกเก็ต" ], "answer_begin_position": [ 5389 ], "answer_end_position": [ 5403 ] }
1,211
796,547
กบฏปีโฮเง็ง กบฏปีโฮเง็ง (; ; 28 กรกฎาคม – 16 สิงหาคม ค.ศ. 1156) เป็นสงครามกลางเมือง ช่วงสั้น ๆ ที่เกิดขึ้นจากความขัดแย้งเรื่องสิทธิในการสืบราชบัลลังก์ดอกเบญจมาศ ระหว่างจักรพรรดิโกะ-ชิระกะวะกับอดีตจักรพรรดิซุโตะกุ หลังจากเสร็จสิ้นสงครามที่ยาวนานถึง 20 วันปรากฎว่าฝ่ายอดีตจักรพรรดิซุโตะกุเป็นฝ่ายพ่ายแพ้โยะรินะงะตายในที่รบส่วนทะเมะโยะชิและทะดะมะซะถูกประหารชีวิตทางด้านทะเมะโตะโมะบุตรชายของทะเมะโยะชิและน้องชายของโยะชิโตะโมะหนีรอดไปได้ส่วนอดีตจักรพรรดิและเชื้อพระวงศ์ถูกเนรเทศไปจังหวัดคะงะวะ และสวรรคตที่นั่น และจากสงครามครั้งนี้ทำให้โยะชิโตะโมะได้ก้าวขึ้นมาเป็นประมุขคนใหม่ของตระกูลมินะโมะโตะสายเซวะเก็นจิและทำให้ตระกูลไทระและมินะโมะโตะก้าวขึ้นมาเป็นตระกูลที่มีอำนาจในเฮอัง
กบฏปีโฮเง็ง เป็นสงครามที่เกิดขึ้นจากขัดแย้งของเรื่องอะไร
{ "answer": [ "เรื่องสิทธิในการสืบราชบัลลังก์ดอกเบญจมาศ" ], "answer_begin_position": [ 206 ], "answer_end_position": [ 246 ] }
1,212
796,547
กบฏปีโฮเง็ง กบฏปีโฮเง็ง (; ; 28 กรกฎาคม – 16 สิงหาคม ค.ศ. 1156) เป็นสงครามกลางเมือง ช่วงสั้น ๆ ที่เกิดขึ้นจากความขัดแย้งเรื่องสิทธิในการสืบราชบัลลังก์ดอกเบญจมาศ ระหว่างจักรพรรดิโกะ-ชิระกะวะกับอดีตจักรพรรดิซุโตะกุ หลังจากเสร็จสิ้นสงครามที่ยาวนานถึง 20 วันปรากฎว่าฝ่ายอดีตจักรพรรดิซุโตะกุเป็นฝ่ายพ่ายแพ้โยะรินะงะตายในที่รบส่วนทะเมะโยะชิและทะดะมะซะถูกประหารชีวิตทางด้านทะเมะโตะโมะบุตรชายของทะเมะโยะชิและน้องชายของโยะชิโตะโมะหนีรอดไปได้ส่วนอดีตจักรพรรดิและเชื้อพระวงศ์ถูกเนรเทศไปจังหวัดคะงะวะ และสวรรคตที่นั่น และจากสงครามครั้งนี้ทำให้โยะชิโตะโมะได้ก้าวขึ้นมาเป็นประมุขคนใหม่ของตระกูลมินะโมะโตะสายเซวะเก็นจิและทำให้ตระกูลไทระและมินะโมะโตะก้าวขึ้นมาเป็นตระกูลที่มีอำนาจในเฮอัง
สงครามกลางเมืองกบฏปีโฮเง็ง ระหว่างจักรพรรดิโกะ-ชิระกะวะกับจักรพรรดิซุโตะกุ ใครเป็นฝ่ายแพ้
{ "answer": [ "จักรพรรดิซุโตะกุ" ], "answer_begin_position": [ 356 ], "answer_end_position": [ 372 ] }
1,213
32,950
คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นคณะนิเทศศาสตร์แห่งแรกของประเทศไทย และเป็นคณะที่ 14 ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยประวัติ ประวัติ. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้เปิดสอนวิชาการหนังสือพิมพ์ขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2482 ซึ่งเป็นหลักสูตรในระดับอนุปริญญา สังกัดในคณะอักษรศาสตร์และวิทยาศาสตร์ หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2497 ได้มีการโอนการศึกษาวิชาการหนังสือพิมพ์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไปทำการสอนที่มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง โดยได้เปิดสอนในระดับปริญญาตรี ซึ่งเป็นการสิ้นสุดการสอนในสาขานิเทศศาสตร์ในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยตั้งแต่นั้นมา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้จัดการเรียนการสอนในสาขาวิชานิเทศศาสตร์อีกครั้งในแผนกสื่อสารมวลชนและการประชาสัมพันธ์ สังกัดอยู่กับคณะรัฐศาสตร์ เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2508 ดังนั้น จึงถือเอาวันที่ 5 กรกฎาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสถาปนาคณะนิเทศศาสตร์ หลักจากนั้น ในปี พ.ศ. 2509 ได้พระราชกฤษฎีกาจัดตั้ง "แผนกสื่อสารมวลชนและการประชาสัมพันธ์" ซึ่งเป็นแผนกอิสระ มีฐานะเทียบเท่าคณะหนึ่งในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีสีน้ำเงิน (Royal Blue) เป็นสีประจำแผนกอิสระฯ และมีสัญลักษณ์เป็นแตรสังข์ ต่อมาจึงได้รับการยกฐานะขึ้นเป็น "คณะนิเทศศาสตร์" เมื่อปี พ.ศ. 2517 นับเป็นคณะที่ 14 ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมี ศ.บำรุงสุข สีหอำไพ เป็นคณบดีคนแรก ปัจจุบันคณะนิเทศศาสตร์ ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของถนนพญาไท (ตรงข้ามกับคณะวิทยาศาสตร์) ในพื้นที่บริเวณเดียวกับคณะนิติศาสตร์ โดยมีอาคารทำการของคณะฯ 3 อาคาร คือ อาคารนิเทศศาสตร์ 1 อาคารนิเทศศาสตร์ 2 และอาคารมงกุฎสมมติวงศ์ เป็นอาคารสูง 12 ชั้น เพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์ทางการสื่อสารมวลชนที่ทันสมัย และอาคารพินิตประชานาถซึ่งเป็นอาคารเรียนส่วนกลางของมหาวิทยาลัยซึ่งใช้ร่วมกับคณะนิติศาสตร์หน่วยงานหน่วยงาน. - ภาควิชาการภาพยนตร์และภาพนิ่ง - ภาควิชาการประชาสัมพันธ์ - ภาควิชาการสื่อสารมวลชน - ภาควิชาวาทวิทยาและสื่อสารการแสดง - ภาควิชาวารสารสนเทศหลักสูตรเพลงประจำคณะ เพลงประจำคณะ. เพลงนี้ครูแก้ว อัจฉริยะกุลและครูเอื้อ สุนทรสนานร่วมกันประพันธ์ให้นิสิตสื่อสารมวลชนและการประชาสัมพันธ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อเป็นเพลงประจำคณะ ตลอดจนประจำนักสื่อสารมวลชนและนักประชาสัมพันธ์โดยทั่วไปด้วย สองครูเพลงผู้เลื่องชื่อท่านนี้มิได้ประพันธ์เพลงร่วมกันตามลำพังมาเป็นระยะเวลานาน เพลงนี้จึงนับว่าเป็นผลงานการประพันธ์เพลงร่วมกันครั้งสำคัญอีกชิ้นหนึ่ง ซึ่งประพันธ์เสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2509ละครเวที ละครเวที. นิสิตคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจัดกิจกรรมละครเวทีขึ้นเป็นประจำ นับตั้งแต่ พ.ศ. 2529 เพื่อให้เกิดกิจกรรมที่นิสิตในคณะได้ใช้โอกาสในการร่วมมือกันทำละคร เป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้อง ในคณะ โดยมีรายชื่อละครเวที ดังต่อไปนี้- 2511 - เรียนรัก - 2512 - ผาลั่น - 2513 - ศรีธรรมาโศกราช - 2515 - ราโชมอน - 2517 - ชีสิน - 2529 - ยอยี่ อยากจะฝันอย่างนี้สามสี่ชาติ - 2529 - Try Out มึงจะเอากูมั๊ย - 2530 - 7 เซียนซามูไร - 2532 - อัศวินโต๊ะกลม - 2533 - Once upon a time in the west - 2534 - ขจร ผู้เกลียดวิชาประวัติศาสตร์ - 2535 - สุภาพบุรุษสุดปลายจมูก - 2536 - ขอร้องเถอะ - 2537 - วีรบุรุษเจ้าสำราญ - 2538 - ยอดชายนายบังเอิญ- 2539 - มหัศจรรย์บัลลังก์อลเวง - 2540 - แก๊งสเตอร์ และเธอคนเดียว - 2541 - วิเศษนิยม - 2542 - ร้านสะดวกหลอน - 2543 - กาลคืนหนึ่ง - 2544 - อีสป เวตาล นิทานฮัดช่า - 2545 - นิทราวาณิชย์ - 2546 - ลำซิ่งซิงเกอร์ - 2547 - ซานเทียน หอนางฟ้า ยามหายุทธ - 2548 - THE LUCIANOs - 2549 - เทพนิยำ คนอลหม่าน นิทานอลเวง - 2550 - เปิด(กระ)โปงคอนแวนต์ - 2551 - คาเฟ่สีรุ้ง คณะวุ่น คดีป่วน - 2552 - วิมานมายา - 2553 - The Finalé โรงละคร ความรัก นักประพันธ์- 2554 - Westonhood - 2555 - วงกฎ - 2556 - ปิ๊กกะแอน - 2557 - INWHITE "เห็นผลได้ในสองสัปดาห์" - 2558 - The Villa Smaris ขอเซอร์วิสให้วิลิศมาหรา - 2559 - Secret Alert ห้ามเปิด ก่อนได้รับอนุญาต - 2560 - Bharata Shaadi สะบัดส่าหรีหนีโสดบุคคลที่มีชื่อเสียง
คณะนิเทศศาสตร์แห่งแรกของประเทศไทยเปิดสอนที่มหาวิทยาลัยใด
{ "answer": [ "จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย" ], "answer_begin_position": [ 161 ], "answer_end_position": [ 182 ] }
3,893
32,950
คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นคณะนิเทศศาสตร์แห่งแรกของประเทศไทย และเป็นคณะที่ 14 ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยประวัติ ประวัติ. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้เปิดสอนวิชาการหนังสือพิมพ์ขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2482 ซึ่งเป็นหลักสูตรในระดับอนุปริญญา สังกัดในคณะอักษรศาสตร์และวิทยาศาสตร์ หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2497 ได้มีการโอนการศึกษาวิชาการหนังสือพิมพ์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไปทำการสอนที่มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง โดยได้เปิดสอนในระดับปริญญาตรี ซึ่งเป็นการสิ้นสุดการสอนในสาขานิเทศศาสตร์ในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยตั้งแต่นั้นมา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้จัดการเรียนการสอนในสาขาวิชานิเทศศาสตร์อีกครั้งในแผนกสื่อสารมวลชนและการประชาสัมพันธ์ สังกัดอยู่กับคณะรัฐศาสตร์ เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2508 ดังนั้น จึงถือเอาวันที่ 5 กรกฎาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสถาปนาคณะนิเทศศาสตร์ หลักจากนั้น ในปี พ.ศ. 2509 ได้พระราชกฤษฎีกาจัดตั้ง "แผนกสื่อสารมวลชนและการประชาสัมพันธ์" ซึ่งเป็นแผนกอิสระ มีฐานะเทียบเท่าคณะหนึ่งในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีสีน้ำเงิน (Royal Blue) เป็นสีประจำแผนกอิสระฯ และมีสัญลักษณ์เป็นแตรสังข์ ต่อมาจึงได้รับการยกฐานะขึ้นเป็น "คณะนิเทศศาสตร์" เมื่อปี พ.ศ. 2517 นับเป็นคณะที่ 14 ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมี ศ.บำรุงสุข สีหอำไพ เป็นคณบดีคนแรก ปัจจุบันคณะนิเทศศาสตร์ ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของถนนพญาไท (ตรงข้ามกับคณะวิทยาศาสตร์) ในพื้นที่บริเวณเดียวกับคณะนิติศาสตร์ โดยมีอาคารทำการของคณะฯ 3 อาคาร คือ อาคารนิเทศศาสตร์ 1 อาคารนิเทศศาสตร์ 2 และอาคารมงกุฎสมมติวงศ์ เป็นอาคารสูง 12 ชั้น เพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์ทางการสื่อสารมวลชนที่ทันสมัย และอาคารพินิตประชานาถซึ่งเป็นอาคารเรียนส่วนกลางของมหาวิทยาลัยซึ่งใช้ร่วมกับคณะนิติศาสตร์หน่วยงานหน่วยงาน. - ภาควิชาการภาพยนตร์และภาพนิ่ง - ภาควิชาการประชาสัมพันธ์ - ภาควิชาการสื่อสารมวลชน - ภาควิชาวาทวิทยาและสื่อสารการแสดง - ภาควิชาวารสารสนเทศหลักสูตรเพลงประจำคณะ เพลงประจำคณะ. เพลงนี้ครูแก้ว อัจฉริยะกุลและครูเอื้อ สุนทรสนานร่วมกันประพันธ์ให้นิสิตสื่อสารมวลชนและการประชาสัมพันธ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อเป็นเพลงประจำคณะ ตลอดจนประจำนักสื่อสารมวลชนและนักประชาสัมพันธ์โดยทั่วไปด้วย สองครูเพลงผู้เลื่องชื่อท่านนี้มิได้ประพันธ์เพลงร่วมกันตามลำพังมาเป็นระยะเวลานาน เพลงนี้จึงนับว่าเป็นผลงานการประพันธ์เพลงร่วมกันครั้งสำคัญอีกชิ้นหนึ่ง ซึ่งประพันธ์เสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2509ละครเวที ละครเวที. นิสิตคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจัดกิจกรรมละครเวทีขึ้นเป็นประจำ นับตั้งแต่ พ.ศ. 2529 เพื่อให้เกิดกิจกรรมที่นิสิตในคณะได้ใช้โอกาสในการร่วมมือกันทำละคร เป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้อง ในคณะ โดยมีรายชื่อละครเวที ดังต่อไปนี้- 2511 - เรียนรัก - 2512 - ผาลั่น - 2513 - ศรีธรรมาโศกราช - 2515 - ราโชมอน - 2517 - ชีสิน - 2529 - ยอยี่ อยากจะฝันอย่างนี้สามสี่ชาติ - 2529 - Try Out มึงจะเอากูมั๊ย - 2530 - 7 เซียนซามูไร - 2532 - อัศวินโต๊ะกลม - 2533 - Once upon a time in the west - 2534 - ขจร ผู้เกลียดวิชาประวัติศาสตร์ - 2535 - สุภาพบุรุษสุดปลายจมูก - 2536 - ขอร้องเถอะ - 2537 - วีรบุรุษเจ้าสำราญ - 2538 - ยอดชายนายบังเอิญ- 2539 - มหัศจรรย์บัลลังก์อลเวง - 2540 - แก๊งสเตอร์ และเธอคนเดียว - 2541 - วิเศษนิยม - 2542 - ร้านสะดวกหลอน - 2543 - กาลคืนหนึ่ง - 2544 - อีสป เวตาล นิทานฮัดช่า - 2545 - นิทราวาณิชย์ - 2546 - ลำซิ่งซิงเกอร์ - 2547 - ซานเทียน หอนางฟ้า ยามหายุทธ - 2548 - THE LUCIANOs - 2549 - เทพนิยำ คนอลหม่าน นิทานอลเวง - 2550 - เปิด(กระ)โปงคอนแวนต์ - 2551 - คาเฟ่สีรุ้ง คณะวุ่น คดีป่วน - 2552 - วิมานมายา - 2553 - The Finalé โรงละคร ความรัก นักประพันธ์- 2554 - Westonhood - 2555 - วงกฎ - 2556 - ปิ๊กกะแอน - 2557 - INWHITE "เห็นผลได้ในสองสัปดาห์" - 2558 - The Villa Smaris ขอเซอร์วิสให้วิลิศมาหรา - 2559 - Secret Alert ห้ามเปิด ก่อนได้รับอนุญาต - 2560 - Bharata Shaadi สะบัดส่าหรีหนีโสดบุคคลที่มีชื่อเสียง
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้เปิดสอนวิชาการหนังสือพิมพ์ขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. ใด
{ "answer": [ "พ.ศ. 2482" ], "answer_begin_position": [ 341 ], "answer_end_position": [ 350 ] }
1,214
667,059
มิสเตอร์โกลบอล มิสเตอร์โกลบอล () เป็นการประกวดความงามชายก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2557 ในครั้งแรกมี 16 ประเทศที่ส่งตัวแทนเข้าร่วมการประกวด ผู้ที่ได้ตำแหน่งมิสเตอร์โกลบอลคนแรกได้แก่ มะยัต ทูยา ลวิน (Myat Thuya Lwin) จากเมียนมา ในครั้งที่ 3 การประกวดมิสเตอร์โกลบอลได้รับการจัดอันดับให้เป็นการประกวดระดับแกรนด์สแลม ร่วมกับ มิสเตอร์เวิลด์ มิสเตอร์อินเตอร์เนชันแนล และมิสเตอร์ซูปราเนชันแนล เปดรู ฌีกา จากบราซิล ครองตำแหน่งมิสเตอร์โกลบอล 2017ผู้ชนะการประกวดในช่วงไม่กี่ปีรางวัลพิเศษทำเนียบมิสเตอร์โกลบอลตัวแทนประเทศไทย
มิสเตอร์โกลบอล เป็นการประกวดอะไร
{ "answer": [ "ประกวดความงามชาย" ], "answer_begin_position": [ 129 ], "answer_end_position": [ 145 ] }
1,215
667,059
มิสเตอร์โกลบอล มิสเตอร์โกลบอล () เป็นการประกวดความงามชายก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2557 ในครั้งแรกมี 16 ประเทศที่ส่งตัวแทนเข้าร่วมการประกวด ผู้ที่ได้ตำแหน่งมิสเตอร์โกลบอลคนแรกได้แก่ มะยัต ทูยา ลวิน (Myat Thuya Lwin) จากเมียนมา ในครั้งที่ 3 การประกวดมิสเตอร์โกลบอลได้รับการจัดอันดับให้เป็นการประกวดระดับแกรนด์สแลม ร่วมกับ มิสเตอร์เวิลด์ มิสเตอร์อินเตอร์เนชันแนล และมิสเตอร์ซูปราเนชันแนล เปดรู ฌีกา จากบราซิล ครองตำแหน่งมิสเตอร์โกลบอล 2017ผู้ชนะการประกวดในช่วงไม่กี่ปีรางวัลพิเศษทำเนียบมิสเตอร์โกลบอลตัวแทนประเทศไทย
ใครเป็นผู้ครองตำแหน่งมิสโกลบอลคนแรก
{ "answer": [ "มะยัต ทูยา ลวิน" ], "answer_begin_position": [ 265 ], "answer_end_position": [ 280 ] }
1,216
114,275
เขื่อนราษีไศล เขื่อนราษีไศล เป็นเขื่อนคอนกรีต มีบานประตูระบายน้ำ 7 บาน กั้นแม่น้ำมูลที่บ้านห้วย-บ้านดอน ตั้งอยู่ อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ เขื่อนเริ่มเก็บกักน้ำในปี พ.ศ. 2536ประวัติ ประวัติ. เขื่อนราษีไศล เป็นเขื่อนในกลุ่มโครงการผันน้ำโขง-ชี-มูล ภายใต้การดูแลรับผิดชอบของกรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการพลังงาน เพื่อทำการผันน้ำจากแม่น้ำโขง แม่น้ำชี แม่น้ำมูล มาแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ 4.98 ล้านไร่ในเขตภาคอีสาน โดยใช้งบประมาณกว่า 2.28 แสนล้านบาท ใช้เวลาดำเนินการก่อสร้างกว่า 2 ปี เขื่อนราษีไศล ก่อสร้างโดยการอนุมัติของคณะรัฐมนตรี เมื่อปี พ.ศ. 2532 ให้ก่อสร้างเขื่อนปิดกั้นแม่น้ำมูลที่บริเวณบ้านห้วย อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ เป็นฝายยางเก็บน้ำไม่เกินตลิ่ง ตั้งงบประมาณไว้ 140.97 ล้านบาท แต่มีการดำเนินการก่อสร้างจริงในระหว่างปี พ.ศ. 2535 ถึง พ.ศ. 2536 และก่อสร้างเป็นเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็ก งบประมาณ 871.9 ล้านบาทแทน
เขื่อนฤาษีไศล ในจังหวัดศรีสะเกษ มีบานประตูระบายน้ำกี่บาน
{ "answer": [ "7 บาน" ], "answer_begin_position": [ 153 ], "answer_end_position": [ 158 ] }
1,217
114,275
เขื่อนราษีไศล เขื่อนราษีไศล เป็นเขื่อนคอนกรีต มีบานประตูระบายน้ำ 7 บาน กั้นแม่น้ำมูลที่บ้านห้วย-บ้านดอน ตั้งอยู่ อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ เขื่อนเริ่มเก็บกักน้ำในปี พ.ศ. 2536ประวัติ ประวัติ. เขื่อนราษีไศล เป็นเขื่อนในกลุ่มโครงการผันน้ำโขง-ชี-มูล ภายใต้การดูแลรับผิดชอบของกรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการพลังงาน เพื่อทำการผันน้ำจากแม่น้ำโขง แม่น้ำชี แม่น้ำมูล มาแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ 4.98 ล้านไร่ในเขตภาคอีสาน โดยใช้งบประมาณกว่า 2.28 แสนล้านบาท ใช้เวลาดำเนินการก่อสร้างกว่า 2 ปี เขื่อนราษีไศล ก่อสร้างโดยการอนุมัติของคณะรัฐมนตรี เมื่อปี พ.ศ. 2532 ให้ก่อสร้างเขื่อนปิดกั้นแม่น้ำมูลที่บริเวณบ้านห้วย อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ เป็นฝายยางเก็บน้ำไม่เกินตลิ่ง ตั้งงบประมาณไว้ 140.97 ล้านบาท แต่มีการดำเนินการก่อสร้างจริงในระหว่างปี พ.ศ. 2535 ถึง พ.ศ. 2536 และก่อสร้างเป็นเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็ก งบประมาณ 871.9 ล้านบาทแทน
กระทรวงใดดูแลรับผิดชอบเขื่อนราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ
{ "answer": [ "กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการพลังงาน" ], "answer_begin_position": [ 389 ], "answer_end_position": [ 430 ] }
1,218
864,406
ณัฐพงษ์ ขจรมาลี ณัฐพงษ์ ขจรมาลี (ชื่อเล่น: คิว; 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2537 — ) เป็นนักฟุตบอลระดับอาชีพชาวไทย ผู้ทำหน้าที่ตำแหน่งผู้รักษาประตูในการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก ร่วมกับสโมสรฟุตบอลชัยนาท ฮอร์นบิล เมื่อวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2560 เขาได้ประสบอุบัติเหตุ รถยนต์ที่เขานั่งได้ชนกับรถบรรทุกอย่างจัง ซึ่งเขาอาการสาหัส และได้รับการนำตัวส่งโรงพยาบาล ในภายหลัง ได้มีนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียงระดับโลกสามราย ได้แก่ เคิร์ต ซูมา, ออลีวีเย ฌีรู และปีแยร์-แอเมอริก โอบาเมอย็องก์ ได้ทำการจัดประมูลเสื้อเพื่อระดมทุนช่วยเหลือสำหรับเขา ซึ่งต่อมา เขามีอาการปลอดภัย
ณัฐพงษ์ ขจรมาลี เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวไทยอยู่ตำแหน่งใด
{ "answer": [ "ผู้รักษาประตู" ], "answer_begin_position": [ 211 ], "answer_end_position": [ 224 ] }
1,219
864,406
ณัฐพงษ์ ขจรมาลี ณัฐพงษ์ ขจรมาลี (ชื่อเล่น: คิว; 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2537 — ) เป็นนักฟุตบอลระดับอาชีพชาวไทย ผู้ทำหน้าที่ตำแหน่งผู้รักษาประตูในการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก ร่วมกับสโมสรฟุตบอลชัยนาท ฮอร์นบิล เมื่อวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2560 เขาได้ประสบอุบัติเหตุ รถยนต์ที่เขานั่งได้ชนกับรถบรรทุกอย่างจัง ซึ่งเขาอาการสาหัส และได้รับการนำตัวส่งโรงพยาบาล ในภายหลัง ได้มีนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียงระดับโลกสามราย ได้แก่ เคิร์ต ซูมา, ออลีวีเย ฌีรู และปีแยร์-แอเมอริก โอบาเมอย็องก์ ได้ทำการจัดประมูลเสื้อเพื่อระดมทุนช่วยเหลือสำหรับเขา ซึ่งต่อมา เขามีอาการปลอดภัย
ในวันที่ 30 เมษายน พ.ศ.2560 เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกับณัฐพงษ์ ขจรมาลี
{ "answer": [ "ประสบอุบัติเหตุ" ], "answer_begin_position": [ 324 ], "answer_end_position": [ 339 ] }
1,220
845,780
จูกัดเอี๋ยน จูกัดเอี๋ยน ( , ? — ค.ศ. 258) ชื่อรองว่า กงซิว เป็นขุนศึกแห่งวุยก๊กในช่วงปลายของ ยุคสามก๊ก จูกัดเอี๋ยนเกิดที่ตำบลหยังตูเป็นลูกพี่ลูกน้องกับ จูกัดเหลียง หรือ ขงเบ้ง อัครมหาเสนาบดีและเสนาธิการแห่ง จ๊กก๊ก แต่จูกัดเอี๋ยนกลับไปรับใช้วุยก๊กจนได้รับพระราชทานยศเป็น เจิ้งตงต้าเจียงจวิน (จอมพลปราบภาคตะวันออก) บัญชาการทหารภาคห้วยหลำ ใน ค.ศ. 255 จูกัดเอี๋ยนได้ช่วย สุมาสู บุตรชายของ สุมาอี้ ในการปราบกบฏของ บู๊ขิวเขียม และ บุนขิม เนื่องจากทั้งสองได้ให้คนส่งสาส์นนำสาส์นลับมาให้จูกัดเอี๋ยนเพื่อให้ร่วมมือกันแต่จูกัดเอี๋ยนไม่ร่วมมือด้วยและสั่งประหารคนส่งสาส์นพร้อมกับแจ้งเรื่องนี้ให้ทางสุมาสูได้ทราบ แต่ใน ค.ศ. 257 สุมาเจียว น้องชายของสุมาสูได้ขึ้นมามีอำนาจแทนพี่ชายที่ถึงแก่กรรมพยายามคิดจะแย่งราชสมบัติจาก พระเจ้าโจมอ และได้ส่ง กาอุ้น ขุนนางคนสนิทของตนไปเกลี้ยกล่อมจูกัดเอี๋ยนให้ร่วมมือกันแต่จูกัดเอี๋ยนไม่ยอมเพราะมีความจงรักภักดีต่อราชวงศ์วุยทำให้สุมาเจียวไม่พอใจกราบทูลยุยงและเป่าหูพระเจ้าโจมอว่าจูกัดเอี๋ยนเป็นขบถพระเจ้าโจมอจึงมีบัญชาให้สุมาเจียวไปปราบจูกัดเอี๋ยนที่เมืองสิ่วชุน จูกัดเอี๋ยนถึงแก่กรรมเมื่อ ค.ศ. 258 เนื่องจากถูก เฮาหุน ขุนศึกคนสนิทของสุมาเจียวฟันด้วยง้าวตายหลังจากนั้นตระกูลของจูกัดเอี๋ยนก็ถูกประหารกวาดล้างจนหมดสิ้น
จูกัดเอี๋ยน เป็นขุนศึกแห่งวุยก๊กในยุคใด
{ "answer": [ "ยุคสามก๊ก" ], "answer_begin_position": [ 179 ], "answer_end_position": [ 188 ] }
1,221
845,780
จูกัดเอี๋ยน จูกัดเอี๋ยน ( , ? — ค.ศ. 258) ชื่อรองว่า กงซิว เป็นขุนศึกแห่งวุยก๊กในช่วงปลายของ ยุคสามก๊ก จูกัดเอี๋ยนเกิดที่ตำบลหยังตูเป็นลูกพี่ลูกน้องกับ จูกัดเหลียง หรือ ขงเบ้ง อัครมหาเสนาบดีและเสนาธิการแห่ง จ๊กก๊ก แต่จูกัดเอี๋ยนกลับไปรับใช้วุยก๊กจนได้รับพระราชทานยศเป็น เจิ้งตงต้าเจียงจวิน (จอมพลปราบภาคตะวันออก) บัญชาการทหารภาคห้วยหลำ ใน ค.ศ. 255 จูกัดเอี๋ยนได้ช่วย สุมาสู บุตรชายของ สุมาอี้ ในการปราบกบฏของ บู๊ขิวเขียม และ บุนขิม เนื่องจากทั้งสองได้ให้คนส่งสาส์นนำสาส์นลับมาให้จูกัดเอี๋ยนเพื่อให้ร่วมมือกันแต่จูกัดเอี๋ยนไม่ร่วมมือด้วยและสั่งประหารคนส่งสาส์นพร้อมกับแจ้งเรื่องนี้ให้ทางสุมาสูได้ทราบ แต่ใน ค.ศ. 257 สุมาเจียว น้องชายของสุมาสูได้ขึ้นมามีอำนาจแทนพี่ชายที่ถึงแก่กรรมพยายามคิดจะแย่งราชสมบัติจาก พระเจ้าโจมอ และได้ส่ง กาอุ้น ขุนนางคนสนิทของตนไปเกลี้ยกล่อมจูกัดเอี๋ยนให้ร่วมมือกันแต่จูกัดเอี๋ยนไม่ยอมเพราะมีความจงรักภักดีต่อราชวงศ์วุยทำให้สุมาเจียวไม่พอใจกราบทูลยุยงและเป่าหูพระเจ้าโจมอว่าจูกัดเอี๋ยนเป็นขบถพระเจ้าโจมอจึงมีบัญชาให้สุมาเจียวไปปราบจูกัดเอี๋ยนที่เมืองสิ่วชุน จูกัดเอี๋ยนถึงแก่กรรมเมื่อ ค.ศ. 258 เนื่องจากถูก เฮาหุน ขุนศึกคนสนิทของสุมาเจียวฟันด้วยง้าวตายหลังจากนั้นตระกูลของจูกัดเอี๋ยนก็ถูกประหารกวาดล้างจนหมดสิ้น
ใครเป็นคนเป่าหูพระเจ้าโจมอจนทำให้จูกัดเอี๋ยนโดนประหาร
{ "answer": [ "สุมาเจียว" ], "answer_begin_position": [ 701 ], "answer_end_position": [ 710 ] }
1,222
854,189
อะซีร์ (ประเทศอิหร่าน) อะซีร์ (; การถอดเป็นอักษรโรมัน: Asīr; หรือรู้จักในชื่อ: ซีร์ Sīr) เป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศอิหร่านและเป็นเมืองหลักของเขตอะซีร์ ในเทศมณฑลโมฮ์ร จังหวัดฟาร์ส ในการสำรวจสำมะโนประชากรปี ค.ศ. 2006 เมืองมีประชากร 2,181 คน ใน 465 ครอบครัว
ในปะเทศอิหร่านมีเมืองที่เก่าแก่ที่สุดคือเมืองอะไร
{ "answer": [ "อะซีร์" ], "answer_begin_position": [ 120 ], "answer_end_position": [ 126 ] }
1,223
854,189
อะซีร์ (ประเทศอิหร่าน) อะซีร์ (; การถอดเป็นอักษรโรมัน: Asīr; หรือรู้จักในชื่อ: ซีร์ Sīr) เป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศอิหร่านและเป็นเมืองหลักของเขตอะซีร์ ในเทศมณฑลโมฮ์ร จังหวัดฟาร์ส ในการสำรวจสำมะโนประชากรปี ค.ศ. 2006 เมืองมีประชากร 2,181 คน ใน 465 ครอบครัว
การสำรวจสำมะโนประชากรปี ค.ศ.2006 ของเมืองอะซีร์ ประเทศอิหร่าน มีประชากรกี่คน
{ "answer": [ "2,181 คน" ], "answer_begin_position": [ 334 ], "answer_end_position": [ 342 ] }
1,224
395,277
พรรคสังคมสาธารณรัฐ พรรคสังคมสาธารณรัฐ ( คณบกฺสสงฺคมสาธารณรฎฺฐ; ; ) เป็นพรรคการเมืองในกัมพูชา ก่อตั้งโดยลน นลเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2515 เพื่อเข้าร่วมในการเลือกตั้งแห่งชาติของสาธารณรัฐเขมรเมื่อ 3 กันยายน พ.ศ. 2515ประวัติ ประวัติ. พรรคนี้ก่อตั้งโดยสมาคมสังคมสาธารณรัฐของลน นล และได้รับการสนับสนุนจากน้องชายของเขาคือ ลน นน และกองทัพในยุคสาธารณรัฐเขมร โดยได้ปรับเปลี่ยนสัญลักษณ์นครวัดที่เคยใช้โดยพรรคเสรีภาพของพระนโรดม นรินทเดชระหว่าง พ.ศ. 2489 – 2499 นโยบายของพรรคเป็นประชานิยม ชาตินิยม และต่อต้านคอมมิวนิสต์ ลน นลประกาศตนอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับเวียดนามเหนือและจีน ที่เข้ามามีอิทธิพลในสงครามอินโดจีนครั้งที่สอง หลักการของพรรคสามข้อที่ได้ประกาศต่อสาธารณชนคือ สาธารณรัฐ ความรับผิดชอบต่อสังคมและชาตินิยม การทำงานหลักของพรรคเป็นการสนับสนุนระบอบของลน นล ภายในพรรคมีการแบ่งแยกเป็นสองส่วน ส่วนแรกเรียกว่า ดังเร็ก เป็นกลุ่มขวาจัดนำโดยนายกรัฐมนตรี เซิง งอกทัญ และนักวิชาการฝ่ายซ้าย ฮาง ทุน ฮัก คำว่าดังเร็กนี้มาจากชื่อเทือกเขาพนมดงรักในภาษาเขมรซึ่งเป็นบริเวณที่ตั้งของกองกำลังเขมรเสรี ซึ่งเป็นกลุ่มนิยมสาธารณรัฐและต่อต้านระบอบของพระนโรดม สีหนุ อีกกลุ่มหนึ่งเรียกว่า ดังกอร์ นำโดยลน นลและกองทัพ ความแตกแยกระหว่างสองกลุ่มนี้ส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลอย่างรุนแรงการเลือกตั้ง พ.ศ. 2515 การเลือกตั้ง พ.ศ. 2515. พรรคหลักที่เป็นฝ่ายตรงข้ามของพรรคสังคมสาธารณรัฐมีสองพรรคคือ พรรคประชาธิปไตยนำโดยอิน ตัมและพรรคสาธารณรัฐนำโดยพระสีสุวัตถิ์ สิริมตะ ไม่ได้เข้าร่วมในการเลือกตั้งครั้งนี้เพราะผิดกฎหมายเลือกตั้งในขณะนั้น พรรคสังคมสาธารณรัฐได้รับเลือกตั้งทั้งหมด โดยพรรคตรงข้ามมีเพียงกรมประชาชนซึ่งไม่ได้รับการเลือกตั้งเลย ในการเลือกตั้งสภาสูง พรรคสังคมสาธารณรัฐได้รับการเลือกตั้งทั้งหมด คู่แข่งมีเพียงอดีตสมาชิกพรรคสังคมราษฎร์นิยม ซึ่งเป็นพรรคในสมัยระบอบสีหนุ พรรคสังคมราษฎร์นิยมสลายตัวไปอย่างเป็นทางการเมื่อ พ.ศ. 2514 ในขณะที่กรมประชาชนที่สลายตัวไปแล้ว ได้รับการสนับสนุนให้จัดตั้งขึ้นใหม่เพื่อสร้างภาพของระบบหลายพรรคการเมืองความขัดแย้ง ความขัดแย้ง. เซิง งอกทัญได้เป็นนายกรัฐมนตรีเพียงช่วงสั้นๆจนถึง 15 ตุลาคม พ.ศ. 2515 หลังจากที่มีการลอบสังหารฝ่ายตรงข้ามเกิดขึ้นมากซึ่งเชื่อว่าเป็นฝีมือของลน นน ฮาง ทุน ฮักขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีแทนแต่ถูกบีบให้ลาออกในช่วงต้นปี พ.ศ. 2516 หลังจากที่ฝ่ายรัฐบาลเริ่มเพลี่ยงพล้ำในสงครามกลางเมืองกัมพูชา ลอง โบเรตขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีต่อมาในช่วงปลายปี พ.ศ. 2516 ลน นนพยายามรักษาอำนาจของตนไว้แต่ถูกบังคับให้ลี้ภัยเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2516 และกลับมาใน พ.ศ. 2517 ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2518 ลน นนพยายามขึ้นเป็นเลขาธิการพรรคแม้ว่าขณะนั้น สถานการณ์ของรัฐบาลสาธารณรัฐเขมรอ่อนแอมาก มีอำนาจปกครองนอกกรุงพนมเปญเพียงเล็กน้อย ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2518 พรรคนี้สลายตัวไปพร้อมสาธารณรัฐเขมรและเข้าสู่ยุคการปกครองของเขมรแดง
พรรคสังคมสาธาณรัฐ เป็นพรรคการเมืองในประเทศอะไร
{ "answer": [ "กัมพูชา" ], "answer_begin_position": [ 178 ], "answer_end_position": [ 185 ] }
1,225
395,277
พรรคสังคมสาธารณรัฐ พรรคสังคมสาธารณรัฐ ( คณบกฺสสงฺคมสาธารณรฎฺฐ; ; ) เป็นพรรคการเมืองในกัมพูชา ก่อตั้งโดยลน นลเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2515 เพื่อเข้าร่วมในการเลือกตั้งแห่งชาติของสาธารณรัฐเขมรเมื่อ 3 กันยายน พ.ศ. 2515ประวัติ ประวัติ. พรรคนี้ก่อตั้งโดยสมาคมสังคมสาธารณรัฐของลน นล และได้รับการสนับสนุนจากน้องชายของเขาคือ ลน นน และกองทัพในยุคสาธารณรัฐเขมร โดยได้ปรับเปลี่ยนสัญลักษณ์นครวัดที่เคยใช้โดยพรรคเสรีภาพของพระนโรดม นรินทเดชระหว่าง พ.ศ. 2489 – 2499 นโยบายของพรรคเป็นประชานิยม ชาตินิยม และต่อต้านคอมมิวนิสต์ ลน นลประกาศตนอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับเวียดนามเหนือและจีน ที่เข้ามามีอิทธิพลในสงครามอินโดจีนครั้งที่สอง หลักการของพรรคสามข้อที่ได้ประกาศต่อสาธารณชนคือ สาธารณรัฐ ความรับผิดชอบต่อสังคมและชาตินิยม การทำงานหลักของพรรคเป็นการสนับสนุนระบอบของลน นล ภายในพรรคมีการแบ่งแยกเป็นสองส่วน ส่วนแรกเรียกว่า ดังเร็ก เป็นกลุ่มขวาจัดนำโดยนายกรัฐมนตรี เซิง งอกทัญ และนักวิชาการฝ่ายซ้าย ฮาง ทุน ฮัก คำว่าดังเร็กนี้มาจากชื่อเทือกเขาพนมดงรักในภาษาเขมรซึ่งเป็นบริเวณที่ตั้งของกองกำลังเขมรเสรี ซึ่งเป็นกลุ่มนิยมสาธารณรัฐและต่อต้านระบอบของพระนโรดม สีหนุ อีกกลุ่มหนึ่งเรียกว่า ดังกอร์ นำโดยลน นลและกองทัพ ความแตกแยกระหว่างสองกลุ่มนี้ส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลอย่างรุนแรงการเลือกตั้ง พ.ศ. 2515 การเลือกตั้ง พ.ศ. 2515. พรรคหลักที่เป็นฝ่ายตรงข้ามของพรรคสังคมสาธารณรัฐมีสองพรรคคือ พรรคประชาธิปไตยนำโดยอิน ตัมและพรรคสาธารณรัฐนำโดยพระสีสุวัตถิ์ สิริมตะ ไม่ได้เข้าร่วมในการเลือกตั้งครั้งนี้เพราะผิดกฎหมายเลือกตั้งในขณะนั้น พรรคสังคมสาธารณรัฐได้รับเลือกตั้งทั้งหมด โดยพรรคตรงข้ามมีเพียงกรมประชาชนซึ่งไม่ได้รับการเลือกตั้งเลย ในการเลือกตั้งสภาสูง พรรคสังคมสาธารณรัฐได้รับการเลือกตั้งทั้งหมด คู่แข่งมีเพียงอดีตสมาชิกพรรคสังคมราษฎร์นิยม ซึ่งเป็นพรรคในสมัยระบอบสีหนุ พรรคสังคมราษฎร์นิยมสลายตัวไปอย่างเป็นทางการเมื่อ พ.ศ. 2514 ในขณะที่กรมประชาชนที่สลายตัวไปแล้ว ได้รับการสนับสนุนให้จัดตั้งขึ้นใหม่เพื่อสร้างภาพของระบบหลายพรรคการเมืองความขัดแย้ง ความขัดแย้ง. เซิง งอกทัญได้เป็นนายกรัฐมนตรีเพียงช่วงสั้นๆจนถึง 15 ตุลาคม พ.ศ. 2515 หลังจากที่มีการลอบสังหารฝ่ายตรงข้ามเกิดขึ้นมากซึ่งเชื่อว่าเป็นฝีมือของลน นน ฮาง ทุน ฮักขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีแทนแต่ถูกบีบให้ลาออกในช่วงต้นปี พ.ศ. 2516 หลังจากที่ฝ่ายรัฐบาลเริ่มเพลี่ยงพล้ำในสงครามกลางเมืองกัมพูชา ลอง โบเรตขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีต่อมาในช่วงปลายปี พ.ศ. 2516 ลน นนพยายามรักษาอำนาจของตนไว้แต่ถูกบังคับให้ลี้ภัยเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2516 และกลับมาใน พ.ศ. 2517 ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2518 ลน นนพยายามขึ้นเป็นเลขาธิการพรรคแม้ว่าขณะนั้น สถานการณ์ของรัฐบาลสาธารณรัฐเขมรอ่อนแอมาก มีอำนาจปกครองนอกกรุงพนมเปญเพียงเล็กน้อย ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2518 พรรคนี้สลายตัวไปพร้อมสาธารณรัฐเขมรและเข้าสู่ยุคการปกครองของเขมรแดง
ความผิดอะไรที่ทำให้พรรคประธิปไตยและพรรคสาธารณรัฐไม่สามารถเข้าร่วมการเลือกตั้งในปี 2515
{ "answer": [ "ผิดกฎหมายเลือกตั้ง" ], "answer_begin_position": [ 1454 ], "answer_end_position": [ 1472 ] }
1,226
891,523
คเนเมตเนเฟอร์เฮตเจตที่ 2 คเนเมตเนเฟอร์เฮตเจตที่ 2 เวเรต เป็นพระราชินีอียิปต์โบราณของราชวงศ์ที่ 12 เป็นพระมเหสีของฟาโรห์เซนุสเรตที่ 3 พระองค์เป็นหนึ่งในสี่คนของฟาโรห์เซนุสเรตที่ 3 และอีกสามพระองค์คือ พระนางเมเรตเซเกอร์, พระนางเนเฟอร์ทีนุท และ (อาจจะ) พระนางซิตทัตฮัตฮอร์ยูเนต พระนามของพระองค์ยังเป็นพระนามพระราชินีที่ใช้คือ คเนเมตเนเฟอร์เฮตเจต มีความหมายว่า "การรวมกันกับมงกุฎขาว" (ตอนนี้ตั้งอยู่ในพิพิธภัณฑ์บริติชและในพิพิธภัณฑ์อียิปต์ พระองค์ถูกฝังอยู่ในพีระมิดในดาห์ชูร์ ซึ่งมีการค้นพบเครื่องประดับที่เธอ ค้นพบเมื่อปีพ.ศ. 2537
คเนเมตเนเฟอร์เฮตเจตที่ 2 เป็นพระราชินีของประเทศอะไร
{ "answer": [ "อียิปต์" ], "answer_begin_position": [ 168 ], "answer_end_position": [ 175 ] }
3,879
891,523
คเนเมตเนเฟอร์เฮตเจตที่ 2 คเนเมตเนเฟอร์เฮตเจตที่ 2 เวเรต เป็นพระราชินีอียิปต์โบราณของราชวงศ์ที่ 12 เป็นพระมเหสีของฟาโรห์เซนุสเรตที่ 3 พระองค์เป็นหนึ่งในสี่คนของฟาโรห์เซนุสเรตที่ 3 และอีกสามพระองค์คือ พระนางเมเรตเซเกอร์, พระนางเนเฟอร์ทีนุท และ (อาจจะ) พระนางซิตทัตฮัตฮอร์ยูเนต พระนามของพระองค์ยังเป็นพระนามพระราชินีที่ใช้คือ คเนเมตเนเฟอร์เฮตเจต มีความหมายว่า "การรวมกันกับมงกุฎขาว" (ตอนนี้ตั้งอยู่ในพิพิธภัณฑ์บริติชและในพิพิธภัณฑ์อียิปต์ พระองค์ถูกฝังอยู่ในพีระมิดในดาห์ชูร์ ซึ่งมีการค้นพบเครื่องประดับที่เธอ ค้นพบเมื่อปีพ.ศ. 2537
คเนเมตเนเฟอร์เฮตเจตที่ 2 เวเรตเป็นพระมเหสีของใคร
{ "answer": [ "ฟาโรห์เซนุสเรตที่ 3" ], "answer_begin_position": [ 212 ], "answer_end_position": [ 231 ] }
1,227
232,693
น้ำตาลไม่หวาน น้ำตาลไม่หวาน เป็นภาพยนตร์ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2507 ผลงานกำกับชิ้นสุดท้ายของรัตน์ เปสตันยี ก่อนจะเสียชีวิตในปี พ.ศ. 2513 เป็นภาพยนตร์แนวตลกเสียดสีภาพยนตร์แนวตลาดในยุคนั้น เขียนบทโดย รัตน์ เปสตันยี และ รอย ฤทธิรณ (ทวี เกตะวันดี) น้ำตาลไม่หวาน ผลงานกำกับชิ้นสุดท้ายของ รัตน์ เปสตันยี เพราะหลังจากนั้น ท่านป่วยเป็นโรคเบาหวานและโรคหัวใจ ไม่อาจจะทำภาพยนตร์ได้อีก รัตน์ เปสตันยี ต้องการทำภาพยนตร์เรื่องนี้แบบภาพยนตร์ไทยในการตลาด ให้ครบรส ทั้งรัก โศก บู๊ โป๊ เสียว เดิมนั้นรัตน์อยากได้ มิตร ชัยบัญชา และ เพชรา เชาวราษฎร์ มานำแสดง แต่ทั้งคู่มีคิวงานที่ยาวเหยียด จึงไม่สามารถมาแสดงได้ และทั้งคู่ไม่เคยแสดงภาพยนตร์เสียงในฟิล์มมาก่อน น้ำตาลไม่หวาน เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มเศรษฐีนิสัยสำมะเลเทเมาที่ถูกบังคับให้แต่งงานกับหญิงสาวลูกครึ่งอินเดีย เพื่อจะได้สมบัติ โดยที่เขาไม่เต็มใจ เพราะเขามีคนรักอยู่แล้ว เขาจึงกลั่นแกล้งหญิงสาวต่างนานาเรื่องย่อ เรื่องย่อ. มนัส เป็นลูกชายคนเดียวของ เจ้าคุณเจริญเกษา มหาเศรษฐีชาวจีนเจ้าของบริษัทเกษาเจริญ ผู้ผลิตและจำหน่าย "ยาผุง" ยาปลูกผมสูตรจากอินเดีย ที่มียอดขายอันดับหนึ่ง มนัสเป็นคนไม่เอาถ่าน ขี้เหล้าเมายา และมั่วสุมอยู่กับพาร์ทเนอร์ชื่อ วัชรี ทำความหนักใจให้กับผู้เป็นพ่อ เจ้าคุณเจริญเกษาหวังจะให้ลูกชายกลับเนื้อกลับตัว ขยันขันแข็งทำงาน โดยให้แต่งงานกับน้ำตาล ลูกสาวคนเดียวของเพื่อนชาวอินเดียเจ้าของสูตรยาผุง ที่ตนเองรักเหมือนเป็นลูกสาว โดยทำสัญญาว่าจะให้เงิน 2 ล้านบาทแก่มนัส เมื่อแต่งงานกับน้ำตาล และมีทายาท ด้วยความรักที่มนัสมีต่อวัชรี มนัสจึงสัญญากับวัชรีว่าจะแต่งงานกับน้ำตาลเฉพาะในนาม และกลั่นแกล้งน้ำตาลให้เสียหน้าตั้งแต่วันแรกที่เดินทางมาถึง ทั้งยังทำความเจ็บใจให้กับน้ำตาล โดยพาวัชรีเข้ามามั่วสุมถึงในบ้าน จากการกระทำของตัวเอง ในที่สุดมนัสก็สูญเสียทุกสิ่ง สูญเสียวัชรีให้กับชายอื่นนั้นคือ ถวิล ดวงแก้ว คนขายยาผุงแห่งบริษัทเกษาเจริญ สูญเสียน้ำตาลที่ไปเกิดความรักกับโมตี เลขาของเจ้าคุณพ่อ สูญเสียทรัพย์สมบัติทั้งหมด เพราะเจ้าคุณเจริญเกษาทำพินัยกรรมมอบสมบัติทั้งหมด 700 ล้านบาท ให้กับน้ำตาล และลูกน้อง โดยไม่ให้สมบัติอะไรกับมนัสเลย มีเพียงแค่ให้มนัสขายยาผุงแทน มนัสกลายเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัว ในที่สุดก็รู้สึกว่าตัวเองไม่รู้จักคุณค่าของสิ่งที่มีอยู่ เริ่มตระหนักถึงความรักที่มีต่อน้ำตาลก็เมื่อน้ำตาลหมดรักไปแล้ว และได้พยายามช่วงชิงความรักจากภรรยากลับคืนมา มนัสได้เอาคืน โดยการเอาตุ๊กแกเอาไว้ที่ห้องของน้ำตาล แล้วน้ำตาลก็ตุ๊กแกในห้อง น้ำตาลตกใจจึงวิ่งออกมาสลบ มนัสจึงพาเข้าห้องอีกที แล้วหลังจาก 5-12 ปีผ่านไป มนัสกับน้ำตาลมีลูกด้วยกันหลายคนจนเต็มบ้านเต็มเมืองนักแสดงนักแสดง. - เมตตา รุ่งรัตน์ เป็น น้ำตาล - สมบัติ เมทะนี เป็น มนัส - ปรียา รุ่งเรือง เป็น วัชรี - เสน่ห์ โกมารชุน เป็น เจ้าคุณเจริญเกษา - สมพงษ์ พงษ์มิตร เป็น โมตี รามสาสราม - ศรินทิพย์ ศิริวรรณ เป็น โสภา โสภาคคุณ - รุจน์ รณภพ เป็น ถวิล ดวงแก้ว - รัตน์ เปสตันยี รับบท cameo เป็นนายแพทย์ตอนเจ้าคุณเสียชีวิตทีมงานสร้างทีมงานสร้าง. - สันติ์ เปสตันยี - ช่างภาพ - อุดม หรั่งฉายา - ผู้ช่วยช่างภาพ - ปง อัศวินิกุล - บันทึกเสียง - ประกิต อัศวินิกุล - ผู้ช่วยบันทึกเสียง - สมจิตต สอนบุตรนาค - ช่างไฟ - ณรงค์ ศรีพันธ์ - วาดภาพ - อัตถ์ พึ่งประยูร - การแสดงระบำประกอบดนตรี - สวัสดิ์ แก่สำราญ - กำกับศิลป์เพลงประกอบภาพยนตร์เพลงประกอบภาพยนตร์. - "น้ำตาลไม่หวาน" โดย ชาลี อินทรวิจิตร - "กุหลาบราตรี" โดย ร้อยแก้ว รักไทย
น้ำตาลไม่หวาน เป็นภาพยนตร์ที่ออกฉายเมื่อปีใด
{ "answer": [ "พ.ศ. 2507" ], "answer_begin_position": [ 142 ], "answer_end_position": [ 151 ] }
1,228
232,693
น้ำตาลไม่หวาน น้ำตาลไม่หวาน เป็นภาพยนตร์ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2507 ผลงานกำกับชิ้นสุดท้ายของรัตน์ เปสตันยี ก่อนจะเสียชีวิตในปี พ.ศ. 2513 เป็นภาพยนตร์แนวตลกเสียดสีภาพยนตร์แนวตลาดในยุคนั้น เขียนบทโดย รัตน์ เปสตันยี และ รอย ฤทธิรณ (ทวี เกตะวันดี) น้ำตาลไม่หวาน ผลงานกำกับชิ้นสุดท้ายของ รัตน์ เปสตันยี เพราะหลังจากนั้น ท่านป่วยเป็นโรคเบาหวานและโรคหัวใจ ไม่อาจจะทำภาพยนตร์ได้อีก รัตน์ เปสตันยี ต้องการทำภาพยนตร์เรื่องนี้แบบภาพยนตร์ไทยในการตลาด ให้ครบรส ทั้งรัก โศก บู๊ โป๊ เสียว เดิมนั้นรัตน์อยากได้ มิตร ชัยบัญชา และ เพชรา เชาวราษฎร์ มานำแสดง แต่ทั้งคู่มีคิวงานที่ยาวเหยียด จึงไม่สามารถมาแสดงได้ และทั้งคู่ไม่เคยแสดงภาพยนตร์เสียงในฟิล์มมาก่อน น้ำตาลไม่หวาน เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มเศรษฐีนิสัยสำมะเลเทเมาที่ถูกบังคับให้แต่งงานกับหญิงสาวลูกครึ่งอินเดีย เพื่อจะได้สมบัติ โดยที่เขาไม่เต็มใจ เพราะเขามีคนรักอยู่แล้ว เขาจึงกลั่นแกล้งหญิงสาวต่างนานาเรื่องย่อ เรื่องย่อ. มนัส เป็นลูกชายคนเดียวของ เจ้าคุณเจริญเกษา มหาเศรษฐีชาวจีนเจ้าของบริษัทเกษาเจริญ ผู้ผลิตและจำหน่าย "ยาผุง" ยาปลูกผมสูตรจากอินเดีย ที่มียอดขายอันดับหนึ่ง มนัสเป็นคนไม่เอาถ่าน ขี้เหล้าเมายา และมั่วสุมอยู่กับพาร์ทเนอร์ชื่อ วัชรี ทำความหนักใจให้กับผู้เป็นพ่อ เจ้าคุณเจริญเกษาหวังจะให้ลูกชายกลับเนื้อกลับตัว ขยันขันแข็งทำงาน โดยให้แต่งงานกับน้ำตาล ลูกสาวคนเดียวของเพื่อนชาวอินเดียเจ้าของสูตรยาผุง ที่ตนเองรักเหมือนเป็นลูกสาว โดยทำสัญญาว่าจะให้เงิน 2 ล้านบาทแก่มนัส เมื่อแต่งงานกับน้ำตาล และมีทายาท ด้วยความรักที่มนัสมีต่อวัชรี มนัสจึงสัญญากับวัชรีว่าจะแต่งงานกับน้ำตาลเฉพาะในนาม และกลั่นแกล้งน้ำตาลให้เสียหน้าตั้งแต่วันแรกที่เดินทางมาถึง ทั้งยังทำความเจ็บใจให้กับน้ำตาล โดยพาวัชรีเข้ามามั่วสุมถึงในบ้าน จากการกระทำของตัวเอง ในที่สุดมนัสก็สูญเสียทุกสิ่ง สูญเสียวัชรีให้กับชายอื่นนั้นคือ ถวิล ดวงแก้ว คนขายยาผุงแห่งบริษัทเกษาเจริญ สูญเสียน้ำตาลที่ไปเกิดความรักกับโมตี เลขาของเจ้าคุณพ่อ สูญเสียทรัพย์สมบัติทั้งหมด เพราะเจ้าคุณเจริญเกษาทำพินัยกรรมมอบสมบัติทั้งหมด 700 ล้านบาท ให้กับน้ำตาล และลูกน้อง โดยไม่ให้สมบัติอะไรกับมนัสเลย มีเพียงแค่ให้มนัสขายยาผุงแทน มนัสกลายเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัว ในที่สุดก็รู้สึกว่าตัวเองไม่รู้จักคุณค่าของสิ่งที่มีอยู่ เริ่มตระหนักถึงความรักที่มีต่อน้ำตาลก็เมื่อน้ำตาลหมดรักไปแล้ว และได้พยายามช่วงชิงความรักจากภรรยากลับคืนมา มนัสได้เอาคืน โดยการเอาตุ๊กแกเอาไว้ที่ห้องของน้ำตาล แล้วน้ำตาลก็ตุ๊กแกในห้อง น้ำตาลตกใจจึงวิ่งออกมาสลบ มนัสจึงพาเข้าห้องอีกที แล้วหลังจาก 5-12 ปีผ่านไป มนัสกับน้ำตาลมีลูกด้วยกันหลายคนจนเต็มบ้านเต็มเมืองนักแสดงนักแสดง. - เมตตา รุ่งรัตน์ เป็น น้ำตาล - สมบัติ เมทะนี เป็น มนัส - ปรียา รุ่งเรือง เป็น วัชรี - เสน่ห์ โกมารชุน เป็น เจ้าคุณเจริญเกษา - สมพงษ์ พงษ์มิตร เป็น โมตี รามสาสราม - ศรินทิพย์ ศิริวรรณ เป็น โสภา โสภาคคุณ - รุจน์ รณภพ เป็น ถวิล ดวงแก้ว - รัตน์ เปสตันยี รับบท cameo เป็นนายแพทย์ตอนเจ้าคุณเสียชีวิตทีมงานสร้างทีมงานสร้าง. - สันติ์ เปสตันยี - ช่างภาพ - อุดม หรั่งฉายา - ผู้ช่วยช่างภาพ - ปง อัศวินิกุล - บันทึกเสียง - ประกิต อัศวินิกุล - ผู้ช่วยบันทึกเสียง - สมจิตต สอนบุตรนาค - ช่างไฟ - ณรงค์ ศรีพันธ์ - วาดภาพ - อัตถ์ พึ่งประยูร - การแสดงระบำประกอบดนตรี - สวัสดิ์ แก่สำราญ - กำกับศิลป์เพลงประกอบภาพยนตร์เพลงประกอบภาพยนตร์. - "น้ำตาลไม่หวาน" โดย ชาลี อินทรวิจิตร - "กุหลาบราตรี" โดย ร้อยแก้ว รักไทย
นักแสดงคนใดรับบทเป็นพระเอกในภาพยนตร์เรื่องน้ำตาลไม่หวาน ในปี 2507
{ "answer": [ "สมบัติ เมทะนี" ], "answer_begin_position": [ 2438 ], "answer_end_position": [ 2451 ] }
1,229
388,993
มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว (; ) เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศลาว ตั้งอยู่ที่นครหลวงเวียงจันทน์ สถาปนาจากรวมคณะต่าง ๆ ของวิทยาลัยที่มีมาก่อนแล้วเมื่อปี ค.ศ. 1996 มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาวถือเป็นมหาวิทยาลัยหนื่งในสี่แห่งของประเทศ มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาวมีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศมากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งมหาวิทยาลัยในประเทศญี่ปุ่น สำหรับความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว มีความร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ มหาวิทยาลัยนานาชาติ จากประเทศกัมพูชา นอกจากนี้ทางมหาวิทยาลัยยังเข้าร่วมเครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียน (ASEAN University Network: AUN) เครือข่ายการศึกษาและการวิจัยแห่งลุ่มแม่น้ำโขง (: GMSARN) เครือข่ายมหาวิทยาลัยแห่งอาเซียน/เครือข่ายการพัฒนาเพื่อการศึกษาวิศวกรรมศาสตร์แห่งเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (: AUN/SEED-NET) และ : AUF)วิทยาเขตวิทยาเขต. - วิทยาเขตดงโดก - วิทยาเขตโสกป่าหลวง - วิทยาเขตนาบง - วิทยาเขตดอนนกขุ้ม - วิทยาเขตเพียวัด - วิทยาเขตตาดทอง - วิทยาเขตหลักห้า - วิทยาเขตดอนกอย (โรงพยาบาลเสดถาทิลาด) แต่ในปัจจุบันมีเพียง 5 วิทยาเขตเท่านั้น- วิทยาเขตดงโดก - วิทยาเขตโสกป่าหลวง - วิทยาเขตดอนนกขุ้ม - วิทยาเขตนาบง - วิทยาเขตตาดทองคณะที่เปิดสอนคณะที่เปิดสอน. - คณะวนศาสตร์ (Faculty of Forestry) - คณะศึกษาศาสตร์ (Faculty of Education) - คณะสังคมศาสตร์ (Faculty of Social Sciences) - คณะวิทยาศาสตร์ (Faculty of Sciences) - คณะอักษรศาสตร์ (Faculty of Letters) - คณะเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจ (Faculty of Economics and Business Administration) - คณะเกษตรศาสตร์ (Faculty of Agriculture) - คณะนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ (Faculty of Laws and Political Sciences) - คณะเภสัชศาสตร์ (Faculty of Medical Sciences) - คณะวิศวกรรมศาสตร์ (Faculty of Engineering) - คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ (Faculty of Architecture) - คณะสิ่งแวดล้อมและการพัฒนา (Faculty of Environment and Development Studies) - โรงเรียนเตรียมเข้ามหาวิทยาลัย (School of Foundation Studies)ความร่วมมือกับประเทศไทย ความร่วมมือกับประเทศไทย. ในปัจจุบันมหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว มีความร่วมมือกับสถาบันอุดมศึกษาในไทยอยู่สองโครงการดังต่อไปนี้1. โครงการพัฒนาหลักสูตรนานาชาติระดับปริญญาโท สาขาการศึกษาทางด้านการพัฒนาของมหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว ได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อพัฒนาหลักสูตรระดับปริญญาโท การสอนภาคพิเศษ (เสาร์ – อาทิตย์) ด้านการศึกษาทางด้านการพัฒนานานาชาติ (International Development Studies) 2. โครงการยกระดับพนักงานของมหาวิทยาลัยแห่งชาติลาวให้เป็นระดับปริญญาตรี ได้รับความร่วมมือจาก มูลนิธิมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย และวิทยาลัยประชาคมนานาชาติอุดรธานี – หนองคาย เพื่อส่งเสริมให้บุคคลากรจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติลาวที่วุฒิต่ำกว่าระดับปริญญาตรีจำนวน 114 คน ให้จบระดับปริญญาตรีศึกษาศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยแบ่งเป็นสาขาเอกสังคมศาสตร์ 57 คน และวิชาเอกเทคโนโลยีการศึกษาจำนวน 57 คน โดยมีระยะเวลาการดำเนินโครงการระหว่าง พ.ศ. 2551- พ.ศ. 2553
มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว ปัจจุบันมีกี่วิทยาเขต
{ "answer": [ "5 วิทยาเขต" ], "answer_begin_position": [ 1161 ], "answer_end_position": [ 1171 ] }
3,891
388,993
มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว (; ) เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศลาว ตั้งอยู่ที่นครหลวงเวียงจันทน์ สถาปนาจากรวมคณะต่าง ๆ ของวิทยาลัยที่มีมาก่อนแล้วเมื่อปี ค.ศ. 1996 มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาวถือเป็นมหาวิทยาลัยหนื่งในสี่แห่งของประเทศ มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาวมีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศมากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งมหาวิทยาลัยในประเทศญี่ปุ่น สำหรับความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว มีความร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ มหาวิทยาลัยนานาชาติ จากประเทศกัมพูชา นอกจากนี้ทางมหาวิทยาลัยยังเข้าร่วมเครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียน (ASEAN University Network: AUN) เครือข่ายการศึกษาและการวิจัยแห่งลุ่มแม่น้ำโขง (: GMSARN) เครือข่ายมหาวิทยาลัยแห่งอาเซียน/เครือข่ายการพัฒนาเพื่อการศึกษาวิศวกรรมศาสตร์แห่งเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (: AUN/SEED-NET) และ : AUF)วิทยาเขตวิทยาเขต. - วิทยาเขตดงโดก - วิทยาเขตโสกป่าหลวง - วิทยาเขตนาบง - วิทยาเขตดอนนกขุ้ม - วิทยาเขตเพียวัด - วิทยาเขตตาดทอง - วิทยาเขตหลักห้า - วิทยาเขตดอนกอย (โรงพยาบาลเสดถาทิลาด) แต่ในปัจจุบันมีเพียง 5 วิทยาเขตเท่านั้น- วิทยาเขตดงโดก - วิทยาเขตโสกป่าหลวง - วิทยาเขตดอนนกขุ้ม - วิทยาเขตนาบง - วิทยาเขตตาดทองคณะที่เปิดสอนคณะที่เปิดสอน. - คณะวนศาสตร์ (Faculty of Forestry) - คณะศึกษาศาสตร์ (Faculty of Education) - คณะสังคมศาสตร์ (Faculty of Social Sciences) - คณะวิทยาศาสตร์ (Faculty of Sciences) - คณะอักษรศาสตร์ (Faculty of Letters) - คณะเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจ (Faculty of Economics and Business Administration) - คณะเกษตรศาสตร์ (Faculty of Agriculture) - คณะนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ (Faculty of Laws and Political Sciences) - คณะเภสัชศาสตร์ (Faculty of Medical Sciences) - คณะวิศวกรรมศาสตร์ (Faculty of Engineering) - คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ (Faculty of Architecture) - คณะสิ่งแวดล้อมและการพัฒนา (Faculty of Environment and Development Studies) - โรงเรียนเตรียมเข้ามหาวิทยาลัย (School of Foundation Studies)ความร่วมมือกับประเทศไทย ความร่วมมือกับประเทศไทย. ในปัจจุบันมหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว มีความร่วมมือกับสถาบันอุดมศึกษาในไทยอยู่สองโครงการดังต่อไปนี้1. โครงการพัฒนาหลักสูตรนานาชาติระดับปริญญาโท สาขาการศึกษาทางด้านการพัฒนาของมหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว ได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อพัฒนาหลักสูตรระดับปริญญาโท การสอนภาคพิเศษ (เสาร์ – อาทิตย์) ด้านการศึกษาทางด้านการพัฒนานานาชาติ (International Development Studies) 2. โครงการยกระดับพนักงานของมหาวิทยาลัยแห่งชาติลาวให้เป็นระดับปริญญาตรี ได้รับความร่วมมือจาก มูลนิธิมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย และวิทยาลัยประชาคมนานาชาติอุดรธานี – หนองคาย เพื่อส่งเสริมให้บุคคลากรจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติลาวที่วุฒิต่ำกว่าระดับปริญญาตรีจำนวน 114 คน ให้จบระดับปริญญาตรีศึกษาศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยแบ่งเป็นสาขาเอกสังคมศาสตร์ 57 คน และวิชาเอกเทคโนโลยีการศึกษาจำนวน 57 คน โดยมีระยะเวลาการดำเนินโครงการระหว่าง พ.ศ. 2551- พ.ศ. 2553
มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาวเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศลาวตั้งอยู่ที่เมืองใดของประเทศลาว
{ "answer": [ "นครหลวงเวียงจันทน์" ], "answer_begin_position": [ 193 ], "answer_end_position": [ 211 ] }
1,230
157,472
ไอ.คิว. 180 ไอ.คิว. 180 (I.Q. 180) เป็นอัลบั้มสตูดิโอชุดแรกของวง ซิลลี่ ฟูลส์ ในสังกัดค่ายมอร์ มิวสิค เครือ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ หลังได้ส่งเดโมให้ทางค่าย อัลบั้มได้ออกจำหน่ายเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2541 โดยอัลบั้มชุดนี้มีการเน้นความหนักแน่นของดนตรีมากเป็นพิเศษ ในแนวเพลงอัลเทอร์เนทีฟร็อกเพลง สู้ไม่ได้ และ เมื่อรักฉันเกิด เป็นเพลงฮิตของอัลบั้มนี้รายชื่อเพลงรายชื่อเพลง. 1. สู้ไม่ได้ 2. เมื่อรักฉันเกิด 3. สายไป 4. คิดไปทำไม 5. เซ็ง 6. เพ้อ 7. ต่างกัน 8. เวลา 9. หรือเปล่า? 10. พี่สาวครับอัดผมที 11. ให้เธอ
ไอ.คิว.180 เป็นอัลบั้มชุดแรกของวงอะไรในสังกัดค่ายมอร์ มิวสิค
{ "answer": [ "ซิลลี่ ฟูลส์" ], "answer_begin_position": [ 151 ], "answer_end_position": [ 163 ] }
3,892
157,472
ไอ.คิว. 180 ไอ.คิว. 180 (I.Q. 180) เป็นอัลบั้มสตูดิโอชุดแรกของวง ซิลลี่ ฟูลส์ ในสังกัดค่ายมอร์ มิวสิค เครือ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ หลังได้ส่งเดโมให้ทางค่าย อัลบั้มได้ออกจำหน่ายเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2541 โดยอัลบั้มชุดนี้มีการเน้นความหนักแน่นของดนตรีมากเป็นพิเศษ ในแนวเพลงอัลเทอร์เนทีฟร็อกเพลง สู้ไม่ได้ และ เมื่อรักฉันเกิด เป็นเพลงฮิตของอัลบั้มนี้รายชื่อเพลงรายชื่อเพลง. 1. สู้ไม่ได้ 2. เมื่อรักฉันเกิด 3. สายไป 4. คิดไปทำไม 5. เซ็ง 6. เพ้อ 7. ต่างกัน 8. เวลา 9. หรือเปล่า? 10. พี่สาวครับอัดผมที 11. ให้เธอ
เพลงฮิตในอัลบั้ม ไอ.คิว.180 ของวงซิลลี่ ฟูลส์ คือเพลงอะไร
{ "answer": [ "สู้ไม่ได้" ], "answer_begin_position": [ 381 ], "answer_end_position": [ 390 ] }
1,231
18,078
ทอมัส อไควนัส นักบุญทอมัส อไควนัส ( (, ค.ศ. 1225-1274) เป็นบาทหลวงโรมันคาทอลิกสังกัดคณะดอมินิกัน เกิดในตระกูลขุนนางชาวอิตาลี สนใจศึกษาสิ่งต่าง ๆ อย่างละเอียดลึกซึ้ง อไควนัสได้พัฒนาแนวความคิดของเขาโดยได้รับอิทธิพลจากอาริสโตเติล ในขณะที่นักคิดคนอื่นมีความเห็นตรงกันข้าม อควีนาสได้ดำเนินการศึกษา สรุปผลที่เป็นแบบตรรกศาสตร์ที่สมบูรณ์ โดยไม่มีข้อสงสัยหรือข้อขัดแย้ง ตามแนวความคิดของอไควนัส ระเบียบวิธีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่ออควีนาสเริ่มหันมาสนใจศึกษาค้นคว้าแนวความคิดของอาริสโตเติล และได้มีอิทธิพลตลอดชีวิตการทำงานของอไควนัส จุดมุ่งหมายอีกประการหนึ่งของอไควนัสคือ การผสมผสานเทววิทยาศาสนาคริสต์ให้เข้ากับตรรกศาสตร์ของอาริสโตเติล ในที่สุดแนวความคิดของอาริสโตเติลก็กลับมามีชื่อเสียงขึ้นอีกครั้งหนึ่ง นักคิดชาวตะวันตกก็เริ่มหันมาศึกษางานของอริสโตเติลกันมากขึ้น มีผู้กล่าวว่าอาริสโตเติลเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักปราชญ์ที่มีความรอบรู้ พระเจ้าพึงพอใจยอมอนุญาตให้เป็นผู้สรุปความรู้ทุกสาขาวิชา เท่ากับยอมรับว่าอาริสโตเติลเป็นเหมือนคัมภีร์อันศักดิ์สิทธิ์ เป็นนักบวชของศาสนา เป็นตัวบทกฎหมาย และเป็นนักวินัยทางศาสนา เปรียบเสมือนเป็นผู้ที่มีอำนาจหน้าที่กำหนดความสัมพันธ์ของมนุษย์ กำหนดความรู้ทุกสาขาวิชา งานเขียนของอไควนัส ในระยะนี้พยายามอธิบายสังคมที่ได้รับอิทธิพลจากศาสนา และพระผู้เป็นเจ้า อไควนัสพยายามกำหนดความสำคัญและหน้าที่ใหม่ของศาสนาที่มีต่อสังคม โดยให้ศาสนายังคงมีอำนาจทางธรรมตามคำสอนของศาสนา อไควนัสก็เหมือนกับนักปราชญ์คนอื่น คือมีความเชื่อว่ามนุษย์เป็นสัตว์สังคมมีจุดมุ่งหมายเพื่อดำรงชีวิตอยู่ในสังคม มนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่มีความสามารถกำหนดควบคุมการกระทำของตนเองได้ด้วยสติปัญญา มนุษย์จะตกอยู่ในอันตราย ถ้าไม่ยอมรับระบบสังคม อไควนัสจึงเน้นเอกภาพในสังคมมนุษย์ที่มีพลังอำนาจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอกภาพทางการเมืองเป็นสิ่งสำคัญ จุดมุ่งหมายก็เพื่อให้สังคมมีเอกภาพอย่างสันติไม่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น วิธีการดังกล่าวเปรียบเสมือนมนุษย์ได้รับการอบรมทางจิต จิตที่อบรมแล้ว จะสั่งการให้ร่างกายกระทำสิ่งต่าง ๆ ตามหน้าที่ในสังคม ดังนั้น การปกครองโดยรัฐบาลที่มีผู้นำเพียงคนเดียวจึงเป็นวิธีการที่ดีที่สุด กษัตริย์อันเป็นราชาแห่งปราชญ์คนเดียวจะปกครองประชาชนอย่างยุติธรรม โครงสร้างทางสังคมก็เหมือนกับธรรมชาติที่พระเจ้าปกครอง คนในสังคมจะทำหน้าที่ได้ดีที่สุด ถ้าสัมคมมีเอกภาพโดยมีผู้นำเพียงคนเดียวกฎสังคม 4 ประการ กฎสังคม 4 ประการ. อไควนัส ศึกษาปัจจัยหลายประการที่มีอิทธิพลกำหนดเอกภาพของสังคมและทำให้เกิดการพัฒนาการของมนุษย์ พระเจ้าและธรรมชาติมีความสำคัญเป็นส่วนหนึ่งของสังคม สิ่งเหล่านี้รวมตัวกันด้วยกฎ 4 ประการคือ1. กฎจักรวาล (Eternal Law) หมายถึง กฎของพระเจ้าที่ควบคุมจักรวาล 2. กฎธรรมชาติ (Natural Law) หมายถึง กฎของสิ่งมีชีวิต เป็นส่วนหนึ่งของพระเป็นเจ้า 3. กฎสังคมมนุษย์ (Human Law) เป็นกฎของสาธารณชน เป็นขบวนการสถาบันสังคม 4. กฎพระเจ้า (Divine Law) เป็นกฎที่กำหนดแรงจูงใจภายในของมนุษย์ กฎทั้งสี่มีความสัมพันธ์กันเหมือนกับอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย การกระทำของมนุษย์จะถูกควบคุมจากจิตหรือสติปัญญา และวิญญาณหรือความสำนึกทางศีลธรรม ต้องมีการตรวจสอบความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ และการต่อต้านของมนุษย์ในสังคม ประการสุดท้ายผู้ที่มีหน้าที่ตราตัวบทกฎหมายต้องประยุกต์กฎหมายทุกชนิดให้สมาชิกในสังคมทุกคนได้รับประโยชน์สูงสุด มีผู้สรุปความคิดของอควีนาสไว้ว่าในหนังสือ "Summa Theologica" ที่เขียนราวปี พ.ศ. 1739 พูดถึงลัทธิกฎธรรมชาติของนักปรัชญากลุ่มลัทธิสโตอิก (ถือหลักธรรมเพื่อกำจัดตัณหา) นำไปผสมกับการสอนใน ศาสนาคริสต์ว่าด้วยกฎของพระเจ้า รวมทั้งรับแนวความคิดของอาริสโตเติลเกี่ยวกับบรรทัดฐานหรือกฎของมนุษย์ และจุดกำเนิดของหลักกฎหมายโรมันด้วย ทำให้มนุษย์มีความสามารถและมีสติปัญญาอย่างสูงสุด ประการสุดท้ายก็คือ ทำให้เกิดระบบลัทธิรัฐธรรมนูญ อไควนัสเป็นนักปราชญ์ที่มีความสำคัญมากที่สุดคนหนึ่ง พยายามประสานหลักเหตุผลที่มีอยู่ในธรรมชาติเข้ากับความศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้า โดยแสดงออกมาในรูปของอำนาจเหนือธรรมชาติที่แท้จริง ปรัชญาเป็นผลิตผลของเทววิทยาและเหตุผลเป็นรากฐานของความศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้า เมื่อเทียบกันยุคในประวัติศาสตร์ไทย ท่านมีชีวิตอยู่ระหว่างก่อนสมัยสุโขทัยเล็กน้อย และเสียชีวิตในสมัยพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ เมื่ออายุได้เพียง 49 ปี
นักบุญทอมัส อไควนัส เป็นบาทหลวงโรมันคาทอลิกในสังกัดอะไร
{ "answer": [ "คณะดอมินิกัน" ], "answer_begin_position": [ 170 ], "answer_end_position": [ 182 ] }
1,232
18,078
ทอมัส อไควนัส นักบุญทอมัส อไควนัส ( (, ค.ศ. 1225-1274) เป็นบาทหลวงโรมันคาทอลิกสังกัดคณะดอมินิกัน เกิดในตระกูลขุนนางชาวอิตาลี สนใจศึกษาสิ่งต่าง ๆ อย่างละเอียดลึกซึ้ง อไควนัสได้พัฒนาแนวความคิดของเขาโดยได้รับอิทธิพลจากอาริสโตเติล ในขณะที่นักคิดคนอื่นมีความเห็นตรงกันข้าม อควีนาสได้ดำเนินการศึกษา สรุปผลที่เป็นแบบตรรกศาสตร์ที่สมบูรณ์ โดยไม่มีข้อสงสัยหรือข้อขัดแย้ง ตามแนวความคิดของอไควนัส ระเบียบวิธีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่ออควีนาสเริ่มหันมาสนใจศึกษาค้นคว้าแนวความคิดของอาริสโตเติล และได้มีอิทธิพลตลอดชีวิตการทำงานของอไควนัส จุดมุ่งหมายอีกประการหนึ่งของอไควนัสคือ การผสมผสานเทววิทยาศาสนาคริสต์ให้เข้ากับตรรกศาสตร์ของอาริสโตเติล ในที่สุดแนวความคิดของอาริสโตเติลก็กลับมามีชื่อเสียงขึ้นอีกครั้งหนึ่ง นักคิดชาวตะวันตกก็เริ่มหันมาศึกษางานของอริสโตเติลกันมากขึ้น มีผู้กล่าวว่าอาริสโตเติลเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักปราชญ์ที่มีความรอบรู้ พระเจ้าพึงพอใจยอมอนุญาตให้เป็นผู้สรุปความรู้ทุกสาขาวิชา เท่ากับยอมรับว่าอาริสโตเติลเป็นเหมือนคัมภีร์อันศักดิ์สิทธิ์ เป็นนักบวชของศาสนา เป็นตัวบทกฎหมาย และเป็นนักวินัยทางศาสนา เปรียบเสมือนเป็นผู้ที่มีอำนาจหน้าที่กำหนดความสัมพันธ์ของมนุษย์ กำหนดความรู้ทุกสาขาวิชา งานเขียนของอไควนัส ในระยะนี้พยายามอธิบายสังคมที่ได้รับอิทธิพลจากศาสนา และพระผู้เป็นเจ้า อไควนัสพยายามกำหนดความสำคัญและหน้าที่ใหม่ของศาสนาที่มีต่อสังคม โดยให้ศาสนายังคงมีอำนาจทางธรรมตามคำสอนของศาสนา อไควนัสก็เหมือนกับนักปราชญ์คนอื่น คือมีความเชื่อว่ามนุษย์เป็นสัตว์สังคมมีจุดมุ่งหมายเพื่อดำรงชีวิตอยู่ในสังคม มนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่มีความสามารถกำหนดควบคุมการกระทำของตนเองได้ด้วยสติปัญญา มนุษย์จะตกอยู่ในอันตราย ถ้าไม่ยอมรับระบบสังคม อไควนัสจึงเน้นเอกภาพในสังคมมนุษย์ที่มีพลังอำนาจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอกภาพทางการเมืองเป็นสิ่งสำคัญ จุดมุ่งหมายก็เพื่อให้สังคมมีเอกภาพอย่างสันติไม่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น วิธีการดังกล่าวเปรียบเสมือนมนุษย์ได้รับการอบรมทางจิต จิตที่อบรมแล้ว จะสั่งการให้ร่างกายกระทำสิ่งต่าง ๆ ตามหน้าที่ในสังคม ดังนั้น การปกครองโดยรัฐบาลที่มีผู้นำเพียงคนเดียวจึงเป็นวิธีการที่ดีที่สุด กษัตริย์อันเป็นราชาแห่งปราชญ์คนเดียวจะปกครองประชาชนอย่างยุติธรรม โครงสร้างทางสังคมก็เหมือนกับธรรมชาติที่พระเจ้าปกครอง คนในสังคมจะทำหน้าที่ได้ดีที่สุด ถ้าสัมคมมีเอกภาพโดยมีผู้นำเพียงคนเดียวกฎสังคม 4 ประการ กฎสังคม 4 ประการ. อไควนัส ศึกษาปัจจัยหลายประการที่มีอิทธิพลกำหนดเอกภาพของสังคมและทำให้เกิดการพัฒนาการของมนุษย์ พระเจ้าและธรรมชาติมีความสำคัญเป็นส่วนหนึ่งของสังคม สิ่งเหล่านี้รวมตัวกันด้วยกฎ 4 ประการคือ1. กฎจักรวาล (Eternal Law) หมายถึง กฎของพระเจ้าที่ควบคุมจักรวาล 2. กฎธรรมชาติ (Natural Law) หมายถึง กฎของสิ่งมีชีวิต เป็นส่วนหนึ่งของพระเป็นเจ้า 3. กฎสังคมมนุษย์ (Human Law) เป็นกฎของสาธารณชน เป็นขบวนการสถาบันสังคม 4. กฎพระเจ้า (Divine Law) เป็นกฎที่กำหนดแรงจูงใจภายในของมนุษย์ กฎทั้งสี่มีความสัมพันธ์กันเหมือนกับอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย การกระทำของมนุษย์จะถูกควบคุมจากจิตหรือสติปัญญา และวิญญาณหรือความสำนึกทางศีลธรรม ต้องมีการตรวจสอบความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ และการต่อต้านของมนุษย์ในสังคม ประการสุดท้ายผู้ที่มีหน้าที่ตราตัวบทกฎหมายต้องประยุกต์กฎหมายทุกชนิดให้สมาชิกในสังคมทุกคนได้รับประโยชน์สูงสุด มีผู้สรุปความคิดของอควีนาสไว้ว่าในหนังสือ "Summa Theologica" ที่เขียนราวปี พ.ศ. 1739 พูดถึงลัทธิกฎธรรมชาติของนักปรัชญากลุ่มลัทธิสโตอิก (ถือหลักธรรมเพื่อกำจัดตัณหา) นำไปผสมกับการสอนใน ศาสนาคริสต์ว่าด้วยกฎของพระเจ้า รวมทั้งรับแนวความคิดของอาริสโตเติลเกี่ยวกับบรรทัดฐานหรือกฎของมนุษย์ และจุดกำเนิดของหลักกฎหมายโรมันด้วย ทำให้มนุษย์มีความสามารถและมีสติปัญญาอย่างสูงสุด ประการสุดท้ายก็คือ ทำให้เกิดระบบลัทธิรัฐธรรมนูญ อไควนัสเป็นนักปราชญ์ที่มีความสำคัญมากที่สุดคนหนึ่ง พยายามประสานหลักเหตุผลที่มีอยู่ในธรรมชาติเข้ากับความศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้า โดยแสดงออกมาในรูปของอำนาจเหนือธรรมชาติที่แท้จริง ปรัชญาเป็นผลิตผลของเทววิทยาและเหตุผลเป็นรากฐานของความศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้า เมื่อเทียบกันยุคในประวัติศาสตร์ไทย ท่านมีชีวิตอยู่ระหว่างก่อนสมัยสุโขทัยเล็กน้อย และเสียชีวิตในสมัยพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ เมื่ออายุได้เพียง 49 ปี
ตลอดชีวิตการทำงานของทอมัส อไควนัสได้รับอิทธิพลจากแนวความคิดของใคร
{ "answer": [ "อาริสโตเติล" ], "answer_begin_position": [ 301 ], "answer_end_position": [ 312 ] }
2,628
18,078
ทอมัส อไควนัส นักบุญทอมัส อไควนัส ( (, ค.ศ. 1225-1274) เป็นบาทหลวงโรมันคาทอลิกสังกัดคณะดอมินิกัน เกิดในตระกูลขุนนางชาวอิตาลี สนใจศึกษาสิ่งต่าง ๆ อย่างละเอียดลึกซึ้ง อไควนัสได้พัฒนาแนวความคิดของเขาโดยได้รับอิทธิพลจากอาริสโตเติล ในขณะที่นักคิดคนอื่นมีความเห็นตรงกันข้าม อควีนาสได้ดำเนินการศึกษา สรุปผลที่เป็นแบบตรรกศาสตร์ที่สมบูรณ์ โดยไม่มีข้อสงสัยหรือข้อขัดแย้ง ตามแนวความคิดของอไควนัส ระเบียบวิธีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่ออควีนาสเริ่มหันมาสนใจศึกษาค้นคว้าแนวความคิดของอาริสโตเติล และได้มีอิทธิพลตลอดชีวิตการทำงานของอไควนัส จุดมุ่งหมายอีกประการหนึ่งของอไควนัสคือ การผสมผสานเทววิทยาศาสนาคริสต์ให้เข้ากับตรรกศาสตร์ของอาริสโตเติล ในที่สุดแนวความคิดของอาริสโตเติลก็กลับมามีชื่อเสียงขึ้นอีกครั้งหนึ่ง นักคิดชาวตะวันตกก็เริ่มหันมาศึกษางานของอริสโตเติลกันมากขึ้น มีผู้กล่าวว่าอาริสโตเติลเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักปราชญ์ที่มีความรอบรู้ พระเจ้าพึงพอใจยอมอนุญาตให้เป็นผู้สรุปความรู้ทุกสาขาวิชา เท่ากับยอมรับว่าอาริสโตเติลเป็นเหมือนคัมภีร์อันศักดิ์สิทธิ์ เป็นนักบวชของศาสนา เป็นตัวบทกฎหมาย และเป็นนักวินัยทางศาสนา เปรียบเสมือนเป็นผู้ที่มีอำนาจหน้าที่กำหนดความสัมพันธ์ของมนุษย์ กำหนดความรู้ทุกสาขาวิชา งานเขียนของอไควนัส ในระยะนี้พยายามอธิบายสังคมที่ได้รับอิทธิพลจากศาสนา และพระผู้เป็นเจ้า อไควนัสพยายามกำหนดความสำคัญและหน้าที่ใหม่ของศาสนาที่มีต่อสังคม โดยให้ศาสนายังคงมีอำนาจทางธรรมตามคำสอนของศาสนา อไควนัสก็เหมือนกับนักปราชญ์คนอื่น คือมีความเชื่อว่ามนุษย์เป็นสัตว์สังคมมีจุดมุ่งหมายเพื่อดำรงชีวิตอยู่ในสังคม มนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่มีความสามารถกำหนดควบคุมการกระทำของตนเองได้ด้วยสติปัญญา มนุษย์จะตกอยู่ในอันตราย ถ้าไม่ยอมรับระบบสังคม อไควนัสจึงเน้นเอกภาพในสังคมมนุษย์ที่มีพลังอำนาจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอกภาพทางการเมืองเป็นสิ่งสำคัญ จุดมุ่งหมายก็เพื่อให้สังคมมีเอกภาพอย่างสันติไม่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น วิธีการดังกล่าวเปรียบเสมือนมนุษย์ได้รับการอบรมทางจิต จิตที่อบรมแล้ว จะสั่งการให้ร่างกายกระทำสิ่งต่าง ๆ ตามหน้าที่ในสังคม ดังนั้น การปกครองโดยรัฐบาลที่มีผู้นำเพียงคนเดียวจึงเป็นวิธีการที่ดีที่สุด กษัตริย์อันเป็นราชาแห่งปราชญ์คนเดียวจะปกครองประชาชนอย่างยุติธรรม โครงสร้างทางสังคมก็เหมือนกับธรรมชาติที่พระเจ้าปกครอง คนในสังคมจะทำหน้าที่ได้ดีที่สุด ถ้าสัมคมมีเอกภาพโดยมีผู้นำเพียงคนเดียวกฎสังคม 4 ประการ กฎสังคม 4 ประการ. อไควนัส ศึกษาปัจจัยหลายประการที่มีอิทธิพลกำหนดเอกภาพของสังคมและทำให้เกิดการพัฒนาการของมนุษย์ พระเจ้าและธรรมชาติมีความสำคัญเป็นส่วนหนึ่งของสังคม สิ่งเหล่านี้รวมตัวกันด้วยกฎ 4 ประการคือ1. กฎจักรวาล (Eternal Law) หมายถึง กฎของพระเจ้าที่ควบคุมจักรวาล 2. กฎธรรมชาติ (Natural Law) หมายถึง กฎของสิ่งมีชีวิต เป็นส่วนหนึ่งของพระเป็นเจ้า 3. กฎสังคมมนุษย์ (Human Law) เป็นกฎของสาธารณชน เป็นขบวนการสถาบันสังคม 4. กฎพระเจ้า (Divine Law) เป็นกฎที่กำหนดแรงจูงใจภายในของมนุษย์ กฎทั้งสี่มีความสัมพันธ์กันเหมือนกับอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย การกระทำของมนุษย์จะถูกควบคุมจากจิตหรือสติปัญญา และวิญญาณหรือความสำนึกทางศีลธรรม ต้องมีการตรวจสอบความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ และการต่อต้านของมนุษย์ในสังคม ประการสุดท้ายผู้ที่มีหน้าที่ตราตัวบทกฎหมายต้องประยุกต์กฎหมายทุกชนิดให้สมาชิกในสังคมทุกคนได้รับประโยชน์สูงสุด มีผู้สรุปความคิดของอควีนาสไว้ว่าในหนังสือ "Summa Theologica" ที่เขียนราวปี พ.ศ. 1739 พูดถึงลัทธิกฎธรรมชาติของนักปรัชญากลุ่มลัทธิสโตอิก (ถือหลักธรรมเพื่อกำจัดตัณหา) นำไปผสมกับการสอนใน ศาสนาคริสต์ว่าด้วยกฎของพระเจ้า รวมทั้งรับแนวความคิดของอาริสโตเติลเกี่ยวกับบรรทัดฐานหรือกฎของมนุษย์ และจุดกำเนิดของหลักกฎหมายโรมันด้วย ทำให้มนุษย์มีความสามารถและมีสติปัญญาอย่างสูงสุด ประการสุดท้ายก็คือ ทำให้เกิดระบบลัทธิรัฐธรรมนูญ อไควนัสเป็นนักปราชญ์ที่มีความสำคัญมากที่สุดคนหนึ่ง พยายามประสานหลักเหตุผลที่มีอยู่ในธรรมชาติเข้ากับความศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้า โดยแสดงออกมาในรูปของอำนาจเหนือธรรมชาติที่แท้จริง ปรัชญาเป็นผลิตผลของเทววิทยาและเหตุผลเป็นรากฐานของความศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้า เมื่อเทียบกันยุคในประวัติศาสตร์ไทย ท่านมีชีวิตอยู่ระหว่างก่อนสมัยสุโขทัยเล็กน้อย และเสียชีวิตในสมัยพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ เมื่ออายุได้เพียง 49 ปี
นักบุญทอมัส อไควนัสได้รับอิทธิพลจากใครในการพัฒนาแนวความคิดแบบตรรกศาสตร์ของเขา
{ "answer": [ "อาริสโตเติล" ], "answer_begin_position": [ 301 ], "answer_end_position": [ 312 ] }
1,233
525,218
อาสนวิหารโบแว อาสนวิหารโบแว () หรือมีชื่อเต็มว่า อาสนวิหารนักบุญเปโตรแห่งโบแว () เป็นอาสนวิหารนิกายโรมันคาทอลิกและที่ตั้งของมุขนายกประจำมุขมณฑลโบแว นัวยง และซ็องลิส ตั้งอยู่ที่เมืองโบแว จังหวัดอวซ แคว้นโอดฟร็องส์ ประเทศฝรั่งเศส สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่นักบุญเปโตร เป็นอาสนวิหารแบบกอธิกที่มีบริเวณร้องเพลงสวดที่สูงที่สุดในโลก (48.50 เมตร) อาสนวิหารแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นสถานที่แบบสถาปัตยกรรมกอทิกแห่งหนึ่งที่แสดงถึงความสำเร็จสูงสุดและความกล้าหาญทางสถาปัตยกรรม โดยตัวอาคารมีเพียงแขนกางเขน (คริสต์ศตวรรษที่ 16) และบริเวณร้องเพลงสวด พร้อมทั้งมุขโค้งและชาเปลจำนวน 7 หลัง (คริสต์ศตวรรษที่ 13) ซึ่งสามารถเข้าถึงได้จากทางจรมุข นอกจากนี้ยังพบโบสถ์เล็กแบบสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์สร้างราวคริสต์ศตวรรษที่ 10 เรียกว่า "บาเซิฟวร์" () ซึ่งปัจจุบันได้รับการบูรณะจนอยู่ในสภาพดีตั้งอยู่บริเวณที่จะเป็นที่ตั้งของบริเวณกลางโบสถ์อีกด้วย อาสนวิหารโบแวได้ขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์เมื่อปี ค.ศ. 1840ประวัติ ประวัติ. งานก่อสร้างเริ่มในปี ค.ศ. 1225 ภายใต้การดูแลของมุขนายกมีล เดอ น็องเตย เริ่มทันทีในภายหลังจากเพลิงไหม้หลังคาของบาซิลิกาหลังเก่าซึ่งทำด้วยไม้เป็นครั้งที่สาม ซึ่งเพิ่งจะทำการบูรณะแท่นบูชาจากไฟไหม้ครั้งก่อนเมื่อสามปีที่แล้วหมาด ๆ ในปี ค.ศ. 1272 การก่อสร้างบริเวณร้องเพลงสวดก็แล้วเสร็จเป็นอย่างแรก โดยแบ่งการก่อสร้างเป็นสองช่วง โดยมีช่วงปี ค.ศ. 1232-ค.ศ. 1238 คั่นกลางเนื่องจากประสบปัญหาด้านเงินทุนกับพระเจ้าหลุยส์ที่ 9 แห่งฝรั่งเศส การก่อสร้างในสองช่วงนั้นมีความแตกต่างกันอย่างเล็กน้อย โดยในสมัยของมุขนายกกีโยม เดอ แกรซ ได้มีการเพิ่มความสูงขึ้นไปอีกถึง 4.9 เมตร เพื่อสร้างอาสนวิหารที่มีเพดานโค้งที่สูงที่สุดในยุโรป ซึ่งในที่สุดเพดานโค้งมีความสูงรวมทั้งสิ้น 48 เมตร ซึ่งมากกว่าอาสนวิหารแม่พระแห่งอาเมียงซึ่งกำลังก่อสร้างอยู่ในขณะนั้น ซึ่งมีความสูงของบริเวณกลางโบสถ์เพียง 42 เมตร ต่อมาในปี ค.ศ. 1284 การก่อสร้างได้หยุดชะงักลงเนื่องจากเพดานโค้งเหนือบริเวณร้องเพลงสวดที่เพิ่งเสร็จใหม่บางส่วนได้ถล่มลงมา การถล่มครั้งนั้นได้สร้างความกระทบกระเทือนให้กับสถาปนิกและวิศวกรชาวฝรั่งเศสที่เชี่ยวชาญด้านกอทิกเป็นอย่างมาก สตีเฟน เมอร์รีย์ นักประวัติศาสตร์ยังได้กล่าวว่าการถล่มครั้งนั้นยังเป็น "การนำพาให้เข้าสู่ยุคของสิ่งปลูกสร้างที่มีขนาดเล็กลง ซึ่งเกี่ยวพันกันกับการลดลงของประชากร สงครามร้อยปี ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13" แต่อย่างไรก็ตาม แผนการสร้างในแบบเดิมยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และดำเนินต่อไป ในที่สุดบริเวณร้องเพลงสวดก็ถูกสร้างใหม่ที่ความสูงเท่าเดิม แต่เพิ่มเสาบริเวณชาเปลดาวกระจายและบริเวณร้องเพลงสวด เปลี่ยนเพดานโค้งจากสี่เป็นหกแฉก ส่วนบริเวณกลางโบสถ์สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1500 ถึง ค.ศ. 1548 และต่อมาในปี ค.ศ. 1573 จากความทะเยอทะยานที่จะสร้างหอคอยกลางที่มีความสูงถึง 153 เมตร ได้ถล่มลงในที่สุดเป็นเหตุให้ต้องหยุดการก่อสร้างอีกคราหนึ่ง ซึ่งหอคอยนั้นหากไม่ได้ถล่มลงจะทำให้อาสนวิหารแห่งนี้เป็นอาสนวิหารที่สูงที่สุดในโลกเป็นอันดับสองในเวลานั้น (รองจากโบสถ์เซ็นต์โอลาฟแห่งทาลลินน์) จากนั้นต่อมา มีการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างอย่างเล็กน้อยเท่านั้นเนื่องจากต้องใช้งบประมาณจำนวนมากในการสร้างบริเวณกลางโบสถ์ บริเวณร้องเพลงสวดของอาสนวิหารโบแวได้รับคำชมจากเออแฌน วียอแล-เลอ-ดุกว่าเปรียบเสมือน "อาสนวิหารพาเธนอนแห่งสถาปัตยกรรมกอทิกแบบฝรั่งเศส"ขนาดขนาด. - ความยาวรวมทั้งสิ้น (วัดจากบริเวณร้องเพลงสวดถึงบริเวณหน้าบันทิศตะวันตก) 72.50 เมตร (เกือบเท่าความยาวของอาสนวิหารซ็องลิสซึ่งยาว 76 เมตร) - แขนกางเขนยาว 58.60 เมตร (วัดจากด้านใน) - บริเวณร้องเพลงสวดยาว 47 เมตร (เทียบกับของอาสนวิหารอาเมียง ที่ความยาว 64 เมตร) - ความสูงด้านนอกของอาสนวิหาร 67.20 เมตร (เทียบกับหอคู่ของอาสนวิหารแม่พระแห่งปารีส ที่สูง 69 เมตร) - บริเวณหน้าบันทิศใต้สูง 64.40 เมตร - ความสูงของบริเวณร้องเพลงสวดถึง 48.50 เมตร ได้ทำสถิติของอาสนวิหารแบบสถาปัตยกรรมกอทิก (อาสนวิหารอาเมียง 42.3 เมตร, อาสนวิหารแม็ส 41.41 เมตร, อาสนวิหารนาร์บอน 41 เมตร, อาสนวิหารแร็งส์ 38 เมตร และอาสนวิหารบูร์ฌ 37.50 เมตร) - หน้าต่างกุหลาบทั้งสองฝั่ง (ทิศเหนือและใต้) มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 11 เมตร (อาสนวิหารแม่พระแห่งปารีส มีขนาด 13.10 เมตร) - บริเวณกลางโบสถ์และบริเวณร้องเพลงสวดแบ่งเป็น 3 ระดับชั้น :- ซุ้มทางเดินสูง 21.20 เมตร - ระเบียงแนบสูง 4 เมตร - หน้าต่างสูง 17 เมตร - ความสูงของหอระฆังในอดีต 151.60 เมตร - ความกว้างของทางเดินกลาง 16 เมตร (เกือบเท่าอาสนวิหารชาทร์ (16.40 เมตร))ระเบียงภาพ
อาสนวิหารโบแวมีชื่อเต็มว่าอะไร
{ "answer": [ "อาสนวิหารนักบุญเปโตรแห่งโบแว" ], "answer_begin_position": [ 137 ], "answer_end_position": [ 165 ] }
1,234
525,218
อาสนวิหารโบแว อาสนวิหารโบแว () หรือมีชื่อเต็มว่า อาสนวิหารนักบุญเปโตรแห่งโบแว () เป็นอาสนวิหารนิกายโรมันคาทอลิกและที่ตั้งของมุขนายกประจำมุขมณฑลโบแว นัวยง และซ็องลิส ตั้งอยู่ที่เมืองโบแว จังหวัดอวซ แคว้นโอดฟร็องส์ ประเทศฝรั่งเศส สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่นักบุญเปโตร เป็นอาสนวิหารแบบกอธิกที่มีบริเวณร้องเพลงสวดที่สูงที่สุดในโลก (48.50 เมตร) อาสนวิหารแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นสถานที่แบบสถาปัตยกรรมกอทิกแห่งหนึ่งที่แสดงถึงความสำเร็จสูงสุดและความกล้าหาญทางสถาปัตยกรรม โดยตัวอาคารมีเพียงแขนกางเขน (คริสต์ศตวรรษที่ 16) และบริเวณร้องเพลงสวด พร้อมทั้งมุขโค้งและชาเปลจำนวน 7 หลัง (คริสต์ศตวรรษที่ 13) ซึ่งสามารถเข้าถึงได้จากทางจรมุข นอกจากนี้ยังพบโบสถ์เล็กแบบสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์สร้างราวคริสต์ศตวรรษที่ 10 เรียกว่า "บาเซิฟวร์" () ซึ่งปัจจุบันได้รับการบูรณะจนอยู่ในสภาพดีตั้งอยู่บริเวณที่จะเป็นที่ตั้งของบริเวณกลางโบสถ์อีกด้วย อาสนวิหารโบแวได้ขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์เมื่อปี ค.ศ. 1840ประวัติ ประวัติ. งานก่อสร้างเริ่มในปี ค.ศ. 1225 ภายใต้การดูแลของมุขนายกมีล เดอ น็องเตย เริ่มทันทีในภายหลังจากเพลิงไหม้หลังคาของบาซิลิกาหลังเก่าซึ่งทำด้วยไม้เป็นครั้งที่สาม ซึ่งเพิ่งจะทำการบูรณะแท่นบูชาจากไฟไหม้ครั้งก่อนเมื่อสามปีที่แล้วหมาด ๆ ในปี ค.ศ. 1272 การก่อสร้างบริเวณร้องเพลงสวดก็แล้วเสร็จเป็นอย่างแรก โดยแบ่งการก่อสร้างเป็นสองช่วง โดยมีช่วงปี ค.ศ. 1232-ค.ศ. 1238 คั่นกลางเนื่องจากประสบปัญหาด้านเงินทุนกับพระเจ้าหลุยส์ที่ 9 แห่งฝรั่งเศส การก่อสร้างในสองช่วงนั้นมีความแตกต่างกันอย่างเล็กน้อย โดยในสมัยของมุขนายกกีโยม เดอ แกรซ ได้มีการเพิ่มความสูงขึ้นไปอีกถึง 4.9 เมตร เพื่อสร้างอาสนวิหารที่มีเพดานโค้งที่สูงที่สุดในยุโรป ซึ่งในที่สุดเพดานโค้งมีความสูงรวมทั้งสิ้น 48 เมตร ซึ่งมากกว่าอาสนวิหารแม่พระแห่งอาเมียงซึ่งกำลังก่อสร้างอยู่ในขณะนั้น ซึ่งมีความสูงของบริเวณกลางโบสถ์เพียง 42 เมตร ต่อมาในปี ค.ศ. 1284 การก่อสร้างได้หยุดชะงักลงเนื่องจากเพดานโค้งเหนือบริเวณร้องเพลงสวดที่เพิ่งเสร็จใหม่บางส่วนได้ถล่มลงมา การถล่มครั้งนั้นได้สร้างความกระทบกระเทือนให้กับสถาปนิกและวิศวกรชาวฝรั่งเศสที่เชี่ยวชาญด้านกอทิกเป็นอย่างมาก สตีเฟน เมอร์รีย์ นักประวัติศาสตร์ยังได้กล่าวว่าการถล่มครั้งนั้นยังเป็น "การนำพาให้เข้าสู่ยุคของสิ่งปลูกสร้างที่มีขนาดเล็กลง ซึ่งเกี่ยวพันกันกับการลดลงของประชากร สงครามร้อยปี ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13" แต่อย่างไรก็ตาม แผนการสร้างในแบบเดิมยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และดำเนินต่อไป ในที่สุดบริเวณร้องเพลงสวดก็ถูกสร้างใหม่ที่ความสูงเท่าเดิม แต่เพิ่มเสาบริเวณชาเปลดาวกระจายและบริเวณร้องเพลงสวด เปลี่ยนเพดานโค้งจากสี่เป็นหกแฉก ส่วนบริเวณกลางโบสถ์สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1500 ถึง ค.ศ. 1548 และต่อมาในปี ค.ศ. 1573 จากความทะเยอทะยานที่จะสร้างหอคอยกลางที่มีความสูงถึง 153 เมตร ได้ถล่มลงในที่สุดเป็นเหตุให้ต้องหยุดการก่อสร้างอีกคราหนึ่ง ซึ่งหอคอยนั้นหากไม่ได้ถล่มลงจะทำให้อาสนวิหารแห่งนี้เป็นอาสนวิหารที่สูงที่สุดในโลกเป็นอันดับสองในเวลานั้น (รองจากโบสถ์เซ็นต์โอลาฟแห่งทาลลินน์) จากนั้นต่อมา มีการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างอย่างเล็กน้อยเท่านั้นเนื่องจากต้องใช้งบประมาณจำนวนมากในการสร้างบริเวณกลางโบสถ์ บริเวณร้องเพลงสวดของอาสนวิหารโบแวได้รับคำชมจากเออแฌน วียอแล-เลอ-ดุกว่าเปรียบเสมือน "อาสนวิหารพาเธนอนแห่งสถาปัตยกรรมกอทิกแบบฝรั่งเศส"ขนาดขนาด. - ความยาวรวมทั้งสิ้น (วัดจากบริเวณร้องเพลงสวดถึงบริเวณหน้าบันทิศตะวันตก) 72.50 เมตร (เกือบเท่าความยาวของอาสนวิหารซ็องลิสซึ่งยาว 76 เมตร) - แขนกางเขนยาว 58.60 เมตร (วัดจากด้านใน) - บริเวณร้องเพลงสวดยาว 47 เมตร (เทียบกับของอาสนวิหารอาเมียง ที่ความยาว 64 เมตร) - ความสูงด้านนอกของอาสนวิหาร 67.20 เมตร (เทียบกับหอคู่ของอาสนวิหารแม่พระแห่งปารีส ที่สูง 69 เมตร) - บริเวณหน้าบันทิศใต้สูง 64.40 เมตร - ความสูงของบริเวณร้องเพลงสวดถึง 48.50 เมตร ได้ทำสถิติของอาสนวิหารแบบสถาปัตยกรรมกอทิก (อาสนวิหารอาเมียง 42.3 เมตร, อาสนวิหารแม็ส 41.41 เมตร, อาสนวิหารนาร์บอน 41 เมตร, อาสนวิหารแร็งส์ 38 เมตร และอาสนวิหารบูร์ฌ 37.50 เมตร) - หน้าต่างกุหลาบทั้งสองฝั่ง (ทิศเหนือและใต้) มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 11 เมตร (อาสนวิหารแม่พระแห่งปารีส มีขนาด 13.10 เมตร) - บริเวณกลางโบสถ์และบริเวณร้องเพลงสวดแบ่งเป็น 3 ระดับชั้น :- ซุ้มทางเดินสูง 21.20 เมตร - ระเบียงแนบสูง 4 เมตร - หน้าต่างสูง 17 เมตร - ความสูงของหอระฆังในอดีต 151.60 เมตร - ความกว้างของทางเดินกลาง 16 เมตร (เกือบเท่าอาสนวิหารชาทร์ (16.40 เมตร))ระเบียงภาพ
ปีใดที่อาสนวิหารโบแวได้ขึ้นเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์
{ "answer": [ "ค.ศ. 1840" ], "answer_begin_position": [ 972 ], "answer_end_position": [ 981 ] }
1,235
380,325
มหาวิทยาลัยตาปี มหาวิทยาลัยตาปี เป็นสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2542 ตั้งอยู่ที่ตำบลมะขามเตี้ย อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานีประวัติ ประวัติ. มหาวิทยาลัยตาปี เป็นสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ได้รับอนุญาตจากทบวงมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542 โดยอาจารย์วรท ศรีไพโรจน์ เป็นผู้รับใบอนุญาต เปิดทำการสอนในคณะบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการบัญชี สาขาวิชาการตลาด และสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ และได้เปิดคณะนิติศาสตร์ เพิ่มขึ้นอีกคณะหนึ่ง ในปี พ.ศ. 2546 ปัจจุบันได้เปลี่ยนประเภจาก "'วิทยาลัยตาปี"' เป็น '"มหาวิทยาลัยตาปี"' โดยนายวรท ศรีไพโรจน์ นายกสภามหาวิทยาลัยตาปี ได้เข้าร่วมพิธีมอบใบอนุญาต ให้เปลี่ยนประเภทจากวิทยาลัยตาปีเป็นมหาวิทยาลัยตาปี โดยเลขาธิการคณะกรรมการอุดมศึกษา ณ วันอังคารที่ 14 สิงหาคม 2555คณะที่เปิดสอนคณะที่เปิดสอน. - คณะบริหารธุรกิจ - คณะนิติศาสตร์ - คณะศิลปศาสตร์ - คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี - คณะการบัญชี
มหาวิทยาลัยตาปี ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีใด
{ "answer": [ "พ.ศ. 2542" ], "answer_begin_position": [ 166 ], "answer_end_position": [ 175 ] }
1,959
380,325
มหาวิทยาลัยตาปี มหาวิทยาลัยตาปี เป็นสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2542 ตั้งอยู่ที่ตำบลมะขามเตี้ย อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานีประวัติ ประวัติ. มหาวิทยาลัยตาปี เป็นสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ได้รับอนุญาตจากทบวงมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542 โดยอาจารย์วรท ศรีไพโรจน์ เป็นผู้รับใบอนุญาต เปิดทำการสอนในคณะบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการบัญชี สาขาวิชาการตลาด และสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ และได้เปิดคณะนิติศาสตร์ เพิ่มขึ้นอีกคณะหนึ่ง ในปี พ.ศ. 2546 ปัจจุบันได้เปลี่ยนประเภจาก "'วิทยาลัยตาปี"' เป็น '"มหาวิทยาลัยตาปี"' โดยนายวรท ศรีไพโรจน์ นายกสภามหาวิทยาลัยตาปี ได้เข้าร่วมพิธีมอบใบอนุญาต ให้เปลี่ยนประเภทจากวิทยาลัยตาปีเป็นมหาวิทยาลัยตาปี โดยเลขาธิการคณะกรรมการอุดมศึกษา ณ วันอังคารที่ 14 สิงหาคม 2555คณะที่เปิดสอนคณะที่เปิดสอน. - คณะบริหารธุรกิจ - คณะนิติศาสตร์ - คณะศิลปศาสตร์ - คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี - คณะการบัญชี
พิธีมอบใบอนุญาตให้เปลี่ยนประเภทจากวิทยาลัยตาปีเป็นมหาวิทยาลัยตาปี เกิดขึ้นวันอะไร
{ "answer": [ "อังคาร" ], "answer_begin_position": [ 793 ], "answer_end_position": [ 799 ] }
1,236
153,741
กล้ามเนื้อเอกซ์เทนเซอร์ พอลิซิส เบรวิส กล้ามเนื้อเอกซ์เทนเซอร์ พอลิซิส เบรวิส () เป็นกล้ามเนื้อที่ทอดตัวอยู่ด้านใกล้กลางของกล้ามเนื้อแอบดักเตอร์ พอลิซิส ลองกัส (Abductor pollicis longus)จุดเกาะต้นและจุดเกาะปลาย จุดเกาะต้นและจุดเกาะปลาย. จุดเกาะต้นของกล้ามเนื้อนี้มาจากพื้นผิวด้านหลังของส่วนกลางของกระดูกเรเดียส และจากเอ็นเยื่อระหว่างกระดูก (interosseous membrane) กล้ามเนื้อนี้ทอดตัวคล้ายกับกล้ามเนื้อแอบดักเตอร์ พอลิซิส ลองกัส (Abductor pollicis longus) โดยเอ็นกล้ามเนื้อนี้จะผ่านร่องเดียวกันที่อยู่ด้านข้างของปลายล่างกระดูกเรเดียส และเข้าเกาะปลายที่กระดูกนิ้วมือท่อนแรกของนิ้วหัวแม่มือหน้าที่ หน้าที่. กล้ามเนื้อเอกซ์เทนเซอร์ พอลิซิส เบรวิสทำหน้าที่เหยียดกระดูกนิ้วมือท่อนต้นของนิ้วหัวแม่มือความแปรผัน ความแปรผัน. ในบางคนอาจไม่มีกล้ามเนื้อนี้ หรือเอ็นอาจไปรวมกับเอ็นกล้ามเนื้อเอกซ์เทนเซอร์ พอลิซิส ลองกัส (Extensor pollicis longus)ภาพอื่นๆ
กล้ามเนื้อเอกซ์เทนเซอร์ พอลิซิส เบรวิส เป็นกล้ามเนื้อที่ทอดตัวอยู่ใกล้กล้ามเนื้ออะไร
{ "answer": [ "กล้ามเนื้อแอบดักเตอร์ พอลิซิส ลองกัส" ], "answer_begin_position": [ 236 ], "answer_end_position": [ 272 ] }
1,237
153,741
กล้ามเนื้อเอกซ์เทนเซอร์ พอลิซิส เบรวิส กล้ามเนื้อเอกซ์เทนเซอร์ พอลิซิส เบรวิส () เป็นกล้ามเนื้อที่ทอดตัวอยู่ด้านใกล้กลางของกล้ามเนื้อแอบดักเตอร์ พอลิซิส ลองกัส (Abductor pollicis longus)จุดเกาะต้นและจุดเกาะปลาย จุดเกาะต้นและจุดเกาะปลาย. จุดเกาะต้นของกล้ามเนื้อนี้มาจากพื้นผิวด้านหลังของส่วนกลางของกระดูกเรเดียส และจากเอ็นเยื่อระหว่างกระดูก (interosseous membrane) กล้ามเนื้อนี้ทอดตัวคล้ายกับกล้ามเนื้อแอบดักเตอร์ พอลิซิส ลองกัส (Abductor pollicis longus) โดยเอ็นกล้ามเนื้อนี้จะผ่านร่องเดียวกันที่อยู่ด้านข้างของปลายล่างกระดูกเรเดียส และเข้าเกาะปลายที่กระดูกนิ้วมือท่อนแรกของนิ้วหัวแม่มือหน้าที่ หน้าที่. กล้ามเนื้อเอกซ์เทนเซอร์ พอลิซิส เบรวิสทำหน้าที่เหยียดกระดูกนิ้วมือท่อนต้นของนิ้วหัวแม่มือความแปรผัน ความแปรผัน. ในบางคนอาจไม่มีกล้ามเนื้อนี้ หรือเอ็นอาจไปรวมกับเอ็นกล้ามเนื้อเอกซ์เทนเซอร์ พอลิซิส ลองกัส (Extensor pollicis longus)ภาพอื่นๆ
กล้ามเนื้อส่วนใดทำหน้าที่เหยียดกระดูกนิ้วมือท่อนต้นของนิ้วหัวแม่มือ
{ "answer": [ "กล้ามเนื้อเอกซ์เทนเซอร์ พอลิซิส เบรวิส" ], "answer_begin_position": [ 717 ], "answer_end_position": [ 755 ] }
1,238
265,328
สมชาย เพศประเสริฐ พันตำรวจโท สมชาย เพศประเสริฐ อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (แกนนำกลุ่มอีสานพัฒนา) อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครราชสีมา อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตเลขานุการรัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม และอดีตโฆษกกระทรวงมหาดไทยประวัติ ประวัติ. พ.ต.ท.สมชาย เกิดเมื่อวันที่ ที่ จังหวัดนครราชสีมา จบการศึกษา มัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขารัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยกานปู้ร์ ประเทศอินเดียการทำงาน การทำงาน. พ.ต.ท.สมชาย เคยรับราชการตำรวจ และได้ลาออกจากราชการในขณะที่มียศเป็นพันตำรวจโท จากนั้นจึงได้เข้าทำงานการเมือง ในปี พ.ศ. 2535 และดำรงตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่ง อาทิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ประธานกรรมาธิการการทหาร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เลขานุการรัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม และโฆษกกระทรวงมหาดไทย พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ เคยเป็นกรรมการบริหารพรรคนำไทย ซึ่งนำโดย ดร.อำนวย วีรวรรณ เมื่อปี พ.ศ. 2538 และเขาเป็นสมาชิกกลุ่ม 16 ต่อมาจึงได้ย้ายมาร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ ภายหลังได้เข้าร่วมกับพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทยตามลำดับ นอกจากนั้นยังได้รับแต่งตั้งเป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2553 ต่อมาในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2554 ได้ลาออกจากพรรคเพื่อไทย และไปร่วมงานกับพรรคมาตุภูมิ ของพลเอกสนธิ บุญยรัตกลินเครื่องราชอิสริยาภรณ์เครื่องราชอิสริยาภรณ์. - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นมหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.) - พ.ศ. 2544 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นมหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)
พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐเป็นคนจังหวัดอะไร
{ "answer": [ "จังหวัดนครราชสีมา" ], "answer_begin_position": [ 394 ], "answer_end_position": [ 411 ] }
1,239
265,328
สมชาย เพศประเสริฐ พันตำรวจโท สมชาย เพศประเสริฐ อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (แกนนำกลุ่มอีสานพัฒนา) อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครราชสีมา อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตเลขานุการรัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม และอดีตโฆษกกระทรวงมหาดไทยประวัติ ประวัติ. พ.ต.ท.สมชาย เกิดเมื่อวันที่ ที่ จังหวัดนครราชสีมา จบการศึกษา มัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขารัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยกานปู้ร์ ประเทศอินเดียการทำงาน การทำงาน. พ.ต.ท.สมชาย เคยรับราชการตำรวจ และได้ลาออกจากราชการในขณะที่มียศเป็นพันตำรวจโท จากนั้นจึงได้เข้าทำงานการเมือง ในปี พ.ศ. 2535 และดำรงตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่ง อาทิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ประธานกรรมาธิการการทหาร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เลขานุการรัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม และโฆษกกระทรวงมหาดไทย พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ เคยเป็นกรรมการบริหารพรรคนำไทย ซึ่งนำโดย ดร.อำนวย วีรวรรณ เมื่อปี พ.ศ. 2538 และเขาเป็นสมาชิกกลุ่ม 16 ต่อมาจึงได้ย้ายมาร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ ภายหลังได้เข้าร่วมกับพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทยตามลำดับ นอกจากนั้นยังได้รับแต่งตั้งเป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2553 ต่อมาในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2554 ได้ลาออกจากพรรคเพื่อไทย และไปร่วมงานกับพรรคมาตุภูมิ ของพลเอกสนธิ บุญยรัตกลินเครื่องราชอิสริยาภรณ์เครื่องราชอิสริยาภรณ์. - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นมหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.) - พ.ศ. 2544 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นมหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)
สมชาย เพศประเสริฐได้รับแต่งตั้งเป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเมื่อเดือนอะไรในปีพ.ศ. 2553
{ "answer": [ "กันยายน" ], "answer_begin_position": [ 1199 ], "answer_end_position": [ 1206 ] }
1,240
835,302
ไฮโดรเจนโลหะ ไฮโดรเจนโลหะ () เป็นสสารเสื่อมชนิดหนึ่ง เป็นไฮโดรเจนเฟส (phase) หนึ่งซึ่งประพฤติตนเป็นตัวนำไฟฟ้า เฟสนี้เคยมีการทำนายทางทฤษฎีโดยยูจีน วิกเนอร์ (Eugene Wigner) และฮิลลาร์ด เบล ฮินติงตัน (Hillard Bell Huntington) ใน ค.ศ. 1935 ที่ความดันและอุณหภูมิสูง ไฮโดรเจนโลหะอาจอยู่เป็นของเหลวมิใช่ของแข็ง และคาดว่ามีอยู่ปริมาณมากในด้านในที่มีความโน้มถ่วงสูงของดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์และดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะอื่น ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2016 มีการอ้างว่าสังเกตไฮโดรเจนโลหะในห้องปฏิบัติการ ณ ความดันประมาณ 495 จิกะปาสคาล จนถึงเดือนมกราคม ค.ศ. 2017 ยังไม่มีการทำซ้ำการค้นพบดังกล่าวได้ มีรายงานการสังเกตบางครั้งเข้าได้กับพฤติกรรมโลหะ เช่น การสังเกตเฟสใหม่บางเฟสของไฮโดรเจนแข็งภายใต้ภาวะเสถียรที่มีรายงาน และในดิวทีเรียมของเหลวแน่น การเปลี่ยนแปลงฉนวนไฟฟ้าสู่ตัวนำไฟฟ้าที่เข้าได้กับการเพิ่มสภาพสะท้อนแสง
คุณสมบัติของไฮโดรเจนโลหะคืออะไร
{ "answer": [ "เป็นตัวนำไฟฟ้า" ], "answer_begin_position": [ 182 ], "answer_end_position": [ 196 ] }
3,937
835,302
ไฮโดรเจนโลหะ ไฮโดรเจนโลหะ () เป็นสสารเสื่อมชนิดหนึ่ง เป็นไฮโดรเจนเฟส (phase) หนึ่งซึ่งประพฤติตนเป็นตัวนำไฟฟ้า เฟสนี้เคยมีการทำนายทางทฤษฎีโดยยูจีน วิกเนอร์ (Eugene Wigner) และฮิลลาร์ด เบล ฮินติงตัน (Hillard Bell Huntington) ใน ค.ศ. 1935 ที่ความดันและอุณหภูมิสูง ไฮโดรเจนโลหะอาจอยู่เป็นของเหลวมิใช่ของแข็ง และคาดว่ามีอยู่ปริมาณมากในด้านในที่มีความโน้มถ่วงสูงของดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์และดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะอื่น ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2016 มีการอ้างว่าสังเกตไฮโดรเจนโลหะในห้องปฏิบัติการ ณ ความดันประมาณ 495 จิกะปาสคาล จนถึงเดือนมกราคม ค.ศ. 2017 ยังไม่มีการทำซ้ำการค้นพบดังกล่าวได้ มีรายงานการสังเกตบางครั้งเข้าได้กับพฤติกรรมโลหะ เช่น การสังเกตเฟสใหม่บางเฟสของไฮโดรเจนแข็งภายใต้ภาวะเสถียรที่มีรายงาน และในดิวทีเรียมของเหลวแน่น การเปลี่ยนแปลงฉนวนไฟฟ้าสู่ตัวนำไฟฟ้าที่เข้าได้กับการเพิ่มสภาพสะท้อนแสง
ไฮโดรเจนโลหะ เป็นเฟสที่เคยมีการทำนายทางทฤษฎีโดยใคร
{ "answer": [ "ยูจีน วิกเนอร์" ], "answer_begin_position": [ 227 ], "answer_end_position": [ 241 ] }
1,241
67,620
หูดข้าวสุก หูดข้าวสุก (Molluscum contagiosum) คือโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส Molluscum contagiosum virus (MCV) ทำให้เกิดเป็นตุ่มนูนบนผิวหนัง ขนาดประมาณ 2-5 มิลลิเมตร จะพบมากขึ้นในรายที่มีการติดเชื้อ HIVสาเหตุ สาเหตุ. เกิดจากเชื้อไวรัสชื่อ Molluscum contagiosum virus (MCV) ซึ่งเป็นเชื้อในตระกูล poxvirus จำแนกอยู่ในจีนัส Molluscipoxvirusอาการและอาการแสดง อาการและอาการแสดง. หูดข้าวสุกมีลักษณะเป็นตุ่มนูนบนผิวหนัง ขนาดประมาณ 2-5 มิลลิเมตร มีลักษณะเฉพาะตัวคือมีรอยบุ๋มตรงกลาง มีการอักเสบและการตายของเนื้อเยื่อที่เป็นโรคน้อย เมื่อเทียบกับโรคที่เกิดจาก poxvirus ชนิดอื่นๆ ลักษณะการกระจายของตุ่มมีทั้งแบบเดี่ยวและแบบกลุ่ม พบได้ทั่วร่างกาย ยกเว้นที่ฝ่ามือและฝ่าเท้า .การดำเนินโรค การดำเนินโรค. หูดข้าวสุกติดต่อได้โดยการสัมผัสและทางเพศสัมพันธ์ นอกจากนี้ยังสามารถติดต่อได้โดยการใช้สระว่ายน้ำร่วมกัน หากมีโรคภูมิแพ้ของผิวหนังอยู่ก่อนจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมากขึ้น ระยะฟักตัวของโรคใช้เวลา 2 สัปดาห์ถึง 6 เดือน (เฉลี่ยอยู่ที่ 2-7 สัปดาห์) ในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันปกติโรคนี้สามารถหายได้เอง ภายในเวลา 3-4 เดือนโดยไม่มีภาวะแทรกซ้อน แต่รอยโรคที่ผิวหนังอาจจะคงอยู่ได้นาน 3-5 ปี หูดข้าวสุกจะพบมากขึ้นในรายที่มีการติดเชื้อ HIV ในระยะที่ภูมิคุ้มกันเริ่มต่ำ พบได้ 5-18% ในผู้ติดเชื้อ HIV ซึ่งมักจะเป็นทั่วทั้งตัวและคงอยู่นานในรายที่อยู่ในระยะภูมิคุ้มกันบกพร่อง (AIDS) แล้ว นอกจากนี้ยังพบว่าโรคหูดข้าวสุกมีความสัมพันธ์กับภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องแบบอื่นๆด้วยการวินิจฉัยโรค การวินิจฉัยโรค. โดยทั่วไปวินิจฉัยจากอาการและอาการแสดงข้างต้น สามารถวินิจฉัยยืนยันได้จากการตรวจทางพยาธิวิทยาซึ่งจะพบ Cytoplasmic eosinophilic inclusions หรือที่เรียกว่า molluscum bodies ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะที่บ่งบอกถึงการแบ่งตัวของ poxvirusการรักษา การรักษา. ขณะนี้ยังไม่มีการรักษาเฉพาะสำหรับโรคนี้ แต่สามารถรักษาด้วยการทำลายที่รอยโรคโดยตรงได้ ในผู้ติดเชื้อ HIV หากได้รับการรักษาด้วย Highly Active AntiRetroviral Therapy (HAART) อย่างมีประสิทธิภาพ หูดข้าวสุกก็สามารถหายได้เองเหมือนในรายที่มีภูมิคุ้มกันปกติ มีบางกรณีศึกษา พบว่าการให้ Cidofovir ในรูปยาทาหรือยาฉีดมีประสิทธิภาพในการรักษาโรคในรายที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง
หูดข้าวสุก คือโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดใด
{ "answer": [ "เชื้อไวรัส Molluscum contagiosum virus (MCV)" ], "answer_begin_position": [ 145 ], "answer_end_position": [ 189 ] }